4 ธันวาคม 2550 09:33 น.

พระไตรลักษ์

ลุงแทน

-:- พระไตรลักษณ์
 
     พระไตรลักษณ์หนักหน่วงในดวงจิต 
 สุขุมคิดตรึกตรองให้นักหนา  
พิศ-เพ่งเล็งดูพระอนัตตา  
เป็นไม้เท้าก้าวหน้าหาหนทาง 
พระทุกขังตั้งไว้ให้มั่นคง
ค่อยดำรงชำระประสระสาง  
อวิชชาพาหลงกำบังทาง  
พระทุกขังแผ้วถางสว่างเตียน
กำจัดมืดโมโหให้ผ่องแผ้ว  
เหมือนดวงแก้วชูเชิดประเสริฐเศียร  
เอาสติตั้งไว้เป็นความเพียร  
ด้วยจำเนียรก่อสร้างในทางธรรม  
พระไตรลักษณ์ตักเตือนให้บริสุทธิ์
เหมือนมงกุฎสุดเหลืองเรืองอร่าม  
ดูงามขำรัศมีศรีวิไลล้ำ  
พระคุณธรรมเกื้อหนุนการุญงาม  
บรรดาศีลบริสุทธิ์ก็พร้อมเสร็จ  
เหมือนเกราะเพ็ชรสวมใส่ใน
สนาม  คอยป้องกันอวิชชาสง่างาม  
จะพาข้ามด่านเขตกิเลสมาร 
พระกรซ้ายทรงพระขรรค์อันผ่องศรี  
ถือขันตีอดใจในสงสาร  
ชำระกองกิเลสให้เด็ดพาล  
พระยนมารพ่ายแพ้ด้วยขันตี  
พระกรขวาทรงเครื่องศาสตราวุธ  
บริสุทธิ์เสด็จสอดพระ-แสงศรี  
เมตตาพาจิตให้เปรมปรีดิ์  
จะข่มขี่กุศลให้ม้วยมร  
พระกรุณาเบื้องขวารักษาสโมสร  
มุทิตาเป็นโยธาซ้ายพระกร  
ไม่ย่อหย่อนต่อภัยสิ่งไรมี  
พวกเสนาฆ่ามารราญณรงค์  
คือพรหมวิหารอุเบกขา  
ย่อมประหารมารม้วยให้มรณา  
ด้วยปัญญาเป็นดวงมณีนิล  
สำหรับส่องสว่างกระจ่างแจ่ม 
คือองค์กสิณจะมืดมน
อนธการก็ศูนย์สิ้น  
องค์กสิณสุกสว่างกระจ่างใจ  
เสร็จจะนั่งเหนือหลังสินธพชาติ
คืออิทธิบาททั้งสี่จะมีไหน  
ผ่อนพักอาชาพาเดินดำเนินไป  
เข้าหนทางใหญ่  คือพระอัฏฐังคิกมรรค 
 ผลทานเป็นเสบียงลำเลียงส่ง  
จะข้ามดงแดนเขตกิเลสมาร
สัจจังตั้งไว้เป็นศรัทธา  
ด้วยปัญญาอุปถัมภ์มาค้ำชู  
ไม่ย่อหย่อนผ่อนชักอาชาชาญ
พระยามารแลเห็นก็อดสู  
พระยามัจจุราชก็ไม่อาจจะแลดู  
ปิดประตูจตุราไม่อาวรณ์
วิริยะล้ำเลิศประเสริฐนัก  
ดังอินทร์องค์ทรงศักดิ์สโมสร  
บรรพชาดังว่าเป็นพระ-เมรุธร  
ไม่ย่อหย่อนต่อความที่พากเพียร  
สมาธิส่องตามส่งให้ตรงทาง  
วิปัสสนาแผ้วถางซึ่งหนามเสี้ยน  
พระโภชฌงค์ทรงโฉมคือโคมเทียน  
ไม่แวะเวียนตามส่งถึงนิพพาน  
ใครได้แล้วเหมือนได้แก้วมโนนึก  
ไม่ตรองตรึกที่จะยากในสงสาร
ไปเสวยรมณ์ชมสุขทุกประการ  
เหมือนวิมานเมืองฟ้าสุราลัย  
สุขอะไรจะมาสุขเหมือนเมืองแก้ว  
สุขเลิศแล้วสุขยิ่งทุกสิ่งสรรพ์  
พ้นวิสัยใครเลยจะเทียมทัน  
เป็นมหันตะมโหโอฬาร์ลาน 
แดนสถาน พิมานสุข ทุกท่านเอย ฯ				
4 ธันวาคม 2550 09:16 น.

รู้ไว้ใช่ว่า ฯ

ลุงแทน

...........เขาไม่ถาม  อย่าตะกราม  ตะกละกล่าว        
ไก่สามหาว  มิใช่ยาม  ตะกรามขัน
กลัวไว้หน้า  กล้าไว้หลัง  ระวังทัน             
คนทุกวัน  แปดเหลี่ยม  สิบสองคม
คนหน้าเนื้อ  ใจเสือ  ก็เหลือคบ                 
 ข้างนอกกลบ  หวานไว้  ข้างในขม
มะนาวเกลี้ยง  ก็ไม่ล้น  เท่าคนกลม            
เร็วกว่าลม  เหลี่ยมลบ  ตลบตะแลง
ฝนจะตก  เท่าไร  น้ำไม่ขัง                       
 ย่อมไหลหลั่ง  ลงรู  คูระแหง
รสไม่รู้  ดุจจวัก  ที่ตักแกง                        
จนปากแหว่ง  เปรี้ยวหวาน  ไม่พานรู้
ถึงมีหู  มีอยู่  ดังหูกะทะ                           
มีตาปะปะ  เหมือนสัปปะรด  น่าอดสู
ถึงมีปาก  ปากพล่อย  ดังหอยปู                 
มีเท้าคู้  มือตาย  เหมือนไม่มี
กระจกส่อง  มองเด่น  จะเห็นหน้า             
ปัญญาส่อง  ปัญญา  ชี้แจ่มใส
ตัวของตัว  ชั่วดี  มีเพียงใด                       
ไม่ต้องไป  หาหมอดู  ก็รู้ดี
จิตไม่ตาย  รูปไม่ตาย  อย่าหมายผิด           
รูปกับจิต  บอกหมด  ปลดนิสัย
รูปทั้งกอง  เปรียบเหมือนฟอง  ชลาลัย       
เกิดขึ้นแล้ว  ก็ดับไป  เป็นธรรมดา
ถ้ารู้จิต  ก็รู้จบ  พบธรรมะ                          
องค์พุทธะ  ปรากฏ  หมดโมหันต์
ละกิเลส เลสชั่ว ทรงรู้ทัน                    
ไม่กลับหัน ทรงประหาร อย่างชาญชัย
ธรรมจักร หลักธรรม นำพิสุทธิ์               
ได้วิมุติ หลุดลา จากภพสาม
มีพระธรรม ปะดุจ พุทธบูชา                  
ใช้ปัญญา พาสุข ทุกข์มลาย				
1 ธันวาคม 2550 19:16 น.

ฝากไว้...ก่อนไปสุรินทร์

ลุงแทน

*****มีทรัพย์เราควรใช*********ให้เป็นไปตามเหตุผล
ทรัพย์มีกันทุกคน....................มีเหตุผลใช้เป็นการ
*****หนึ่งควรใช้หนี้เก่า********พ่อแม่เราเป็นรากฐาน
เหตุท่านได้คลุกคลาน............และเจือจานเลี้ยงดูเรา
*****สองนั้นให้เขากุ้***********ช่วยอุ้มชูอย่างกังขา
ลูกรักในอุรา.........................เกิดมาด้วยโลหิตตน
*****ผิว่าชราลง****************ลูกนั้นคงไม่ฉงน
จักห่วงและกังวล...................ตอบแทนตนสนองคุณ
*****ข้อสามทิ้งลงเหว**********ดีหรือเลวไม่เคืองขุ่น
กินกันชุลมัน........................ช่วยเจือจุนหนุนชีพยัง
*****ข้าวปลาสารพัด***********ตามถนัดเราใช่ใหม
เหวนั้นคืออะไร....................จงรู้ไว้ท้องเราแล
*****ข้อสี่เก็บฝังไว้************พระจอมไตรไขกระแส
เอื้อนโอษฐ์โปรดปรานแปล...ข้อน้แท้ให้เราฟัง
*****จงนำไปฝังไว้************ที่ห่างไกลพวกโจรัง
ที่นี่เป็นที่ฝัง.........................บัณฑิตนั้นย่อมรู้ดี
*****ได้แก่บำเพ็ญทาน*******ช่วยเจือจานญาติสุขี
สร้างโบสถ์หรือเจดีย์.............พวกน้องพี่ในหมู่ชน
*****ผู้ใดจัดทำได้*************ย่อมพ้นภัยทุกแห่งหน
และยังติดตามตน.................อำนวยผลสุขนิรันดร์				
30 พฤศจิกายน 2550 20:02 น.

หลงป่า

ลุงแทน

.....หลงป่า..... 
  
 เป็นมนุษย์สุดแสนยากลำบาก
สุดแสนยากเพื่อเกิดอีกสักหน 
แต่มนุษย์ก็ลืมซึ่งตัวตน
ยังไม่พ้นบ่วงกรรมที่ดำเนิน 
เปรียบเหมือนคนเข้าป่าพนาไพร
ย่อมสุขใจสดใสและสุขสันต์ 
เดินเข้าป่าเข้าไปข้างในนั้น
แล้วก็พลันหลงทางกลับไม่เป็น 
พบหนทางแสนสุขสนุกล้ำ
ลำธารน้ำช่างใสเหมือนใจเห็น 
ยิ่งเพลิดเพลินเจริญใจก็ยิ่งเย็น
ช่างยากเข็ญจะกลับทางไม่มี....				
30 พฤศจิกายน 2550 19:31 น.

บทธรรมนำชีวิต

ลุงแทน

*****  อะวัชเช วัชชะมะติโน วัชเช จะ อะวัชชะทัสสิโน *****
มิจฉาทิฏฐิสะมาทานา สัตตา คัจฉันติ ทุคคะติง
     
เมื่อหมู่ชนพวกใดใจคิดผิด
วิปริตจากธรรมคำสั่งสอน
ไม่รู้โทษรู้คุณบุญบาปจร
จึงสับสนสำส่อนเสียสัมมา
เขาจึงถึงทุกข์มหันต์ในบั้นปลาย
จะโชคร้ายแต่ดิ้นสิ้นยศฐา
ต้องลำบากยากเข็ญเห็นทันตา
ในโลกหน้ามีนรกไว้หมกตน

Beings who imagine wrong in what is not wrong,
who do not see wrong in what is wrong, 
and hold wrong views go to a lower plane 
of existence (duggati)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลุงแทน