13 สิงหาคม 2547 17:53 น.

*.*.* มองโลกในแง่ดี...มีความสุข *.*.*

มะปรางหวาน5

การมองโลกในแง่ดีเป็นศิลปะสำคัญของการดำรงชีวิตให้มีความสุข
เป็นอุบายกล่อมใจ ให้ยอมรับสภาพปัญหาที่กำลังปรากฏ
เพื่อให้มีกำลังใจ และความเข้มแข็งในการต่อสู้กับชีวิตต่อไป
ฉันเคยอ่านพระคัมภีร์ไบเบิ้ล พบคำสอนของพระเยซูที่ประทับใจทับหนึ่ง
ท่านสอนว่า ร่างกายสำคัญกว่าเสื้อผ้า  ชีวิตสำคัญกว่าอาหาร 
เป็นการสอนให้คนขาดเสื้อผ้าให้ทราบว่า เขามีสิ่งที่สำคัญกว่าเสื้อผ้าคือร่างกายของตนเอง
และสอนคนที่ขาดอาหาร ให้พอใจแล้วที่ยังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้
ฉันได้อ่านขำขัน  ที่เด็กคนหนึ่งถูกเพื่อนขโมยขนมไปครึ่งหนึ่ง
เด็กนั้นรำพึงรำพันว่า แกต้องเสียขนมไปตั้งครึ่งหนึ่ง
แล้วเพื่อนก็ปลอบว่า ให้มองโลกในแง่ดีสิ แกยังเหลือขนมอีกตั้งครึ่งหนึ่ง
การเปลี่ยนมุมมองสักนิด บางทีก็ทำให้อะไร ๆ ดีขึ้นได้หลายอย่าง
ในช่วงวิกฤต I M F นั้น หลายคนเดือดร้อนมาก
บางคนล้มละลาย บางคนท้อแท้ใจในชีวิต
แต่บางคนมองโลกในแง่ดี
ในวันที่เขาเกิดมานั้น เขาไม่มีอะไรมาเลย ไม่มีทรัพย์สิน กำลังกาย กำลังความรู้ 
ตอนนี้ถึงจะไม่มีทรัพย์สิน แต่ก็ยังมีกำลังกาย มีความรู้ และประสบการณ์
นับว่ายังดีกว่าจุดเริ่มต้นอีกมากนัก
การมองโลกในแง่ดีเพื่อสร้างความพอใจในสิ่งที่ตนมี ยอมรับในสิ่งที่ตนได้
เป็นคำสอนของปราชญ์ทั่วไป รวมทั้งพระศาสดาของเราชาวพุทธด้วย
เช่นทรงสอนให้เรามองโลกด้วยความเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกและสรรพสัตว์
แต่คำสอนทางพระพุทธศาสนา ยังก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง
เหนือการมองโลกในแง่ดี คือการมองโลกตามความจริง
การมองโลกตามความเป็นจริงของพระพุทธศาสนานั้นมีความลึกซึ้งและละเอียดอ่อนมาก
คือท่านสอนตั้งแต่วิธีการมองโลกตามความจริง
ให้ปรากฏการณ์ทั้งปวงที่สัมผัสได้ด้วย ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจตามที่มันเป็น
โดยไม่นำประสบการณ์ หรือความคิด เข้าไปเบี่ยงเบนการเรียนรู้นั้น
ท่านชี้บอกกระทั่งว่า เมื่องมองโลกตามความเป็นจริงแล้ว
เราจะเห็นอะไรคือเราจะเห็นว่า สิ่งที่ถูกเห็นทั้งปวงนั้น
มีความเกิดขึ้นด้วยเหตุ และดับไปเมื่อเหตุดับ
ยังมีอีกคำสอนที่ลึกซึ้งและอัศจรรย์ยิ่งกว่านี้อีก
คือท่านสอนให้มองย้อนเข้ามาที่ตัวเองด้วย ไม่ใช่เพียงรู้โลกตามความจริงเท่านั้น
หากแต่ยังไม่รู้จักมองตัวเอง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของประสบการณ์ทั้งปวงด้วย
ความรู้ทางพระพุทธศาสนาจึงเป็นความรู้ที่แจ่มแจ้ง
คือรู้ตามความเป็นจริงถึงสิ่งภายนอก อันได้แก่ปรากฏการณ์ทั้งปวง
และรู้ชัดถึงสิ่งภายใน อันได้แก่สิ่งที่เรียกว่า เรา เรา เรา ด้วย
เมื่อมองทุกอย่างตามความเป็นจริงจนถึงขั้นปราศจากตัวเราแล้ว
สิ่งภายนอกทั้งปวงจะมีความหมายอะไร
ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่ต้องคอยนั่งปลอบใจตนเอง
หรือพยายามมองโลกในแง่ดีเป็นคราว ๆ ไป
การแก้ปัญหาความทุกข์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาจึงมีจุดสิ้นสุด


หากสรุปรวบย่อ ก็อาจกล่าวได้ว่า
มองโลกในแง่ดี มีความสุข
มองโลกตามความเป็นจริง พ้นทุกข์				
13 สิงหาคม 2547 17:45 น.

*.*.* การประคองความรัก *.*.*

มะปรางหวาน5

ยิ่งนานยิ่งรัก เกิดขึ้นได้พอ ๆ กับ ยิ่งนานยิ่งไม่รัก
การดูแลความสัมพันธ์ เหมือนการกำทราย
กำแน่นไป ทรายก็ร่วงออกจากมือหมด
กำเบาไปทรายก็ไม่อยู่ในมืออยู่ดี
เวลาผ่านไป ใช้ชีวิตอย่างธรรมชาติให้มากขึ้น
เมื่อไหร่รู้สึกเหนื่อย ดีใจเถอะที่เหนื่อยเป็น
แสดงว่าเราใช้ร่างกายมากเกินไปแล้ว ถ้าไม่ป่วยซะบ้างเลย
เราจะไม่รู้ว่าควรถนอมร่างกายได้หรือยัง
การรักคนอื่นก็คือ การรักตัวเองอีกแบบหนึ่ง
อยู่คนเดียวเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรารักตัวเองหรือเปล่า
พอเริ่มรักใครสักคน
สิ่งที่ไม่เคยทำก็ทำ ไม่เคยหวานขนาดนี้ก็หวาน
ทำทุกอย่างที่จะรักษาคนที่เรารัก ให้อยู่กับเรานาน ๆ 
เพราะอะไร  เพราะว่ารักตัวเองและกลัวตัวเองเสียใจ
ความรักเป็นเรื่องของคน 2 คน มีความสุขทั้ง 2 คน
อย่าให้คนหนึ่งมีความสุข ในขณะที่อีกคนหนึ่งพยายาม
อย่าให้คนหนึ่งเสียใจ  ในขณะที่อีกคนไม่รู้ตัว
อย่าให้คนหนึ่งรู้สึกดี  ในขณะที่อีกคนเฉย ๆ 
อย่าให้คนหนึ่งอยากพูด  แต่อีกคนไม่อยากฟัง
อย่าเหนื่อยใจที่จะถามกัน 
อย่ากังวลกลัวเสียใจก่อนที่จะคุยกัน
เธอคือเธอ
ฉันก็เป็นฉัน
 คน 2 คนที่รักกัน
ต่างคนต่างยังมีหัวใจของตนเอง				
11 สิงหาคม 2547 13:03 น.

50-เหตุผลที่เราควรจะเป็นโสด

มะปรางหวาน5

1.....ไม่ต้องเสียเวลาดึงฝารองนั่งเวลาเข้าห้องน้ำ
2.....ไม่เกิดอาการขยะแขยง เพราะเส้นผมทั้งหมดบนตะแกรงของท่อระบายน้ำที่ต้องเอาออก เป็นของเราคนเดียว
3.....ไม่มีใครแย่งผ้าห่มตอนดึก ๆ
4......ไอศกรีมอร่อยในช่องแช่แข็งซึ่งเป็นของเราเท่านั้น
5......มาหรือไปยังสถานที่ที่เราต้องการได้ตลอดเวลา
6......สามารถซื้อกางเกงยีนส์กี่ตัวก็ได้ โดยไม่มีใครมาคอยบ่น
7.....เราจะเห็นคุณค่าของเพื่อนมากขึ้น
8.....การวางแผนวันหยุดจะไม่ทำให้เราปวดหัว เพราะมีแต่ตารางของเราคนเดียวที่ต้องใส่ใจ 
9.....ไม่ต้องคิดเยอะหากต้องไปพบเพื่อนผู้ชายเพียงลำพัง
10....ไม่ต้องอดกลั้นต่อการกระทำใด ๆ ทนทานอาหารที่ไม่ชอบ หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่ไม่น่าสนใจเลยกับครอบครัวเขา
11.....สามารถสังสรรค์กับเพื่อนได้ตลอดสุดสัปดาห์ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะแบ่งเวลาให้ใครคนอื่น
12....ได้สิทธิพิเศษในการอยู่บ้านเงียบ ๆ ยามค่ำ
13.....เมื่อต้องทำงานหนักจนไม่ค่อยมีเวลา ก็ไม่ต้องรู้สึกลำบากใจว่าทอดทิ้งเขา
14.....มีหนุ่มโสดหล่อ เท่ รวยเสน่ห์อีกตั้งหลายคนที่รอเราไปเจอพวกเขาอยู่
15....ใส่จีสตริงเต้นแอโรบินในห้องได้โดยไม่ต้องกระดาก
16.....รู้สึกสบายใจที่จะผายลม เรอ โดยไม่จำเป็นต้องสะกดกลั้น หรือแอบทำ
17.....นอนหลับได้สนิทและนานขึ้น
18...การเปลี่ยนแผนการอะไรง่ายชะมัดเหมือนกะพริบตา
19....อยู่ในห้องน้ำได้นานเท่าที่ต้องการ รวมทั้งอ้อยอิ่งเลือกเสื้อผ้า แต่งหน้า ไม่มีใครมาขัดจังหวะแล้วยังจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีกล่ะ
20....รีโมทคอนโทรลเป็นของเราคนเดียว
21....ที่ต้องแกล้งทำเป็นสนใจกีฬาโปรดของเขาน่ะ กลายเป็นอดีตไปซะแล้ว
22.....ดูหนังโรแมนติกได้สบาย ๆ ไม่ต้องรกหูกับเสียงบ่นว่า ดูหนังเรื่องนี้อีกแล้วเหรอ
23....สวมชุดชั้นในตัวเก่งตัวเก่าที่แสนจะนิ่มสบายได้ ไม่ต้องอายใคร
24.....ช้อปปิ้งได้เพลินและนานเท่าที่เราจะเดินไหว ไม่ต้องมีใครมาลากขาตาม
25.....ลองรองเท้ากี่คู่ก็ได้ในร้านรองเท้า
26.....ไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครมาแอบช่วยใช้ครีมบำรุงผิวราคาแพงที่อุตส่าห์เก็บสตางค์ซื้อมาตั้งหลายเดือน
27....ไม่ต้องมานั่งสาธยายว่าจิมมี่ ชู ดอนนา คาราน มาร์ก จาค็อปส์ ฯลฯ คือใคร
28.....ปีกไก่ชิ้นสุดท้ายในจานเป็นของเราแน่นอน
29....ฝาหลอดยาสีฟันจะปิดอยู่เสมอ
30....ไม่จำเป็นต้องตื่นก่อนเขา เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะดูสวยพอที่เขาจะตื่นมาเห็นเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า
31...ถุงเท้าสกปรก เสื้อเหม็นเหงื่อ หรือกางเกงในที่บิดแน่นเป็นเลข 8 จะไม่มีกองบนพื้น
32.....ดูละครน้ำเน่าได้จนจบ ไม่มีใครมาเปลี่ยนเป็นช่องถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก
33....สวมเสื้อสายเดี่ยว กับกระโปรงมินิตัวสั้นจุ๊ด โดยไม่มีเสียงตามหลังว่า จะใส่ชุดนี้ออกไปนอกบ้านจริง ๆ เหรอ
34....มีที่ว่างในตู้เหลือเฟือสำหรับรองเท้าแตะ 20 คู่ ส้นสูง 15 และบู๊ตอีกโหล
35......ตัดความกังวลที่ว่าเพื่อนเราจะชอบเขามั้ย
36....ไม่ต้องช่วยไกล่เกลี่ยกับพ่อแม่ ที่รู้สึกว่าไม่มีใครดีพอสำหรับลูกสาวของท่าน
37.....หรือที่ร้ายกว่านั้น ไม่ต้องกังวลว่าพ่อแม่เขาก็คิดว่าเราไม่ดีพอสำหรับลูกชายคนโปรด
38.....มีกระดาษชำระในห้องน้ำเสมอ
39.....ไม่จำเป็นต้องซ่อนสรรพาวุธความสวยพวกเครื่องสำอาง เพื่อให้เขาคิดว่าเราสวยด้วยธรรมชาติสร้าง
40...ใส่กำไลข้อมือที่แฟนเก่าให้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ
41......ไม่จำเป็นต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราไม่ได้ทำตาหวานใส่นักฟุตบอลน่ารัก ๆ ในสนาม
42.....เอ็นจอยเลดี้ไนท์ในผับได้อย่างเต็มตัว
43......มีเดทดินเนอร์ได้ทุกคืนทั้งสัปดาห์กับชายหนุ่มไม่ซ้ำหน้ากัน
44......ไม่ต้องทานอาหารเดิม ๆ ทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก เพียงเพราะเขาไม่ชอบลองของใหม่
45......หลังจากกำจัดเบียร์ออกไปจากตู้เย็นแล้วก็จะมีที่เพิ่มสำหรับช็อกโกแลต
46.....เปิดเพลงชิลล์เบลอ ๆ เพ้อ ๆ ที่ชอบได้ ไม่มีคนมาทำท่ารำคาญ
47....ได้ซื้อดอกไม้ หรือเพชรให้ตัวเองโดยไม่ต้องเสียเวลาแกะสายรัดรก ๆ ที่ผูกอยู่
48.....ไม่ต้องฟังเพลงเมทาลิกาเป็นเสมือนเสียงนาฬิกาปลุก
49......ไม่ต้องซ่อนถุงที่ช้อปปิ้งมาเมื่อตอนกลางวันไว้ใต้โต๊ะทำงาน แล้วเอาของใส่ถุงเก่า ๆ กลับบ้าน เพื่อจะได้ตอบไปว่า ของเก่าน่ะ เมื่อเขาถามว่า ซื้ออะไรมาเหรอ
50....เมื่อเราอารมณ์บูดก็ไม่จำเป็นต้องแกล้งทำเป็นถึงจุดสุดยอดสุดยอดของเฟกที่งี่เง่าที่สุด				
11 สิงหาคม 2547 12:55 น.

*.*.* สุดที่รัก..กับรักที่สุด *.*.*

มะปรางหวาน5

ฉันกับแฟนเราคบกันมานาน นานจนอะไร ๆ บางอย่างเริ่มเปลี่ยนไป
เธอดูเหมือนกับว่าจะเริ่มข้องใจ และไม่ไว้ใจในตัวฉันมากขึ้นทุก ๆ วัน วันหนึ่งดูเหมือนเธอจะเริ่มหมดความอดทน
สุดที่รัก....ตกลงเธอรักฉันที่สุดหรือเปล่า
ฉันตอบว่า...รักที่สุด
สุดที่รักถาม....แล้วพ่อแม่พี่น้องกับคนอื่น ๆ ล่ะไม่ได้รักที่สุดเหรอ
ฉันตอบ....รักที่สุดเหมือนกัน
สุดที่รักโมโห....ฉันเป็นสุดที่รักของเธอ เธอต้องรักฉันที่สุดคนเดียว
ฉันคิดนิดหนึ่ง....แต่ฉันรักที่สุดทุกคน
สุดที่รักงอน.....คนหลายใจ ไปตายซะ
ฉันผิดตรงไหน...ที่ฉันรักคนสำคัญในชีวิตฉันทุกคน
ฉันสับสน....ฉันจึงไปโดดน้ำตายตามคำสุดท้ายของสุดที่รัก
ฉันขึ้นไปบนสะพานที่สูงที่สุด.....กระโดดลงไปในแม่น้ำตรงจุดที่ลึกที่สุด
ฉันไม่ตาย....เพราะว่าฉันวายน้ำเป็นและฉันก็รักตัวเองที่สุด
ฉันวายน้ำไปข้างหน้าเรื่อย ๆ 
จากแม่น้ำออกทะเล จากทะเลออกมหาสมุทร
ว่ายจนกว่าจะสุดทาง ผ่านเกาะ ผ่านประเทศต่าง ๆ มากมาย
แล้วฉันก็วนกลับมาที่เดิม สะพานเดิมที่ฉันกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย
ฉันค้นพบแล้วว่า......โลกกลม
มีเกาะ มีประเทศ ตั้งอยู่บนตำแหน่งต่าง ๆ บนโลกไม่ทับซ้อนกัน
ทุกเกาะ ทุกประเทศมีความสำคัญ มีหนึ่งเดียว และอยู่ทุกมุมสุดของโลก
มันก็เหมือกับความรักของฉันนั่นแหล่ะ ทั้งแฟนฉัน ครอบครัวฉันและก็เพื่อนฉัน
ต่างก็เปรียบเสมือนทวีปต่าง ๆ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ไม่มีส่วนใดที่ขึ้นต่อกัน
เพราะฉะนั้นหากฉันจะรักทุกอย่างและรักที่สุดมันก็ไม่ผิด
เพราะแต่ละอย่างมันมีความหมายต่อชีวิตฉันในส่วนที่แตกต่างก็ไป
แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ประกอบขึ้นเป็นความรักของฉันทั้งชีวิต
ที่ประกอบไปด้วยส่วยต่าง ๆ ซึ่งถ้าขาดสิ่งใดไป
ความรักของฉันก็คงจะไม่สมบรูณ์แบบเป็นแน่นอน
ทุกคนคือ...สุดที่รัก...
และฉันก็...รักที่สุด...				
11 สิงหาคม 2547 12:53 น.

*.*.* ความรักที่ไร้ค่า *.*.*

มะปรางหวาน5

เขาเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง
ที่ยังคงวิ่งไล่ตามความฝัน...และยังคงค้นหาตนเอง
เขาเป็นเหมือนกับผู้ชายทั่ว ๆ ไป
ไม่อ่อนหวานแต่อ่อนไหว...ไม่แข็งแรงแต่แข็งกระด้าง
แสดงออกในสิ่งที่ตรงข้ามกับความต้องการของจิตใจ
ไม่พูดคำว่ารักไม่เคยแสดงออกว่า เขารักเธอ
สิ่งเดียวที่เขามีให้เสมอต้นเสมอปลายก็คือสายตา..และความจริงใจ

เขาคิดว่ามันน่าจะเพียงพอแล้ว
และเธอก็คงจะคิดเช่นเดียวกับเขา
ทุกครั้งที่เขา คิดถึงก็มักจะพูดแต่เพียงว่า ก็แค่อยากคุยด้วย
มันคงจะดีกว่านี้ถ้า เขากล้าที่จะยอมรับความต้องการของหัวใจตนเอง

เธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่ต้องการใครสักคน
คนที่เธอรัก..และเป็นคนที่รักเธอ เธอยังคงเชื่อมั่นและศรัทธาในความรัก
และหวังว่าสักวันจะต้องเจอคนที่เกิดมาเพื่อกันและกัน

เธอมักจะว่างตัวนิ่ง ๆ เฉย ๆ เมื่ออยู่กับเขา
ไม่เคยบอกว่ารู้สึกอย่างไร
สิ่งเดียวที่เธอทำได้และทำเสมอมาคือการรอ
รอให้เขาเปิดโอกาสให้กับเธอ
และกับตัวเขาเองรอสักวันที่คนทั้งคู่

เปิดหัวใจให้แก่กันและกัน เธอหวังไว้เช่นนั้น
หากแต่เธอเองก็ไม่เคยบอกเช่นกันว่าคิดถึงเขามากมายเพียงไร
สิ่งที่เธอมักจะย่ำตลอดเวลา รักษาสุขภาพมาก ๆ
มันคงจะดีกว่านี้ถ้า เธอจริงใจกับความรู้สึกของหัวใจตัวเอง

เรื่องของคนทั้งคู่นี้ไม่มีตอนจบเพราะว่าไม่มีตอนเริ่มต้น
ทั้งคู่ยังคงดำเนินชีวิตต่อไปตามวิถีทางที่ควรจะเป็น
พบเจอกันเพื่อความสุข และเก็บเกี่ยวความรู้สึกดี ๆ เอาไว้
แต่ทั้งคู่ไม่สามารถจะรับรู้ถึงความรักที่ต่างคนต่างมีให้กันได้
เพราะต่างคนต่างแอบซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงของตนเอง
ได้โปรดรับรู้ไว้เถิดว่า มนุษย์มีตาไว้ดูมีหูไว้ฟัง
มีหัวใจเอาไว้รู้จักความรัก
ความรักที่ไม่สามารถแสดงให้หัวใจอีกดวงได้รับรู้
ก็เป็นแค่ความรู้สึกที่สูญเปล่า เป็นความรักที่ไร้ค่า
อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป  จนไม่มีโอกาสที่จะแสดงความรัก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ความรักคือชีวิต และชีวิตก็สถิตอยู่ในหัวใจ
วันนี้คุณบอกรักใครหรือยัง
ขอให้ความรักที่อยู่ในก้นบึ้งของจิตใจคุณทุกคน จงเบ่งบานและงอกงาม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟมะปรางหวาน5
Lovings  มะปรางหวาน5 เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟมะปรางหวาน5
Lovings  มะปรางหวาน5 เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟมะปรางหวาน5
Lovings  มะปรางหวาน5 เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงมะปรางหวาน5