31 สิงหาคม 2555 10:43 น.

ปัญหาเรื้อรังบนเขาค้อ

อนงค์...นาง

ปัญหาเรื้อรังบนเขาค้อ

หลังสงครามสมรภูมินามเขาค้อ
รอส.ได้ที่ดินทรัพย์สินหลวง
สิบห้าไร่ต่อคนผลพลอยดวง
เวลาล่วงผ่านไปให้นายทุน

กองทัพขอมาจากกรมป่าไม้
เหตุไฉนเปลี่ยนมือคือสถุล
สร้างรีสอร์ตบ้านพักตักตวงคุณ
ป่าเขาขุนพงไพรให้ตนเอง

เพชรบูรณ์ - ทหารกองพล ม. 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลุยจัดที่ดินเขาค้อให้เข้าสู่ระบบหลังจากเรื้อรังมานาน 30 ปี

ปัญหาเรื้อรังกรณีที่ดินที่ทางทหารขอใช้จากกรมป่าไม้ จัดเป็นที่ดินทำกินให้ ราษฎรอาสาสมัคร (รอส.) บริเวณ เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ หลังสงครามสิ้นสุดลง เพื่อพัฒนาอาชีพให้กลุ่มราษฎรที่ไปช่วยรบ แต่ปรากฏว่า กลับมีกลุ่มนายทุนเข้ามาซื้อต่อจาก รอส.ด้วยช่องทางต่างๆ มาสร้างรีสอร์ทหรูและบ้านพักตากอากาศ ขยายอาณาเขตไปเรื่อยๆ ถึงปัจจุบันมีรีสรอ์ทหรูกว่า 80 ราย แม้ว่าทางทหารจะดำเนินการกับกลุ่มผู้บุกรุกไปแล้วบางส่วน และพลเอกพิจิตร กุลละวนิชย์ องคมนตรี ได้ติดตามกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด แต่ปัญหาก็ยังคาราคาซังมาจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุดทางกองพลทหารม้าที่ 1 โดย พ.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล รอง ผบ.พล. ม.1 ทำการแทน ผู้บัญชาการกองพล ม.1 ได้ลงคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด มี พ.ท.บันเทิง บุญชู จร. พล ม.1 เป็นหัวหน้า ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการร้องเรียนสิทธิครอบครองที่ดินและการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ของ รอส. เขาค้อ โดยคณะทำงานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ตามแนวที่ดินของทหารในเขต อ. เขาค้อ แทบทั้งสิ้น
ต่อมา พ.ท.เอกพล นิโลดม นายทหารพระธรรมนูญ กองพลทหารม้าที่ 1 คณะทำงานได้รายงานและแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ออกหนังสือด่วนมาก ที่ กห 0483.2/ ธน. 35 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 ให้ผู้บุกรุกจำนวน 8 ราย ซึ่งรวมทั้งรีสอร์หรูบางแห่งในพื้นที่ด้วย ให้ขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน หลังจากที่ได้รับหนังสือ หากไม่ปฏิบัติตามจะดำเนินการทั้งทางแพ่ง ทางอาญาอย่างเด็ดขาด เนื่องจากมีการบุกรุกเข้ามาก่อสร้างรีสอร์ท ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เป็นการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ ของกองทัพภาคที่ 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 3 ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (โดยความเห็นชอบจากกรมป่าไม้) เพื่อจัดให้เป็นที่อยู่อาศัยและทำการเกษตรเฉพาะแก่ราษฎรอาสาสมัคร (รอส) ในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก อ. เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเกษตรกรรม ดูแลรักษาสภาพป่าไม้ให้สมบูรณ์เพื่อเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารเท่านั้น
ในส่วนผู้ที่ถูกแจ้งเตือน รายหนึ่งกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาของทหาร บางครั้งอาจทำไปไม่ครบถ้วนเพราะยังมีความเกรงใจเพราะผู้บุกรุก บางคนเคยมีอำนาจ หากต้องการเอาผิดกับผู้บุกรุกจริงๆ ต้องดำเนินการทั้งหมดโดยไม่ยกเว้น เพราะเท่าที่สังเกตุมีรีสอร์ทบางแห่งที่มีทหารเป็นนายหน้าขายที่ดินให้และรับเป็นผู้ดูแล กลับไม่ถูกแจ้งเตือนให้ย้ายออก ทั้งที่มีการบุกรุกสร้างรีสอร์ทเช่นกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ผ่านมาได้มีผู้ใหญ่บ้านหมู่1 ตำบลหนองแม่นา อ. เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์ เคยร้องกับ นายกษิต ภิรมย์ รมว. ว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่มาในพื้นที่และได้ร่วมประชุมกับผู้นำส่วนต่างๆที่ อ. เขาค้อว่า ทุกวันนี้สับสนและหากเป็นไปได้ขอให้ทางการหรือรัฐบาลได้ออกเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินให้กับราษฎรด้วย เพราะต้องการมีหลักฐานในการครอบครอง และเมื่อมีโฉนดจะได้เอาไปจำนำหรือกู้เงินจากแหล่งการเงินเพื่อที่จะได้เงินมาส่งลูกเรียนหนังสือ แต่เนื่องด้วยนายกษิต ยังไม่ได้รับเรื่องและรายละเอียดในเรื่องนี้ นายกองเอกวิลาศ จุริวัฒนพงศ์ ผู้ว่าราชการ ที่เข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบปัญหา ได้มอบให้ พ.อ. ชัยณรงค์ แกล้วกล้า เสธ กองพล ม. 1 ชี้แจงในเรื่องที่ดินเขาค้อ แทน นายกษิต ภิรมย์ รมว. ต่างประเทศ
พ.อ. ชัยณรงค์ แกล้วกล้า ชี้แจงว่า เรื่องที่ดินเขาค้อส่วนหนึ่งอยู่ในการควบคุมดูแลของกองทัพบก เพราะขอใช้พื้นที่และนำพื้นที่ส่วนหนึ่งมาจัดสรรให้กับ รอส. เขาค้อ และยังถือว่าพื้นที่เขาค้อนั้นเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารและยังเป็นเขตของทหาร จึงไม่สามารถที่จะอนุญาตให้ใครเข้ามาอาศัยโดยการบุกรุกเพราะพื้นที่ดังกล่าวทหารยังดูแลอยู่ ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับทางกรมป่าไม้ หรือรัฐบาลที่จะดำเนินการแต่ขณะนี้พื้นที่ยังอยู่ในการควบคุมดูแลของทหารขอใช้
ในส่วน พลเอกหาญ เพไทย ประธานทหารผ่านศึก เขาค้อ เรือนร่มเกล้า กล่าวว่า เรื่องที่ดินและการแก้ไขปัญหาเขาค้อนั้น ตนเองนั้นในอดีตที่ผ่านมาได้ร่วมบุกเบิกและทำการต่อสู้กับ ผกค. ในพื้นที่แห่งนี้มาในยุคของพลเอก พิจิตร กุลละวนิชย์ และนายทหารระดับสูงหลายๆนาย ซึ่งได้พยายามรักษาผืนป่าให้ดีที่สุด ในการจัดสรรมอบที่ดินให้กับราษฎรอาสาสมัคร ก็มีคำสั่งห้ามซื้อขายใดๆและให้ทายาทของ อาสาสมัครรับช่วงเป็นมรดกได้ แต่ทุกวันนี้ที่ดิน ของ รอส. เขาค้อถูกนายทุนยึดครองไปเกือบทั้งหมดแล้ว
พลเอก หาญ กล่าวว่า ทุกครั้งที่พลเอกพิจิตร เดินทางมาที่ อ. เขาค้อ จะซักถามเรื่องการรุกพื้นที่เขาค้อว่าทหารของ กองพล ม. 1ทำงานคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ซึ่งตนไม่สามารถตอบได้ น่าละอายใจอย่างยิ่งเพราะไม่สามารถดูแลพื้นที่ดังกล่าวตามพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระราชินินาถ ฯ ที่ทั้งสองพระองค์สั่งเสมอเรื่องที่ดินเขาค้อ เพราะทรงเป็นห่วงใยราษฎรอาสาสมัครเขาค้อเรื่องที่ทำกิน				
27 สิงหาคม 2555 17:28 น.

ทำบุญฟังเทศน์มหาชาติ

อนงค์...นาง

รอคอยมาครบปีมีหนึ่งครั้ง
เข้าวัดฟังเทศน์มหาชาติไม่ขาดหนา
พากันไปทำบุญอุ่่่นใจนา
เป็นมหากุศลผลกรรมดี

มีสิบสามกัณฑ์พร้อมพันคาถา
ย่อมเกิดอานิสงส์คงราศี
ที่สอนให้ทุกยามทำความดี
อย่าตระหนี่ในใจให้ทำบุญ

หนุนสืบทอดพระศาสนาค่าไพศาล
บริจาคทานไม่คิดจิตเคืองขุ่น
บุญกุศลเพียรสร้างทางค้ำจุน
ไม่หมกมุ่นยึดติดอนิจจัง

ฟังพุทธวจนะให้สละละตัณหา
คัมภีร์มหาชาติดีมีมนต์ขลัง
ตั้งแต่ครั้งสุโขทัยไทยได้ฟัง
จนกระทั่งปัจจุบันสำคัญนาน



การเทศน์มหาชาติ คือการร่ายยาวหรือการเล่าเรื่องมหาเวชสันดรชาดก ว่าด้วยพระบุพจริยาของพระพุทธองค์ในอดีตชาติ เมื่อเสวยพระชาติเป็นพระเวชสันดรบรมโพธิสัตว์ ทรงบำเพ็ญพระบารมีเป็นชาติสุดท้ายก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเรื่องที่เหมาะสมจะเชิดชูขึ้นเป็นหลักเป็นประธานในการเสริมสร้างอัธยาศัยของคนในชาติ จัดให้มีขึ้นตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ซึ่งบางคนเชื่อว่าคัมภีร์มหาชาตินั้นเป็นพุทธวัจนะซึ่งสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสประทานเทศนาแก่พระภิกษุสงฆ์ พุทธบริษัท พณ นิโครธาราม กรุงกบิลพัสดุ์ หากผู้ใดได้สดับย่อมเกิดสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลเป็นกุศลบุญราศีสืบไป ดังนั้น การเทศน์มหาชาติคือมหากุศลที่เตือนบุคคลให้น้อมรำลึกถึงการบำเพ็ญบุญ คือความดีที่ยิ่งยวด อันมีการสละความเห็นแก่ตัวเพื่อผลประโยชน์สูงอันไพศาลของมวลมนุษย์ชาติเป็นสำคัญ เป็นเทศกาลที่คงความหมายอย่างแท้จริง
เทศน์มหาชาติ สอนให้คนรู้จักทำความดี ประกอบกรรมดี รู้จักการบำเพ็ญบุญ บริจาคทาน สละความเห็นแก่ตัว สละทรัพย์เพื่อสาธารณประโยชน์ เป็นการลดความตระหนี่ในใจ ลดความเห็นแก่ตัว หรือการทำให้ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เป็น รูป รส กลิ่น เสียง ที่เป็นอนิจจัง เพราะเวลาตายไปแล้วไม่มีใครเอาเงินทองไปได้ มีแต่ความดีและความชั่วเท่านั้นที่สามารถเอาไปได้ในภพหน้านั่นเอง�

ชาวพุทธนิยมฟังเทศน์มหาชาติ ซึ่งพุทธศาสนิกชนทุกคนต่างมีความเชื่อว่าเป็นพุทธวจนะซึ่งพระพุทธเจ้าได้ตรัสประทานแก่พระภิกษุและพุทธบริษัท การได้ฟังพุทธวจนะย่อมเกิดอานิสงส์และกุศลราศีแก่ตน นอกจากนี้ยังเนื่องมาจากความเชื่อเรื่องศาสนอันตรธาน คือความเสื่อมของพระศาสนาด้วยเหตุ ๕ ประการ ที่เรียกว่า ปัญจอันตรธาน ได้แก่�

๑. ประยัติอันตรธานคือความสูญสิ้นผู้ศึกษาเล่าเรียน�
๒.ปฏิบัติอันตรธานคือความสูญสิ้นของการปฏิบัติธรรม�
๓.ปฏิเวธอันตรธานคือความสูญสิ้นการตรัสรู้อริยมรรคอริยผล�
๔.สังฆอันตรธานคือความสูญสิ้นพระภิกษุสงฆ์
๕. ธาตุอันตรธานคือความสูญสิ้นของพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า

ดังนั้น การเทศน์มหาชาติจึงเป็นการสนับสนุนให้มีการศึกษาปริยัติสัทธรรมและเป็นการสืบทอดพระศาสนาอีกด้วย จึงเชื่อกันว่าผู้ใดได้ฟังเทศน์มหาชาติหรือเวสสันดรชาดกครบ ๑๓ กัณฑ์ ๑,๐๐๐ พระคาถา จบภายในหนึ่งวันและบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนแต่ละอย่างให้ครบพัน นิยมว่าเป็นสิริมงคลแม้น้ำที่ตั้งไว้ในมณฑลพิธีก็ถือกันว่าเป็นน้ำมนต์ อาจจะบำบัดเสนียดจัญไรได้ และจะได้ผลานิสงส์อันยิ่งใหญ่ ๕ ประการ คือ

๑. จะได้เกิดมาในยุคศาสนาพระศรีอาริยเมตไตรย ซึ่งจะมาอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปในอนาคต
๒. เมื่อดับขันธ์จะได้ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เสวยทิพยสมบัติอันโอฬาร
๓.จะไม่เกิดในอบาย (ไม่ตกนรก) เมื่อตายไปแล้ว
๔. จะเป็นผู้มั่งมีลาภยศ สรรเสริญ ไมตรี และมีความสุข
๕. เมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนา จะได้รับมรรคผล นิพพานเป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา และถึงความพ้นทุกข์�

wDGDR.jpgJomQV.jpgnv1pv.jpg				
26 สิงหาคม 2555 15:59 น.

เกินห้ามใจมิให้คิดถึง

อนงค์...นาง

สายลมพัดโบกโบยโชยกลิ่นหอม
พวงพะยอมสีขาวพราวสดใส
ไผ่ลู่ลมไหวโยกยามโบกใบ
น้ำค้างไต่ยอดหญ้ามาลีบาน

หวานเกษรภมรอ้อนบุปผา
สกุณาร้องเรียงเสียงประสาน
บ้านหลังน้อยน่าอยู่คู่วิมาน
สุขสราญบานใจในพนา

พาจิตใจรำพึงถึงเมืองไทย
แสนห่างไกลระทมตรมเศร้าหนา
ลาจากแม่มานานวานเมตตา
ขอเทวาอารักษ์พิทักษ์กาย

สายฝนพรำร่ำรินดินชุ่มชื่น
หอมระรื่นมาลีมีหลากหลาย
คลายอารมณ์จิตใจให้สบาย
แม้ห่างกายสัมพันธ์มั่นหทัย

ใส่บาตรพระหน้าบ้านเบิกบานจิต
ทุกชีวิตต่างกรรมนำผ่องใส
ไม่ทำบาปสร้างบุญหนุนธรรมไป
รู้อภัยเมตตารู้ปราณี

มีชีวิตเรียบง่ายย่อมคลายทุกข์
ธรรมคอยปลุกชีวันขวัญสุขศรี
มีใจมั่นศีลธรรมนำชีวี
ตามวิถีไทยแท้แต่โบราณ


ชีวิตหน้าที่ความรับผิดชอบ ไม่อาจห้ามใจคนไกลบ้านมิให้คิดถึงบ้านได้เลยค่ะ �
แม้จะอยู่ห่างไกลแต่หัวใจนั้นยังใกล้ชิดกันเสมอ�
ปีนี้แม่อายุ 84 ปี วันนี้ได้คุยกับแม่เป็นชั่วโมง
แม่ไม่เจ็บไม่ไข้ มีลูกหลานใกล้ชิด แต่แม่จะคิดถึงนางน้อยลูกสาวหล่า(ลูกคนเล็ก)และหลานสาวทั้งสองเสมอ
เวลาที่ได้ดูภาพเก่าๆทีไร จิตใจอบอุ่นทุกครา �ต้องทำใจต่อสู้และยอมรับในชะตากรรมกันต่อไปค่ะ




lHnK1.jpg43KrS.jpgWee7A.jpgqcEm7.jpgfVRFP.jpgGwc1D.jpg

กองฟางเก่าข้างครัวริมรั้วบ้าน
เป็นสัญญาณข้าวงามยามเก็บเกี่ยว
เลี้ยวลัดเลาะทุ่งนาหาดอกกระเจียว
เพลินใจเที่ยวริมทุ่งมุ่งคืนเรือน				
24 สิงหาคม 2555 22:43 น.

หวาน....ปานกุมภมาศ

อนงค์...นาง

ความรักสองเราหวานปานกุมภมาศ
ไม่แคล้วคลาดจากกันขวัญสดใส
ไปตลาดจับจ่ายได้ทันใจ
เตรียมของให้ครบครันพลันลงมือ

ช่ือกุมภมาศไพเราะเพราะพริ้งนัก
ด้วยใจรักขนมหวานงานลือชื่อ
มือสองเราช่วยกันหมั่นฝึกปรือ
พากันถือไปวัดหัดทำบุญ

คุณพ่อบ้านชอบใจได้ทำขนม
ลูกเมียชมใจจริงยิ่งอบอุ่น
บุญเราสร้างด้วยกันวันการุณย์
ตักบาตรหนุนศาสนามาพร้อมเพรียง

เสียงสวดมนต์ดลฤดีมีความสุข
ธรรมคอยปลุกปลอบใจในน้ำเสียง
เพียงเราทำดีกันวันคู่เคียง
อยู่ร่วมเรียงชายคาอย่าทิ้งกัน

คำเตือน ขนมหวานไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นเบาหวานค่ะ

เราทำขนมกุมภมาศหรือหม้อแกงไปตักบาตรที่วัดปีละไม่กี่ครั้ง
ปกติจะนำผลไม้สดไปประจำค่ะ


dudk3.jpgTAUHo.jpgpPuvo.jpgwZdWr.jpgmhUvx.jpg0oIG8.jpgW7G4n.jpgYVyRu.jpg4DFVb.jpgWN7Xv.jpgUiayD.jpgxvSOJ.jpg7oktK.jpg

ขนมหม้อแกง หรือ ขนมกุมภมาศ คือขนมที่ใช้ไข่ แป้ง และกะทิเป็นส่วนประกอบสำคัญ นำผสมกันในถาดตามสัดส่วน แล้วจึงนำไปอบจนหน้าของขนมหม้อแกงมีสีน้ำตาลทอง น่ารับประทาน ปัจจุบันมีการทำเผือก เม็ดบัว ถั่ว และหอมเจียว มาผสม และแต่งหน้าขนมหม้อแกง ทำให้ขนมหม้อแกงมีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น

ประวัติ จากwikipedia

ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นับว่าเป็นยุครุ่งเรืองที่สุดของราชอาณาจักรอยุธยา เพราะเป็นยุคที่ไม่มีศึก สงคราม อีกทั้งยังมีคณะทูต และบาทหลวงจากประเทศต่างๆ เข้ามาเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับอาณาจักรอยุธยาเป็นจำนวนมาก ในเวลานี้เองมีขุนนางผู้หนึ่งชื่อคอนสแตนติน ฟอลคอน ผู้ซึ่งเป็นคนฉลาด หลักแหลม และมีไหวพริวในด้านการค้ามากกว่าพ่อค้าใดๆทั้งหมด จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ดำรงตำแหน่ง พยุหเสนา และเป็นตัวกลางทางด้านการค้าของอาณาจักรอยุธยาและประเทศฝรั่งเศส ต่อมาได้แต่งงานกับนางมารี กีมาร์ หรือ ท้าวทองกีบม้า หลังจากที่พระเพทราชาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เนื่องจากสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีอาการประชวนหนัก พระเพทราชาจึงได้สั่งประหารชีวิตพระยาวิชาเยนทร์ในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2231 ทำให้ท้าวทองกีบม้าถูกนำตัวไปจำคุกเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปี จึงถูกปล่อยตัว แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องทำขนมหวานมาส่งในวังตามอัตราที่กำหนดไว้ ด้วยเหตุที่ว่าท้าวทองกีบม้ามีชื่อเสียงในด้านการทำอาหารคาวหวาน เหตุการณ์ในครั้งนี้นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนโฉมหน้าของขนมไทยครั้งสำคัญ เพราะท้าวทองกีบม้าได้เริ่มทำขนมที่ใช้ไข่มาเป็นส่วนประกอบหลัก อาทิ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมผิง ขนมพล ขนมโปร่ง ขนมทองม้วน ขนมสัมปันนี และขนมหม้อแกง ด้วยรสชาติของไข่และน้ำตาลซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของขนมหม้อแกง ทำให้ขนมหม้อแกงได้รับความนิยมชมชอบจากชนชั้นสูงในวัง และได้รับการขนานนามว่า ขนมกุมภมาส

ต่อมาเมื่อลูกมือในบ้านของท้าวทองกีบม้าได้แต่งงาน ก็ได้นำสูตรและวิธีการทำขนมหม้อแกงออกมาถ่ายทอด ทำให้ชาวบ้าน คนธรรมดา ได้มีโอกาสรู้จักกับขนมหม้อแกง

เมื่อปีพ.ศ. 2529 จังหวัดเพชรบุรี ได้มีการบูรณะพระนครคีรีให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นทำขนมหม้อแกงที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นออกมาจำหน่าย ทำให้ขนมหม้อแกงเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของเพชรบุรี				
20 สิงหาคม 2555 11:03 น.

งานวชิรคอนเสริต คิดถึงเมืองไทยครั้งที่13

อนงค์...นาง

โรงเรียนวัดจัดงานวชิรคอนเสริต
งามล้ำเลิศประทับใจในกุศล
ปนสนุกน่าทึ่งซึ้งกมล
มีผู้คนมากมายได้ร่วมงาน

สานสืบทอดนาฏศิลป์เสียงพิณเสนาะ
แสนไพเราะดนตรีไทยได้ขับขาน
งานแสดงนักเรียนฝึกเพียรนาน
ต่างชาติขานเลื่องลือชื่อไทยแลนด์

แดนสยามรอยยิ้มพิมพ์ใจเสมอ
อ่อนน้อมเจอก้มไหว้ไม่หวงแหน
แสนภูมิใจวัฒนธรรมนำตัวแทน
หนึ่งดินแดนล้ำค่าน่าชื่นชม

งานวชิรคอนเสริตครั้งที่ 13 จัดให้มีการแสดงผลงานด้านนาฏศิลป์ดนตรีไทยของนักเรียนโรงเรียนวัดวชิรธรรมปทีปนครนิวยอร์คปีละครั้งค่ะ 

ปีนี้ได้รับความร่วมมือจากคณะครูนักเรียนและท่านผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีนารีรัตน์ จังหวัดแพร่ได้เดินทางจากเมืองไทย มาแสดงนาฏศิลป์ไทยที่งดงามตระการตาเป็นอย่างยิ่ง เป็นที่ชื่นชมจากชาวต่างประเทศและชาวไทยที่มาร่วมงานมากมาย 

อนงค์นางหรือครูณัฏฐา ได้รับความไว้วางใจจากทางวัดให้เป็นเหรัญญิกของงาน ต้องกราบขอบพระคุณคณะสงฆ์ที่ได้ให้ความเมตตาแก่อนงค์นาง�ทั้งมอบโล่ห์ให้จากการเป็นครูอาสาสมัคร นับเป็นความภูมิใจที่สุดในชีวิตนี้ 

และผลงานได้จากความสามัคคีของชาวไทยในนิวยอร์คร่วมกันกับทางวัด เป็นทีมเวิร์คเป็นอาสาสมัคร ทุกคนสละเวลามาช่วยกัน

การทำความดีไม่ได้ทำในวันเดียว ทำสม่ำเสมอเป็นเวลานานหลายปี โดยไม่หวังผลตอบแทนอันใด ใจที่บริสุทธิ์ด้วยธรรม พระสงฆ์ผู้ทรงศีลท่านเมตตาเองค่ะ แม้จะไม่ร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทอง ไม่ได้บริจาคทำบุญมากมาย ขับรถคันเก่าๆไปด้วยใจที่ศรัทธา นับว่าเป็นบุญอย่างยิ่งแล้วค่ะ ขอตั้งใจทำความดีต่อไป
โรงเรียนจะเปิดสอนเดือนกันยายนนี้ค่ะ

ZUaUM.jpgFdgCA.jpgq3FzQ.jpgoiOlw.jpg4d3R3.jpgYFrvh.jpgHWC3L.jpgE6twG.jpgj23NO.jpgdlBum.jpgfPPsH.jpgapVey.jpgOiWBl.jpgRyRpP.jpg				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอนงค์...นาง
Lovings  อนงค์...นาง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอนงค์...นาง
Lovings  อนงค์...นาง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอนงค์...นาง
Lovings  อนงค์...นาง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอนงค์...นาง