12 มิถุนายน 2551 18:08 น.

วิถีพระป่าวิถีสุขภาพ

ออวารณี

เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม นี้ทางหน่วยงานฉันได้มีการบรรยายเรื่อง
การล้างพิษด้วยคีเลชั่นหรือการกำจัดสารโลหะหนักออกจากร่างกาย
ด้วยการล้างพิษ  ง่ายๆก็คือการมีวิถีชีวิตปัจจุบันทำให้เราเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง
และโรคสารพัดแปลกๆ อันเนื่องมาจากวิถีชีวิต  ผู้บรรยายจบแพทย์เฉพาะทาง
ด้านศัลยกรรมและจบแพทย์ทางเลือกสาขาCHELATION THERAPYจาก
ออสเตรเลีย สาระโดยสรุป ท่านว่า
    วิถีชีวิตพระป่าของไทยเป็นวิถีแห่งสุขภาพ คือ 
1.นอนไม่เกิน 3-4 ทุ่ม ตื่นตี4-5  ทำให้ฮอร์โมนแห่งการเติบโตทำงาน
ภูมิต้านทานดี
2.เดินจงกรมและสวดมนต์เช้า เป็นการออกกำลังกายและบริหารปอด(โดย
การสวดมนต์)
3.ฉันมื้อเดียวหรือ 2 มื้อ    ด้วยอาการสำรวม
ท่าว่ากินให้สุขภาพต้องเคี้ยวนานและละเอียด 30-50 ครั้งต่อคำ
และกินหนักมื้อเช้า-เบามื้อเที่ยง-เลี่ยงมื้อเย็น-เว้นมื้อดึก   ควรกินเนื้อปลา
วันละไม่เกินหนึ่งขีด นอกนั้นเป็นผักสด ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง ธัญญพืช
ไม่ควรกินนมวัว โดยแป้งน้อย(แป้งครึ่ง ผักและอื่น๐ครึ่ง)
4.จิตใจแจ่มใส สงบ
5.ตื่นเช้าควรอุจจาระทุกวัน

วันนี้มีเภสัชกรที่ท่านจบแพทย์ทางเลือกพูดถึงโรคมะเร็.ง
ท่านให้กินปลาทูหรือแซลมอนหรือปลากะป๋องโรซ่า(มี DHA)สัปดาห์ละครั้งและกินแนวชีวจิตเพื่อไม่ป่วยท่านพูดถึงวิตามินและอาหารเสริมว่าจำเป็นแต่
ควรกินให้ถูก อย่าแพงจะเกินจำเป็นคราวหน้าจะกล่าวละเอียดตอนต่อไปนะ				
8 มิถุนายน 2551 21:56 น.

ความรักของหมอมน

ออวารณี

หมอมนหมอหนุ่มชาวอยุธยาผิวสีแทน สูง 165 ซม.หล่อแบบไทยลูกครึ่ง
(จีน) อัธยาศัยดี   เป็นแพทย์ปี 6 เรียกได้ว่าปีนี้เขาเป็นแพทย์เต็มตัว  ถูกส่ง
ตัวมาฝึกงานที่โรงพยาบาล   พร้อมกับเพื่อน   15 คน  
        ที่โรงพยาบาลนี้อยู่ใกล้กรุงเทพ แต่หมอทุกคนที่มาที่นี่ รู้แก่ใจว่า
เตรียมรับมือกับความโหดได้เลย            ไหนจะพวกวัยรุ่นนักบิดจอมซ่า
และพวกนักดื่มชอบขี่มอไซด์   ที่เละมาพร้อมแขนขาหักและสมองกระเทือน
คนไข้กลุ่มนี้หมอฝึกหัดต้องเตรียม เข้าห้องผ่าตัดพร้อมอาจารย์แพทย์ ซึ่งบาง
วันทำงานถึงเช้า  กลับหอพักอาบน้ำ แล้วมาทำงานต่อ    กรณีนี้หมอมนอยู่ประจำแผนกฉุกเฉิน
           แต่ละเดือนหมอมนก็เวียนฝึกงานจนครบทุกแผนก    ในคราวที่หมอมน
มาฝึกที่แผนกอายุรกรรม   หมอพบกับเอ๋ พยาบาลสาวน่ารัก ยิ้มหวาน หัวเราะเก่ง  เขาประทับใจเอ๋ตั้งแต่ไปเที่ยวทะเลกับกลุ่มเพื่อนหมอ-พยาบาล   เอ๋น่ารัก
คล่องแคล่ว  หน้าใส แก้มเป็นสีชมพูตามธรรมชาติ   ทุกครั้งที่หมอมนได้คุยกับเอ๋
เขารู้สึกสนุก ถูกคอ ถูกใจ สบายใจอย่างบอกไม่ถูก  และเขาก็คิดว่าเธอน่าจะรู้สึกเช่นเดียวกัน  ก็ดวงตาของเธอมันฟ้อง เวลาเธอมองหน้าเขามีแววหวานซ่อนเร้น
อยู่เขาอยากทำความรู้จักเธอให้มากกว่านี้    จึงเพียรแอบไปทักทายกับเธอ
เสมอแม้ว่าจะทำงานกันคนละแผนกแล้วก็ตาม
           เย็นวันหนึ่งเลิกงานแล้ว หมอมนเดินมาหาเอ๋ซึ่งกำลังจะกลับบ้าน
"กลับบ้านแล้วเหรอ" (อยากไปบ้านเอ๋จังเลย)  เขาลากเสียงอ่อยๆ ด้วยความอาวรณ์แต่ไม่ได้เอ่ยข้อความในวงเล็บ  ก็มันไม่กล้า   "จ้ะ  ไปเที่ยวตลาด...
กันมั๊ย" เอ๋เอ่ยถึงสถานที่ติดบ้านเหมือนรู้ใจ     "ไป" หมอมนรีบตอบด้วยใจลิงโลดแต่แกล้งสงวนท่าที (ก็ดูๆ กันอยู่)     เอาละซีตั้งแต่ทำงานที่นี่มาปีกว่า
ยังไม่เคยหนีบหนุ่มหน้าไหนไปถึงบ้านเลย   มีแต่บางหนุ่มที่บุกไปเป็นครั้งๆ
ไม่กี่ครั้ง          เอ๋คิดอยู่ในใจ   แล้วเขาและเธอก็นั่งรถสองแถวกลับบ้านเอ๋
หมอมนได้รู้ว่าบ้านเอ๋ค้าขายใกล้ตลาด  เอ๋เป็นที่รู้จักของบรรดาแม่ค้า  
เวลาที่เธอพาเขาเข้าไปในตลาดมีแม่ค้าหยิบยื่นของให้   "น้องเอ๋เอาห่อหมกไป
กินหน่อยนะ"     "ซื้อข้าวหลามไหมน้องเอ๋เดี๋ยวแถมให้อีก"  หลังจากอยู่คุยกับเอ๋สักพักเขาก็ลากลับ พร้อมกับข้าวหลามและห่อหมกที่น้องเอ๋ให้เขากลับไปกินกับเพื่อนที่หอ   "ไปละนะเจ้าแม่หนองมน"หมอมนให้ฉายากึ่งทึ่งเธอนิดๆ
              แล้วหมอมนก็มาคุยกับเอ๋บ่อยๆที่ตึกทำงาน หัวหน้าตึกก็ต้อนรับเขาอย่างดีทุกครั้ง   เจ้ากรรมของเอ๋  วันนั้นคนที่เอ๋รักอยู่และไม่อยากรักอีกต่อไปแล้วเพราะเขาเปลี่ยนไปมากแต่เอ๋กำลังทำใจอยู่เกิดมาหาที่ที่ทำงาน ซึ่งไม่เคยเลยที่คบกันมา 7 เดือนจะมาที่ที่ทำงาน ทั้งๆที่หายหน้าไปเกือบเดือนแล้ว
                 "อุ๊ยตายแฟนมา" พระเจ้าช่วยกล้วยทอด เอ๋หลุดปากอย่างนั้นได้ไง
(วะ) หมอมนหน้าเสีย รีบกลับไปเลย
                   หมอมนหายหน้าไปหลายวัน แล้วเขาก็มาอีกพร้อมควงสาวที่ใคร
ก็รู้ทั้งโรงพยาบาลว่าเธอเปลี่ยนหน้าหมอบ่อยและกล้าได้กล้าเสียขนาด
เขาแวะมาประชดเอ๋   เอ๋เสียใจมาก(ชอบหมอมนมากแล้ว)เสแสร้งกลบเกลื่อนยิ้มและทักหมอตามปกติ  เป็นเช่นนั้นอีก3-4 ครั้งที่หมอมนควงเธอมาให้เอ๋เห็น
แต่ตีหน้าเศร้ากับเอ๋  
                      ล่าสุดหมอมนบอกเอ๋ว่า"ถ้าเอ๋มีอะไรให้ผมช่วย ผมยินดีเสมอ"
"ขอบคุณค่ะ"เอ๋ตอบ ณ เวลานั้น เอ๋อยากพูดมากกว่านี้   แต่พูดไม่ออกมันสับสน
น้อยใจ  โมโหตัวเองด้วย
                       1 เดือนต่อมาหมอมนก็ย้ายไปฝึกงานที่อื่น  เอ๋ไม่ได้ติดตามข่าวคราวของเขา  คิดว่าเราคงไม่ใช่คู่กันแต่ความรักของหมอมนเป็นอมตะ
                    "ความรักของหมอมนเป็นอมตะในใจของเอ๋ นะคะหมอมน" 
            
				
6 มิถุนายน 2551 22:05 น.

ต้นไม้น่าอิจฉา

ออวารณี

ต้นไม้น่าอิจฉา  น่าจะเห็นด้วยนะ คิดดูเซ่           พอเริ่มโตหน่อยก็ดูน่ารักเด
โตมากแค่ไหนก็น่ามอง         ใครจะไปจะมาก็มาอิงมาแอบมาแนบมาชิด
บางคนเป็นเอามากยืนกอดแล้วหลับตาป๊เลย ไม่รู้ว่ารักคิดถึงใครอยู่แล้วมา
ตู่เอากับต้นไม้..........เฮ้อออ
      น่าอิจฉาที่สุดเนี่ย  คือต้นไม้ไม่เคยโกรธ   ไม่เคยว่าใครเลย ไม่เคย
ทุกข์ใจ  ไม่อิจฉาใคร  ไม่วุ่นวาย แล้วก็ไม่เดือดร้อนไปกับอะไร อะไร
หรือกับใครใคร
      หรือว่าคุณไม่อิจฉาต้นไม้				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟออวารณี
Lovings  ออวารณี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟออวารณี
Lovings  ออวารณี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟออวารณี
Lovings  ออวารณี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงออวารณี