30 เมษายน 2551 09:03 น.

"แมงเม่า"

ทิพย์มณฑา

แมงเม่าเอยบินเคล้ากับกองไฟ
หลงเพลินตาเพลินใจกับแสงสี
ไม่รู้ตัวต้องลาลับดับชีวี
แต่สุดท้ายถูกไฟนี้เผาใจตน

บินเข้าสู่กองไฟหวังมีสุข
หวังสนุกสิ่งอื่นใดไม่เคยสน
แต่สุดท้ายมอดไหม้ดับกายตน
อนิจจาสิ้นชีวาบนกองไฟ

ตัวที่หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก
ดับดิ้นตกกองไฟไปเท่าไร
เปรียบดังคนหลงแสงสีนึกสุขใจ
แต่สุดท้ายต้องมอดไหม้ในไฟฟอน

แห่เข้าเมืองหางานปานน้ำหลาก
คนหมู่มากหลงแสงไฟยากถ่ายถอน
เหลือเพียงคนแก่เฒ่าเฝ้าดงดอน
ลูกหลานจรไปหางานในกรุงไกล

ต้องทนทำงานในดงคอนกรีต
มีชีวิตรอวันตายไม่ไปไหน
เข้าเมืองหาความร่ำรวยได้อะไร
ผลสุดท้ายต้องหอบกายกลับบ้านนา				
30 เมษายน 2551 08:53 น.

เพื่อน

ทิพย์มณฑา

คำหนึ่งคำมีความหมายหญิงชายรู้
เพื่อนมีอยู่ทั่วไปทุกสถาน
ทั้งเพื่อนกินเพื่อนตายหรือเพื่อนงาน
แต่ที่รักกันนานต้องเพื่อนแท้

เพื่อคนดีคอยรักคอยห่วงใย
แต่บางครั้งบ่นมากไปจนหน้าแก่
แต่ดีใจมีเพื่อนคอยดูแล
แค่สบตาก็รู้แน่คิดอะไร

เป็นเพื่อนกายเพื่อนเล่นแต่วัยเรียน
สนิทกันร่วมอ่านเขียนมาแต่ไหน
ไปเรียนสายโดนทำโทษมิโกรธใคร
เพื่อนคอยปรามห้ามไว้ยามเกเร

ยามเรียนอ่อนเพื่อนคอยสอนคอยติวให้
ดูละครเห่อตามไปกลัวไม่เท่
มีบางคราเพื่อนทำสวยเหมือนลิเก
แต่ไม่มีเที่ยวเตร่เหมืนใคร-ใคร

ขอบคุณเพื่อนที่เคียงข้างยามเดือดร้อน
คอยอาทรเป็นธุระหาแฟนให้
เพื่อนตัวดีเพียงมองตาก็รู้ใจ
เพื่อนคนสวยไม่เคยไล่แม้ยืมตังค์

เธอคือเพื่อนสรรค์สร้างทางชีวี
ให้ตัวฉันคนนี้มีความหวัง
เพื่อนคอยอยู่เคียงกายเติมพลัง
ไม่เคยคิดหักหลังแม้เรื่องใด				
25 เมษายน 2551 09:28 น.

ลานลั่นทมแห่งความหลัง

ทิพย์มณฑา

ดอกลั่นทมปลิดขั้วโรยโปรยกลีบแก้ว
เหมือนสิ้นแล้วเรื่องเมื่อคราวหลัง
ต้องเจ็บช้ำเพราะรักที่พ่ายพัง
หวนคิดถึงความหลังนั่งระทม

ลานลั่นทมก่อนมีเราเคล้าเคียงใกล้
อิงแอบกายแนบชิดสนิทสม
มาวันนี้เธอหายไปใจโศกตรม
วิมานล่มสุดระทมตรมทรวงใน

หยาดน้ำค้างดุจน้ำตาคราทุกข์เศร้า
คอยคร่ำครวญว่าเขจากไปไหน
ลั่นทมเอ๋ยจะรู้ไหมข้าเสียใจ
เจ้ารู้ไหมแทบวายปราณใจขาดรอน

ลั่นทมเอ๋ยจะรู้ไหมว่าใครเหงา
ทุกค่ำเช้าภาพรักเราตามหลอกหลอน
ต้องทนเหงาเดียวดายใจอาวรณ์
ภาพรักเราทุกฉากตอนมิเลือนลา

ลานลั่นทมเงียบเหงาไร้เงารัก
นานยิ่งนักคนเหงาเฝ้าแลหา
เขาจากไปกับคนใหม่ไม่ย้อนมา
อนิจจาซากรักเราเขาลืมเลือน				
24 เมษายน 2551 08:35 น.

วังวนน้ำตา

ทิพย์มณฑา

หยาดน้ำตาจารึกบนใจร้าว
ก้าวทุกก้าวเดินไปในขวากหนาม
ซ่อนความเจ็บใต้รอยยิ้มที่งดงาม
ทุกโมงยามความเจ็บช้ำคอยประดัง

กลืนน้ำตาต่างข้าวใครเล่ารู้
ลมหายใจเหลืออยู่แต่สิ้นหวัง
ทุกถ้อยคำซ่อนในใจใครรับฟัง
เหมือนยืนอยู่ลำพังกลางวังวน

ทำความดีไม่เคยมีใครเห็นค่า
คนด่าว่าเป็นเหมือนหมาข้างถนน
ไม่เห็นใครเป็นแรงใจให้สักคน
เส้นทางรักก็มืดมนหมดหนทาง

วันเวลาผ่านไปไม่มีค่า
ทุกเวลาโดเดี่ยวเปลี่ยวเวิ้งว้าง
มืดมัวหม่นในดวงจิตทุกทิศทาง
โลกแสนกว้างแต่เราไม่เหลือใคร

อยากมีใหล่ใครสักคนให้ซบหน้า
อยากมีคนโอบกอดคราร้องไห้
ขอสักคนจะเคียงข้างเบิกทางใจ
ให้ผ่านพ้นความโหดร้ายของคืนวัน				
23 เมษายน 2551 10:22 น.

สุสานคนช้ำ

ทิพย์มณฑา

หลังบ้านมีที่ดินหลายตารางวา
ได้รับมาจะทำเป็นสุสาน
ถูกชายลวงเจ็บทรวงแทบแหลกลาญ
เหลือไว้เพียงซากวันวานรักระทม

หวนคิดไปถึงรักเราในวันก่อน
กลับคืนย้อนบาดหัวใจให้ขื่นขม
ในวันนี้เหลือไว้เพียงความโศกตรม
เหลือเพียงความขื่นขมถมทรวงใน

เหลือเพียงร่างรอวันตายไร้ประโยชน์
เฝ้าครวญคิดเธอเคืองโกรธสิ่งใดไหน
ถึงทิ้งฉันให้ร้าวรวดปวดดวงใจ
ยากเกินหาคำใดมารำพัน

วันวิวาห์เธอคงสุขสนุกล้น
ทิ้งให้ฉันทุกข์ทนบนทางฝัน
เธอไม่รักไม่สนใจไม่ห่วงกัน
วันวิวาห์คือวันฉันม้วยมรณ์

ใครก็ได้ช่วยกลบดินถมกายฉัน
ปักป้ายเขียนคนรักมันไม่ถ่ายถอน
หมดสิ้นแล้วคำได้จะอ้อนวอน
ลงนอนหลุมอุทิศร่างกายตน

ไม่ขออยู่เป็นมารหัวใจเจ้า
อุทิศกายเป็นปุ๋ยไม้ให้ดอกผล
ให้ต้นไม้เป็นร่มเงาบังกายคน
ให้ดอกผลต้นไม้เจ้างอกงาม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทิพย์มณฑา
Lovings  ทิพย์มณฑา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทิพย์มณฑา
Lovings  ทิพย์มณฑา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทิพย์มณฑา
Lovings  ทิพย์มณฑา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงทิพย์มณฑา