5 ธันวาคม 2554 00:16 น.

บันทึกของพ่อ

ศรีสมภพ

บันทึกเก่า.. เล่าความจริง พ่อทิ้งไว้
ก่อนจากไป ท่านได้เขียนให้เรียนรู้
กว่าจะมี กว่าจะเห็นที่เป็นอยู่
ว่าได้สู้รู้คำสอน ..ก่อนเป็นจริง

บนผืนดินถิ่นนี้..ที่พ่อสร้าง
เคยรกร้างว่างเปล่า อับเฉายิ่ง
ดินเหือดแห้ง แดงดานถูกผ่านทิ้ง
ไร้ทุกสิ่ง นิ่งเนามายาวนาน

จอบพ่อขุด แรงพ่อฉุดขุดพลิกฟื้น
สองขายืน ฝืนใจใฝ่ขยัน
แววตาลูกฉุกขึ้น ต้องฝืนมัน
กลัวเจ้านั้นหิวลั่นร้อง ต้องจำทน

พ่อแบ่งที่มีอยู่ดูหลากหลาย
เป็นผืนนาผสมไร่ได้ผลิตผล
ขุดบ่อปลาปลูกสวนครัว ไม่กลัวจน
รวมอยู่บน ผืนดินถิ่นของเรา

พ่อสร้างฝายไม้ไผ่ ในคลองข้าง
เพื่อหยุดยั้งน้ำหลากกักเก็บเข้า
มีน้ำใช้ในหน้าแล้ง แบ่งบรรเทา
ไร่นาเรา..จึงอุดมอย่างกลมกลืน

ปลูกไม้ใหญ่ไว้เป็นร่มกันลมพัด
และเลี้ยงสัตว์ หมูเป็ดไก่ให้ครึกครื้น
ปุ๋ยอินทรีย์ มีพืชพันธุ์ อันยั่งยืน
ได้พลิกฟื้นผืนดินนี้ มีค่าพอ

มรดก..ผืนดินนี้ ที่พ่อให้
จงใส่ใจใฝ่ขยัน สืบสานต่อ
ให้ลูกรู้อยู่พอเพียง..ก็เพียงพอ
มรดกพ่อ..ก่อเห็นค่า ถ้าลูกทำ !

กราบบันทึก..นึกถึงพ่อขอสรรค์สร้าง
จะก้าวย่าง อย่างคำสอน ที่ย้อนย้ำ
ให้พอเพียง เพื่อเพียงพอ ขอจดจำ
บันทึกคำ น้อมนำนึก ..บันทึกใจ !				
4 ธันวาคม 2554 10:50 น.

ร้องเพลงให้พ่อฟัง

ศรีสมภพ

ฟังเสียงแอ๊ดคาราบาว เขาร้องเหมาะ
ช่างไพเราะ เสนาะคำ อันล้ำเลิศ
สะท้านฟ้า สะท้อนดิน ยินบรรเจิด
สุดประเสริฐเทิดไท้องค์..ผู้ทรงศรี

 ผู้ปิดทองหลังพระ  ผู้ละพ้น
เหนือกว่าคน  ..โพธิสัตว์เห็นชัดชี้
ชนกนาถบาทย่างวางวิถี
ธ ทรงมีเมตตา นำพาทาง

๖๕ ปี ที่ทุ่มเท อย่างท่วมท้น
คิดและค้น เห็นผลจริงสิ่งต่างๆ 
ราชดำริ ผลิดอกใบให้แนวทาง
งามสะพรั่ง หลากสะพัด ปัดเป่าภัย

ร่วมร้องเพลงให้พ่อ.. ต่อจากนี้
พร้อมใจพลี เพื่อองค์ท่าน สนั่นไท้
 ผู้ปิดทองหลังพระ  ประชาไทย
ศูนย์รวมใจ ศูนย์ดวงใจ ..ในแผ่นดิน

ร้องให้ดังๆ   ..ให้ได้ยินทั่วถิ่นไทย

http://www.youtube.com/watch?v=p6u9bPXxFtk

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

"...การทำงานด้วยน้ำใจรักต้องหวังผลงานนั้นเป็นสำคัญ แม้จะไม่มีใครรู้ใครเห็นก็ไม่น่าวิตก เพราะผลสำเร็จนั้นจะเป็นประจักษ์พยานที่มั่นคง ที่พูดเช่นนี้เหมือนกับสอนให้ปิดทองหลังพระ การปิดทองหลังพระนั้นเมื่อถึงคราวจ้าเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมากไม่ค่อยชอบ ปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองข้างหลังเลย พระจะเป็นพระที่งามสมบูรณ์ไม่ได้..." 

(พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๐๖)				
2 ธันวาคม 2554 12:09 น.

เล่าเรื่องพ่อ (เรื่องที่ ๓)

ศรีสมภพ

เล่าเรื่องพ่อ.. ขอนำกล่าวเรื่องราวย้อน
เป็นบทกลอนบรรเจิด..เพื่อเทิดเกล้า
องค์ราชัน จอมราชาประชาเรา
น้อมมาเล่า เข้าดิถี ๘๔  พรรษา....

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

เล่าเรื่องพ่อ (เรื่องที่ ๓)

" รอยยิ้มพ่อ..ที่อ่างฯ เขาเต่า "

 จันทร์ยิ้ม  พริ้มกลางฟ้า แล้วลับลาคราครั้งนั้น
ยิ้มพ่อ..คงเหมือนจันทร์   เฝ้ารอกัน..แต่ฝันค้าง !
พ่อทุกข์ระทมระทด    สุขหายหดเหมือนหมดหวัง
ลูกทะเลาะเหมาะประดัง        บ้านแทบพังไม่ฟังกัน
 ดาวเคียงเดือน..เหมือนเตือนใจ หวังจะให้ได้ตั้งมั่น
หยุดขัดแย้งแบ่งฟาดฟัน   แตกแยกกัน..ท่านระอา
จันทร์ยิ้ม..อิ่มใจบ้าง         ทั้งสองข้างนั่งมองฟ้า
หยุดทะเลาะเหมาะจริงหนา     นั่งมองหน้าไม่ว่ากัน

พอจันทร์หาย..ก็ได้เห็น   หน้าเริ่มเหม็นเป็นด่าลั่น
หลอกให้ดีใจกัน             ที่หยุดนั้น..มันพักยก !
ทุกอย่างยังเหมือนก่อน  ไม่ถ่ายถอนผ่อนตระหนก
สองค่ายไล่ตีชก   เหมือนลวงโลกหลอกลวงกัน

เรือยาว..เจ้าสายน้ำ       ฝีพายจ้ำนำแข่งขัน
กองเชียร์ไม่เพลียกัน        เชียร์กันลั่นมันสะเด็ด !
น้ำกว้างอ่างเขาเต่า    พสกเฝ้า..ล้นเกล้าเสด็จ
ทั่วไทยได้สังเกต       องค์ท่านเสด็จ..ด้วยเหตุอันใด ?

คุณทองแดง..เดินแซงหน้า  พระหัตถ์คว้าดึงเชือกไว้
พระพักตร์ผ่อง สีทองใส       พระวรกายก็แข็งแรง
ทรงถ่ายภาพนับไม่ถ้วน  ทรงแย้มสรวล..ชวนดูเรือแข่ง
สำราญสุขทุกข์หน่ายแหนง  คุณทองแดง..ตะแคงมอง

ทรงพระเจริญๆๆ ! เสียงดังลั่น   ดูเหมือนฝันสะท้านก้อง
ทั่วไทยหากได้มอง           น้ำตานองต้องสุขใจ
เห็นแล้ว..รอยยิ้มพ่อ !        ที่เฝ้ารอ ..ที่ฝันใฝ่
แค่ยิ้ม..ก็อิ่มใจ            ลูกหลานไทยได้เห็นกัน

อยากเห็น..รอยยิ้มพ่อ     จงหยุดพอ ก่อเรื่องให้ท่าน
เลิกราอย่าทะเลาะกัน  รอยยิ้มนานๆ..ท่านพร้อมทำ !

                                          ๒๙ ธ.ค.๕๑

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

http://www.youtube.com/watch?v=AsF6DLjEeis

ทอดพระเนตรแข่งเรือยาว

วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม 2551 ในหลวงเสด็จฯส่วนพระองค์ ทอดพระเนตรแข่งเรือยาวอ่างเก็บน้ำหัวหิน ผู้จัดปลาบปลื้มเผยไม่ทราบล่วงหน้า... 
      พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์   พร้อมด้วยท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม โดยพระองค์ ทรงเสด็จพระราชดำเนินจากพระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล มายังอ่างเก็บน้ำเขาเต่า โครงการพระราชดำริในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชดำริแห่งแรกของพระองค์  พร้อมด้วยคุณทองแดง โดยพระองค์ทรงสูทสีน้ำตาล สะพายกล้องถ่ายรูป 
       มีนายปานชัย บวรรัตน ปราณ   ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายจิระ พงษ์ไพบูลย์  นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหัวหิน ถวายการต้อนรับ เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 28 ธันวาคม ยังความปลาบปลื้มกับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง
นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ทีวีไทยทีวีสาธารณะ ผู้สนับสนุนการถ่ายทอดสดแข่งขันเรือยาวประเพณีตามจังหวัดต่างๆมาตลอดทั้งปี ซึ่งที่ อ.หัวหิน เป็นรายสุดท้ายของปี 2551   กล่าวว่า

 ไม่ทราบล่วงหน้าว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์     ทางทีมงานทุกคนต่างซาบซึ้ง เป็นอย่างยิ่ง และเชื่อว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีในการอนุรักษ์  ประเพณีสืบสานการแข่งเรือยาวประเพณี อีกทั้งทางรายการศึกษาทรรศน์ของโรงเรียนวังไกลกังวล หัวหินสถานีโทรทัศน์ไทยคม ก็ได้เดินทางมาติดตามบันทึกเทปการแข่งขันเรือยาวประเพณี ตามพระประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อการแข่งขันเรือยาวรอบชิงชนะเลิศเริ่มขึ้น เรือที่เข้าร่วมแข่งขันจากจังหวัดต่างๆ ต่างทยอยพายเรือมาบริเวณหน้าพระที่นั่ง ก่อนทยอยพายเรือออกไป โดยผู้แข่งขันทั้งหมดต่างก้มหมอบต่อหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และขณะที่การแข่งขันเรือยาวดำเนินไป  พระองค์ทรงยกกล้องถ่ายรูปการแข่งขันตลอดเวลาและทรงแย้มพระสรวลโดยมีคุณทองแดงนั่งอยู่ใกล้ที่ประทับตลอดเวลา 

โดยประชาชนได้เปล่งเสียง ทรงพระเจริญ  ดังกึกก้อง เป็นระยะๆ ก่อนที่จะเสด็จพระราชดำเนินกลับ

                           " ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน "				
2 ธันวาคม 2554 01:37 น.

เล่าเรื่องพ่อ (เรื่องที่ ๒)

ศรีสมภพ

เล่าเรื่องพ่อ.. ขอนำกล่าวเรื่องราวย้อน
เป็นบทกลอนบรรเจิด..เพื่อเทิดเกล้า
องค์ราชัน จอมราชาประชาเรา
น้อมมาเล่า เข้าดิถี ๘๔  พรรษา....

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

     
     เล่าเรื่องพ่อ (เรื่องที่ ๒)
 
" รอยยิ้มจันทร์ ..รอยยิ้มพ่อ "

จวนค่ำย่ำสนธยา   สิ้นแสงกล้าแห่งอาทิตย์
จันทร์เสี้ยวเกาะเกี่ยวติด เคียงข้างชิดสะกิดสองดาว

บน..ศุกร์สุกสดใส   พฤหัส..ซ้ายคล้ายตาเจ้า
ล่างพริ้มปากยิ้มเย้า   เปล่งสกาว พร่างพราวตา

ธรรมชาติวาดเหมือนฝัน  ปรากฎการณ์อันเจิดจ้า
จันทร์ยิ้มอิ่มอุรา        โปรยจากฟ้า..มาสู่ดิน

บนโลก โศกสลด        พลันก็หมด มลายสิ้น
การเมือง เรื่องโหดหิน    ทั่วไทยถิ่น สิ้นซาลง

ต่างจ้องมองฟากฟ้า     ช่างงามตา อ่าระหง
เคืองโกรธก็ปลดปลง      เยือกเย็นลงตรงประเด็น

รอยยิ้ม.. รอยยิ้มพ่อ !  เมื่อไหร่หนอ..พอให้เห็น
เอิบอิ่มยิ้มเยือกเย็น    ช่างยากเข็ญไม่เห็นนาน

ลูกหลานพาลทะเลาะ   คงไม่เหมาะ จะยิ้มนั่น
กล้ำกลืนฝืนจาบัลย์    จะให้ท่าน..ยิ้มอย่างไร !

อยากเห็น..รอยยิ้มนั้น  ต้องร่วมกัน สร้างสรรค์ให้
สมานสมัครรักกันไว้    รวมหนึ่งให้..ท่านได้ชม

มาเถิด..วันเกิดพ่อ  ช่วยเติมต่อ พ่อสุขสม
ร่วมมือถือพนม     พร้อมกราบก้ม..ชมยิ้มพ่อ

จันทร์ยิ้ม พริ้มสดใส  พ่อยิ้มได้ ชื่นใจหนอ
นัยน์ตา น้ำพร่าคลอ  รู้แล้วหนอ..พ่อท้อใจ

                                          ๑ ธ.ค.๕๑

                                      ( ปรากฎการณ์พระจันทร์ยิ้ม )


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

       ปรากฏการณ์พระจันทร์ยิ้ม หรือ ดาวเคียงเดือน เป็นปรากฏการณ์ที่มีลักษณะเหมือนคนกำลังยิ้ม โดยดาวคู่ดังกล่าว ได้แก่ดาวศุกร์ อยู่เคียงกับ ดาวพฤหัสบดี มองใกล้กันเพียง 2 องศา ในระยะบนท้องฟ้า และจะมีดวงจันทร์เสี้ยว ขึ้น 3 ค่ำ อยู่ข้างล่างดาวทั้งสองดวง ที่ห่างดาว เพียง 2 องศา ซึ่งสามารถสังเกตได้ในประเทศไทยครั้งล่าสุดเมื่อ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551
       ปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือนจะเกิด 2 ครั้งห่างกันประมาณ  10 เดือน ทุก 2 ปีครึ่ง มีลักษณะเป็นดวงดาว 3 ดวง ซึ่งได้แก่  ดาวศุกร์ (ดาวประจำเมือง) ดาวพฤหัสฯ และ ดวงจันทร์ โคจรเข้ามาใกล้กัน โดยดวงจันทร์หงายอยู่ด้านล่าง ดาวอีก2ดวง และอยู่ ในระยะที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ปรากฏการณ์นี้จะมองเห็นได้ไม่นานนัก เพราะดาวจะตกเร็วลับจากขอบฟ้าจากการ ที่โลกหมุนรอบตัวเองตลอดเวลา
เคยเกิดปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือนมาแล้ว 1 ครั้งในวันที่     1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 และจะเกิดอีกครั้งในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551 จากนั้น จะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงใกล้สว่างของ วัน    ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 และช่วงค่ำวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

ปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือนนี้เป็นเหมือนหน้าพระจันทร์ยิ้มบนท้องฟ้ามองลงมา ซึ่งอาจเปรียบได้ว่าอาจจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นหลังจากที่บ้านเมืองวุ่นวายมานาน


                              "  ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน "



				
1 ธันวาคม 2554 11:43 น.

เล่าเรื่องพ่อ (เรื่องที่ ๑)

ศรีสมภพ

เล่าเรื่องพ่อ.. ขอนำกล่าวเรื่องราวย้อน
เป็นบทกลอนบรรเจิด..เพื่อเทิดเกล้า
องค์ราชัน จอมราชาประชาเรา
น้อมมาเล่า เข้าดิถี ๘๔  พรรษา....

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
 
เล่าเรื่องพ่อ (เรื่องที่ ๑)    พระสหายแห่งสายบุรี 

วาเด็ง ปูเต๊ะ.. ต้อนวัวเสียงรัวก้อง
ใบหน้าอิ่มยิ้มย่องมองไปทั่ว
ถึงชราล้าพลังไม่ยั้งกลัว
มีชีวิต จิตไม่ชั่ว กลัวอะไร !

คนแปลกหน้าท่าดีมียศศักดิ์
มาถามทัก ถิ่นนี้มีมาแต่ไหน ?
แห้งแล้งซ้ำน้ำท่วมล้น ผลอย่างไร ?
แถลงไขให้แจ้งชัด เพื่อจัดการ

เป๊าะเด็งตอบ ชอบใจไมตรีจิต
ทำครุ่นคิดจำติดใจ ใครกันนั่น !
ควักธนบัตร ดูรูปองค์เห็นตรงกัน
ใช่แล้วท่าน ! ทั้งพระองค์ อยู่ตรงหน้า

นุ่งโสร่งโปร่งกาย อธิบายชี้
พร้อมถวายที่ ให้โครงการสานคุณค่า
ขุดคลองส่งชลประทานผ่านไร่นา
ทรงตรัสว่า..เป็นสหายแห่งสายบุรี

นับแต่นั้น สิบกว่าปี มีน้ำใจ
เก็บผลไม้ถวายองค์ผู้ทรงศรี
มอบใจภักดิ์ รักในองค์ทรงปรานี
ดูทีวี มีข่าวท่าน ตื้นตันใจ

ข่าวสหาย ได้จากจอพอรู้แจ้ง
รวมเรี่ยวแรง เงินตรามาเยี่ยมไข้
สวดดูอาร์ หน้าตึกองค์ ทรงหายเร็วไว
จากหัวใจ.. สหายแกร่งแห่งสายบุรี !

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

วาเด็ง ปูเต๊ะ พระสหายแห่งสายบุรี ลงนามถวายพระพร
    
เมื่อวันที่ 26 กันยายน2552  บริเวณศาลาศิริราช 100 ปี
โรงพยาบาลศิริราช นายวาเด็ง ปูเต๊ะ หรือ "เป๊าะเด็ง" อายุ 93 ปี 
หรือรู้จักในนาม  " พระสหายแห่งสายบุรี "  พระสหายของพระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดินทางโดยเครื่องบิน จากบ้านบาเลาะ ต.ปะเสยะวอ 
อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เพื่อมาลงนามถวายพระพร โดยนายวาเด็งได้รับ
พระมหากรุณาธิคุณให้เป็นพระสหาย เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ณ โครงการพัฒนาพรุแค 
อ.สายบุรี   จ.ปัตตานี เมื่อปี พ.ศ.2530 ทรงเห็นว่า นายวาเด็งเป็นคนพูดจา
ตรงไปตรงมา จริงใจ  จึงโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระสหาย  ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จากนั้น ในหลวง คงจะทรงลองใจเป๊าะ จึงตรัสถามขอที่ดินเพื่อทำโครงการ
พระราชดำริ ด้วยความปลาบปลื้ม เป๊าะ จึงขอยกที่ดินถวายให้พระองค์ทันที ในหลวง จึงแย้มพระสรวล และมีพระราชดำรัสว่าให้ เป๊าะ เป็น "พระสหาย" ตั้งแต่บัดนั้น ในหลวง ตรัสเรื่องนี้ว่า 
  
    " วาเด็งเป็นคนซื่อตรง..จึงขอแต่งตั้งให้วาเด็งเป็นเพื่อนของในหลวง "

 พร้อมทรงชวนให้ เป๊าะ และภรรยาเดินทางไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ และเมื่อพระองค์เสด็จมาสามจังหวัดก็เรียกให้เข้าเฝ้าที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์
ทุกครั้ง

                    "  ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน "				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงศรีสมภพ