5 ธันวาคม 2545 20:02 น.

กี่กัปกัลป์ก็ไม่แล้งแรงกวี

อักขระ อักษรศรัทธ์


๏ คืออนรรฆจินดาค่าอะคร้าว
คือฝันร่วงรุ้งพราวจากหาวเหิน
คือโสมส่องมรรคาแจ้งแสงสีเงิน
คือเชื้อเชิญจากอุ้งหัตถ์เปี่ยมอัชฌา

คือจารีตวิศิษฏ์ล้ำธำรงด้าว
คือพิตรพราววาวแพรวแก้วเลขา
เอกลักษณ์วัจนะอารยา
เชิดบูชาร้อยกรองไทยท่ามใจเรา

เสน่ห์กานท์หวานหวามสิ้นสามภพ
บรรจุไว้ในผอบฉะอ้อนเฉลา
เป็นสารทิพย์บำรุงขันธ์ปัญญาเชาวน์
เสพจักเยาว์ชีพสราญไปนานปี

ในสวนแก้วสว่างสวรรค์วรรณศิลป์
มีคเณศวิเศษกวินทร์ธานินศรี
ทรงปกเกศศิษยาด้วยอารี
ให้เรานี้สรรค์สฤษฎ์ศิลป์นิรันดร์

จึงกวีไม่โรยแล้งแหล่งสยาม
ด้วยมีความรักกลอนกานท์บันดาลฝัน
ฤทธิ์หนุนเนื่องดวงมานจุดฌานครัน
กี่กัปกัลป์ก็ไม่แล้งแรงกวี๚ะ๛				
4 ธันวาคม 2545 14:12 น.

Without Love

อักขระ อักษรศรัทธ์


Without love, the gentle rain of spring shall cease,
The supple roses of summer wither, 
And the soft, crisp wind of fall disappear
Without love, there lies nothing 
But the passionless dusk of winter.

                                    กาพย์ห่อโคลง

๏ หากไร้ซึ่งรักไซร้................ฝนคง
หยุดร่ำสายสุหร่ายลง..............แหล่งหล้า
กุหลาบปลิดกลีบปลง...............กิ่งเปล่า เปลือยแฮ
ลมบ่โบยโบกฟ้า.....................ฝ่อฟ้าเฟ็ดหาว๚

๏ ไร้รักเร้นรักร้าง..................เดียวดายทางระหว่างด้าว
ฝนพร่างเม็ดบางเบา...............คงหยุดพรมพฤกษ์ซมซาน
กุหลาบแห่งคิมหันต์.................กลีบสุคันธ์ก้านอ่อนหวาน
แดงรื่นเคยชื่นบาน.................ก็แห้งหุบหลุบกลีบลง
สายลมแผ่วพรมพัด.................ก็หยุดพัดแม้ฝุ่นผง
ทุ่งโล่งไร้ลมวง..........................โว่งว่างแว่ววังเวงวาย
ไร้รักเรียมไร้ร้าง.....................ทุกทุกอย่างสูญจางหาย
ไร้คู่อยู่เดียวดาย......................ราวเหลือเร้นอยู่เดียวโดย
คงเหลือแต่สายัณห์...................แห่งเหมันต์อันแห้งโหย
หนาวเยือกจนใจโรย................รักเร่ร้างร่างไร้ใจ๚ะ๛				
15 กันยายน 2545 17:45 น.

ปิยาพร ขาวสอาด

อักขระ อักษรศรัทธ์

- กลอนสุภาพ -


วันที่ฟ้าใสสางหมอกจางสี
เวี่ยกวีแว่วไหวในห้องหาว
ตาเปี่ยมฝันดรุณวัยดูไหววาว
อุ่นเดียงสาในอกราวหนาวไม่รู้

ร้อยโคลงฉันท์กาพย์กลอนประอรอ้าง
เจ้ารออ่านไม่เคยห่างหรือเหนื่อยหู
ริมฝีปากวิจารณ์แจ้วแก้วตาตรู
กระจ่างพิศกลางจิตอยู่มิรู้เลือน

เมื่อเรียมเหงาเศร้าสร้อยเจ้าคอยปลอบ
มีคำหวานมามอบตอบใจเพื่อน
สามปีเราคบคุ้นอุ่นตาเตือน
แต่เพื่อนต้องห่างเพื่อนลับเลื่อนตา

ต่างด้นดั้นตามวิถีต่างชีวิต
ตามนิมิตที่วาดไว้ค้นไขว่คว้า
ไหลไปตามกระแสต่างหว่างเวลา
ดวงชีวาตามเพรงกรรมร้อยรำพึง

กว่าสิบปีที่พรากพลัดจากเจ้า
ใจยังเฝ้าใฝ่พร่ำรำลึกถึง
มิตรจำนรรจ์วรรณศิลป์กลางจินต์ตรึง
อยู่ไหนใจดวงหนึ่งคะนึงคอย

ชื่อนั้น เปิ้ล...ปิยาพร ขาวสอาด
เรียมประกาศกลอนหวังว่าอย่างน้อย
ใจที่รักกลอนกานท์เจ้าสานรอย
ตามเสียงกลอนที่เรียมร้อยใน Thaipoem
(แม้นอ่านพบวอนตอบถ้อยใน Thaipoem)				
13 กันยายน 2545 18:18 น.

บทรำพึงในเหมันตฤดู

อักขระ อักษรศรัทธ์

- กาพย์ยานี ๑๑ -


ยินเสียงเพียงแผ่วผิว
คือลมลิ่วลู่เรียวหญ้า
ค่อยค้อยจนลับตา
คืออาทิตย์อัสดง

รุมรุมคือฤทธิ์รัก
ผูกใจภักดิ์มิวายหลง
ลมหนาวมิอาจปลง
กลับประจงประจานใจ

กรีดเกรียวคมเคียวหญ้า
เบี่ยงบาดมาถึงทรวงใน
ฟ้าก่ำโพ้นใช่ไร
เลือดเรียมไซร้ที่ทาบทา

หวีดหวีดร้อยหรีดแว่ว
พ่างนึกแก้วแว่วเสียงหา
แก้วอวลหวนกลิ่นมา
กรรโหยแก้วให้แก้วหวน

จันทร์ร้างน้ำค้างเปลี่ยว
ปรายตาเหลียวยิ่งแปลบป่วน
หนาวกาพย์ที่คลอครวญ
กลับรัญจวนจะจดจาร

เพียงหวังให้ใจจำ
เรื่องรักซ้ำจำเนียรกาล
หนาวใหม่ไม่ซมซาน
สร้างวันวานไว้สอนตน				
10 กันยายน 2545 03:50 น.

» 9/11 รำลึก «

อักขระ อักษรศรัทธ์


                                 - กาพย์ยานี ๑๑ บริภาษสัตว์สงคราม -

แผ่นภพพระเพลิงผลาญ  ห้วงลำธารกระด้างดิบ
นิวเคลียร์ทำลายยิบ         ชีพพ่างภัสม์ธุลีลอย
สำแดงสันดานห้าว           ชนอะคร้าวน้ำตาผลอย
ไม่รู้ก็มาพลอย                ด่าวแดดิ้นดับสิ้นกัน
เยี่ยงสัตว์ที่ไร้ใจ               กำเนิดในร่างคนนั่น
ฆาตฆ่าอย่างอาธรรม์       เร้ากระสันปมด้อยดี
โลกเอ๋ยเคยสงบ               ก็เกลื่อนกลบซากศพผี
ชีพเอ๋ยเคยอยู่ดี               ก็มาหวาดระแวงคน
คำศาสดาสอน                  ให้อาทรห่อนเป็นผล
ดาลเดือดในใจจน            ต้องเข่นฆ่าให้ปราชัย
ล้างเลือดด้วยเลือดคน       ล้างแค้นจนชีพหาไม่
ล้างผลาญสำราญใจ           ล้างโลกได้คงปริ่มเปรม
สิ้นสุดมนุษย์ธรรม            สิ้นทางนำสู่แดนเกษม
สิ้นสุขเคยอิ่มเอม              สิ้นชีพหนาวนรกนาน
หลับฝันถึงโลกใหม่           อันสิ้นไร้ความร้าวฉาน
สันติผลิดอกบาน               ชนทำนุกรุณา
โลกเห็นเช่นดังภาพ          พิราบขาวบินทั่วฟ้า
อรุณอุ่นอุรา                       ผาสุกล้นชนทั้งปวง
เมตตาธรรมค้ำจุน             โลกาอุ่นกระไอสรวง
เร้นศึกสงครามลวง            ให้โลกสวยด้วยเสรี.


                     :: Minneapolis; September 9, 2002 ::				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอักขระ อักษรศรัทธ์
Lovings  อักขระ อักษรศรัทธ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอักขระ อักษรศรัทธ์
Lovings  อักขระ อักษรศรัทธ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอักขระ อักษรศรัทธ์
Lovings  อักขระ อักษรศรัทธ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอักขระ อักษรศรัทธ์