20 กุมภาพันธ์ 2551 13:45 น.

ราหู..

ปางสีฝุ่น



ณ.เบื้องน้ำ.เบื้องหน้า.ที่ปรากฏ
นั้นกำหนด.กฏศักดิ์.จักรราศรี
แล้วฟ้าลุ่ม.กุสุมรส.บทราตรี
มาอวดสาบ.อาบสี.ที่เส้นแนว


คืนเดือนวาง.ระหว่าง.วาว.ของดาวว่าง
แจ่มกระจ่าง.ในทางทาบ.ระนาบแถว
ดาริกา.เริ่มตะกาย.สยายแวว
สะพรั่ง.ภาพ..ฉาบ.แพรว..แนวนภา


และค่ำนี้.เขาว่ามี.วิถีเคลื่อน
มาพรางรอย.พร้อยเลื่อน.เพ็ญเดือนพร่า
เรียก.."ราหู"..ให้ดูเห็น.เป็นลีลา
นาฏกรรม.มายา.เบื้องฟ้าไกล.


ด้วยเรื่องเก่า.เล่ากาล.บุราณก่อน
ยินผู้เฒ่า.เขาสอน.ย้อนสมัย
ว่า."ราหู"..นั้น.รู้เหตุ..รู้เภทภัย
เป็นเงื่อนงม.ปมนัย.ปรัศนีย์


อาจอาเพท.เหตุร้าย.หายนะ
อาจวาระ.ทรุดทราม.ห่ามวิถี
อาจกลียุค.ปลุกผ่า.กาล(ะ)กิณี
จำ.บัดพลี..ให้พ้นพลัน.พระจันทรา


และเมื่อ..

ทุก.นัยตา.ที่นิ่งตรึง.ถึงตรงนั่น
บ้างซุกหวั่น.สั่นไหว.ให้ผวา
หว่างรอเคลื่อน.เลื่อนเข็ม.นาฬิกา
พริบ.!.สายตา.เห็นเงา.เจ้าภูติพราย


ปรากฏผล.อนธกาล.ม่านฟ้าต่ำ
ครั้นดับดำ.เคลื่อนทาบ.คาบจันทร์ฉาย
แล้วผู้คน.ก่นลั่น.."อันตราย"
เขาไล่พราย.ด้วย.พะเนียง."เปรี้ยง".!.เสียงปืน


อีกบางกลุ่ม.ก็รุมห้อม.ช่วยล้อมโห่
เอ็ดตะโร.อึงลั่น.สนั่นผืน
บ้างตีเกราะ.เคาะไม้.ประปรายฟืน
บ้างลุกยืน.บริกรรม.พร่ำมนต์ตรา


ดั่งลานคอย.รอยเคลื่อน.สะเทือนโลก
สะท้านลั่น.สนั่นโยก.ถึงโตกผา
เหล่าสรรพสัตว์.วรรคเล่น.เว้นลีลา
ล้วนหายลับ.กลับสู่ป่า.พนาวัน


ครั้น.จำยอม.พร้อมคาย.จันทร์ฉายออก
ม่านเกร็ดหมอก.บอกสลาย.ในพรายนั่น
ย้อนเข้าสู่..รูปพิศ..วิจิตร.จันทร์
ผ่านคืนวัน..ผันช่วง..ห้วงคำนึง


นี่.!!..หรือ.ไม่..

ใช่..เหตุผล..กลบุราณ..ผ่านอุบาย
เพื่อรวมหลาย.ใจจับ.นับเป็นหนึ่ง
ยามอาเพท.เหตุภัย.ไม่พรั่นพรึง
มาร่วมซึ่ง.มือ-สมาน.ต้านศัตรู


คือบริบท.กฏลิขิต.นิมิตรโลก
หลากสุขสม.หลายโศก.โลกย่อมรู้
หากมิติ..มิ.งดงาม..ตามฤดู
แล้วราหู.จะเลื่อนไหล.สอนใจเรา..

**

(  ต่อมิติ.แต่งฟ้างาม.ตามฤดู )
(  แล้วราหู.นั่นจะให้.อะไรเรา  )


+ ------------------------------------------ +


				
17 กุมภาพันธ์ 2551 00:04 น.

นางฟ้า..สีฝุ่น..

ปางสีฝุ่น



หว่างฤดู....ผลิ-ฝัน...แห่งวันใฝ่
กำเนิดใน..ห้วงหวัง..ภวังค์หอม
ท่ามวิถี..ทิพย์รัก..จำหลักยอม
เป็นเบ้าหลอม..กล่อมเยา-วดรุณ


ก่อนถึงคราว..ก้าวผ่าน..กาลสมัย
จนแตกหน่อ..ต่อใบไต่ลมอุ่น
เธอรับแสงแรงบ่มเพาะสมดุลย์
มาปรับหมุน..เปลี่ยนม่านด่านเวลา


ยาม.ลมช่วง..ลวงเช้า..พัดเลยช่อ
และแดดทอ..กรอแสง..สีแดงปร่า
เธอเล่นไล่..ในระนาบ..อาบ.ลีลา
เป็นมายา...ว่าสวย..ด้วยอิ่มเอม


บทนางฟ้า..นางฝัน..นั้นกำหนด
เธอสร้างบท..จรดยิ้ม..ปริ่มเกษม
ด้วยใจฝันสรรค์-ถ้อยเติมรอยเต็ม
จวบสิ้นเกมเวลาหลับคาลาน


กับสิ่งใด..ไหนเล่า..ที่เจ้าฝัน
หรือตะวัน..ส่องฉาย..ระบายฉาน
หรือพรักพรั่ง..ปลั่งพิสุทธิ์..อุทยาน.
เป็นดงดาน..ดินหอม..ไว้.กรอมเกลา


หรือ.รุ้งทอ..รอทวง..ที่รวงโค้ง
จะเชื่อมโยงโลกสวยด้วยมือเจ้า
อีกผีเสื้อ..ที่สั่นไหว..ในแผ่วเบา
ยังรอเรายืนชมยามลมโชย


เถอะ..หลับไหล..ด้วยใจหวัง..ภวังค์เจ้า
กลางโลกกร้าน..ลานเก่า..เร้าระโหย
เถอะ..จงแปลง..เป็นนางฟ้า..ดาราโรย
มาหว่านโปรย..แสงดาวให้.วาว.วรรณ


+ -------------------------------------------------------- +

( คือคน...เขียนคำ ) ... โดย .. "ปางสีฝุ่น"


				
14 กุมภาพันธ์ 2551 00:50 น.

ฤา..อาชา..แห่งท้องน้ำ

ปางสีฝุ่น

159.gif



สงบนิ่ง..ประวิงไหว..แห่งนัย(ะ)
คอยวาทะ..คลื่นถาม..และน้ำถึง
ก่อนทบท้า..ฝ่าเกลียว..อันเรียวกลึง
มิพรั่นพรึง..เมื่อถึงกาล..เหมือนวานวัน


เวิ้ง..ตะวัน..ปั่นกรอ..ทอแสงเช้า
เย็นลมเย้า..เข้าเยือน..เสมือนหยัน
ปลุกสงบ..จบจาก..ทุกภาคทัณฑ์
สู่รอยหวั่น..สั่นไหว..ในสาคร


กรูสายลม..พรมพาย..กระหายหอบ
เกิดพัดสอบ..กอบกระแส..แล.สลอน
ก่อคลื่นเรียว..เกลียวโชก..จนโยกคลอน
มิโอนอ่อน..ผ่อนจาง..หรือวางราย


แล้ว.ม้าศึก..คึกทะยาน..ทุกย่านท่า
ผจญกล้า..ผ่าเรียวเส้น..กระเซ็นสาย
ตะกุยฟ่อง..ละอองฝอย..เป็นรอยพราย
ผงาด.ผาย..คล้ายผยอง..ลำพองเพรา


เหนือท้องน้ำ..สนามนี้..ที่.เวียน.วาด
ดาระดาษ..ระนาดคลื่น..ล้วนตื่นเร้า
ครั้นขอบฟ้า..ปร่าสีแปรง..ทาแสงเทา
ประทับเงา..เข้าเหลี่ยมรอย..จนคล้อยลำ


เลียบวารี..หลังตีแผ่..กระแสสินธุ์
คืนกลับถิ่น..เสพกลิ่นฟ้า..ตาวัน.ต่ำ
อย่างสงบ..สยบ.ยอม..แล้วค้อมนำ
รอ.ดื่มด่ำ..ฉ่ำจันทร์ฉาย..ริม.ชาย.เล.


ฤา.อาชา..หา.อรุณ..หมุนลมใหม่
สู่..วัฏฏะ..ทะเล.นัย..ให้คลื่นเห่
หากเวิ้งน้ำ..ปลดปลง..ดั่งลง.เปล
ลมจะเท..คลื่นหอม...เหมือน.ออมมือ..

..และ..

** หากเวิ้งน้ำ..มิปลดปลง..ดั่งลงเปล**
** คลื่นลมเล่ห์..เห่.ล้อม...ไม่..ออมมือ..**

----------------------------------------------------
                     
                  ปาง-สี-ฝุ่น

				
11 กุมภาพันธ์ 2551 19:23 น.

พันธะสัญญา..ดาวหาง

ปางสีฝุ่น



คราวตะวัน.ยอแสง.สีแดงคล้อย
ที่ทยอย.ถอยเคลื่อน.ลับเถื่อนผา
จะถึงกาล.กำหนด.กฎเวลา
จับผองเจ้า.ดาริกา.มาโคจร

และราตรี..ที่รี่เรื่อ..เหนือทิวไม้
มาสาดส่อง.แสงสวยใส.ให้สลอน
นั่นหิ้งห้อย.คอยน้ำค้าง.ข้างคบคอน
เหล่าแมลง.แปลงปีกอ่อน.ออกฟ้อนรำ

สู่คืนคาบ.สาบผสม.สายลมสวย
มานาดนวย.เหนือทำนบ.กระทบน้ำ
กระเพื่อมพริ้ว.ดั่ง.ริ้วดาว.เร้าระบำ
แล้วเนื่อมนำ.แนวระนาบ.ทาบสายตา

ข้าฯ.เหยียบยืน.เย็นเยียบ.อย่างเงียบกริบ
ส่องแสงดาว.ราวกระซิบ.กระซาบฟ้า
พลัน!.พบเห็น.เด่นดาวหาง.พรางนภา
จึง.เลื่อนไหล.ใจ.จินตนา.จับอารมณ์

...ว่า...

ดาวเอ๋ย.ดาวหาง.เส้นทางไหน
มาพานพบ.เพียงผ่านไป.ในเหมาะสม
หรือทวงถาม.ถึงความหมาย.ท้ายสายลม
หรือติดหล่ม.ในหลุมล้อม.อ้อม.อก.เดือน

ด้วยเส้นทาง.ย่างย้าย.คล้ายวิโยค
กำสรวลโศก.เศร้าศัลย์.นั่นเสมือน
ดั่งรอยรด.เป็นหยดหยาด.น้ำตาเยือน
ดั่งรอยทาง.ขมเฝื่อน.ขวางเดือนดาว

โอ้..ดาวหาง.วางท่วงท่า.ฟ้าทางนี้
เพราะหวาดไหว.นัยวิถี.ที่เหน็บหนาว
จึงเวียนว่าย.ไว้ปรากฏ.จรดฟ้าพราว
เจ้าซ่อนซุก.ทุกเรื่องราว.ที่ดาวใด

หากยังคง.ดำรงมั่น.พันธะสัญญา
เจ้าได้มอบ.ต่อขอบฟ้า.คราสวยใส
จะเยี่ยมย้อน.กลับมาเยือน.หลังเลือนไกล
แม้นห้วงกาล.จะผ่านไป.ใคร่กลับมา


...และ...

คืนข้าฯร่ำ.ค่ำข้าฯร่าย.คล้ายข้าฯร้าง
ปวารณา.ดาวหาง.หว่างใจข้าฯ
ไว้มุ่งมาด.วาดมุ่งหวัง.ดั่งจินตนา
เมื่อถึงครา.เปิดฝัน.จันทร์ข้างแรม


-----------------------------------------------------------



				
30 มกราคม 2551 22:00 น.

เพราะ..ข้าฯ..หวาดไหว..

ปางสีฝุ่น



โลกข้าฯล้วน.ดื่นดัด.อัตคัต
และปริ่มปรี่.ปริวัตร.ด้านอับเฉา
ทุกท่วงทาง.ย่างถึง.ซึ่งฝ่าเท้า
ยังขลาดเขลา.คละสุข.คลุกกันไป

เถอะ.ใคร่ถาม.ถึงทาง.อริยวิถี
ข้าฯน้อมนำ.กระทำดี.ที่ทำได้
ไม่มุ่งมาด.วาดสถาน.นิพพานใด
แค่คลี่คลาย.หวาดไหว.ใน.ปุถุชน

ยังติดตรึง.ถึงฝัน.อันแตกแถว
เหนือเส้นแนว.นำชีวิต.ผิดเหตุผล
ที่สถิตย์.ติดราก.กากใจตน
เพียงรอพ้น..กล.กระทำ.แห่ง.กรรมา

เพราะตัวข้าฯ.เคลื่อนไหว.ในอดสู
จึงพร่ำเพียร.เพื่อเรียนรู้.สู่ผัสสา
หวังชื่นชุ่ม.กุสุมรส.กฏ.ธรรมา
สลาย.ละ..ณ.อัตตา..ว่า.. "ตน...กู"


+ ---------------------------------- +


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปางสีฝุ่น
Lovings  ปางสีฝุ่น เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปางสีฝุ่น
Lovings  ปางสีฝุ่น เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปางสีฝุ่น
Lovings  ปางสีฝุ่น เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปางสีฝุ่น