31 ตุลาคม 2548 22:48 น.

จะให้ฉันอยู่ส่วนไหนของใจเธอ

นัทนิตย์

ฝนตกพรำพรำ  ในยามย่ำค่ำ  หนึ่งใจชอกช้ำ  ยอมเปียกปอน
มองบ้านหลังเก่า  เมื่อครั้งสองเรา  จิบกาแฟเช้า  คราวพักผ่อน
อาบแสงแดดอุ่น  ยิ้มรับอรุณ ไอรักละมุน  มิถ่ายถอน
ส่งยิ้มให้กัน  สายใยผูกพัน  มอบการแบ่งปัน  มิซุกซ่อน
แต่ไยค่ำนี้  หนึ่งห้วงฤดี  เช่นเธอเคยมี  จึงหลอกหลอน
ปล่อยฉันตากฝน  เหน็บหนาวเกินทน  เธอไม่ยินยล  ไม่อาทร
แค่หน้าประตู  มองเห็นกันอยู่  ทำเป็นไม่รู้  ไม่ทุกข์ร้อน
ร่มเคยมากาง  ใบกล้วย,ผ้ายาง  ส่งลงหน้าต่าง  เธอทำมาก่อน
ฝนตกค่ำนี้  เธอไม่ปรานี  หางตาไม่มี  ไม่อาวรณ์
เพราะเขาใช่ไหม  เขาผู้มาใหม่  มาเปลี่ยนหัวใจ  เธอไหวอ่อน
หรือฉันต่ำต้อย  สมบัตินิดน้อย  ไร้ซึ่งเพชรพลอย  ขาดเงินฟ่อน
เธอจึงทอดทิ้ง  ไม่เคยประวิง  มิได้รักจริง  เป็นดั่งขอน
เลือกเขาเคียงกาย  ทำอะไรมากมาย  ร่างฉันแทบละลาย  เพราะความร้อน
พิษของความรัก  เมื่อยามรู้จัก  หนึ่งความอกหัก  จึงโหยอ่อน
ฝนตกเรื่อยไป  ฉันยืนร้องไร้  น้ำตาเริ่มไหล  เธอเข้านอน
หนอความชอกช้ำ  เพราะเธอกระทำ  ภาพความทรงจำ  ฉายสะท้อน
ฉันเดินกลับมา  หัวเข่าอ่อนล้า  ปวดเมื่อยแขนขา  ดังเร่ร่อน
รู้สึกสะใจ  ชอบมากใช่ไหม  เกมหลอกใจใคร  จนล่อนจ้อน
ปล่อยฉันหลงรัก  หัวปำหัวปัก  เจ็บจนกระอัก  เลือดเป็นก้อน
แต่นี้ต่อไป  ฉันอยู่ส่วนไหน  ทำตัวอย่างไร  หนอ...งามงอน				
29 ตุลาคม 2548 22:53 น.

กวีสาว...เธอผู้เล่าเรื่องราวของความรัก

นัทนิตย์

กวีสาว...
ยินเธอเล่าเรื่องราวของความหลัง
เนิ่นนานในฤดีที่พ่ายพัง
เพราะความไม่จริงจังของบางคน
กวีสาว....
ดูเธอช่างปวดร้าวและหมองหม่น
เส้นทางแห่งความฝันนั้นมืดมน
หวาดสะทกวกวนทนเดียวดาย
กวีสาว...
เธอรู้สึกเหน็บหนาวมากใช่ไหม ?
ฤดูเปลี่ยนใจเขามาเปลี่ยนไป
ทิ้งดวงใจน้อยน้อยเธอระทม
สาวกวี...
โลกของเธอใบนี้มิสุขสม
อาจดูเหมือนขาดหายบางสายลม
มาพัดพรมดอกไม้ไหวชื่นบาน
สาวกวี...
อย่าให้โลกใบนี้ที่แสนหวาน
ต้องแหว่งวิ่นจนไร้สิ้นจินตนาการ
ปล่อยวันวานเป็นบทเรียนเรื่องความรัก
สาวกวี...
ฉันคือคนหวังดีที่เธอไม่รู้จัก
ขอเป็นเพื่อนคอยห่วงใยมาทายทัก
ช่วยแบ่งเบาภาระหนักจากใจเธอ				
27 ตุลาคม 2548 22:21 น.

ทักดาว

นัทนิตย์

สวัสดี...ดวงดาว
วันนี้ฟ้าพร่างพราวดาวไสว
เมฆหมอกคงหลบหนีไปแสนไกล
หลีกทางให้อีกสายลมแห่งฤดู

สยายดีไหม...ดวงดาว
ยามหลมหนาวพัดเยี่ยมยามความเป็นอยู่
นานมากแล้วเหมือนบ้านเธอปิดประตู
ฉันเฝ้าดูแต่ก็เห็นเป็นเมฆบัง

ฉันยินดีมาก...ดวงดาว
ที่ได้พบแสงสกาวเธออีกครั้ง
ได้สัมผัสแรงกะพริบระยิบยัง
ด้วยเรี่ยวแรงแห่งพลังความหวังเธอ

เธอรู้ไหม...ดวงดาว
วันนี้ฉันเจ็บร้าวจนพร่ำเพ้อ
ทรมานกับวิถีที่พบเจอ
กับฝันร้ายหลอนละเมอทุกค่ำคืน

ได้ยินบ้างไหม...ดวงดาว
ในบางคราวที่ฉันเผลอร่ำสะอื้น
หน้าซุกหมอนเพราะชอกช้ำสุดกล้ำกลืน
ไร้เรี่ยวแรงจะหยัดยืนเพราะบางคน

ดาวจ๋า...เขาจากฉันไปแล้ว
ไร้วี่แววจะหวนคืนมาอีกหน
อนาคตพังทลายคล้ายมืดมน
เวลานี้ฉันสับสน...รู้ไหมดาว				
25 ตุลาคม 2548 22:40 น.

แค่ถามดูเท่านั้น

นัทนิตย์

ถามหน่อย...คนดี
โลกยังมีสองเราอยู่ใช่ไหม
หรือแค่เพียงฝุ่นธุลีที่ปลิวไป
ลอยอย่างไร้ทางทิศ...ชีวิตคน

ถามหน่อย...ที่รัก
เคยรู้จักบ้างไหมใครสับสน
กับทุกสิ่งที่แตกต่างทางวกวน
เท่าทุกข์ทนที่ทดท้อต่อท่าที

ถามหน่อย...ทูลหัว
เธอหวาดกลัวอันใดในวิถี
ระหว่างความจริงจังความหวังมี
กับความฝันริบหรี่...เลือกสิ่งใด

ฉันถามเพราะอยากถาม
อยากเห็นโลกงดงามความสดใส
อยากให้เรายังมีเราความเข้าใจ
มิมีสิ่งอื่นใดมากั้นกลาง

ฉันถาม...เพราะอยากรู้
อยากเห็นรักคงอยู่หรือแตกต่าง
มีอีกคนเคียงใกล้ไว้ร่วมทาง
หรือชอบเดียวเปลี่ยวร้างทางเสรี

ฉันก็ถามไปอย่างนั้น
เพื่อยืดความสัมพันธ์ในวันนี้
ระหว่างเรายังเยื่อใยและไมตรี
พอจะมีอยู่ไหมในความรัก				
18 ตุลาคม 2548 22:33 น.

ณ ค่ำคืนงามเหนือน้ำเจ้าพระยา

นัทนิตย์

ณ ค่ำงามเหนือน้ำเจ้าพระยา
..........................................

ลมเย็นโชยสายกระจายพัด
ร้อยรัดคืนค่ำนำวิถี
งดงามความหมายสายนที
หนึ่งนามฤดี "เจ้าพระยา" 

ไหลจากอีกทิศลงสู่ทิศ
จากมิตรสู่มิตรวิจิตรค่า
ไหลนำวิถีแห่งชีวา
จากหนึ่งมรรคาสู่คืนวัน

คือค่ำคืนงามนามความรัก
คือค่ำตระหนักประจักษ์ฝัน
เหนือความคาดหมายสายสัมพันธ์
จากสายน้ำนั้น...เจ้าพระยา

แม้ฟ้าราตรีที่มืดมิด
หากสายโลหิตยังฟันฝ่า
ไหลเรื่อยไหลรับกับเวลา
ไหลอยู่เบื้องหน้า...นะสายน้ำ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนัทนิตย์
Lovings  นัทนิตย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนัทนิตย์
Lovings  นัทนิตย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนัทนิตย์
Lovings  นัทนิตย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนัทนิตย์