4 ตุลาคม 2553 08:14 น.

เนียน

คนเดียวกัน

...รินสุราว่ากลอนอย่างอ่อนล้า
ปรารถนาคลายเจ็บใจเหน็บหนาว
ให้ลืมความขมขื่นหมื่นเรื่องราว
ยิ่งมองฟ้าไร้ดาวยิ่งร้าวราน

มิตรสหายร่วมวงคอยส่งแก้ว
ฟังเพลงแนวรักใคร่ให้สนาน
หวังเราได้ดื่มเหล้าอย่างยาวนาน
สุราบานเบิกใจไอ้เพื่อนเกลอ

เคยส่งกลอนอ้อนสาวคราวก่อนนั้น
คอยเสกสรรวาจามาเสนอ
ป้อนคำกานท์หวานล้ำมาบำเรอ
เพราะว่าเธอมีใจรับไมตรี

ทุกถ้อยคำมั่นหมายบรรยายรัก
มอบใจภักดิ์น้องแล้วไม่แจวหนี
ทุกถ้อยคำคร่ำครวญนวลนารี
ยกนทีทั้งห้ามาอ้างอิง

แต่ใจนางยั้งคิดค่อยปิดกั้น
กลอนเรานั้นไม่อาจบาดใจหญิง
แม้ทุกคำเอ่ยถ้วนล้วนความจริง
กลับดูยิ่งไร้ค่าไม่น่าฟัง

ก่อนซดเหล้าลงคอขออีกบท
สุดสลดชีวินต้องสิ้นหวัง
เขาเคยบอกกลอนเราเข้าท่าจัง
แต่วันนี้เขาชังต้องยั้งมือ

เขียนกลอนหวานนานไปใครไม่รู้
เขาก็ดูว่าเหลือจะเชื่อถือ
คงเขียนไปเพราะนึกจะฝึกปรือ
ให้เลื่องลือชื่อชั้นเท่านั้นพอ

แม้อาศัยปริมาณในการเขียน
คอยวนเวียนฝากกลอนเฝ้าวอนขอ
แต่ว่าถึงอย่างไรคงไม่พอ
คนซอมซ่ออย่างเราเขาม่ายแล...เอิ้ก

สะอึกเอิ้กเลิกเขียนอาเจียนอ้วก
เพื่อนๆจวกว่าเราเมาแล้วแย่
แต่เมาเหล้าเท่าไรเราไม่แคร์
ช่วยกันแชร์ขอย้ำอย่าทำเนียน

สุราไม่ดีนะครับผู้อ่านโปรดทราบ				
3 ตุลาคม 2553 07:52 น.

B12

คนเดียวกัน

...ดังลมพัดลมเพไปเร่ร่อน                        
พเนจรทั่วแดนแสนสุขี
ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไม่เหนื่อยดี                   
ทำแค่มีพอกินไปวันวัน

ก็เพราะชาติกำเนิดไม่เลิศหรู                     
ก็ยากอยู่จะให้ดีมีสุขสันต์
ได้เท่านี้ก็พอใจไม่ว่ากัน                           
ยังแบ่งปันให้ผู้อื่นเสมอมา

เป็นนักเขียนไส้หมาดอนาถแท้                 
ยากจะแก้ความลำบากมากปัญหา
บ้างก็สุขบ้างโศกโชคชะตา                       
ยากจะคว้าสิ่งหวังที่ตั้งใจ 

ซื้อเครื่องดื่มบีสิบสองมาลองซด                
เพื่ออนาคตเรืองรุ่งพุ่งสดใส
เพิ่มความคิดผลิตงานทุกวารไป                 
ชีวิตคงดีได้ไม่ยากเย็น

เป็นนักเขียนไส้หมาดอนาถนัก                    
อยากจะพักความลำบากเคยยากเข็ญ
เชื่อพี่แอ้ดจริงจังตั้งประเด็น                        
ที่เล็งเห็นบีสิบสองเป็นของดี

บีสิบสองลองเถิดประเสริฐสุด                     
แล้วก็หยุดขัดแย้งแบ่งฝ่ายสี
เราคนไทยรู้รักสามัคคี                                
เชื่อเถิดพี่บีสิบสองต้องลองกิน				
2 ตุลาคม 2553 03:30 น.

ให้ร้อยนึง

คนเดียวกัน

ลุกขึ้นมาเขียนกลอนตอนตีหนึ่ง
ด้วยคิดถึงคนงามในความฝัน
บรรจงจัดคัดคำมารำพัน
สุดเสกสรรวาจามาคร่ำครวญ

หนาวอารมณ์ข่มตาก็หาหลับ
กระส่ายกระสับจับจิตคิดผันผวน
เหม่อมองจันทร์ฝันหาเจ้าหน้านวล
สุดรัญจวนครวญคร่ำตามลำพัง

เปิดคอมฯลงกลอนไปด้วยใจเศร้า
คืนนี้เราเปล่าเปลี่ยวเสียวสันหลัง
โอ้ดวงใจร้าวรานปานจะพัง
ต้องรินหลั่งน้ำตาอย่างอาลัย

ลุกขึ้นมาเขียนกลอนตอนดึกดึก
ด้วยรู้สึกทรมานเกินต้านไหว
หากใครยังไม่นอนอ่านก่อนใคร
คอมเม้นท์ให้สักหน่อยให้ร้อยนึง				
1 ตุลาคม 2553 17:52 น.

กุลสตรี

คนเดียวกัน

ฉันภูมิใจมากที่ได้รักเธอ  
ถึงแม้ฉันต้องรักเก้อ  
ก็เพราะว่าเธอไม่คิดเหมือนกัน
ฉันรักเธอจริง 
เธอคือผู้หญิงในฝัน  
เฝ้าคิดถึงเธอทุกวัน  
แค่นั้นก็เป็นสุขใจ
เธอเป็นผู้หญิง   
ไม่ทิ้งความงามอย่างไทย  
ถึงยุคสมัยเปลี่ยนไป 
แต่ใจเธอไม่เปลี่ยนแปลง
กุลสตรีไทย 
ไฉไลไม่มีใครแซง  
ถูกใจตัวฉันอย่างแรง  
ถึงต้องแสดงร้องเพลงบอกมา
คนสวยกว่าเธอ  
นั้นคงหาได้ไม่ยาก  
แต่ฉันไม่ใฝ่ภักดิ์  
ขอรักคนเดียวคือเธอ
งามอย่างไทยๆ  
ไม่ต้องทำให้เลิศเลอ  
โชคดีที่ฉันได้เจอ  
แม้เธอจะไม่สนใจ				
30 กันยายน 2553 08:09 น.

ภาษากาย

คนเดียวกัน

พี่พร่ำพรอดวาจาภาษาปาก                      
พี่พร่ำฝากคำหวานสุดขานไข
พี่พร่ำเพ้อเรื่อยมาภาษาใจ                      
พี่อาลัยนวลน้องปองภิรมย์

ทุกถ้อยคำรำพันกระสันซาบ                    
ให้อิ่มอาบอุ่นไอฤทัยสม
เจ้ายังอ้อนกลับมาว่าน่าชม                      
แม่คำขมโฉมฉินแสนยินดี

สุดจะเอ่ยวาจาภาษารัก                              
ให้ประจักษ์ดวงแดแม่โฉมศรี
สุดเสาะหาคำงามตามวิธี                         
สุดคำที่จะรำพึงถึงทรามเชย

ด้วยวจีที่ใช้จนใจแล้ว                                
โอ้น้องแก้วดวงใจใคร่เฉลย
วันใดที่เจอน้องต้องขอเปรย                   
ขอเอื้อนเอ่ยเถิดหนาภาษากาย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนเดียวกัน
Lovings  คนเดียวกัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนเดียวกัน
Lovings  คนเดียวกัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนเดียวกัน
Lovings  คนเดียวกัน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนเดียวกัน