14 มิถุนายน 2551 09:22 น.

บางที...(อาจนอนน้ำตาไหลห่วงใยคุณ)

ธมกร


    ขณะคุณคิดถึงใครคนหนึ่ง
ด้วยรู้สึกลึกซึ้งประมาณมิได้
ใครอีกคนที่คุณวางไว้ห่างใจ
อาจนอนน้ำตาไหลห่วงใยคุณ

(ไม้ตะปูและหัวใจ, จันทร วรลักษณ - นามปากกา, พิมพ์ครั้งแรก ๒๕๔๗, พิมพ์ครั้งที่สอง ๒๕๕๐)

บางครั้งขณะขับรถไปบนเส้นทางยาวไกลเพียงคนเดียว
อารมณ์เปลี่ยวประสากวีก็มักเผลอไปกับจินตนาการ
จินตนาการของความเป็นมนุษย์
ซึ่งมีเลือดเนื้อ...คิด...นึก...รู้สึกรู้สา...
และครั้งหนึ่ง ในขณะรู้สึกเช่นนั้น
ไม่อาจขับรถต่อไปได้
แวะจอดข้างทาง...
เขียนเพลงขึ้นเพลงหนึ่ง
ดังนี้ :-

เพลงเบาะซ้ายยังว่าง
คำร้อง-ทำนอง  ศิวกานท์ ปทุมสูติ

อยากโอบไหล่เธอพานั่งรถเที่ยว
เลาะเลี้ยวเที่ยวไปทุกแห่งทุกหน
กินลมชมวิวสุขกันสองคน
ทุกที่ที่มีถนนมีเราสองเคียงคู่กัน

จะหยุดเวลาไว้ในรถยนต์
ร่วมค้นเส้นทางแห่งเธอและฉัน
แม้ทางยาวไกลเมื่อใจรักกัน
ทุกที่ก็มีสวรรค์คืนวันรักปองสองเรา

...แต่ เบาะซ้ายเหลียวไปยังว่าง
ไม่มีใครนั่งเคียงข้างกับคนเหงาเหงา
เปิดซีดีเพลงก็มีแต่เพลงคนเศร้า
เส้นทางที่ยังทอดยาวเปลี่ยวเปล่าเหงาทรวงดวงใจ

ได้แต่ละเมอเผลอใจฟุ้งซ่าน
สร้างฝันลมลมระทมแค่ไหน
รถยนต์คนเปลี่ยวเที่ยวทัวร์หัวใจ
อยากมีคนนั่งเบาะซ้ายร่วมใจชัดเจนเส้นทาง


ผมเพียงคิดนึก...จินตนาการ
แล้วก็เขียนเพลง...
แค่นั้น...
เพราะว่าอารมณ์ต่อมาของผมก็คือ
บทกวีข้างต้นนั่นแหละครับ
...
แล้วคุณผู้อ่านล่ะ
???
				
14 มิถุนายน 2551 08:21 น.

ภูมิใจนะที่รัก

ธมกร


   ปลูกวังขึ้นกลางไร่	
ปลูกมิ่งไม้รายรอบวัง
ขุดบ่อเพื่อบัวหยั่ง	
ก้านบัวงามในน้ำใส
เลี้ยงนกในเวิ้งฟ้า	
ดักเมฆาลงตุ่มใหญ่
ผีเสื้อกับดอกไม้	
อาศัยรักเป็นรั้วล้อม
ก่อไฟไม่ขาดเตา	
หุงข้าวขาวซาวเหงื่อหอม
โอบเอื้อในอดออม	
ถนอมมิตรผู้ไมตรี
พูดคุยกับสายหมอก	
หยอกสายลมและวารี
วาดแดดที่แสดสี	
บนผ้าใสหทัยชน
หว่านดาวไว้พราวพร้อย	
แฝงหิ่งห้อยโพยมหน
ในคืนน้ำค้างหล่น	
เก็บร้อยมุกสนุกฝัน
สอนไก่ให้ตื่นเช้า	
ฝึกกาเหว่าให้ตื่นทัน
ถักรุ้งงามเฉิดฉัน	
ต่างสะพานข้ามคุ้งคลอง

   ภูมิใจไหมที่รัก	
ทิพย์ตำหนักดงสักทอง
มีเราเนาสุขสอง	
ดั่งราชาราชินี
ประดู่สะเดาระหง	
ประหนึ่งองค์มณเฑียรศรี
กล้วยตองดุจปล้องปลี	
ปรางค์ปราสาทราชฐาน
ร่องคูแห่งนัครา	
มีปูปลาเป็นบริวาร
เสนาผู้กล้าหาญ	
สี่สหายล้วนเห่าดัง

  ภูมิใจนะที่รัก	
ทั้งตำหนักและเวียงวัง
สนมนางห้ามทั้ง	
นางกำนัลหนึ่งนางเดียว
หนึ่งนั้นราชินี		
ที่ราชารักแน่นเหนียว
สัตย์ซื่อ คือเชือกเกลียว	
ที่มอบไว้ตราบวายปราณ
ราชามหาอำนาจ	
เป็นทั้งทาสและภูบาล
สมบัติพัสถาน		
แสนล้านใดอยู่ในเรา

ศิวกานท์ ปทุมสูติ				
13 มิถุนายน 2551 18:54 น.

รักนั้นเป็นฉันนี้ : กอดแน่นแน่นนะแขนน้อย

ธมกร


กอดฉันไว้แน่นแน่นนะแขนน้อย
เราจะลงเรือลอยสายน้ำเชี่ยว
เราจะเลาะเราจะลัดตัดคดเคี้ยว
ประเดี๋ยวก็จะถึงบึงเวิ้งว้าง

ที่นั่นตะวันรุ่งจะเรืองแสง
รอนักเสาะแสวงหัวใจสว่าง
นกฟ้า กาน้ำ จะนำทาง
ไปสู่ความลึกกว้างอันพร่างพราย

ระวังนะที่รักเรือเราเล็ก
กายใจมิใช่เหล็กบอบช้ำง่าย
พบมัจฉาปลาปูอย่าดูดาย
อาจบางทีคิดร้ายทำลายเรา

กอดฉันไว้แน่นแน่นนะแขนน้อย
เรือจะคล้อยคลองคดและโขดเขา
ลมจะพัดเมฆจะพาฟ้าทึมเทา
จะเพียงหยอกเพียงเย้าให้เรายล

ดูโน่นสิที่รักฟ้าถักรุ้ง
เรือเรากำลังมุ่งไม่สับสน
อยากฝันก็หลับตาเถอะนฤมล
ฝันถึงเราสองคนนะคนดี

ศิวกานท์ ปทุมสูติ
				
13 มิถุนายน 2551 15:46 น.

เก้าอี้มหัศจรรรย์ (โลกของเจ้าดวงดอกไม้)

ธมกร

...
มือน้อยน้อยค่อยโน้มเด็ดดอกไม้
แต่โน้มรั้งอย่างไรก็ไม่ถึง
ทั้งเขย่ง กระโดด จะคว้าดึง
จนพักหนึ่งก็เหนื่อยลงนั่งคิด 			

เธอทยอยขนอิฐมาหลายก้อน
มาซ้อนกันแล้วขึ้นยืนบนอิฐ
เอื้อมจนสุดเอื้อมแล้วเหลืออีกนิด
อิฐหมดหยุดพิจารณา

ท่อมท่อมเดินหาไม้ที่มีง่าม
ได้อันเหมาะงามมาเงื้อง่า	
แต่เกรงดอกช้ำยามดึงมา	
ง่ามจะพาฉีกขาดพลัดลอยลม	

หากว่ามีเก้าอี้สักตัวหนึ่ง
ครุ่นคำนึงตามประสาว่าคงสม
จึงอุบายชวนแม่เก็บมะยม
พอแม่ก้มเธอก็โหนขึ้นขี่คอ

บอกว่าแม่เป็นเก้าอี้ของหนูแล้ว
เดินไปแถวแถวโน้นกันเถิดหนอ
มีดอกไม้น้อยที่คอยรอ	
ลูกจะขอเด็ดดมให้สมใจ

แม่นึกยิ้มสนุกกับความคิด	
สูงน้อยนิด,โธ่แม่เด็ดให้ก็ได้
แต่เธอร้องบอกว่าดอกไม้
อยู่ไม่ไกลมือลูกแล้วตอนนี้

ยากแท้แต่ก็คว้ามาได้สม
พนมดอกนิ้วน้อยกราบเก้าอี้	
แม่โอบกอดดอกแก้วดวงฤดี	
ขณะที่ดอกไม้หอมใกล้กัน	

เธอทัดดอกไม้แล้วอวดแม่	
ลูกสวยแท้เพราะใครรู้ไหมนั่น	
นี่น่ะเพราะมีแม่มหัศจรรย์
เป็นเก้าอี้เอื้อมสวรรค์มาทัดไว้

ธมกร (ศิวกานท์ ปทุมสูติ)
จากหนังสือกวีนิพนธ์ กว่าจะข้ามขุนเขา (ด้วยปลายมีดของเธอและฉัน),๒๕๔๙				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟธมกร
Lovings  ธมกร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟธมกร
Lovings  ธมกร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟธมกร
Lovings  ธมกร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงธมกร