20 กรกฎาคม 2547 21:02 น.

ลืม

รพี

จากกลิ่นโคลนสาบควายสายน้ำขุ่น 
วิ่งไปวุ่นศึกษาวิชาสรรพ์ 
มหาลัยเมืองฟ้ามานานวัน 
ไม่คิดหันหวนกายเยือนไร่นา 

พ่อและแม่แก่มากหวังฝากผี 
ด้วยความหวังล้นปรี่แสนห่วงหา 
เฒ่าทั้งสองเหงาหงอยคอยเวลา 
เอ็งคืนมาสร้างหลักฐานที่บ้านดง 

เอ็งไม่คิดถึงเพื่อนพ้องพี่น้องสิ้น 
ชื่นเชยกลิ่นเมืองงามด้วยความหลง 
จะเหลวแหลกอย่างไรไม่พะวง 
เยื่อใยคงขาดแล้วนะแก้วตา 

ข้าได้รู้รับข่าวจากชาวบ้าน 
ว่าเอ็งร่านร้อยเล่ห์เสน่หา 
สับเปลี่ยนคู่สู่สมภิรมยา 
เริงกามาด้วยใจเอ็งไม่จริง 

ข้าเคยรักภักดียิ่งชีวิต 
หวังเชยชิดเทิดทอดเป็นยอดหญิง 
ใครทักท้วงอย่างไรไม่ประวิง 
และแล้วสิ่งที่ผ่านมาข้าเจ็บอาย 

ไม่เห็นแก่หนุ่มนาข้าไม่แค้น 
พ่อแม่สิช่างแสนมีความหมาย 
รอคอยเอ็งร้อนรนกระวนกระวาย 
ลองเยี่ยมกรายดูบ้างเป็นอย่างไร?.				
4 กรกฎาคม 2547 04:07 น.

วิวัฒนาการ

รพี

เพราะเพียงพัฒนาการด้านวัตถุ
โลกล่วงลุเบื้องบทการกดขี่
แยกช่องว่างถ่างคนจนกับมี
เกิดราวีให้ร้ายทำลายกัน

เหมือนปลาใหญ่เสพภักษาปลาตัวน้อย
สังคมพลอยตกต่ำขั้นห้ำหั่น
ทุนนิยมถมทับนับอนันต์
คนด้วยกันเริ่มประเมินด้วยเงินตรา

ต่างยื้อแย่งแข่งขันอันสับสน
อิทธิพลแดนไกลท่วมไหลบ่า
มันครอบงำค่ำเช้าเหล่าประชา
ชนแห่งชั้นรากหญ้าสุดร้อนรน

คล้ายอยู่กลางควันไฟอวลไอพิษ
คงมีสิทธิ์เพียงเลือกกระเสือกกระสน
แต่ไม่อาจต้านฤทธ์อิทธิพล
ในสังคมแยกคนจนกับมี

ไทยเคยมีวัฒนธรรมประจำชาติ
กู่ประกาศเอกลักษณ์เป็นศักดิ์ศรี
คงถึงคราพังภินท์ไร้ชิ้นดี
หากไม่มีสำนึกรู้สึกตัว.				
23 มิถุนายน 2547 21:17 น.

หนึ่งเดียวในดวงใจ

รพี

จากถิ่นเกิดกันดารในบ้านป่า 
มุ่งไขว่คว้าสิ่งที่มีความหมาย 
เป็นอาภรณ์ประดับสำหรับกาย 
เชิดเชื้อสายให้มั่นคงกว่าวงศ์วาร 

สู่มหาวิทยาลัยในเมืองหลวง 
เข้าตักตวงวิชามหาศาล 
ไม่ท้อถอยบากบั่นขยันการ 
หวังให้ผ่านศาสตร์ศิลป์ปริญญา 

ความหิวโหยโบยชีพอย่างรีบร้อน 
ที่หลับนอนที่กินแทบสิ้นท่า 
เพราะความจนทุรนทุรายติดกายมา 
แล้วเวลาความสำเร็จก็เสร็จลง 

ลาแล้วเอยเมืองฟ้าขอลาก่อน 
จะกลับดอนถิ่นหลังดังประสงค์ 
สร้างหลักฐานที่นั่นให้มั่นคง 
สืบเผ่าพงศ์รากหญ้าฝ่าฟันไป 

กลับถึงบ้านคลานมาหาตักแม่ 
คนขี้แยคนเดิมเริ่มร่ำไห้ 
ซบตักแม่ซาบซึ้งก้นบึ้งใจ 
จากแม่ไกลแล้วกลับนับว่าบุญ 

ยกทูนเทิดทั้งสองมือของแม่ 
รอยยิ้มแผ่เปื้อนปร่าน้ำตาอุ่น 
มือแห่งแม่คู่นี้มีบุญคุณ 
ความการุณย์จากอกแม่ปกมา 

เคยป้อนข้าวป้อนน้ำพร่ำสอนสั่ง 
ตอนที่ยังอ่อนวัยไม่ประสา 
จะลำบากยากใจไม่นำพา 
ความเมตตาท่วมท้นทั้งต้นปลาย 

ณ วันนี้ลูกมาหาแม่แล้ว 
อยู่กับแก้วดวงงามเปี่ยมความหมาย 
หวังกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงแม่ที่แก่กาย 
จะไม่หายห่างแม่.....แม้เพียงวัน.				
19 มิถุนายน 2547 00:48 น.

อยาก

รพี

ยึดนาครเป็นแดนงามแห่งความฝัน
ตื่นตาพลันพบแผกผิดแปลกฉงาย
ในปลักตมกิเลสคนวนวุ่นวาย
สร้างอุบายชาติชั่วด้วยมัวเมา
                  อยากหลับใหลในโลกงามเปี่ยมความรัก
                  แต่ประจักษ์ว่าตนแค่คนเขลา
                  ในสังคมแย่งยื้อถือเขาเรา
                  ตัณหาเผาแผดกระหน่ำทำท้อใจ
ออกท่องเที่ยวเดียวดายรายพงพฤกษ์
ผ่านหุบลึกแนวละหารธารน้ำใส
ข้ามสันเขาเพิงถ้ำเงื้อมง้ำไกล
เทือกไศลลดหลั่นกีดกั้นตา
	แลลิบลิบสูงสล้างกลางกลุ่มเมฆ
	ดังสร้างเสกโดยสวรรค์บรรโลมหล้า
	ครั้งแสงสูรย์ส่งประกายฉายฉานมา
	สุดปลายฟ้าเรื่อเรืองเหลืองดั่งทอง
ยามสายฝนสาดโปรยโชยความชื่น
ในป่ารื่นรมณีย์ไม่มีหมอง
ครั้นใกล้สนธยาเข้ามาครอง
ท่วงทำนองแห่งทิวาเลือนลาไป
	อยากพำนักฝากใจไว้ในป่า
	ฝากกายากับโขดเขินเนินไศล
	อาบแสงดาววาววับระยับใย
	แอบอิงไพรจนกว่าชีวาวาย.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรพี
Lovings  รพี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรพี
Lovings  รพี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรพี
Lovings  รพี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงรพี