3 ธันวาคม 2554 11:50 น.

เมืองเหนือเมื่อเหมันต์

สุนทรวิทย์

สายลมหนาว  พัดมา  อากาศแล้ง
				ผืนดินแห้ง  ปริแตก  แยกพื้นผิว
				ยอดสนโอน  แกว่งไกว  ใบร่วงปลิว
				ชวนสยิว  แผ่ซ่าน  สะท้านกาย
	
   				      ไปขึ้นเขา  นอนภู  ดูแสงจันทร์
				รับตะวัน  ยามเช้า  เพราเฉิดฉาย
				ชมทุ่งดอก-บัวตอง  ผ่องเรียงราย
				ดอยแม่สาย  แม่สะเรียง  เยี่ยงพิมาน
					
             แม่ฮ่องสอน  เชียงราย  เชียงใหม่นั้น
				วิลาวัณย์  ราวกะ  ทิพสถาน
				ถึงหน้าหนาว  คราวใด  ใจเบิกบาน
				ปรากฏการณ์  ธรรมชาติ  ดาษดา
					
              กลุ่มไอหมอก  ลอยเลื่อน  เกลื่อนเคว้งคว้าง
				เกล็ดน้ำค้าง  บางใส  จับใบหญ้า
				ไม้ยืนต้น  เถาวัลย์  กรรณิกา
				แต่งหุบผา  ให้วิจิตร  พิสดาร
					
             เที่ยวเมืองเหนือ  กี่ครั้ง  ยังหลงใหล
				แผ่นดินไทย  รื่นรมย์  สมถิ่นฐาน
				ดงดอยล้วน  วน  อุทยาน
				งามตระการ  ปานแดนฟ้า  เทวารัณย์				
3 ธันวาคม 2554 11:41 น.

คำสอนของแม่

สุนทรวิทย์

มวลบุปผา   มาลี  หลากสีสัน                             
            		สารพัน  ยวนตา  น่าถนอม
								หมู่ภมร  รุมเร้า  เฝ้าไต่ตอม
  		ครั้นหมดหอม  ราโรย  ก็โบยบิน
                        		   	         		
                     ดอกเฉาลง  หล่นไป  พลันไร้ค่า
                 ความโสภา  อ่อนช้อย  พลอยสูญสิ้น
             มิดึงดูด  ยั่วเย้า  เหล่าภุมริน
   				ทั้งสีกลิ่น  กลีบวาย  กลายเป็นตม

                  		ดุจสตรี  สุดงาม  ยามแรกสาว
       		        วัยถึงคราว  อภิราม  งามเหมาะสม
         	   เป็นที่ต้อง  ตาชาย  หมายนิยม
        หวังเชยชม  เนื้อทอง  ด้วยผ่องพรรณ
                        		    	      	
                    	ฟังหน่อยเถิด  ศรีสุดา  นารีเอ๋ย
                 ห้ามละเลย  หลงเล่ห์  เสน่ห์หรรษ์
             	พึงหวงแหน  ฐานะ  พรหมจรรย์
       	ชีวิตนั้น  รอก้าว  อีกยาวไกล
       
                     	แม้นเสียกาย  ง่ายดาย  ชายจักหมิ่น
     		            เกิดมลทิน  แก่ตัว  มัวหมองไหม้
               	พลาดพลั้งแล้ว  จะโกรธ  โทษผู้ใด
           		เหมือนดอกไม้  เหี่ยวเฉา  เขาไม่แล
                   
     		    	       		ลูกผู้หญิง  มั่นคง  ทะนงศักดิ์
               		หากคิดรัก  สักหน  ยลแน่วแน่
             	จิตใจคน  เรียนรู้  ดูถ่องแท้
			      	คำสอนแม่  จำไว้  อย่าได้ลืม				
2 ธันวาคม 2554 12:51 น.

วาจาเปรียบอาวุธ

สุนทรวิทย์

พูดดี  เป็นศรีปาก		
  	หากพูดมาก  ปากขึ้นสี
			พังเพย  เอ่ยไว้มี				
   เป็นวจี  ที่น่าฟัง
				
        ติใคร  ให้ต่อหน้า  		
  	อย่านินทา  ว่าลับหลัง
			ปากบอน  หย่อนระวัง		
 		คนจะชัง  ดังศัตรู
	
     			เบื่อนัก  คำปรักปรำ		
  	กล่าวทิ่มตำ  รำคาญหู
			ใครเซื่อง  ใครเฟื่องฟู		
 		อวดสู่รู้  อยู่เนืองนิตย์
	
     			ปากคอ  หนอมนุษย์			
   แส่ไม่หยุด  ชวนหงุดหงิด
			พูดพล่าม  ไร้ความคิด		
 		แม้แต่มิตร  ยังบิดเบือน
	
      			วาจา  เปรียบอาวุธ
			ยามประทุษ  สุดเชือดเฉือน
			เกินห้าม  ปรามตักเตือน
			ดุจกลากเกลื้อน  เคลื่อนลุกลาม

    				ขัดเคือง  เรื่องใดใด
			นึกข้องใจ  ควรไถ่ถาม
			มิใช่  มุ่งใส่ความ		
 		เที่ยวประณาม  ตามอารมณ์				
2 ธันวาคม 2554 12:40 น.

