23 ธันวาคม 2553 12:56 น.

งมงาย

คนเดียวกัน

พร่ำเพ้อละเมอครวญ    
ฤดิป่วนมิผ่อนคลาย
เหลือที่จะหักหาย          
และก็ยิ่งจะร้อนรน

มึนงงและสงสัย            
สิอะไรนะมาดล
วนเวียนและเวียนวน     
บ่มิพ้นกมลไป

ยินเพียงสำเนียงอ้อน     
ดนุวอนก็หวั่นไหว
สุดจินตนาไกล                 
สิจะไหลละหลั่งกาม

ไม่เคยจะเห็นตัว             
และก็มัวสำราญตาม
สร้างภาพอนงค์งาม       
กลยิ่งพิภพตรี

ดูดู๋สิเป็นได้                    
จะอะไรนะปานนี้
หลงไหลและยินดี         
ณวจีมิคิดควร

งมงายและงมเงา            
สติเจ้ามิทบทวน
มายาจะมายวน               
ก็แหละเจ้าจะเขลาใย				
30 พฤศจิกายน 2553 15:02 น.

ก็ใจมันรักเธอ...ก็เลยไม่ยอมตัดใจ

คนเดียวกัน

เขียนมาเพื่อใครคนหนึ่งซึ่งแสนหวาน
ให้เบิกบานสดใสไร้ขื่นขม
เขียนมาเพื่อใครคนหนึ่งซึ่งชื่นชม
หวังภิรมย์สมปองได้ครองเคียง

เขียนมาเพื่อบางใครให้comment
เขาคิดเห็นอย่างไรจะไม่เถียง
เขียนมาเพราะดื่มด่ำกับสำเนียง
และเพื่อเสี่ยงกับเขาที่เฝ้าคอย

รู้ว่าถ้าหายไปก็ไร้ค่า
จึงกลับมาอีกครั้งอย่างหงอยหงอย
กลับมารับไมตรีที่เลื่อนลอย
แต่อย่างน้อยดีกว่าอยู่เพียงผู้เดียว

แม้ภาระหน้าที่มีมากล้น
แต่เพราะคนหนึ่งนั้นที่หมั่นเกี้ยว
และยังหวังรักแท้แน่จริงเชียว
จึงต้องเลี้ยวกลับมาว่าเพลงยาว				
29 ตุลาคม 2553 13:35 น.

วันที่การสื่อสารขัดข้อง

คนเดียวกัน

...หยิบปากกามาจับขยับอักษร                   
เขียนบทกลอนอ่อนใจไปเรื่อยเปื่อย
ปล่อยชีวิตว่างเปล่าและเหงาเนือย                     
เหมือนคนเฉื่อยชาชินไร้วิญญา

เคยฝันใฝ่ในวันหนึ่งต้องถึงฝัน                          
ได้เป็นนักประพันธ์กลั่นภาษา
มองทุกสิ่งลึกซึ้งถึงปรัชญา                                
แสวงหาความรู้มุ่งสู่ชัย

แต่ละวันผ่านไปไม่เคยท้อ                                 
สานฝันต่อไม่ผะวงหรือสงสัย
ก้าวไปตามความฝันอย่างมั่นใจ                        
เป็นหนึ่งในยุทธจักรนักประพันธ์

ถือกระบี่ปากกาว่ากลอนกาพย์                         
อัตคัดอัตภาพอิ่มอาบฝัน
พเนจรเรื่อยไปไม่ผูกพัน                                   
จนทุกวันจนวันนี้ไม่มีจะกิน

หรือว่าเราเลยวัยไปแล้วนั่น                              
ที่บีบคั้นวันนี้คือหนี้สิน
จนต้องเอาตำรามาขายกิน                                 
เลี้ยงชีวินแต่พอวันต่อวัน

ไม่เคยทำอะไรได้ดังคิด                                     
การดำเนินชีวิตผิดมหันต์
ขอยุติการเขียนกลอนก่อนแล้วกัน                    
เดินตามฝันมาไกลไม่ได้ดี

แล้ววันหนึ่งสักวันเจอกันใหม่                          
วันที่ได้มีอนาคตที่สดศรี
แต่วันนี้จะขอพอเสียที                                       
สวัสดีทุกท่านฉันขอลา     (บาย)				
28 ตุลาคม 2553 15:11 น.

หนูไม่ยอม99

คนเดียวกัน

...หลงรักสาวบ้านกลอนให้หมองเศร้า                    
สุดคาดเดาความนัยหัวใจหญิง
คำที่เธอเอ่ยถ้วนล้วนความจริง                      
หรือกลอกกลิ้งก่อกวนมาป่วนใจ

แม้มิเคยนึกรักเลยสักนิด                              
 มิเคยใคร่ใกล้ชิดพิสมัย
ก็ขอเพียงเปิดอ่านแล้วผ่านไป                       
ขออย่าได้ตอบถ้อยร้อยวาจา

ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ฤดีป่วน                                
ให้เซซวนด้วยเล่ห์สเน่หา
ใจเจ้าเอยเคยช้ำระกำมา                                 
ต้องถูกย้ำอีกคราไม่น่าเลย

วันนี้จึงแต่งกลอนมาย้อนถาม                      
ขอคนงามทรามวัยได้เปิดเผย
ถ้ามาหยอดอีกครั้งอย่างที่เคย                      
จะขอเอ่ยให้รู้...หนูไม่ยอม				
27 ตุลาคม 2553 09:47 น.

ไม่ยึดติดดีกว่านะ

คนเดียวกัน

ชีวิตคนเรามีหลายด้าน                           
ผสานผสมผเส
บางครั้งสับสนปนเป                                       
รวนเรระทมซมซาน

ชีวิตมีทุกข์มีสุข                                               
มีสนุกมีเศร้าโศกศัลย์
ถึงแม้เป็นสิ่งที่คู่กัน                                         
แต่มันมิใช่ใกล้เคียง

ความทุกข์ย่อมมีมากกว่า                                 
หรือมีใครกล้ามาเถียง
พุทธองค์ยังทรงหลีกเลี่ยง                               
บ่ายเบี่ยงไม่ยอมจำนน

ที่สุดจึงได้ค้นพบ                                            
ประสพหนทางมรรคผล
ไม่ยึดติดในตัวตน                                           
หลุดพ้นกิเลสตัวการ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนเดียวกัน
Lovings  คนเดียวกัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนเดียวกัน
Lovings  คนเดียวกัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนเดียวกัน
Lovings  คนเดียวกัน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนเดียวกัน