20 สิงหาคม 2552 20:56 น.

วันนี้ของวันนั้นความเป็นมา….

ลุงเอง

ด้วยอดีตไม่คิดว่าจะบวช		เป็นนักดวดตัวยงอย่าสงสัย
ทุกทุกเย็นต้องร่ำแต่เมรัย	          จนชื่อเสียขจรไกลจอมขี้เมา
เมาจนมีสาวสาวมาสงสาร	ต่างกล่าวขานว่าลุงชั่งโง่เขลา
เหตุที่เมาด้วยรักหักอกเอา		จึงพึ่งเหล้ามาเผาความตรอมใจ

ตัดสินใจพยาบาลมาสานรัก	คิดปักหลักสร้างฐานชีวิตใหม่
ด้วยสัญญาว่าต่อจากนี้ไป		เลิกเมรัยคิดหวังสร้างตรอบครัว
เลิกขี้เมาทำงานสร้างฐานะ	ต่อนี้จะหันหลังไม่คิดหวน
ลืมอดีตกรีกใจเพื่อหน้านวล	ปีครบถ้วนแต่งานสัญญาใจ

ปีสองเก้านับแต่เริ่มรักใหม่	คิดครวญใคร่เลิกงานไม่ไปใหน
เพื่อนจะว่ากล่าวขานช่างประไร	แม่นั้นให้ดีใจในลูกชาย
เราสองต่างตกลปลงใจรัก		กำหนดงานแน่ชัดเป็นที่หมาย
ปีสามศูนย์เดือนหกรักประกาย	กำหนดหมายงานแต่งไม่ผันแปร

จวบจนปีสามศูนย์อาดูรนัก	จำได้ชัดยี่สิบเอ็ดมีนาให้
ใจของลูกแทบแตกแหลกลงไป	พ่อจากไกลไม่กลับดับดวงแด
ยี่สิบหกมีนาบวชให้พ่อ		บอกเจ้ารอพี่สึกนะดวงแข
เพียงเจ็ดวันรักเราไม่ผันแปร	อีกทั้งแม่รอวันพี่บวชเรียน

เสร็จงานศพเผาพ่อรอวันสึก	สองเมษาใจนึกสุดร้อนรุ่ม
บิณฑบาตรสามวันยังว้าวุ่น	งานก็รุมค้างไว้มามายเชียว
มาที่บ้านบอกโยมเพื่อลาสึก	ใจระทึกเห็นแม่นั่งห่อเหนี่ยว
น้ำตาเอ่อใบหน้าดูซีดเซียว	บอกว่าเพียงเสียดายบวชน้อยจัง

ดุจมีใครเอามีดมากรีกจิต		ครั้งอดีตเมื่อคราวรับปากท่าน
ต้องบวชให้จนครบพรรษาผ่าน	ที่แม่แศร้าเรานี้บาปประดัง
ฝืนยิ้มตอบปลอบโยมยังไม่สึก	ด้วยสำนึกกตัญญูดุจขุนเขา
บวชต่อให้หนึ่งเดือนเพื่อแม่เรา	ท่านยังเย้าแฟนท่านนั้นเขารอ


บอกสีกาหลวงพี่ขอเลื่อนสึก	    ในส่วนลึกสงสารเจ้าหวั่นไหว
ตอบเสียงเครือหลวงพี่ไม่เป็นไร	ทั้งที่ใจรับรู้เจ็บปวดพอ
วัดที่อยู่อาจารย์ครั้งเด็กวัด		    ไม่มีใครมาจัดกุฎีหอ
บอกให้เราเป็นธุระอาจารย์รอ	    อยู่เพี่อขอวันสึกนึกในจินต์

บุญหรือกรรมได้ทำแต่ปางก่อน	    จึงได้ย้อนหาเราให้สงสัย
อาจารย์มามรณะด่วนจากไป	    โรคหัวใจมาพรากดวงชีวิน
เป็นพระใหม่จัดการแม่งานศพ	    ทั้งทายกทำตามงามถวิล
พระในวัดทุกรูปช่วยทั้งสิ้น	        ไร้ติฉินยกเราด้วยพร้อมใจ

ตกลงเก็บศพอาจารย์หนึ่งปี	    มตินี้ตกลงเอกฉันท์
ให้หลวงตารักษาการส่วนนั้น	    เตรียมงานเผานี่นั้นเรารับไป
ดุจดั่งน้ำท่วมปากยากจักเอ่ย	    สีกาเอ๋ยเจ้าจะเข้าใจใหม
รอด้วยนะหน้านวลเจ้าทรายวัย	    โปรดเห็นใจหลวงพี่นี้จำยอม

หนึ่งพรรษาผ่านไปใกล้งานศพ	    โยมแม่มาเพื่อพบพร้อมขานไข
สีกาท่านมาร้องไห้เสียใจ		    บอกว่าให้ท่านสึกด้วยตรมตรอม
แต่โยมแม่เห็นว่าท่านควรอยู่	    ท่านก็รู้ว่างานรับผิดชอบ
ต่อเสร็จงานศพผ่านท่านจึงพร้อม	เรื่องนี้ท่านต้องตัดสินใจเอง

เวลาผ่านนานเนิ่นทรมาน		    ด้วยสงสารเนื้อเย็นเป็นที่สุด
เราเป็นพระต้องละกิเลสหลุด	    บริสุทธิ์กาเมนิวรณ์เกรง
บอกสีกาขอเวลาให้งานผ่าน	    อย่าร้าวรานด้วยจิตคิดข่มเหง
แม้เราเป็นเนื้อคู่อย่าหวั่นเกรง	    บรรเลงเพลงรักรออย่าหวั่นทรวง

ณ วันหนึ่งถึงจุดที่หันเห		    อุปเท่เปรียบดังทางสายใหม่
เธอขึ้นมาบนกุกีเสียงดังไกล	    ด้วยใช้ผรุวาจาไม่หวาดกลัว
เชิญบวชไปอย่าสึกเป็นหลวงพ่อ  	บวชให้พออยู่ได้แม้ขาดผัว
ต่อจากนี้จะไม่มาพันพัว		    อย่าได้กลัวสัญญาว่าอยู่เดียว

ในใจนั้นสงสารนงคราญยิ่ง	    ด้วยทุกสิ่งเราเองเป็นต้นเหตุ
หรือชีวิตถึงจุดหลุดคดเคี้ยว	    ทางสายเดี่ยวให้เราได้เดินเที่ยว
ให้เราลดละเลิกและข้องเกี่ยว	    ใช่ทางเปลี่ยวแม้ว่าเดินคนเดียว
มีธรรมะชำระจุดเปลวเทียน	    ไม่ข้องเกี่ยวโลกียะทางโลกีย์

ผ่านพ้นเลยพรรษาสามมาได้	    ทางสายใหญ่ธุดงค์ปลงทุกสิ่ง
แนวพนาป่าเขาวิเวกจริง		    มุ่งตรงดิ่งกัมมัฏฐานฌาณวิถี
ปฎิบัติข้อวัตรอย่างพร้อมพลี	    แนววิธีพุทธบุตรหลุดราคี
สิ่งได้รับอิ่มเอมชื่นฤดี		    สุขเปรมปรีย์ผ้ากาสาวพัสครอง

ออกจากป่ามาบ้านเยี่ยมโยมแม่	    ดูท่านแก่ชราแต่ไม่ผอม
วงใบหน้าเป็นสุขไร้ทุกข์ตรอม	    วรรณะผ่องดุจจันทร์วันเพ็ญผ่อง
สนทนาธรรมะตามครรลอง      	โยมแม่น้อมเบญจศีลมิบกพร่อง
บุญสนองทางใจไร้มัวหมอง	    โยมแม่น้อมอนุโมทนาบุญ

จวบวันยี่สิบสองธันวามาส	        พระลูกชายใจแทบขาดสลาย
ปีสามเจ็ดโยมแม่ท่านละกาย	   สู่ที่หมายแดนพรหมสมกับคุณ
ขอกุศลที่ทำนำอุดหนุน		   โยมแม่มุ่งแดนสรวงรองค้ำจุน
ดาวดึงส์เป็นแดนผู้มีบุญ		   ด้วยพระคุณมารดาพระลูกชาย


จากวันนั้นถึงวันนี้ยี่สิบกว่า	   ที่เดินมาในทางธรรม์วิสัย
ปฏิบัติตามกฎพระวินัย		   ไม่เฉไฉให้ได้รับอับอาย
จิดตั้งมั่นปลายทางแห่งชีวิต	   มุ่งอุทิศสืบทอดศาสนา	
แม้จะเป็นวินาที่สุดท้าย		   คงจะตายตาหลับไม่กลับคืน

	อ่านเองลุงแทนยังขัดตาเลยเนาะ				
19 สิงหาคม 2552 15:52 น.

จดหมายยตอบลูก

ลุงเอง

%1% ด้วยภารหน้าที่ต้องกอบกิจ
ส่งใจคิดถึงลูกทุกคืนค่ำ
คำสัญญากับครอบครัวมิลืมคำ
ภาพความหลังยังจำมิลืมเลือน

%1% มะละกอเคยนำมาตำส้ม
เมล็ดจากผลลงหว่านภาพยังเหมือน
เมื่อวันวานติดตาไม่แชเชือน
รอกลับเรื่อนได้พบกับครอบครัว

%1% ต้นกถิ่นริมรั่วต้นงามแล้ว
กับน้ำพริกกับแกล้มชวนยิ้มหัว
กระดั่งงาเป็นซุ้มบังแดดทั่ว
นั่งยิ้มหัวสนทนาพาสุขใจ

%1% พ่อส่งใจไปให้ด้วยรักลูก
ใจพันผูกครอบครัวที่สดใส
แต่วันนี้พ่อยังไม่ได้ไป
แม้หทัยหวนคิดจิตคนึง

%21% หวังเก็นเงินเพื่ออนาคต
ลูกทั้งหมดได้ศึกษาความรู้ถึง
ไม่ลำบากเหมือนด้วยรู้ซึ้ง
การศึกษาเป้นหนึ่งพัฒนา

%1% หลับตานอนคราใดน้ำตาใหล
ด้วยว่าใจพันผูกลูกหวงหา
อีกไม่นานรอวันพ่อกลับมา
ได้พบหน้าพร้อมพรั้งสุขสมจินต์

%1% เขียนจดหมายตอบลูกน้ำตาหยด
ให้รันทดรัญจวนสุดถวิล
อีกไม่นานพ่อกลับคืนสู่ถิ่น
พร้อมยอมยิ้มรับขวัญวันครอบครัว				
14 สิงหาคม 2552 01:24 น.

รัติกาล

ลุงเอง

รัติกาลผ่านพ้น        เลยเที่ยง
แว่วสำเนียงแห่งเสียง      โหยหวน
หทัยถอนหวาดสำเนียง     เสียวซ่าน แท้เฮย
ดุจดั่งปีศาจครวญ         แท้จริงหลอกตน ฯ/

   * รัติกาลยามผ่านหลังเทียงคืน
ข่มตาฝินนิทราให้หลับใหล
ทั้งพลิกซ้ายป่ายขวาขัดเคียงใจ
ด้วยเหตุใดไม่หลับกระสับกาย

   * เสียงแห่งยามราตรีที่มืดมิด
ทั่วทุกทิศวังเวงพาใจหาย
ทั้งหรีดหริ่งร้องก้องอยู่รอบกาย
แสงพราวพรายหิงห้อยพลอยแสงเรือง

   * อาวาสแห่งกลางดงพงไพสนธ์
ทั่วสกลสรรพสัตว์สดับเสียง
ดุจปีศาจร้ายกาจก้องสำเนียง
ไทรใหญ่เอียงแรงลมโถมทวี

   * แววตาเรืองเขียววับเมื่อรับแสง
พยัคฆ์แห่งวนาราชสีห์
ออกค้นหาภักษายามราตรี
ล้วนมากมีคชสารเจ้าพงพี

   * เสียงหมาในหอนก้องร้องโหยหวน
มฤคเรรวนชวนกันหนี
เสียงนกแสกแหวกร้องหวาดฤดี
โลมาชี้ชูชันนั่งหวั่นใจ

   * ตุ๊กแกป่าร้องลั่นสนั่นโสต
สายลมโยกยางนาสนั่นไหว
กิ่งสักร่วงมะม่วงลั่นสนั่นไพร
พาหทัยไหวหวั่นสนั่นทรวง

   * ตั้งสติจิตกำหนดสมาธิ
ด้วยอาปานสติไม่คิดหวน
ไร้นิวรณ์ทุกสิ่งตัดทั้งปวง
สัญญาร่วมรับรู้สู่สัจธรรม

   * เวทนาทุกข์สุขสงบนิ่ง
รู้ความจริงจิตเราไม่ถล่ำ
สรรพเสียงเงียบลงจิตดื่มด่ำ
ตามหลักธรรมกัมมัฏฐานวิปัสสนา

   * เพราะจิตเราไม่นิ่งวิ่งหลอกหลอน
แม้ยามนอนเจตสิกวิ่งแส่หา
ต้องจับใส่ในกรงวิปัสสนา
จึงรู้ว่าแท้จริงหลอกตนเอง ฯ/				
12 สิงหาคม 2552 18:13 น.

!!!......???......!!!

ลุงเอง

*** มองนภา เวลา ฟ้าชิงพลบ
แสงส้มสด งดงาม สีสดใส
หมู่วิหก นกกา ต่างพร้อมใจ
คืนกลับไป รังนอน พักผ่อนกาย
*** เฉกเช่นคน ขายแรง –งานเช้าค่ำ
เป็นผู้นำ ครอบครัว จุดความหมาย
ให้ลูกได้ ร่ำเรียน ด้วยแรงกาย
หยาดเหงื่อไหล ไม่อาจ มาท้อใจ
*** สองมือกร้าน หยาบแห้ง แรงถดถอย
เพื่อลูกน้อย พ่อทน ยอมพลีให้
เก็บสะสม อดออม แบ่งไว้ใช้
อนาคด ฝากไว้ กับแรงกาย
*** สุริยา ลาลับ อัสดง
ลูกทุกคน รอพ่อ มีความหมาย
ค่ำลงแล้ว พ่อลับไม่เห็นกาย
ลูกใจหาย ชะเง้อ เพ้อคร่ำครวญ
*** แสงไฟฟ้า มาแทน แสงตะวัน
ใยพ่อฉัน ยังไม่ กลับคืนหวน
ลูกรอกิน ข้าวอยู่ น้องร้องกวน
เสียงฟ้าครวญ โปรยฝน ทนต่อไป
*** จากยามเย็น มาเป็น เช่นยามดึก
ใจระทึก ทนคอย ต่อไม่ไหว
พี่อุ้มน้อง ที่ร้อง สะเทือนใจ
หวังเพื่อได้ พบพ่อ ไม่ท้อใจ
*** สายตรวจผ่าน มาพบ จอดรถถาม
พี่บอกตาม หาพ่อ น้าเห็นใหม
หนูหิวข้าว น้องหิวนม ทนไม่ไหว
ต้องจำใจ ตามหา มาตามทาง
*** สายตรวจรับ เด็กไป ที่โรงพัก
ผู้หมวดจัด การกิน เรื่องอาหาร
อีกทั้งนม ให้น้อง ร้องหิวคราง
ด้วยสงสาร พลางปลอบ กอดเด็กไว้
*** เช็ดข่าวสาร ตามโรง พยาบาล
ให้สะท้าน สะท้อน เหงือนองใหล
ข่าวที่ได้  ผู้หมวด ให้ปวดใจ
ช่างกระไร โลกนี้ ไม่ปราณี
*** พ่อเด็กน้อย ประสบ อุบัติเหตุ
ด้วยสาเหตุ รถชน คนขับหนี
แล้วจะบอก เด็กน้อย อย่างไรดี
ผู้หมวดมี น้ำใส ใหลจากตา
*** ฯลฯ ***				
10 สิงหาคม 2552 01:53 น.

กายกับใจ ๒

ลุงเอง

ของจริงย่อมหลีกเร้น       อยู่ใน
จักทราบด้วยหลักไตร           ลักขณ์นี้
ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ภัย            กายจิต นี้แล
เป็นอนัตตาลับลี้               ยากแท้แลเห็น

   0 เห็นกายแจ่มใสด้วย       อนิจจัง
เห็นเป็นกองทุกขัง             หยั่งรู้
เห็นเป้นอนัตตาฝัง             แฝงอยู่ ในแล
เห็นชอบกอบกับรู้              เยี่ยงนี้ทรงญาณ

   0 รวมกายใจเรียกร้อง       ว่าตน
สมมติเรียกว่าคน              ยึดไว้
ค้นหาว่าตนคน                ไป่พบ ได้ฤๅ
เหตุว่าตนคนไซร้              มนุษย์ร้องเรียกเอง

   0 อนัตตากับอัตต์คู่นี้         ปิดบัง กันนา
อัตต์ย่อมคอยคุมขัง              สั่งให้
อนัตต์ย่อมอยู่ยัง                อำนาจ ตนแฮ
ถอนอัตต์นี้ออกได้               ย่อมพ้นโลกีย์

   0 อันกายกับใจนี้  ทุกเพศวัย  ไร้สาระ
ตามคำพระ  บอกแจ้ง   แถลงผล
มีวิชา  เท่านั้น  มั่นคงทน
ยืดยาวจน  ชีพม้วย  ช่วยพ้นภัย ฯ/				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงเอง
Lovings  ลุงเอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงเอง
Lovings  ลุงเอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงเอง
Lovings  ลุงเอง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลุงเอง