15 กันยายน 2554 12:04 น.

กฎแห่งกรรม

สุนทรวิทย์

เมื่อยังอยู่  วุ่นวาย  ไม่รู้จบ
					ตอนเป็นศพ  ม้วยมรณ์  นอนแน่นิ่ง
					วัฏสงสาร  เห็นชัด  ล้วนสัตย์จริง
					สรรพสิ่ง  อนิจจัง  มิยั่งยืน
						
          ทรัพย์สมบัติ  หมุนเวียน  เปลี่ยนเจ้าของ
					สังขารต้อง  พรากพรัด  สุดขัดขืน
					เกิดแล้วดับ  ลาลับ  ไม่กลับคืน
					จงเร่งตื่น  จากโมหันธ์  ทัณฑ์โลกีย์
						
           สร้างกุศล  ผลบุญ  ตุนไว้เถิด
					แม้กำเนิด  กี่ภพ  คงสบศรี
					สุขเพียบพร้อม  สมบูรณ์  พูนทวี
					เพราะกรรมดี  ค้ำจุน  เป็นทุนรอน
						
           คนหลงผิด  คิดชั่ว  เกลือกกลั้วบาป
					เคลิ้มซึมซาบ  งมงาย  ในสิ่งหลอน
					เลือกฝักใฝ่  อธรรม  กลัมพร
					ย่อมทุกข์ร้อน  ตกต่ำ  ยามกรรมทัน
						
            จะทำดี  ทำชั่ว  เข้าตัวหมด
					ข้อกำหนด  กฎแห่งกรรม  ธรรมขันธ์
					ความชั่วคือ  ประตู  สู่โลกันตร์
					ส่วนสวรรค์  สรรค์ไว้  ให้คนดี				
15 กันยายน 2554 12:00 น.

ไม้ผลัดใบ

สุนทรวิทย์

พฤกษา  ผลิใบใหม่  ไม่หยุดนิ่ง
        ใบแก่ทิ้ง  กลบดิน  คล้ายสิ้นค่า
    เช่นทุกเผ่า  พันธุ์เกิด  กำเนิดมา
 ถึงเวลา  ย่อมแตกดับ  ล่วงลับไป

             พิเคราะห์ดู  ยอดไม้  ใบอ่อนอ่อน
         เปรียบเด็กตอน  ไร้เดียงสา  คราสดใส
      รอก้าวสู่  คืนวัน  อันยาวไกล
  ผจญใน  อนาคต  หวังงดงาม

             โลกภายหน้า  ใช่โสภี  อย่างที่คิด
        ทางชีวิต  อุปสรรค  มักล้นหลาม
    ปัญหาอีก  มากมาย  หมายคุกคาม
 หากบุ่มบ่าม  อาจพลั้ง  ทั้งชีวี

             กว่าจะโต  เติบใหญ่  ได้ดั่งฝัน
        บ้างมีอัน  ม้วยมรณ์  ก่อนสุขศรี
    พวกยังอยู่  คงยุ่งยิ่ง  แข่งชิงดี
 ตามวิถี  มนุษย์  สุดวุ่นวาย

            จวบชรา  ใกล้ฝั่ง  สังขารแย่
        ดุจไม้แก่  แห้งเหี่ยว  เรี่ยวแรงหาย
    ใครบุญช่วย  ก็ไร้ทุกข์  สุขสบาย
 คนโชคร้าย  สิลำบาก  ยากลำเค็ญ

            มองย้อนหลัง  สักหน่อย  ค่อยวินิจ
        เรื่องถูก,ผิด  บาดหมาง  ต่างเคยเห็น
    พวกแก่งแย่ง  ดีเดือด  เลือดกระเซ็น
 ล้วนตกเป็น  ข้าทาส  อำนาจทรัพย์

            ซากพืชเน่า  ทับถม  จมเกิดปุ๋ย
        ดินร่วนซุย  รับคุณ  อุดหนุนกลับ
    นรชาติ  ผลาญพร่า  โลกายับ
 เมื่อตายดับ  คืนอะไร  ให้แผ่นดิน?				
15 กันยายน 2554 11:40 น.

เลือดเนื้อเมื่อถูกลืม

สุนทรวิทย์

ฉันอาศัย ในกระท่อม เก่าซอมซ่อ
		ขาดทั้งพ่อ และแม่ คอยแลเหลียว
		เหลือแต่ยาย เลี้ยงดู เพียงผู้เดียว
		ขาลีบเหี่ยว มีกรรม จำอดทน
	
     		อยู่กับยาย ดิ้นรน มาจนสาว	
		ได้ยินข่าว แม่บ้าง เป็นบางหน
		ยายว่าแม่ มีผัวใหม่ อีกหลายคน	
		เลิกกังวล สนใจ ให้ป่วยการ

    			ส่วนพ่อฉัน นั้นยาย ไม่เคยเห็น			
  รู้แค่เป็น  คนงาน ร้านอาหาร
		ตอนแม่ท้อง พ่อผลุนผลัน อันตรธาน
		มิรู้บ้าน หลักแหล่ง อยู่แห่งใด
	
     		ฟังยายเล่า ทีไร หัวใจแป้ว		
 	ถึงหมาแมว ยังรักลูก ผูกพันใกล้
	 	ฉันกลับโดน ทิ้งขว้าง จนห่างไกล	
		เป็นลูกใคร ไม่อาจรู้ อดสูจัง

   			กระนั้นฉัน คงกระหาย ใคร่พบแม่
		อยากเยียวยา บาดแผล แต่หนหลัง
		แม่จ๋าแม่ ลืมชื่อ หนูหรือยัง		
		หนูเพียรนั่ง ชะแง้ รอแม่มา
						********************
	  		เสียงรำพัน ของเด็กสาว ชวนหนาวเหน็บ
 	แถมป่วยเจ็บ อนาถ ขาดรักษา
		วันวันทน เงียบเหงา เศร้าโศกา	
		กลืนน้ำตา จับเจ่า เฝ้าบนบาน 
	
 		    แม่ของเธอ อยู่ไหน ใครรู้บ้าง	
		ช่วยหาทาง บอกกล่าว ส่งข่าวสาร
		ว่าลูกเธอ ขื่นขม มานมนาน	
		นอนพิการ คุดคู้ อยู่บ้านนา

    			หากมีความ เป็นแม่ แม้กระพี้	
		จงเร่งรี่ เร็วไว กลับไปหา
		ให้ลูกได้ รู้จัก หน้าสักครา	
		อย่าเย็นชา ปล่อยปละ ควรละอาย
						********************
    			อีกหลายปี ผ่านพ้น บนความช้ำ
		เสียงครวญคร่ำ จำเจนั้น พลันเงียบหาย
		ได้ยินว่า เธอผ่ายผอม ตรอมใจตาย	
		เคียงข้างยาย ที่ม้วยมรณ์ ก่อนหน้าเธอ

    			ชีวิตหนึ่ง กำพร้า แต่ทารก		
 	ในหัวอก หดหู่ อยู่เสมอ
		ร่ำเรียกแม่ ทั้งตื่นหลับ กลับไม่เจอ	
		สู้พร่ำเพ้อ ถวิล จนสิ้นลม

   			บนโลกซึ่ง จำแลง ด้วยแสงสี	
 		คนอัปรีย์ ใจจืด กลับถืดถม
	 	มิรู้ผิด รู้ชอบ ตอบสังคม		
		ภาพระทม จึงปรากฏ มิหมดไป

   			เดียรัจฉาน ยังปกปัก รักลูกยิ่ง		
 	คนกลับทิ้ง เลือดเนื้อ เชื้อสายได้
		คนกับสัตว์ จัดชั้น กันอย่างไร	
		แท้จริงใคร พันธุกรรม ต่ำกว่ากัน				
14 กันยายน 2554 14:45 น.

นักเรียน นักเลง

สุนทรวิทย์

เขาเกาะกลุ่ม  ผงาด  เดินมาดเขื่อง
					คุยโตเรื่อง  นักเลง  เบ่งศักดิ์ศรี
					พกอาวุธ  เต็มอัตรา  พร้อมราวี
					แต่งชุดหมี  วางท่า  ข้าช่างกล
						
           พบใครต่าง  สถาบัน  พาลหมั่นไส้
					รี่เข้าใส่  ดุจอาฆาต  ขาดเหตุผล
					ทำร้ายไม่  ยั้งคิด  จิตวิกล
					นี่หรือปัญ-ญาชน  คนร่ำเรียน
						
            พ่อ,แม่ ท่าน  ตั้งใจ  ให้ศึกษา
					ไฉนมา  ระราน  แทนอ่านเขียน
					ทิ้งเถอะความ  น่ารังเกียจ  ชอบเบียดเบียน
					แล้วพากเพียร  ไขว่คว้า  หาวิชา
						
            การคะนอง  กักขฬะ  ไร้สติ
					อุตริ  หุนหัน  ก่อปัญหา
					ย่อมเป็นที่  ติฉิน  หมิ่น,ระอา
					พาบิดา  มารดร  ทุกข์ร้อนใจ
						
            หยุดเสียที  ค่านิยม  บ่มผิดผิด
					เลิกยึดติด  สถาบัน  รั้นเหลวไหล
					ทางข้างหน้า  มุ่งหวัง  ยังยาวไกล
					พลาดพลั้งไป  อนาคต  จะหมดลง				
14 กันยายน 2554 14:38 น.

รักจริงหวังแต่ง

สุนทรวิทย์

รักใคร  ว่าใหญ่ยิ่ง
 		เหนืออ้างอิง  สิ่งไหนไหน
			รักนั้น  จะฉันใด	
 		ไม่เท่าใจ  ฉันให้เธอ
	
    			หวงแหน  แสนคลั่งไคล้
  	จิตฝักใฝ่  ใคร่เสนอ
			มอบฝัน  อันเลิศเลอ
			พร้อมปรนเปรอ  เสมอไป

   				จงรัก  และภักดี
 		แม้เธอมี  กี่เงื่อนไข
			บุกน้ำ  ย่ำลุยไฟ
			ยอมรับใช้  ไม่เกี่ยงงอน

   				ขันติ  มิเอนเอียง		
   หมายร่วมเรียง  เคียงสมร
			เถิดหนา  อย่าตัดรอน
			รักเลยอ้อน  วอนเรื่อยมา

   				จริงใจ  ใช่โลเล
 		จึงทุ่มเท  เสน่หา
			เพียรง้อ  ขอวิวาห์
			หวังกานดา  คงอาทร

   				ยามใด  ได้ผูกพัน	
  	ร่วมชีวัน  บรรจถรณ์
			จักเฝ้า  เคล้าอิงอร	
 		ยามหนาว,ร้อน  ช่วยผ่อนคลาย
	
    			วันนี้  ฤกษ์ศรีวัน
 		พี่ยกขัน-หมากมั่นหมาย
			มาขอ  ต่อแม่ยาย
			น้องโปรดได้  รับไมตรี

   				ดิน,ฟ้า  เทวารักษ์
 		แจ้งประจักษ์  เป็นสักขี
			เราสอง  ครองชีวี	
 		ไม่หน่ายหนี  ลี้ห่างไกล
	
    			พี่กิ่งทอง  น้องใบหยก
 		ลูกคงดก  กันยกใหญ่
			หลานหลาน  บานตะไท
 		คืนกำไร  ให้พ่อตา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์