31 พฤษภาคม 2554 14:44 น.
				
												
				
								ละไมฝน
		
					
				
ปวงเทวาไม่มีแล้วแถวท้องทุ่ง
ท่านขี่รุ้งกลับสวรรค์บนชั้นฟ้า
ผีตาแฮกที่หัวไร่และปลายนา
ก็ร้างลาจากทุ่งข้าวอย่างร้าวโรย
วิถีไทยถิ่นอีสานเมื่อกาลเก่า
ช่างเงียบเหงาเศร้าช้ำระกำโหย
ยาฆ่าแมลงปุ๋ยเคมีที่หว่านโปรย
กระทำโดยมือมนุษย์สุดคะเน
ดินจึงช้ำน้ำจึงเฟือนเลือนแล้วรัก
จะมีสักกี่ท้องนาไม่ว้าเหว่
วิถีทำเก่าหลังล้วนพังเพ
มนต์เสน่ห์แห่งท้องนาร้างลาไป
เคยร่วมแรงลงแขกกันเกี่ยวข้าว
ศนูว่าวเคยแว่วหวานกังวานไหม
ข้าวเม่าหอมลอมฟางแห้งอยู่แห่งใด
คราดและไถเกวียนเก่าเราแกล้งลืม
ปี่ฟางข้าวสาวนาหน้าใสซื่อ
ยังเหลืออยู่อีกหรือให้หลงปลื้ม
ชาวนาไทยสมัยนี้มักขี้ลืม
หนี้กู้ยืมดอกเบี้ยพราวดอกข้าวโรย...				
			 
			
				30 พฤษภาคม 2554 14:31 น.
				
												
				
								ละไมฝน
		
					
				
..................................
ดอกไม้สาวฝากเรณูละอองฝัน
เพื่อรังสรรค์พรรณไม้แผ่ไพศาล
โดยแมลงผู้สำแดงสมดุลกาล
โลกเปลี่ยนผ่านกาลกัปนับอนันต์
      ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์สำคัญค่า
มวลพฤกษานับอเนกต่างเสกสรร
การดำรงวงศ์วานส่งผ่านพันธุ์
คือความลับอัศจรรย์อันลึกล้ำ
       ราวเหลี่ยมเล่ห์เพทุบายใช้ลวงหลอก
อวดกลีบดอกสวยหวานเบ่งบานฉ่ำ
ขจรกลิ่นกรุ่นหอมยั่วย้อนนำ
เชิญมดแมงมาดื่มด่ำดูดน้ำหวาน
        ดอกกลีบสาวสีสันแสนสดสวย
หอมแฝงด้วยหายนะระริกร่าน
หากระเริงหลงรสฉ่ำดุจน้ำตาล
มิช้านานจักจมปลักไม้ปักเลน
       กลีบหอมหวนหุบร่างไว้ในพลบค่ำ
เกสรฉ่ำจะแทะเล็มราวของเล่น
รุ่งอรุณค่อยคายซากเหลือกากเดน
ภาพที่เห็นว่างามช่วงจึงลวงใจ
        พืชลวงพรางเพื่อดำรงให้คงอยู่
ไร้ฤดูสู่สมสนองใคร่
แต่ใจสาวพราวยิ่งกว่าสิ่งใด
ลวงชายให้ยอมสยบแทบเท้าเธอ...
...................
ละไมฝน / ภาพและคำ				
			 
			
				28 พฤษภาคม 2554 17:41 น.
				
												
				
								ละไมฝน
		
					
				
ของฉัน นี่ของฉัน....
อย่าดันทุรังมายื้อแย่ง
ฉันหวง นักหนา...ค่ามันแพง
ได้มาด้วยแรงไร้ครรลอง
เอามา  เอาคืนมา...
ฉันปรารถนาเป็นเจ้าของ
ฉันหวังจะครอบครอง
สิ่งทั้งผองในปฐพี
ของใคร ก็ของใคร
มือคว้าไขว่ได้เต็มที่
สะสมความมั่งมี
เพื่อยินดีในกมล
สัมภเวสียังแย่งเกิด
ยื้อแย่งเถิดจะเกิดผล
แหนหวงข้าวของตน
อัตตาตนยิ่งใหญ่นัก....
......
ละไมฝน/ภาพและคำ				
			 
			
				26 พฤษภาคม 2554 15:40 น.
				
												
				
								ละไมฝน
		
					
				
เปลือยกายในสายลม       พัดผ่านห่มปีกแห่งฝัน
เหน็บหนาวในกายนั้น                 ผ่อนเพลาลมหลงฤดู 
หนาวในจับใจลึก                        ยามดิ่งดึกพลัดพรากคู่
รวดร้าวลมพรั่งพรู                       จะหาไหนมาห่มเงา
          อ้อมปีกอุ่นอวลไอ             โอบกอดไว้ให้คลายเหงา
หล่อเลี้ยงด้วยรักเรา                    คุ้มครองภัยอันตราย
ทั้งผองต่างเผ่าพันธุ์                     ล้วนมีฝันอันหลากหลาย
ชีวันอาจวางวาย                ในอ้อมกอดของไพริน				
			 
			
				25 พฤษภาคม 2554 15:55 น.
				
												
				
								ละไมฝน
		
					
				
เจ้าโมกหอม...หอมฝันถึงขวัญหล้า   
อบอวลมวลดาริการะยิบพร่าง
รวยรินกลิ่นละมุนอรุณราง   
อุษาสางมิจางหอมถนอมนวล
กลีบขาวพราวพิสุทธิ์สะอาดอิ่ม   
ค่อยคลี่ยิ้มระย้าลดาสรวล
ล้อลมระริกระรี้ฤดีเรรวน     
แสนปั่นป่วนพิศวาสพิลาสตา
หยดน้ำค้าง...ค้างใบใสกระจ่าง   
ชุบใบบางเขียวงามนามพฤกษา
ปรุงเกสรสุขุมยั่วภุมรา   
รินเริงร่าท้าแสงตะวันฉาย
ละมุนซึ้ง ตรึงใจข้าฯจริงหนอ    
เจ้าโน้มช่อหอมชั่วฟ้าดินสลาย
รวยรินฝันแล้วพลันหม่นและหล่นราย      
ร่วงพราวพรายระยับประดับดิน.... 
ละไมฝน / ภาพและคำ