27 เมษายน 2553 00:52 น.

เรื่องเล่าของเด็กน้อย ตอนยากระเพาะ

ลูกหว้า

เรื่องนี้มีอยู่ว่า เด็กน้อยยังเป็นเด็กไร้เดียงสา.กินยาไม่ค่อยเป็น(มั้ง)เป็นเด็กที่กินยายาก ในบรรดาพี่น้องท้องเดียวกัน
กว่าจะกินยาได้ก้อทำพ่อ-แม่เหนื่อยหอบเพราะวิ่งตามจับไม่ทัน
แต่มีอยู่ช่วงนึงที่เด็กน้อยปวดท้อง มากกกกกกกกกกกกกกก
จนแม่ก็บังคับให้กินยากระเพาะคะซ฿งเด็กน้อยทานไม่เป็น
ก็ปกติเราทานยาก็แค่กลืนยาไปปตามด้วยน้ำใช่มั๊ยคะ
แต่นี่เด็กก็คือเด็กเคยทานยังไงก็จดจำไว้
พอแม่ให้ทานยาเด็กไม่รู้นี่คะ..ว่าต้องเคี๊ยวก่อนกลืนอ่า(แฮะๆต๊องส์เนอะคนอะไร)
ก็เลยกลืนคะพี่น้องทั้งหลาย..แล้วก็อ๊อกๆๆหน้าดำหน้าแดงเพราะยากระเพาะติดคอ ดีที่คุณพ่อคะเอามือตีหลังพลั๊ก
ยาหลุดออกจากหลอดลมได้อย่าหวุดหวิด
แล้วก็กลายเป็นเรื่องฮาๆที่พ่อแม่จะเอาเล่าให้ฟังเสมอๆ
เวลานัดรวมญาติในช่วงเทศกาล...
แล้วก็ได้ฉายามาว่า เจ้ามะเก่ากินยากระเพาะไม่เคี๊ยวก่อน
มีที่ไหนละ กินแบบนี้ แล้วทั้งบ้านก็ขำกันจนหน้าแดง^^				
21 เมษายน 2553 17:51 น.

;วันวานยังนึกถึง...ถึงแม้เขาจะลืมเราตลอดกาล(2)

ลูกหว้า

และแล้วเราก็พิสูจน์จนจบม้วนกันทีเดียวผู้ชม...
และเขายังมีหน้ามาว่าเราเป็นคนทำเขาควบคุมอารมณ์ดิบไมได้
เราอยู่เฉยๆแต่เขาตังหาก..(โทษได้โทษดีนึกตอนนนี้เจ็บใจโคตรๆบ้าไปได้ไง)

เรื่องยังไม่จบเราดันบ้ายก2ส่งเมสเสจหลังจากเขากลับไปแล้ว
นั่นไงทำไปได้เออ หนอคนเรา..เขาส่งกลับมาพร้อมกับคำว่า
เราคือเพื่อนกันจะไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอย่างวันนี้อีก..แถมนิดว่าเขาคิดแค่เพื่อนตัวใหญ่ๆๆๆเมื่อคิดดีๆๆแล้วและบอกว่าสิ่งที่เราบอกนั้นเป็นแค่ความหลง(แต่ไอ่เราหน้ามืดกู้ไม่กลับคับเพ่น้อง บ้าต่อ...)
แต่ก็นะบอกอย่างงั้นแต่เขาชอบมองปากเราเสมอไม่รูมองทำไมนักหนา..
จนเราแหละแอบอ้างไปคุยแกล้งเขาคืนจนรูว่าที่มองนะเพราะอยากkiss(ทำให้คิดอีกละตานี่ น่าฆ่า แล้วก้อไม่คบ)
แต่เราแกล้งเขาบ่อยๆจนเขาเกือบจับได้แต่ก็รอดปลบอดภัย
ตรงที่ปลอมตัวนี่แหละทำให้รู้ซึ้งว่า..ที่ความทสัมพันธ์สั้นนั้นเป็นเพราะว่าขณะที่ช/ญลึกซึ้งแต่ไม่ถึงแฟนเพราะ
ก่อนขึ้นเตียงความคิดอาจจะว่าคนนี้น่าคบ
แต่ทว่าหลังจากนั้นมันเปลี่ยนไปเพราะขึ้นเตียงนี่แหละผู้อ่านทั้งหลายยย
แล้วเราก็หลังจากที่พยามลบในสิ่งที่เขาทำกับเรา บอกตัวเองว่าเราอยู๋ได้แบบนี้ไม่ใช่รักแน่นอน แต่ก้อยังนึกถึงเขา...(น่านมันยังบ้าต่อ)

มันก็คลายเศ้ราได้บบบบบบ้างเขาบอกมาขนาดนี้นะ..เราก็ตาสว่าง
แต่ก้อนานวันกว่าจะเข้มแข็งนะแต่ก้อเอาคืนไปหลายเวอร์ชั่น..สะใจ!! 
ถึงจะเจ็บปวดแต่ก็ดีกว่าฝันเฟื้องเรื่องที่เป็นไปไมได้
ในเมื่อแค่เดือนเดียวเขายังลืมเราได้
เราก็ลืมได้ถึงจะค่อยเป็นค่อยไป

ยังมีอีกที่ว่าเขาบอกว่าสงสารคนที่มาชอบตัวเขาเพราะเขาไม่ได้คิดเกินเลย แบบนี้น่าฆ่านักว่ามั๊ย...

และมีว่า(ช่วงที่คุยกันตอนปลอมตัว)เขาชอบผูหญิงคนนึงแต่มันไกลกัน..ทำไม่ได้หรอกเลยเพือนดีกว่า.(เราตาสว่างไม่ตกหลุมเป็นครั้งที่2345อีกแล้ว)
ถึงจะพูดอย่างงั้นก็ฌหอะเรายังจดจำไออุ่นที่เคยได้รับพูดได้เลยว่าแฟนเราคนก่อนยังไม่รูสึกอุ่นแบบว่าปลอดภัยเหมือนเคยคิดว่าเขาคือคนที่ใช่ ตอนนั้นก็เคยถามว่ากลัวเค้าไหม ทำไมไว้ใจเขาจัง...

เฮ้อยังจำได้..แต่ไม่บ้าเหมือนตอนแรกอีกแล้ว..
แค่เห็นแค่รูว่าเขาอยู่ดีกินดีก้อดีแล้วว..
เราจะเป็นแค่สายลมทีพัดหายไป..ตลอดกาลอย่างที่เขาเป็น
อย่างที่เค้าต้องการ...				
21 เมษายน 2553 16:54 น.

วันวานยังนึกถึง...ถึงแม้เขาจะลืมเราตลอดกาล(1)

ลูกหว้า

ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครทราบว่าคนอย่างเรา-เรา
จะบ้าได้ขนาดนั้น มานั่งคิด-คิดดูแล้วช่างน่าขำทำไปได้นะเรา
ยัยบ๊องส์เอ๊ย
   มันเป็นเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้วช่วงเปิดเทอมเดือนมิถุนา
มันเป็นช่วงที่พวกเราปีสุดท้ายออกทัวร์นาเม๊นฝึกงาน
เพื่อชิมลางในการทำงานในอนาคตอันใกล้...
  เราก็เป็นนิสิตที่ได้ไปลองงานที่แห่งนึง..ไปรูจักรุ่นน้องที่เขาเทียบ
มาเรียนปีเดียวกับเรา..เราในตอนแรกไม่ได้คิดอะไรหรอก
คือเพื่อนสาวไปฝึกที่เดียวกับเขา.เราไปรับเพื่อน..
เพื่อนเราคนี้ก็แอบชอบแล้วอีตานั่นก็แบบว่าชอบมาชวนเพื่อนเราคุย
เพื่อยเราก้อนำเรื่องเขามาเล่าให้เราฟังเสมอ..
จนเหมือนว่าเรารูจักกันงั้นแหละ จำได้หมดว่าเขาหุ่นแบบไหน
ขับรถมอไซด์รุ้นไหน สีอะไร(เรียกว่าบ้าเข้าขั้น)ตอนแรกก็ยุเพื่อนนะ
แต่เพื่อนบอกว่าเขาดูไม่ได้คิดแบบเดียวกับเพื่อนเราเลย
เขาเป็นคนปากร้าย ใจดี...ในคววมคิดของเรากับเพื่อนสาว
และพอได้คุยกัน..เราก็เลยลองถามเขาว่าชอบเพื่อนเรีมั๊ย เขาบอกว่าถึงเพื่อนจะตรงสเป๊คแต่เขาว่ามันไม่ใช่...
   เราต้องปลอบเพื่อนขณะเดียวกันเขาก็คุยกับเรา
มาปรึกษาเรื่องแฟนของเขาเกือบทุกวัน
จนเราติดกลับ ...เหมือนกับว่าหากไม่ได้คุยเราจะตายอย่างไรอย่างงั้น...(อาการคล้ายคนหลงมากกว่า)
บางวันโทรศัพท์มาร้องไห้..ว่าแฟนบอกเลิกเจ็บ..เขาก็เล่าให้ฟัง
แต่ช่วงนั้นเขาไม่รูว่าเราก็ชอบเขา..เขาเลยคุยสม่ำเสมอ 
แต่เรากับเขาคุยกันไม่ได้หวานไรในช่วงแรกออกแนวกวนประสาทเบื้องล่างซะมากกว่า..แต่มาหลังๆที่เริ่มจะคุยแนวรักๆเลิฟๆ คิดถึง..
ซึ่งจุดเปลี่ยนเรื่องของเรากับเขาก็คือเขาว่าเราเหมือนทอมบอยซึ่งเราไม่ได้เป็น เลยเผลอท้าทายเขา...ว่างั้นมาพิสูจน์...
ปล.ขอค้างไว้ก่อนแล้วจะมาต่อให้จบ				
5 กุมภาพันธ์ 2553 17:20 น.

เด็กน้อยเล่าเรื่องตอน งูดิน

ลูกหว้า

งูดินใครใครก็คงเคยเห็น..ว่าลักษณะเป็นอะไร
อย่างไร..แต่ที่เด็กน้อยเจอนั่นก็นานนาม..
ก็ที่เจอมันเป็นงูดินน้อย..แต่ถึงจะตัวน้อยแต่มันก็มีพิษ
มิใช่น้อยละ!!

ตอนนั้นเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
เด็กน้อยไม่ได้ตามแม่วันพ่ออั๊ดไปทุ่งนา
ซึ่งทุกทีไม่เคยพลาด^^
แต่รอบนี้เด็กน้อยมัวเล่นกับเพื่อนข้างบ้านที่แก่กว่า1ปี
เด็กน้อยชอบมุดรั้วเตี้ยๆๆไปเล่นกับก้อยประจำ

แต่เด็กนะเวลาดีกันก็สนุกเวลาโกรธกันก็ไม่อยากเล่นกัน
เด็กน้อยโกรธเพื่อนเลยมุดรั้วหนีกลับบ้าน

แต่ก็ไม่เจอใคร..
แต่สายตาคู่เล็กก็"))ทะกับเจ้าสัตว์ตัวน้อยที่
เหมือนไส้เดือนสีดำแต่ดูไปดูมาเหมือนงู
แต่คนอย่างเด็กน้อยมีรึจะกลัวอ่า555+
ก็นั่งเล่นงูดิน..
ต อนแรกก็ฌอาเท้าแหย่ๆๆ
หลังเอาเท้าเล็กๆไปวางขวางทาง
ทีนี้เจ้านั่นเลยเลื้อยขึ้นเท้าจั๊กกาจี้ดี
เล่นไปเล่นมา..เป็นชั่วโมง(รึเปล่าไม่แน่ใจ)

น้าเขยก็มาเจอเข้าเป็นเรื่องเลย
โดนน้าดุว่า ตัวยุ่งทำไรอีกละเนี้ย
ซนจนได้เรื่องโนเทศนา
และก็โดนหนีบไปอยู๋บ้านตาเพราะกลัวจะเล่นไรอีก

สุดท้ายเด็กน้อยก็โดนด่าถ้วนหน้าว่าเล่นไรไม่เล่น
เล่นงูดิน...ขึ้นชื่อว่างูมันก็ต้องมีพิษแต่ขึ้นอยู่ว่าพิษเยอะมั๊ย?

งูคืออิสรพิษตัวยง..

ปล.เด็กน้อยไม่รู้นี่ว่างูดินมันมีพิษ แฮะๆๆ				
24 มกราคม 2553 16:26 น.

เรื่องเล่าของเด็กน้อยตอนปิเทอมหน้าร้อน2(ช่วยพ่อรึจะหาเรื่องให้พ่อฮึ)

ลูกหว้า

สมัยที่เด็กน้อยที่ยังซนๆๆตามวัย
ครั้งนึงปีที่พ่ออั๊ด-แม่วันและน้าหลั่นกับอารัญ
ที่ทำสวนที่เดียวกันคือพ่อแบ่งที่ให้น้ากับอาทำ
ตกลงว่าจะปลูกถั่วลิสง....

ด้วยความที่เด็กน้อยอยากจะช่วยเพราะหน้า(ฤดูเก็บ)นั้น
ก็เลยแอบตามพ่อไป
อ่าแล้วก็งานเข้าอิอิ

ก็เพราะว่าสวนศศลักษณ์นั้นอยู่บนดอย(เนินเขาเตี้ยๆไม่สูงมากนักแต่มีหลายม่อนหลายลูกแล้วบ้านพักก็อยู่บนสุด)
ครั้งตั้งแต่เล็กมาถ้าวิ่งลงเบรคไม่ทันก็ถลอกปอกเปิกแน่นอน
เคยถึงขนาดที่ช่วงตอนเย็นๆจะต้องลงดอยไปอาบน้ำข้างๆ
บ่อน้ำที่พ่อขุดไว้นานปี.....
วิ่งลงจนตัวกลิ้งลงเขาเหมือนลูกบอลแล้วก็ไปชนหิน..
สะบักสะบอมช้ำไปหมดแล้วก็โดนด่าทั้งคืนที่ซนเกิน
แต่บางทีไม่ได้ตั้งใจวิ่งแต่พลาดกลิ้งตกเกือบตกบ่อก็มี

ดีที่พ่อวิ่งไปช่วยทัน...(เด็กน้อยไม่ค่อยซนเลยเนอะคิกคิก)
ก็ต่อๆๆ ข้ามไปหลายดอยกลับๆๆ

ที่ค้างไว้คือจะไปช่วยพ่อกับแม่มักจะว่าแบบว่า..
จะช่วยรึจะทำให้วุ่นวายกันแน่เจ้าหนูนี่
เหอๆๆ..แล้วก็ไม่ขัดสักที
ให้ตามไปทุกทีแหละ

คือเด็กยังไงก็เด็กอุตริจะช่วย
ไม่ดุเลยว่ายิฃืนผิดท่า
แบบว่าเอาหลังลงดอย พอดึงถั่ว..ที่อยู๋ใต้ดินแรงน้อยแต่ฮึ๊ดบ่อยๆๆ
ถั่วเลยเกยขึ้นมาใช่มั๊ยทีนี้เรื่องที่ไม่คาดฝันคือกลิ้งตกดอยอ่า
กลิ้นหลุนๆๆพ่อตามไม่ทัน...
แล้วก็ดันกลิ้งไปตรงบ่อปลานิลของพ่อ
แล้วๆๆตอนแรกนึกจะตกน้ำแล้วละ
เด็ก3ขวบจะรอดไหมละนี่...

พ่อรีบวิ่งสุดๆๆเลยละแต่ดีที่กลิ้งไปติดตอไม้ตรงขอบสระ(บ่อปลา)
พ่อวิ่งมารีบอุ้มเราตกใจแบบว่า..
พ่อปลอบว่าขวัญม๊ษขวัญมาเป่าเพี้ยงตรงกระหม่อม
ตั้งแต่นั้นมาพ่อก็ไม่ให้ช่วยอีกเลย
เหอๆๆ
เสียดตายมาก555+
ซนไม่เข้าเรื่อง(จริงมะจ๊ะพี่ๆผู้อ่าน)
ถ้าไม่มีตอไม้ในวันั้นก็คงไม่มีเด็กน้อยในวันนี้..
เล่าวันละนิดจะได้มีเล่าต่อๆไปในวันหน้าฟ้าเปิดเวลาให้เล่นนานๆๆ				
ไม่มีข้อความส่งถึงลูกหว้า