4 ตุลาคม 2548 09:47 น.

เหตุผลของคนสูบบุหรี่..!!

คนป่าฯ

@   นอนเหงาเหงา  เช้าวันหนึ่ง  พึ่งฉุกคิด
ว่าชีวิต   ควรใช้   ให้มีค่า
คิดแล้วไป  สัมภาษณ์ พวกขี้ยา
ถามเขาว่า สูบบุหรี่ ทำไมกัน
@   รายแรกถาม  ยามประตู   ที่อยู่ป้อม
ตัวสูงผอม ปากดำปื๋อ  แถมมือสั่น
อ๋อผมสูบ เพราะยุงกัด คันก็คัน
อาศัยควัน  ไล่ยุงไป ไกลตัวเรา
@   จากยามก็   ต่อไป  รายที่สอง
คนขายของ คือแม่ค้า ไงล่ะเจ้า
อ๋อช่วงนี้  เงียบสงบ  ขายซบเซา
นี่ไงเล่า บุหรี่แน่ สูบแก้เซ็ง
@    บันทึกไว้  ต่อไป รายที่สาม
เร่ไปถาม  หมอใหม่ มาดไม่เบ่ง
อ๋อผมสูบ เพื่อศึกษา อย่าเพ่งเล็ง
จะได้เก่ง  รักษา  เยียวยาคน
@    จากคุณหมอ   ก็ไปถาม  สาวงามเลิศ
หุ่นพราวเพริด  เริ่ดหรู  ดูน่าสน
ปากพ่นควัน มั่นใจ ในตัวตน
หนูสูบจน   ติดมัน  มานานปี
@    ก็อกหัก  เมื่อรักแรก แตกเนื้อสาว
รักแตกร้าว  สุดฝืน ให้คืนที่
ชีวิตจึง   ปี้ป่น  จนเดี๋ยวนี้
ได้บุหรี่   เป็นเพื่อนชอบ   ช่วยปลอบใจ
@    เร่ไปถาม   อีกหนึ่งชาย รายที่ห้า
มาดสง่า  สุขุม  หนุ่มสูงใหญ่
ได้คำตอบ หอบแฟ้มปั๊บ กลับทันใด
อุวะไอ้ อยากนี่หว่า ปัญหาเรอะ?..!!				
3 ตุลาคม 2548 22:07 น.

เมื่อไฟไหม้...!!

คนป่าฯ

ดึกสงัด   ในวัน   อันสงบ
คืนที่พบ   เภทภัย  ไม่คาดฝัน
อัคคีภัย  ไหม้โหม   อย่างโรมรัน
เปลวและควัน   คึกบ้า  แสนน่ากลัว
รถดับเพลิง  ใกล้ไกล  ไม่รอช้า
เปิดหวอมา   ซิ่งสะบั้น   อกสั่นทั่ว
ไฟแดงฉาน    บ้านใกล้   ใจสั่นรัว
อึงอลทั่ว   ชุลมุน  พัลวัน
แต่ทว่า   รถทุกคัน   ที่พลันถึง
กลับต้องอึ้ง  สู้ไฟห่าง   อย่างใจสั่น
ไฟแรงจัด   สุดทนไหว   จะใกล้มัน
คนทุกคัน   มองตา  ทอดอาลัย
ในฉับพลัน  ทันที   มีเสียงหวอ
คันหนึ่งห้อ   ด่วนจี๋   เหมือนพลีให้
ไปหยุดชิด   ติดบ้าน  ไม่หวั่นไฟ
ฉีดน้ำใส่    เหมือนปืนรัว   ไม่กลัวร้อน
เพียงพักใหญ่  ไฟนรก  ก็ปลกเปลี้ย
เหลือลามเลีย  นิดหน่อย   ก็ค่อยถอน
ทั้งทีมถอย   รถออกมา  จะลาจร
ราษฎร     ฮือฮา    มาชื่นชม
ตบมือให้  เสียงสนั่น  ปานคอนเสิร์ต
เจริญเถิด  ท่านผู้กล้า  สง่าสม
ท่านสู้ไฟ   ใจหาญกล้า   น่านิยม
พวกกระผม  และดิฉัน   ตันอุรา
แล้วบิ๊กหนึ่ง   ดูดี   มียศศักดิ์
เดินมาทัก   พนักงาน   กันทั่วหน้า
มาหยุดที่   ทีมนักบู๊   สู้ยิบตา
"ผมผู้ว่าฯ    ยกนิ้วให้   ด้วยใจจริง
มีปัญหา    อะไร   บอกได้นะ
แล้วผมจะ   จัดการให้   ได้ทุกสิ่ง
คุณสู้ไฟ     สุดยอด   ไม่ทอดทิ้ง
นะ...อย่านิ่ง  ประสงค์ใด  ให้บอกมา
ทีมสู้ไฟ   ชายตาแล   แต่เงียบเฉย
ไม่เอื้อนเอ่ย  พากัน   หันมองหน้า
พักหนึ่งมี  เสียงกระแอม  แย้มวาจา
"ท่านผู้ว่าฯ ขอรถที่ เบรกดีครับ..!!"				
2 ตุลาคม 2548 20:42 น.

ลูกค้าคู่น่าเบื่อ..!!

คนป่าฯ

***   ขอโทษพี่    ที่นั่ง   ว่างป่าวฮะ
เออ...ว่างว่ะ  นั่งได้   ไม่ต้องหวั่น
นั่งลงดิ   แล้วมาดื่ม   ลืมทุกข์กัน
เมาช่างมัน   ถึงจะเมา   ก็เมาดี
***   นี่...ไอ้น้อง   อยากรู้   บ้านอยู่หนาย
อ๋อ..พี่ชาย   บ้านผมอยู่   หมู่ที่สี่
เฮ้ย...เหมือนกัน   ที่พี่อยู่   ก็หมู่นี้
เออ..อีกที    น้องอยู่หน   ตำบลใด
***  บ้านผมอยู่   ตำบล    หมาไม่แดก
ไอ๊ย่า..แปลก   พี่ก็อยู่   แดกหมาไม่
เอิ้ก..ขอโทษ  หมาไม่แดก แปลกเหลือใจ
มันยังงี้   ได้ยังไง   อัศจรรย์
***   หรือไม่ใคร    ก็ใคร   เข้าใจผิด
แกลองคิด   ให้เข้าใจ   ถูกไหมนั่น
ใครจำถูก  ใครจำผิด   คิดดูกัน
ม่ายช่ายฉัน   มันต้องแก   แน่ปนเป
***   เอายังงี้    ฟังขาน  เลขบ้านพี่
เก้าร้อยสี่    ทับห้า   อย่าสนเท่ห์
เฮ้....ผมก็    เก้าร้อยสี่    มิโมเม
ทับห้าด้วย    นะเพ่     จะว่าไง
***   บ๊ะ..ทำไม  เป็นไปได้   ถึงยังงั้น
มันเหมือนกัน  เด๊ะทุกสิ่ง   ยิ่งบ้าใหญ่ 
คนขายเหล้า  ยืนสั่นหัว ปวดหัวใจ
"เจ้าแฝดเอ๊ย...เมาทีไร... งี้ประจำ ..!!"				
1 ตุลาคม 2548 20:39 น.

กฎหมา...!!

คนป่าฯ

@   อันมนุษย์   ยังกำหนด   มีกฎหมาย
เราทั้งหลาย   ก็กำหนด   มีกฎหมา
บัญญัติไว้   สรรพเสร็จ    เจ็ดมาตรา
ฟังฉันว่า   กฎหมาเป็น    เช่นใดกัน
@   มาตราหนึ่ง   ถ้าฉันจ้อง   และมองอยู่
ให้คุณรู้    ว่านั่นต้อง   เป็นของฉัน
มาตราสอง   ถ้าฉันแทะ   และกินมัน
ถือว่านั่น   เป็นของฉัน    เช่นกันฮับ
@   มาตราสาม   ถ้าตาฉัน    พลันเห็นก่อน
นั่นแน่นอน     ของฉันนา    ใครอย่าจับ      
มาตราสี่    ถ้าฉันฟัด    ไล่กัดงับ
ก็ต้องนับ   เป็นของฉัน   นั่นจริงเจียว
@   มาตราห้า    ถ้าฉันแอบ   แลบเลียลิ้น
ถึงไม่กิน   ก็ของฉัน   วานอย่าเบี้ยว
มาตราหก   คุณเผลอไว้   ไปแป๊บเดียว
ฉันคาบเคี้ยว    ก็เพราะนั่น   ของฉันไง
@   มาตราเจ็ด    สุดท้าย    ในกฎหมา
ระบุว่า   ฉันถ่าย   ที่ตรงไหน
ตามกฎเรา      ฮ้งฮ้ง      จงเข้าใจ
อึนั้นไซร้    สิต้อง    เป็นของคุณ(ฮา!!)				
30 กันยายน 2548 21:05 น.

พอกันที...ชีวิต..!!

คนป่าฯ

***   ชีวิตโหด  อยากโดดให้   รถไฟทับ
บดขมับ   บี้ขมอง   กองขยุย
ก็หัวใจ   ร้าวแหลก  แตกกระจุย
ใจชุ่ยชุ่ย   ยื่นให้ใคร   ก็ไม่เอา
***   แต่ปางก่อน    คงทำ   กรรมชั่วแยะ
จึงเป็นแพะ  รับบาป   อาบกรรมเก่า
หน้าขี้ริ้ว   ราวปีศาจ   บาดใจเรา
ฐานะเล่า   ก็ต่ำต้อย   ด้อยทุกทาง
***   แบ๊งค์ร้อย   เป็นอย่างไร   ไม่เคยจับ
เคยแต่นับ   แบ๊งค์ยี่สิบ  เหรียญสิบบ้าง
บางมื้ออิ่ม   หลายมื้ออด   หมดหนทาง
คนเคียงข้าง  ในชีวี   ไม่มีเลย
***   เสียงหัวเราะ  และรอยยิ้ม  นั้นยากหา
แต่น้ำตา  กับเหงื่อ   มากเหลือเอ่ย
นอนเอามือ  ก่ายหน้าผาก  ทั้งปีเอย
ท้อแล้วเหวย    ที่ต้องสู้    ไม่รู้วาย
***   ชีวิตโหด    ขอโดดให้    รถไฟทับ
หลับตานับ   หนึ่ง..สอง..   ปองชีพหมาย
เสียงล้อเหล็ก  บดราง    มาข้างกาย
วูบสุดท้าย   ยินสำเนียง    เสียงร้อง คัท..!!"  :-))				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนป่าฯ
Lovings  คนป่าฯ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนป่าฯ
Lovings  คนป่าฯ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนป่าฯ
Lovings  คนป่าฯ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนป่าฯ