26 ธันวาคม 2549 00:07 น.

ดอกไผ่บาน

กุมภ์

มีคำกล่าวชายในฝันดั่งเงาพร่า
เหมือนมายาในแผ่นน้ำภาพเคลื่อนไหว
เหมือนเมฆลอยบนนภาเวิ้งฟ้าไกล
ลอยล่องไปไร้ตัวตนยามลมตี

ความคิดถึงมิอาจฝ่าธารากว้าง
ดูเวิ้งว้างดั่งคว้าเงาที่ลอยหนี
เมฆบนฟ้าลอยตั้งเค้าเหล่าเมฆี
ไม่คงที่เปลี่ยนแปลงไปไร้รูปเงา

ดั่งใจคนที่ไหวหวั่นกว่าทุกสิ่ง
ไม่อยู่นิ่งเปลี่ยนแปรง่ายคล้ายคนเขลา
ค่ำคืนนี้มิอาจฝืนแม้ซึมเซา
จะขอเมาให้ความรักที่จากไป.................

อยากโทษฟ้าโชคชะตาสวรรค์แกล้ง
นรกแสร้งสาปส่งรักดั่งผลักไส
เหลือแต่ตัวบาดรักท่วมทั้งกายใจ
หล่นจมในสายธาราแห่งวังวน

ดั่งกิ่งไผ่ที่ไหวเอนตามกระแส
สายลมแปร,เปลี่ยนราตรีให้สับสน
ลำนำป่าที่ขมขื่นน้ำคำคน
ยิ้มกลางฝนโต้สายลมเพียงลำพัง

หยดน้ำค้างที่พร่างพรูในลมหนาว
ละอองดาวพราวแสงหรี่ดั่งสิ้นหวัง
คล้ายหยั่งรู้ความอ้างว้างเปลี่ยวลำพัง
ดับความหวังกลางราตรีที่เปราะบาง

ดอกไผ่บานครั้งสุดท้ายคล้ายบอกกล่าว
ร้อยเรื่องราวถึงดอกไผ่ที่หม่นหมาง
บานเพื่อลาจากเจ้าคงต้องปล่อยวาง
วิถีทางพยานรักแห่งพงไพร

ดอกไผ่งามยังเบ่งบานกลางใจนี้
ความเข้มแข็งจงแทนที่ความอ่อนไหว
ไม่สำคัญว่าจะนานสักเพียงไร
รอเติมใจด้วยความฝันวันไผ่บาน......................				
19 ธันวาคม 2549 14:15 น.

ไผ่ผิว

กุมภ์

กิ่งไผ่ไหวตามลม          สานผสมลำต้นสี
เอียดออดเสียงดนตรี     ฟังเข้าทีคล้ายเสียงเพลง
กวัดไกวไหวกิ่งก้าน       ริ้วลม
ดาษดื่นเสียงผสม          ไผ่พลิ้ว
เอียดออดดั่งเพลงพรม    ลมแห่ง ดนตรี
เพลงไผ่ไพรระริ้ว            แผ่วพลิ้ว เสียงเพลง

ข่มใจในคืนเหงา             ฟังเสียงเศร้าไผ่บรรเลง
ดื่มด่ำเหงาวังเวง             วิเวกเพลงบรรเลงไพร
ดึกดื่นคืนขุ่นข้อง              หมองใจ
เสียงไผ่บรรเลงไพร          แผ่วเศร้า
คืนเหงาดื่มด่ำใน              ไพรใหญ่ วิเวก
เพลงกล่อมไพรหยอกเย้า   ร่วมเคล้า บรรเลง

เสียงไผ่ในไพรโศก           ยามต้องโสตสะท้อนใจ
ดนตรีในป่าไพร                 คีตไดจะเทียบเคียง
สำเนียงเสียงไผ่เศร้า          ไพรโศก
ขมขื่นยามต้องโสต              หม่นไหม้
ดนตรีป่าในโลก                   เพลงแห่งพงไพร
คุณค่าคีตไพร                      เด่นได้ เทียบเทียม

ราตรีอันเปราะบาง               อาจอ้างว้างลำพังเพียง
ไร้คนคอยข้างเคียง              ร่ำไรเสียงเพียงไผ่ผิว
ราตรีนี้อ่อนล้า                      เปราะบาง
โดดเดี่ยวเปลี่ยวอ้างว้าง        ห่างเจ้า
คืนเศร้าห่างเหย้าร้าง            เคียงคู่ เขนย
เสียงร่ำไรเพลงเศร้า             ไผ่ริ้ว ผิวเพลง

ทอดกายตามแสงเดือน         รักลางเลือนลมหวีดหวิว
ใบไผ่ที่ปลิดปลิว                    ลอยละลิ่วไปบนทาง
ทอดร่างกายอยู่ใต้                 แสงเดือน
หากแต่รักลางเลือน               เลื่อนพ้น
ปลิดปลิวหล่นกลาดเกลื่อน      เพียงไผ่ ใบช้ำ
ละลิ่วล้ำจากต้น                      หล่นพ้น สู่ดิน

เพลงเหงาจากไผ่ผิว               บรรเลงพลิ้วจนรุ่งสาง
รักเอยไม่เคยจาง                   แม้นเปราะบางหัวใจนี้
เพลงเหงายังร่ำร้อง                 ไผ่ผิว
ละลิ่วตามลมปลิว                     ย่ำเช้า
รักเอยไม่เคยพลิ้ว                   แปรเปลี่ยน ตามลม
ยอมข่มหัวใจเศร้า                   อ่อนร้าว เปราะบาง				
15 ธันวาคม 2549 14:51 น.

" ฒ" ไม่เฒ่า

กุมภ์

คำดำรัสที่พ่อหลวงทรงตรัสไว้
เรื่องส่วนใหญ่ดำรัสไว้เป็นเนื้อหา
ทรงกล่าวถึง" คุณ" และ " ค่า" คนชรา
ให้นำพาคุณค่าปัจฉิมวัย

ทรงกล่าวถึงคนชราควรได้พัก
เหนื่อยมานักไยไม่พักน่าสงสัย
พักไม่ได้เรื่องบ้านเมืองต้องใส่ใจ
ยังห่วงใยละไม่ได้...ใครนำพา??

เรื่องการเมืองทรงตรัสชัดเราเบื่อแล้ว
นายกแม้วไม่สนองกลับอาสา
ทำปั่นป่วนเหนือใต้ออกหลอกประชา
ปากนำหน้าพูดไม่คิดผิดผู้นำ

สังคมไทยถือผู้ใหญ่ดั่งเสาหลัก
เพราะแน่นหนักหลักการมีดีคอยค้ำ
ไม่บุ่มบ่ามตามจริตคิดก่อนทำ
ไม่เพลี่ยงพล้ำไม่กรายกล้ำสิ่งหมองมัว

ให้กำลังใจคนเฒ่าเราก็แก่
แต่ไม่แย่ถึงจะแก่แต่มีหัว
คนรุ่นหลังมันเรียนสูงเลยลืมตัว
ไม่เคยกลัวกฏแห่งกรรมน่าขำจริง

พระองค์ท่านคงอึดอัดไม่อยากพูด
ให้พิสูจน์ตามดำรัสเน้นชัดยิ่ง
เฒ่าแก่แล้วต้องทำตนให้พึ่งพิง
เป็นเรื่องจริงที่ขมขื่นตื่นเถิดเรา

รัฐบาล" ฒ" ผู้เฒ่าเขาอาสา
ขอเวลาขำระล้างสิ่งเหม็นเน่า
ส.ต.ง., ป.ป.ช. หนักไม่เบา
จะขอเอาคนทำผิดติดตะราง

ขอประชาจงหันหน้ามาประสาน
อย่าเดือดดาล ค.ม.ช. ที่มาสาง
เรื่องยุ่งยุ่งมันจบแล้วตามแนวทาง
หยุดทุกอย่างเพื่อ" พ่อหลวง" ของปวงชน				
15 ธันวาคม 2549 11:14 น.

แค่มี

กุมภ์

เหมือนมีคำถามมากมายใคร่อยากรู้
ที่เป็นอยู่ฉันอยากรู้เฝ้าสงสัย
สิ่งที่มีดูเหมือนดีไม่แน่ใจ
อาจน้อยไปสำหรับใครหรือปล่าวเออ??

เพียงต้องการให้เธอนั้นได้รู้ไว้
ฉันหาใช่สิ่งที่ใครเสาะหาเกร่อ
เท่าที่มีเพียงแค่นี้ได้ไหมเธอ??
ไม่เลิศเลอขอเพียงเธอโปรดเข้าใจ

สู้การงานทำทุกอย่างไม่ย่อท้อ
ไม่เคยพอออมเก็บไว้เพื่อวันใหม่
ล้มแล้วลุกอยู่อย่างนี้มันเรื่อยไป
กล้ามไม่ใหญ่แต่หัวใจนั้นพอดี

เคยวาดหวังว่าสักวันบุญคงช่วย
พ่อคงรวยช่วยให้ฝันฉันเข้าที่
ฉันทำงานพ่อทำการนานหลายปี
มันไม่มีความร่ำรวยต้องทนเอา

เพียงสองมือถือครองไว้ไร้มัดกล้าม
คนไม่คร้ามกล้ามไม่มีดีก็เปล่า
แต่แขนนี้มันแทนที่ดีไม่เบา
ฉันจะเอาแขนนี้ไกวให้เธอนอน

หากเธอร้อนแขนฉันพร้อมจะโบกพัด
จะกอกรัดไว้ด้วยแขนแทนหนุนหมอน
เหมือนหมอนข้างแทนหมอนต่างยามหนุนนอน
จะขอพรคุณพระให้เธอฝันดี

พร้อมกับมีความห่วงใยใช่พร่ำเพ้อ
หากเธอเบลอเผลอเจ็บป่วยตัวร้อนถี่
มือของฉันคอยเช็ดตัวเธอคนดี
ให้หายดีไข้ไม่มีสบายตัว

ก็หัวใจฉันมันมีแค่ดวงหนึ่ง
ฉันรู้ซึ้งแค่เพียงหนึ่งใช่ไปทั่ว
มันอาจน้อยไปสักหน่อยดูหม่นมัว
ต้องเจียมตัวหัวใจมีเท่านี้เอง....................				
6 ธันวาคม 2549 15:51 น.

" พ่อ"

กุมภ์

แสนยิ่งใหญ่เหนือคำไดในใต้หล้า
สุดแผ่นฟ้าสุดแผ่นดินกระสินธ์สาย
คือความรักที่ไม่หมดจนวันตาย
คือความหมายคำว่า"พ่อ"ที่คงทน

หนึ่งชีวิตกำเนิดก่อเพราะพ่อสร้าง
ทำทุกอย่างให้ลูกน้อยค่อยฝึกฝน
เป็นเด็กอ่อนเสียงแอ้อ้อพ่อยินยล
หวังสักหนได้ยินเสียงเรียก.."ป้อ..ป้อ"

เสียงสวรรค์เพียงคำเพรียกที่เรียกหา
ดั่งสัญญาสื่อความหมายในตัวพ่อ
น้ำตาเอ่อเกิดปิติสมใจรอ
เพราะคำ"พ่อ" จากปากลูกนั้นผูกพันธ์

ครั้งตั้งไข่ตอนหัดยืนหรือเดินนั่ง
แข้งขายังไม่แข็งแรงไม่แข็งขัน
เป๋ไปนิดเซไปหน่อยพ่อคอยยัน
ไม่ดึงดันไปข้างหน้าช้าช้าเดิน

โตมาหน่อยค่อยรู้ความภาษาสื่อ
ตาใสซื่อสื่อถึงพ่อไม่ขัดเขิน
ยามลูกซนพ่อนั่งดูเป็นคู่เพลิน
พาอุ้มเดินยามแดดร่มห่มอุรา

ยามลูกซบบนแผ่นอกพ่อสุขยิ่ง
ลูกนอนนิ่งในอ้อมแขนแทนภาษา
ภาษากาย"พ่อรักลูก" แทนพูดจา
อุ่นอุราเหนือวาจามาบรรยาย

ยิ่งตอนลูกรู้คำคนยิ่งซนมาก
ทำตามอยากตามความซนทำขวัญหาย
พ่อเรียกขวัญให้รีบกลับมาคืนกาย
ปลอบทักทายลูบแผ่นหลังระวังตัว

ตอนลูกป่วยไม่สบายมันร้ายนัก
เพียงลูกรักแค่ตัวร้อนพ่อเจ็บหัว
เตรียมน้ำพร้อมผ้าผืนน้อยคอยเช็ดตัว
ใจพ่อกลัวนั่งเฝ้าลูกจนสุดคืน

เรื่องอาหารขนมหวานและของเล่น
หากพ่อเห็นเป็นต้องซื้อไม่อาจฝืน
ขอเพียงลูกมีความสุขทุกวันคืน
พ่อสดชื่นยามเห็นลูกได้ผ่อนคลาย

เรื่องการเรียนทั้งอ่านเขียนพ่อเพียรหา
ให้ได้มาซึ่งโรงเรียนตามใจหมาย
หมดเท่าไหร่ค่าใช้จ่ายไม่เสียดาย
เพียงลูกได้ฝึกฝนตนเป็นคนดี

อีกหลายปีกว่าลูกน้อยจะเติบใหญ่
พ่อคงได้เลี้ยงดูลูกอย่างเต็มที่
จวบวันตายพ่อมั่นหมายในชีวี
ให้ลูกนี้เป็นคนดีของสังคม

กว่าจะซึ้งถึงคำ"พ่อ" ตอนมีลูก
ความพันผูกลูกกับพ่อไม่มีขม
กระจ่างใสบริสุทธิ์ประดุจพรหม
ที่สั่งสมเป็นคุณค่าให้ตราตรึง

ว่าพ่อจ๋าลูกขอมากราบแทบเท้า
ขอนำเอาคำสอนพ่อระลึกถึง
รุ่นสู่รุ่นพ่อสอนสั่งยังคะนึง
หวังวันหนึ่งคงเป็น"พ่อ" อย่างพ่อเป็น				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกุมภ์
Lovings  กุมภ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกุมภ์
Lovings  กุมภ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกุมภ์
Lovings  กุมภ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกุมภ์