8 ธันวาคม 2552 14:54 น.

ความสงบ

สุนิพนธ์

ความสงบ

บึงกว้างใหญ่ไร้คลื่นทะมึนนิ่ง
สรรพสิ่งเงียบงันจนหวั่นไหว
เหม่อมองปลาโผล่มุดผุดแต่ไกล
ริ้วน้ำไล่แลเห็นเป็นวงกลม
						มวลแมกไม้ต่างหงอยพลอยสงบ
	อากาศอบอ้าวร้อนซ้อนผสม
	ยินสำเนียงเพลงแว่วแผ่วลอยลม
	ทุกข์ระทมรุมเร้าแผดเผาทรวง
				
ฟ้าสลัวมัวหม่นเหมือนคนเศร้า
เปลี่ยวใจเหงาอ้างว้างกลางดงหลวง
ละล่องลอยเคว้งคว้างตามทางดวง
สุดจะห่วงหัวใจของใครกัน
						อนิจจาความคิดจิตมนุษย์
	ยากยิ่งสุดหยั่งลึกเกินนึกฝัน
	น้ำทะเลคะเนดูรู้เทียบทัน
	ใจคนนั้นเดาได้ไม่มีทาง
				
ปล่อยอารมณ์ฝากไม้พงศ์ไพรพฤกษ์
นั่งตรองตรึกหวนย้อนตอนหม่นหมาง
ใช้อดีตกรีดกร่อนแล้วผ่อนวาง
ชำระล้างแผลใจให้ลืมเลือน
						อาศัยความเงียบสงบสยบสู้
	ผิดเป็นครูส่องสาดคมบาดเฉือน
	รู้เหตุผลเป็นไปไว้คอยเตือน
	เปรียบเสมือนสติมาปัญญามี				
7 ธันวาคม 2552 20:29 น.

รำพึงถึงท้องทุ่ง

สุนิพนธ์

รำพึงถึงท้องทุ่ง

เคียวถูกเก็บเหน็บฝาคราก่อนนั้น
เนิ่นนานวันจนเห็นเป็นสนิม
ไร้รอยเกี่ยวเหนี่ยวคมมาชมชิม
เหมือนถูกทิ่มแทงใจให้ร้าวราน

		ควายเคยเลาะเล็มหญ้าคันนานอก
		โคลนกระฉอกปลักดินกลิ่นผสาน
		ช่วยคลายร้อนผ่อนล้าทิวาวาร
		เหลือเพียงม่านหมอกเมืองชำเลืองแล

ต้นข้าวครึ้มสดเขียวใบเรียวลู่
หอยปลาปูว่ายแหวกทำแถกแถ
ผักปุ่มปลาผักแว่นเป็นแผ่นแพ
มองชะแง้ไม่มีเหมือนที่เคย

		คันไถแขวนข้างเสาแทบเก่ากรอบ
		ไซดักลอบกุ้งปลาชาเมินเฉย
		ถูกทอดทิ้งเดียวดายคล้ายละเลย
		สุดเอื้อนเอ่ยออกไปให้ใครฟัง

สิ้นสูญแล้วรวงทองเรืองรองรุ่ง
ทั่วท้องทุ่งจรุงรินกลิ่นมนต์ขลัง
ไร้ฟ่อนฟางเหลืองลออของตอซัง
เหลือแต่หลังคาเรือนให้เยือนยล

		บ้านจัดสรรแทนที่มีหลายหลาก
		ไม่เหลือซากรอยอดีตผลิตผล
		ทุ่งนากว้างกลับเห็นเป็นชุมชน
		ล้วนผู้คนแตกต่างอ้างว้างใจ				
6 ธันวาคม 2552 15:50 น.

หนุ่มสวนลำไย

สุนิพนธ์

หนุ่มสวนลำไย

วาสนา ชะตาต่ำ ระกำอก
จำเหินหก เหหัน กลับบ้านสวน
บางกอกกรุง สูงฟ้า ล้าเรรวน
บ้านเมืองป่วน แปรเปลี่ยน เวียนวุ่นวาย

		สู่ถิ่นเก่า แต่เกิด กำเนิดก่อน
		อดีตย้อน คอนขืน ฝืนใจหาย
		แล้วเริ่มต้น ตรากตรำ กำลังกาย
		ปู่ย่ายาย หมายมั่น ปั้นมือมา

กสิกร เกษตรกรรม ย่ำโคลนขุ่น
ปฏิกูล กากดิน กลิ่นซากหญ้า
ท่ามกลางแดด แผดเผา เข้าตำรา
อยู่ประสา กสิกรรม สวนลำไย

		เฝ้าฟูมฟัก รักษา อาหารน้ำ
		ให้ชุ่มฉ่ำ ทำสิ้น พรวนดินไถ
		ต้นใบงอก ดอกเกิน จำเริญไว
		วาดหวังได้ ปลดหนี้ มีเงินตรา

ถึงฤดู เก็บขาย ใจหายหด
พ่อค้ากด สดร่วง พ่วงปัญหา
ผลิตผล ล้นตลาด ขาดราคา
รินน้ำตา ตอกย้ำ ชอกช้ำใจ

		น้ำไฟฟ้า ยาปุ๋ย โสหุ้ยเยอะ
		หนี้สินเปรอะ เลอะเลือน สะเทือนไหว
		ต้องหันหน้า หมายมุ่ง สู่กรุงไกล
		รวยเมื่อไหร่ จะกลับหวน สวนลำพูน				
4 ธันวาคม 2552 20:38 น.

สาวสามหมอก

สุนิพนธ์

เหม่อมองม่านเมฆมัวสลัวหม่น
	เหมือนดั่งคนสูญสิ้นถวิลหวัง
	คนเคยรักทักทายกลายเป็นชัง
	จำต้องนั่งซบสะอื้นกลืนน้ำตา

		ลมเหนือล่องเลยผ่านเช่นวารเก่า
		ที่สองเราแรกพบเริ่มคบหา
		ทุ่งบัวตองงดงามอร่ามตา
		ยังซึ้งค่ายืนยงความทรงจำ

	วัดพระธาตุกองมูคู่เมืองหมอก
	ธูปเทียนดอกบูชาค่าเลิศล้ำ
	อธิษฐานรักรื่นมิคืนคำ
	น้อมจิตนำธรรมทานร่วมงานบุญ

		เพลินเที่ยวชมชนเขาเผ่ากระเหรี่ยง
		เดินคู่เคียงหมู่บ้านร้านใต้ถุน
		หญิงคอยาวสาวงามนามละมุน
		ห่วงคอหนุนสวมใส่ให้แปลกปลอม

	ประทับจิตติดใจไมตรีต้อง
	จนเราสอง มองหมาย กายหล่อหลอม
	ประสานรัก ร่วมเรียง เคียงพะยอม
	ด้วยใจพร้อม เพียงฝัน อย่างมั่นคง

		บัดนี้สาวสามหมอกหลอกลวงพี่
		เจ้าแอบหนีห่างหายให้ชายหลง
		ลืมบัวตองกองมูคู่ดอยดง
		พันกว่าโค้งน้อยกว่าในใจน้องนาง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนิพนธ์
Lovings  สุนิพนธ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนิพนธ์
Lovings  สุนิพนธ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนิพนธ์
Lovings  สุนิพนธ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนิพนธ์