28 กุมภาพันธ์ 2548 14:33 น.
อาชา
ขอบคุณนะสำหรับความหวังดี
สำหรับสิ่งดีๆที่มีให้
และอีกหนึ่งสำหรับกำลังใจ
ที่เธอมีให้ฉันอยู่เรื่อยมา
ขอบคุณที่เธอแต่งแต้มชีวิตฉัน
ให้ฉันนั้นได้เหมือนอยู่บนฟ้า
ได้ผ่านพ้นทุกช่วงกาลเวลา
ที่อ้างว้างโดดเดี่ยวมาเนิ่นนาน
ขอบคุณสำหรับคำพูดไพเราะ
โดยเฉพาะคำพูดที่แสนหวาน
ที่ทุกคำนั้นหวานเหมือนน้ำตาล
เกินจะห้ามหักใจไม่ให้ฟัง
ที่สุดของคำว่าขอบคุณ
คือไออุ่นที่เธอมีให้ทุกครั้ง
ไออุ่นที่คอยสร้างเสริมพลัง
ทำให้สองเรานั้นก้าวเดินไป
27 กุมภาพันธ์ 2548 20:46 น.
อาชา
เริ่มเรียนรู้เรื่องรัก
จึงรู้จักกับตัวเธอ
ฉันก็เลยชอบเผลอ
ไปกับเธออยู่รำไป
ยิ้มเธอนั้นแสนหวาน
ดั่งน้ำตาลชโลมใจ
มองหน้าเธอทีไร
ใจฉันลอยไปทุกที
ถึงเธอจะ(ไม่)สวย
แต่ก็รวยด้วยไมตรี
น้ำใจก็มากมี
เธอนี่แหละดวงตะวัน
แม้ไม่ค่อยสนิท
แต่ใจใกล้ชิดผูกพัน
คงได้มีวันนั้น
วันที่ฉันบอกรักเธอ
25 กุมภาพันธ์ 2548 12:59 น.
อาชา
รักแท้คืออะไร
ใครมีรักบอกฉันหน่อย
ฉันนี้จะค่อยๆ
เรียงร้อยรักให้เป็นทาง
รักคือการอภัย
อยู่ข้างใจไม่ทิ้งห่าง
คอยยืนอยู่เคียงข้าง
ทุกเวลาตลอดไป
รักคือความหวังดี
คอยชี้ทางที่สดใส
ให้คุณก้าวเดินไป
ในเส้นทางที่ราบรื่น
รักแท้คือการให้
โดยไม่หวังผลกลับคืน
ให้ได้ไม่มีฝืน
ได้เท่านี้ก็เพียงพอ
24 กุมภาพันธ์ 2548 14:50 น.
อาชา
ใครบางคนอาจมองว่าไดอารี่
เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์น่าสับสน
ทำไมถึงนั่งเขียนกันทุกคน
น่าฉงนเสียจริงว่าทำไม
เหตุผลก็เพราะว่าไดอารี่
เป็นที่เก็บทุกอย่างของชีวิตไว้
ทั้งความสุขความทุกข์ความในใจ
บันทึกไว้ในสมุดเพียงเล่มเดียว
23 กุมภาพันธ์ 2548 21:14 น.
อาชา
ถ้าให้เดินไปตามสะพานไม้
ถึงจะไกลก็ยังมีจุดหมาย
ถึงจะร้อนก็จะทนแม้เหนื่อยหน่าย
เพราะยังง่ายกว่าเดินตามใจเธอ
เพราะใจเธอมัวแต่ลอยละล่อง
มัวแต่ท่องเที่ยวไปทุกแห่งหน
ฉันนี้หนาต้องคอยแต่อดทน
ว่าสักวันจะไปถึงใจเธอ