รักคนอ้วน

สุนทรวิทย์

แม้เธออ้วน  เกินเยียวยา  หนักกว่าหมู
					ยังน่าดู  หากเปรียบ  เทียบช้างสาร
					ถึงเนื้อหนัง  ภายนอก  บอกหย่อนยาน
					คิดว่าความ  สะคราญ  หว่านอยู่ใน

						แม้เธอจะ  กินจุ  ดุเหมือนเสือ
					ฉันกลับเชื่อ  แน่วแน่  พอแก้ไข
					ถึงผิวกาย  หมักหมม  อมขี้ไคล
					ยังไฉไล  สะอาดกว่า  เปื้อนอาจม

						แม้เธอมัก  อวดรู้  บ่นจู้จี้
					มองแง่ดี  ก็ไพเราะ  ฟังเหมาะสม
					บ่อยครั้งเธอ  ชม้าย  แอบผายลม
					ฉันว่าดม-ดมไป  คล้ายทุเรียน

						เพราะเธออ้วน  อุดม  สมรูปลักษณ์
					ฉันจึงรัก  ภักดี  มิมีเปลี่ยน
					พวกเพื่อนปาก-ปีจอ  ชอบล้อเลียน
					คอยติเตียน  ดูเบา  ยากเข้าใจ

						เขาไม่รู้  คุณค่า  ว่าคนอ้วน
					มีเสน่ห์  ยั่วยวน  ชวนหลงใหล
					จะกอดซ้าย  ป่ายขวา  อุ่นกว่าใคร
					มีแต่ได้  กับได้  ไม่ขาดทุน				
2 ธันวาคม 2554 10:57 น.

ปลัดขิก

สุนทรวิทย์

ฉันมี  ปลัดขิก  รุ่นกิ๊กหลง
			เป็นรูปทรง  องคชาติ  ขนาดใหญ่
			อนุภาพ  ศักดิ์สิทธิ์  ติดตัวใคร
    คนหลงใหล  ได้ปลื้ม  มิลืมตา
			
        	เป็นของทวด  โบราณ  เก่านานเนิ่น
   ยากสรรเสริญ  จาระไน  ได้สมค่า
   ยิ่งมิอาจ  ประเมิน  เทียบเงินตรา
			มีราคา  ล้นเหลือ  เหนือเพชรทอง
				
         ดุ้นนี้เคย  ช่วยให้  ได้เมียสวย
			รวมอาหมวย  น่าหยิก  กิ๊กอีกสอง
			สาวข้างบ้าน  โสภี  สามพี่น้อง
			ยอมอุ้มท้อง  พร้อมเพรียง  มิเกี่ยงงอน
				
           ขณะนี้  ตกอับ  เกิดสับสน
			ด้วยรถยนต์  บ้านช่อง  จำต้องผ่อน
			ขาดเงินอยู่  ส่วนหนึ่ง  จึงเดือดร้อน
			มาอ้อนวอน  เพื่อนช่วย  ด้วยจำเป็น
				
          ขอสองแสน  เท่านั้น  ฉันยอมปล่อย
			เงินเล็กน้อย  คุ้มค่า  น่าจะเห็น
			หากมิใช่  คับขัน  ขั้นลำเค็ญ
			เลือดกระเซ็น  ก็ไม่  ขายผู้ใด
				
          อย่าลังเล  เบี่ยงบ่าย  คล้ายย่อแหยง
			คิดว่าแพง  ไตร่ตรอง  ต่อลองได้
			เหลือแสนห้า  โต้หลง  จงซื้อไป
			หากยังไม่  พึงพอ  ขอแสนเดียว
				
         เพื่อเห็นแก่  สัมพันธ์  งั้นห้าหมื่น
			เลิกแตกตื่น  งึมงำ  ทำขี้เหนียว
			หรือหมื่นห้า  ดูสม  ควรกลมเกลียว
			อย่าหน้าเซียว  อยู่เลย  เอ่ยสักคำ
	
			ถ้าห้าพัน  เอาไหม  ไม่ต้องต่อ
			มัวรีรอ  อะไร  ไอ้บักหำ
			งั้นห้าร้อย  ขอหนา  อย่าใจดำ
			ไอ้ระยำ  บอกบาทเดียว  ก็ไม่เอา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์