25 กรกฎาคม 2555 08:41 น.

"..หายไป.."

มนต์กวี

ใคร่แนะนำตัวตนของคนหม่น
นามมงคลสมหวังจากฝั่งฝัน
ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยละกัน
ด้วยผูกพันธ์ไม่น้อยคอยติดตาม

เป็นสมาชิกบ้านกลอนไทยมาหลายปี
แหล่งรวมบทกวีมีล้นหลาม
มนต์กวียังคงใช้เป็นชื่อนาม
ก็กว่าสามปีผ่านงานหยุดไป

หวนมาจับปากกา.......(บ้า)อีกครั้ง
เขียนความหลังความรัก.....ความหวั่นไหว
เขียนความสุขความจน...ปะปนไป
เขียนหัวใจอันขาดวิ่น......เติมกลิ่นกลอน

เส้นทางเดินเส้นนี้ที่เลือกแล้ว
ลมแผ่วแผ่วพัดผ่านได้พักผ่อน
พอผ่านมาพบเพื่อนเหมือนเพิ่มพร
ปลุกหัวใจคนจรให้จรุง

สิบหกปีทำงานเพื่อสานฝัน
หนุ่มอนามัยมาดมั่นผู้หมายมุ่ง
อยู่รับใช้ชาวประชาทั้งป้าลุง
หมอลูกทุ่งหมอมงคลคนสู้งาน

เหมือนเส้นทางชีวิตลิขิตไว้
เส้นทางใหม่ดั้นด้นคนดื้อด้าน
จำตัดใจพลัดพรากจากราชการ
มาทำงานร้านคอมซ่อมเครื่องคน

เป็นช่างคอมซ่อมเครื่องก็หลายปี
พร้อมเขียนงานกวีของคนหม่น
มีชีวิตวุ่นวายคล้ายเล่ห์กล
เปลี่ยนอีกหนทิ้งเข็มมาจับไมค์

เป็นนักร้องเกือบปีพร้อมหนี้สิน
จะโบยบินสู่ฝันดันไม่ไหว
มาเขียนเพลงเขียนกลอนพักผ่อนใจ
ส่งค่ายไปได้ขายบ้างเส้นทางบันเทิง

เล่าให้ฟังดอกหนอพอสังเขป
ฝ่าหนาวเหน็บฝ่าฝันอันว้างเวิ้ง
มีบางครั้งอกกลุ้มราวสุมเพลิง
มีบางครั้งรื่นเริงบันเทิงใจ

แต่ตัวตนผมนั้นใช่ราชการ
กรอบทางการบีบคั้นกั้นไม่ไหว
จำต้องลาราชการคำสั่งใจ
สู่เป้าหมายคือเสรีที่เฝ้ารอ

จากอนามัยบ้านนอกทิ้งเข็มยา
ผกผันมาเป็นช่างคอมช่างแปลกหนอ
เขียนเพลงนิดคิดกลอนหน่อยแค่นั้นพอ
ไม่ทุกข์ท้อทางเส้นนี้ที่เลือกเดิน

ได้มาพบพี่น้องแลผองเพื่อน
เปรียบเสมือนญาติมิตรเคยห่างเหิน
มาพบกันอีกครั้งช่างบังเอิญ
ไม่สายเกินเริ่มต้นใหม่..ใจศิลปินฯ				
3 กุมภาพันธ์ 2552 13:00 น.

คิดถึงมิคลาย

มนต์กวี

คิดถึงมิคลาย.......
เดียวดายอ้างว้างยามห่างเจ้า
ความคิดถึงเดินทางมิสร่างเซา
คอยเป็นเงาติดตามถามข่าวใจ

งดงามทุกความหลัง......
ในภวังค์พร่าสั่นหวั่นไหว
โอบรำพึงเพ้อบ่นจากคนไกล
ทุกอุ่นไอคะนึงหวลครวญฝากจันทร์

สัญญาคือสัญญา.....
หยดน้ำตาเปื้อนหมึกเป็นคำมั่น
กอดความเหงากลั้นสะอื้นผ่านคืนวัน
คือความฝันคือผูกพันธ์คือสัญญา

เนิ่นนานที่รอคอย.......
ใจดวงน้อยคงน้อยใจถวิลหา
แล้ววันนั้นจะหอบใจไปเยียวยา
เปลี่ยนน้ำตาที่เคยปริ่มเป็นยิ้มแทน

กี่ร้อนกี่ฝนกี่หนาว......
จะนับดาวกี่ดวงหมื่นแสน
คือซื่อสัตย์แน่นอนมิคลอนแคลน
ทางสายแฟนเส้นนี้มีรักจริง

คิดถึงมิคลาย.........
คล้ายชีวิตขาดหายบางสิ่ง
เก็บสัญญาบางใครไว้แอบอิง
อยู่บนหิ้งหัวใจ...ไม่ลืมเลือน
				
14 มกราคม 2552 04:09 น.

ศรีสะเกษบ้านเฮา

มนต์กวี


               ศรีสะเกษบ้านเฮา

ทุกข์ยากปากหมองเพื่อปากท้องต้องทนลำบาก
เข้ามาถางถากเส้นทางฝันฝ่าฟันความจน
จากศรีสะเกษบ้านเกิดเข้ามาดิ้นรน
หอบความเหงาเคล้ากับความจนมาบุมาหม่นอยู่ในกทม.

บอกใจอย่าท้อคนที่รอข้างหลังยังมี
หยาดเหงื่อวันนี้เพื่อได้มีชีวิตเพียงพอ
คึดฮอดบ้านเฮาถามข่าวฝนตกแน่บ่
คึดฮอดอีแม่อีพ่อผู้สาวที่รอน้องอย่าเปลี่ยนผัน

(ซ้ำ )งานดอกลำดวนบานยากงานอ้ายมาบ่ได้
คนเคยเคียงใจป่านนี้เคียงใครหนอไปเที่ยวงาน
ถ้าอ้ายแน้เด้ออย่าเผลอให้ใจไหวหวั่น
ทนรอคงอีกไม่นานเก็บใจคงมั่นยามอ้ายอยู่ไกล

ทุกข์ยากปากหมองเมื่ออิ่มท้องหวนคืนเมือบ้าน
นั่งรถไฟผ่านห้วยสำราญยังคงเอื่อยไหล
กลับศรีสะเกษบ้านเกิดที่เราภูมิใจ
หอบความรักหวนคืนกลับไปตามสัญญาใจในวันที่รอ
				
24 ธันวาคม 2551 08:33 น.

ใจหนึ่ง

มนต์กวี


ใจหนึ่งไปถึงซึ่งสวรรค์

ใจหนึ่งผูกพันธ์กับตัณหา

ใจหนึ่งบริสุทธิดุจเทวา

ใจหนึ่งชั่วช้าดั่งซาตาน
				
9 พฤศจิกายน 2550 09:42 น.

ข้าวไทย

มนต์กวี


กินข้าวทุกคราวคำ      จงสูจำเป็นอาจิณ
ข้าวดำข้าวประดับดิน ข้าวแดงกินในคุกมี
ข้าวหมากของผู้เฒ่า     ข้าวขัดขาวจากโรงสี
ข้าวมะลิราคาดี            หอมข้าวจี่มีให้กิน
ข้าวซ้อมมือคือหัวข้าว   อายุยาวด้วยวิตามิน
ข้าวเก่าทานจนชิน      แข็งดั่งหินคราวขบคำ
ข้าวยากหมากก็แพง    หน้าก็แห้งใจก็ช้ำ
ชาวนาตาดำดำ            ทนระกำกันต่อไป
ข้าวปลูกเก็บปีหน้า      ยามฝนมาได้หว่านไถ
ข้าวลีบแทบขาดใจ        ทำไงได้น้ำไม่พอ
ข้าวเปลือกก็ขาดยุ้ง       ข้าวจะหุงก็ขาดหม้อ
แถมหนี้ธกส.                นั่งหน้าฝ่อรอวางวาย
ข้าวแกงหน้าปากซอย   เงินมีน้อยกินกันตาย
ชาติหน้าตอนสายสาย    คงสบายดั่งใครเขา
ข้าวถุงแบ่งกันทั่ว          ห้องซุกหัวยังต้องเช่า
อิสานคนบ้านเรา           ข้าวเปล่าเปล่าก็ยังดี
ชื่นชมบทกลอนข้าว       บอกเรื่องราวสิ่งที่มี
ร้อยรสบทกวี          เกียรติศักศรีของข้าวไทย
				
Lovers  4 คน เลิฟมนต์กวี
Lovings  มนต์กวี เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟมนต์กวี
Lovings  มนต์กวี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟมนต์กวี
Lovings  มนต์กวี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงมนต์กวี