10 ตุลาคม 2550 12:13 น.

"อดีต The past times "

ปริชญ์

อดีตมันก็เหมือนกับสายลม สายลมที่พัดผ่านไปผ่านไปแล้วก็ผ่านไปเลย ไม่มีอะไรจะฉุดมันกลับมาได้อีก อดีตก็เช่นกันเป็นสิ่งที่หลายๆคนอยากจะดึงมันกลับมา แต่ก็ทำไม่ได้เพราะฉะนั้นเราควรทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะมิเช่นนั้นมันจะกลายเป็นอดีต และเหลือแต่ความทรงจำ บางคนมีความทรงจำที่ดีๆจากการไปเข้าค่ายหรือจากการไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ บางครั้งไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ แต่มีความรูสึกว่าไปแล้วมันไม่คุ้มเพราะไม่ได้ทำกิจกรรมต่างๆที่มีให้ทุกๆกิจกรรม แล้วพอกลับมาและนึกถึงตอนไปเที่ยวครั้งนั้นก็นึกเสียดาย ที่ไม่ได้ทำอะไร สนุกๆ แต่บางครั้งมีอดีตที่ไม่อยากจะนึกถึงมัน เพราะอาจจะเป็นอะไรที่เลวร้ายหรือตนเองไม่ชอบ แต่ในความไม่ชอบหรือความเกลียดเหล่านั้นมันอาจจะสร้างประสบการณ์ดีๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวก็อาจจะเป็นได้ อย่างที่ผมกล่าวไว้ในข้างต้น อดีตก็เหมือนกับสายลมที่พัดผ่านเราไปเท่านั้นเอง อดีตที่มันร้ายๆหรือความทรงจำที่ไม่ดีก็ไม่ควรเก็บมันไว้นะครับควรจะปล่อยวางซะบ้าง เช่นเดียวกับความแค้น ความพยาบาท ก็ไม่ควรจะเก็บมันไว้เช่นกัน สิ่งใดที่มันเลวร้ายก็ควรจะทิ้งมันไป อย่างเก็บมันฝังใจ เพราะถ้าเราไม่ปล่อยวางมันจะฝังใจสำหรับบางอดีตผมก็เก็บมันฝังใจ พยายามจะลืมแต่มันก็ไม่ลืมซิ่งมันก็น่าแปลกเช่นกัน




เอาละครับวันนี้สรุปง่ายๆก็คือ “ทำวันนี้ให้ดีที่สุด และอย่าไปคิดถึงอดีตหรือสิ่งเลวร้ายในอดีตควรจะคิดถึงสิ่งดีๆที่ตนทำให้ในปัจจุบันให้มาก”  สุดท้ายขอฝากอะไรไว้สักหน่อยแล้วกันนะครับ อดีตและความทรงจำไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้แล้วนะครับ				
7 ตุลาคม 2550 07:02 น.

เข้าค่ยลูกเสือ.........ณ อ.สัตหีบ

ปริชญ์

การเข้ายค่ายลูกเสือครั้งนี้เป็นการออกนอกสถานที่ครั้งแรกตั้งแต่มาอยู่โรงเรียนนี้ 
โรงเรียนนี้ถือว่าดีๆเหมือนกัน ก่อนวันที่จะไปเป็นอาทิตย์ๆ ผมก็เริ่มเครียด พูดง่ายๆก็คือ เครียดตั้งแต่รู้ว่าต้องไปเข้าค่ายนอกสถานที่ พอถึงวันที่ไปขณะนั่งอยู่บน
รถผมรู้สึกว่า ทุกๆอย่างมันเหมือนหยุดนิ่ง แต่พอไปถึงตัวจังหวัดชลบุรี ผมก็เริ่มเครียด เครียดที่ต้องไปอยู่กับใครต่อใครที่เราไม่รู้จัก เครียดที่ต้องอยู่อย่างลำบากตั้ง 3วัน 2คืน พอรถไปถึงค่ายผมมีความรู้สึกถูกจับไปปล่อยเกาะโดยคนที่เรารู้จักโดยเจตนา เพราะที่ใช้คำเปรียบว่าเหมือนถูกไปปล่อยเกาะเพราะไม่มีเทคโนโลยีการสื่อสารเลยแม้แต่น้อย มีแต่อะไรๆที่ลำบากยากแค้นไปหมด แต่ความลำบากนี้ก็อาจจะดีสำหรับบางคนนะครับ แต่ส่วนใหญ่ที่ไปอยู่ค่ายนี้พอกลับมาตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ความลำบากเหล่านี้เป็นยาขมไม่ได้เป็นสิ่งดีสำหรับพวกเขาเลยรวมทั้งผมด้วย” คืนแรกมีการทดสอบกำลังใจคือ เวลาประมาณ19.45นาที ทางครูฝึกก็จะให้เดินทางเข้าป่า และเดินทางไปเจออะไรๆมากมาย แต่ผมไม่ได้ไปเพราะผมเป็นโรคประจำตัว แต่เพื่อนผมไปมาแล้วได้เล่าประสบการณ์อะไรมากมาย ยังครับความลำบากยังไม่หมด วันที่2เนี่ยสิตัวดีเลย เพราะมีการฝึกอะไรมากมายขนาดตัวเพื่อนผมเลอะเปอะเปื้อนไปหมด แต่ก็ตามเคยผมก็ไม่ได้ทำอะไรเช่นเคย เพราะเป็นโรคปะจำตัว และทางครูฝึกก็จงใจจะแกล้งพวกเรา คือ 1.ขู่ว่าถ้าไม่เอาถ่านมาพรางหน้าก็จะให้ไปเล่นน้ำทะเล แต่สุดท้ายยังไงๆก็ให้ไปอยู่ดี เหอะอะไรก็ไม่รู้ เอาละ ยังไม่หมดกลางคืนยังมีการแสดงรอบกองไฟซิ่งเลิกการแสดงดึก แล้วกว่าจะได้นอนก็เกือบๆเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว ความลำบากยากแค้นเหล่านี้เป็นประสบการณ์ให้เรารู้จักความลำบากมากขึ้น แต่ในความลำบากเหล่านี้ก็ได้ข้อคิดดีๆจากครูฝึกที่เป็นทหารนาวิกโยธินอีกด้วย คือเขาบอกว่า  “ วันนี้เราลำบากแค่ไหนก็ตามแต่ในปีหน้าหรือปีต่อๆไปจะต้องลำบากกว่านี้ ในการเข้าค่ายครั้งต่อไปจะต้องลำบากกว่านี้และพวกคุณก็จะนึกถึงอดีตที่เคยมาที่นี้ แต่จงจำเอาไว้เลยนะว่า อดีตมันจะไม่ย้อนกลับมาให้เราแก้ไขอีกแล้ว พวกคุณจงจำเอาไว้ ” และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึงอย่างรวดเร็ว วันนั้นทุกๆคนดีใจมากที่จะได้กลับบ้าน และอีกหลายๆคนคงจะคิดถึงค่ายนี้ และแล้วรถที่ตีกลับกรุงเทพก็มาถึงและทุกๆคนก็กลับกรุงเทพโดยสวัสดีภาพทุกๆคน


สุดท้ายนี้ผมจะบอกว่า “ประสบการณ์เหล่านี้ ความทรงจำเหล่านี้ มันจกไม่ย้อนกลับมาอีกสำหรับวันนี้ ไปแล้วนะครับ”				
1 ตุลาคม 2550 10:40 น.

ถนนที่ไม่สิ้นสุด

ปริชญ์

ถนนที่ไม่มีทางสิ้นสุดคือถนนความคิด                                                                                 ความคิดเป็นกึ่งๆใบเบิกทางสู่ความสำเร็จก็ว่าได้ เพราะอีกครึ่งหนึ่งก็คือความพยายามและความรู้ ถนนของความคิดเป็นส่วนหนึ่งของสมอง สมองใช้ความคิดนั้นละจะทำให้ถนนนั้นยาวขึ้นเรื่อยๆ ถนนที่ไม่มีวันสิ้นสุดเกิดจากการใช้ความคิด ความคิดเป็นอะไรๆที่ประเสริฐสุด การใช้ความคิดทำให้เกิดปัญญา เพราะฉะนั้นทุกๆอย่างเกิดจากความคิด และบางอย่างเกิดจากจินตนาการ 




         เพราะฉะนั้นสรุปง่ายๆก็คือความคิดทำให้เกิดปัญญา คิดมากๆ คิดบ่อยๆและต้องคิดไปในเรื่องที่ดีด้วยนะครับ ถึงจะเกิดปัญญา				
27 มิถุนายน 2550 18:33 น.

กาลเวลาที่มีค่า

ปริชญ์

กาลเวลาที่มีค่าไม่เคยรอใครจริงๆ กาลเวลานี้สำคัญ กาลเวลาอาจจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขของหลายๆคนและอาจจะเป็นความทุกข์ของแต่ละคน
ด้วย กาลเวลาที่มีค่าต้องเป็นผู้ที่ประเสริฐ์เท่านั้นถึงจะสามารถแบ่งเวลาให้มีความสุขและความทุกข์ด้วย
ความสุขและความทุกข์เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อใดเรามีความสุขความทุกข์ก็จะหลบอยู่ข้างหลัง แต่ในทางกลับกันเมื่อใดเรามีความทุกข์ความสุขก็จะหลบอยู่ข้างหลังเราเช่นกัน กาลเวลาที่มีค่านั้นส่วนมากแล้วจะตกอยู่ในมือของคนที่ไม่รู้จักการใช้เวลาที่มีค่าให้เป็น      
ไม่รู้นะครับมันแล้วแต่คนคิด ว่าอันไหนดีหรืออันไหนไม่ดี


แต่ถ้าเป็นในความคิดของผมแล้วมันจะตรงกันข้ามกันหมดคนที่รู้จักใช้เวลาให้มีค่านั้น
จะไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไร แต่คนที่ไม่รู้จักแบ่งเวลามีเวลาว่างน่าจะหาอะไรทำนั้นละ คนคนนั้นจะมีความสุขมาก



สรุปง่ายๆเลยก็คือ การรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์นั้นจะไม่ค่อยมีความสุข แต่คนที่ไม่รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มักจะมีความสุขมากๆ รู้สึกว่ามีความสุข ซิ่งมันน่าแปลกจริงๆ 



สงสัยมันจะเป็นกฏของธรรมชาติซิ่งเราห้ามหรือแก้ไขมันไม่ได้จริงๆ				
26 มิถุนายน 2550 17:24 น.

กาลเวลาที่เปลี่ยนไปพาใจเราเปลี่ยนผัน

ปริชญ์

ตอนผมอยู่ประถม อะไรๆดูเหมือนจะง่ายไปหมด ทั้งเรื่องเรียน เพื่อน และอีกหลายๆอย่าง ที่ผมรู้สึกว่ามันง่ายไปหมด กาลเวลาทำให้เรานั้นโตขึ้น ทำให้เราเรียนรู้อะไรได้มากขึ้น ตอนอยู่ประถมผมรู้สึกสบาย เพราะทั้งการบ้าน และมีสิทธิพิเศษอะไรหลายๆอย่าง แต่พอผมอยู่ระดับมัธยม ผมรู้สึกว่าอะไรๆ มันยากขึ้น การบ้านก็เยอะขึ้น สิทธิพิเศษก็น้อยลง แถมอยู่โรงเรียนใหม่เนี่ย เจอทั้งเพื่อนที่ไม่ดีและเพื่อนที่ดี แต่ส่วนมากจะเจอเพื่อนที่ไม่ดี และอย่างที่บอกอีกนั้นละการบ้านเยอะมากๆ เยอะกว่าตอนประถมมากๆ ทำให้รู้สึกคิดถึงตอนประถมมาก ทั้งสบาย สิทธิพิเศษก็เยอะ กาลเวลาทำให้ใจเราเปลี่ยนผันได้อย่างมาก บางทีก็่เจอเพื่อนเก่าสมัยประถม ทำให้ผมนั้นยิ่งคิดถึงช่วงนั้นมากอีก  


 กาลเวลาทำให้เราโตขึ้นและทำให้ใจเราเปลี่ยนผันไปได้อย่างรวดเร็ว				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปริชญ์
Lovings  ปริชญ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปริชญ์
Lovings  ปริชญ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปริชญ์
Lovings  ปริชญ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปริชญ์