2 มีนาคม 2553 20:53 น.

อารมณ์ - คารม ภาค 4

เรายกทะเลมาไว้ที่นี่

ยกมาจากบอร์ด กวีการเมือง ในห้อง ราชดำเนิน ของ pantip.com
เพื่อให้ท่าน ได้แยกแยะ พิจารณา
สนใจ ใฝ่อ่านภาคอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่
หมวดกลอนตามใจฉัน และ หมวดอกหักรักหวานซึ้ง
(ทังหมดทั้งปวง มี 4 ภาค)
==================
เพื่อใคร..? ๐       

เล้าไก่ค่อยๆเงียบเสียงกระต๊ากลงในที่สุด....

คนที่ไม่ใช่ทาสนายเงินก็ลองเอา"กลอนที่เขียนด้วยมือ" มาลงบ้าง
ให้มีความแตกต่าง...ไม่งั้นห้องนี้จะกลายเป็นมิจฉาสมาคมไปซะ
ใครแปลกหน้ามาไม่ได้...เห่าหอนรับกันใหญ่....คริคริ


๐ เขาต่อสู้กันเพื่อใคร ?
จึงพาใจร้อนเร่ามุ่งเข้าผลาญ
ใส่เสื้อแดงคลุมตัว..เหล่าวัวงาน
ด้วยสันดานเชื่องเชื่อ..อันเหลือแจง

๐ เขาต่อสู้เพื่อผู้หนึ่ง
รัก..ซาบซึ้งลึกล้ำ...จึ่งกำแหง
จะดึงฟ้าลงต่ำแล้วคว่ำตะแคง
ตามยุแยงสนตะพาย..ของนายเงิน

๐ จึงวันนี้..เหล่าวัวไทย
หยุดลากไถ..เดินพล่านอยู่นานเนิ่น
กรูขึ้นย่ำเหยียบถนน..แทนคนเดิน
ฟังผายลมเพลิดเพลินจำเริญนัก

๐ เอ้า-ฮุยเลฮุย..เจ้าทุย-ทุ่ง
ย่ำกีบมุ่งแห่แหน..ดูแน่นหนัก
แว่วเสียงนายโห่ฮึก..ก็คึกคัก
เชือกดึงชัก..ซ้ำซ้ำ..ก็ร่ำร้อง !

๐ จุดไฟเข้าใส่เมือง
ด้วยแค้นเคืองที่เข้าครอง
น้ำลายนั้นแตกฟอง
ค่อยหยดนองรดแผ่นดิน

๐ แค้นใดจึ่งใจเดือด
ปุดด้วยเลือดคาว-ราคิน
ปั้นแต่งกำแหงลิ้น
จะล่มสิ้นมุขมนตรี

๐ ใครกันเล่าตัวสู
ทำข่มขู่หมายราวี
อาสัตย์คำบัดสี
เอาช่วงชี้บัตรพลีการณ์

๐ ฉุดชาติลงลาดปู
รองก้าวหมู่เหล่าวัวงาน
เสกแสร้งกำแหงหาญ-
ฮึกคะนองแซ่ซ้องเสียง

๐ เลือดไทยที่ใจทาส
ก็โหมภาษขึ้นพร้อมเพรียง
พร้องพร่ำด้วยสำเนียง
ขุนทองรับขึ้นขับขาน

๐ ใครกันที่พวกสู
เฝ้าเชิดชูด้วยวิญญาณ
ใครกันสืบสันดาน
อันสามานย์ให้มองเห็น

๐ ใครกันเล่าเวยสู
คอยเป่าหูทั้งเช้าเย็น
หยามยุคว่าขุกเข็ญ
คอยบีบเค้นความเป็นไท

๐ นิ้วชี้เมื่อจี้ออก
สี่นิ้วบอก-ว่าเป็นใคร-
มารยาถ้อยสาไถย
ย่อมบอกไทยว่าใครกัน

๐ หางแกว่งและก้นกวัด
เสียงฮึดฮัดอื้ออึง, มัน-
ปากกล้า..แต่ขานั้น-
ดูเถิดสั่น..อยู่อลวน

๐ เขาต่อสู้กันเพื่อใคร ?
เขาถึงได้ตอบรับกันสับสน
เพื่อ-จุดหมายปลายทางของบางคน
หรือปวงชนในชาติ..ผู้ขาดแคลน ? 
P8932068-0.jpg
จากคุณ : สดายุ...     
เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 19:47:02 A:125.24.210.92 X				
2 มีนาคม 2553 20:01 น.

- แก้ไข -

เรายกทะเลมาไว้ที่นี่

ยกมาจากบอร์ด กวีการเมือง ในห้อง ราชดำเนิน ของ pantip.com
เพื่อให้ท่าน ได้แยกแยะ พิจารณาพฤติกรรมคนบางจำพวก
สนใจ ใฝ่อ่านภาคอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่
หมวดกลอนตามใจฉัน และ หมวดอกหักรักหวานซึ้ง
(ทังหมดทั้งปวง มี 4 ภาค)
หลับให้เป็นสุขนะเด็กน้อย สดายุ
-------------------------------------
๐ เพื่อใคร..? ๐       

เล้าไก่ค่อยๆเงียบเสียงกระต๊ากลงในที่สุด....

คนที่ไม่ใช่ทาสนายเงินก็ลองเอา"กลอนที่เขียนด้วยมือ" มาลงบ้าง
ให้มีความแตกต่าง...ไม่งั้นห้องนี้จะกลายเป็นมิจฉาสมาคมไปซะ
ใครแปลกหน้ามาไม่ได้...เห่าหอนรับกันใหญ่....คริคริ


๐ เขาต่อสู้กันเพื่อใคร ?
จึงพาใจร้อนเร่ามุ่งเข้าผลาญ
ใส่เสื้อแดงคลุมตัว..เหล่าวัวงาน
ด้วยสันดานเชื่องเชื่อ..อันเหลือแจง

๐ เขาต่อสู้เพื่อผู้หนึ่ง
รัก..ซาบซึ้งลึกล้ำ...จึ่งกำแหง
จะดึงฟ้าลงต่ำแล้วคว่ำตะแคง
ตามยุแยงสนตะพาย..ของนายเงิน

๐ จึงวันนี้..เหล่าวัวไทย
หยุดลากไถ..เดินพล่านอยู่นานเนิ่น
กรูขึ้นย่ำเหยียบถนน..แทนคนเดิน
ฟังผายลมเพลิดเพลินจำเริญนัก

๐ เอ้า-ฮุยเลฮุย..เจ้าทุย-ทุ่ง
ย่ำกีบมุ่งแห่แหน..ดูแน่นหนัก
แว่วเสียงนายโห่ฮึก..ก็คึกคัก
เชือกดึงชัก..ซ้ำซ้ำ..ก็ร่ำร้อง !

๐ จุดไฟเข้าใส่เมือง
ด้วยแค้นเคืองที่เข้าครอง
น้ำลายนั้นแตกฟอง
ค่อยหยดนองรดแผ่นดิน

๐ แค้นใดจึ่งใจเดือด
ปุดด้วยเลือดคาว-ราคิน
ปั้นแต่งกำแหงลิ้น
จะล่มสิ้นมุขมนตรี

๐ ใครกันเล่าตัวสู
ทำข่มขู่หมายราวี
อาสัตย์คำบัดสี
เอาช่วงชี้บัตรพลีการณ์

๐ ฉุดชาติลงลาดปู
รองก้าวหมู่เหล่าวัวงาน
เสกแสร้งกำแหงหาญ-
ฮึกคะนองแซ่ซ้องเสียง

๐ เลือดไทยที่ใจทาส
ก็โหมภาษขึ้นพร้อมเพรียง
พร้องพร่ำด้วยสำเนียง
ขุนทองรับขึ้นขับขาน

๐ ใครกันที่พวกสู
เฝ้าเชิดชูด้วยวิญญาณ
ใครกันสืบสันดาน
อันสามานย์ให้มองเห็น

๐ ใครกันเล่าเวยสู
คอยเป่าหูทั้งเช้าเย็น
หยามยุคว่าขุกเข็ญ
คอยบีบเค้นความเป็นไท

๐ นิ้วชี้เมื่อจี้ออก
สี่นิ้วบอก-ว่าเป็นใคร-
มารยาถ้อยสาไถย
ย่อมบอกไทยว่าใครกัน

๐ หางแกว่งและก้นกวัด
เสียงฮึดฮัดอื้ออึง, มัน-
ปากกล้า..แต่ขานั้น-
ดูเถิดสั่น..อยู่อลวน

๐ เขาต่อสู้กันเพื่อใคร ?
เขาถึงได้ตอบรับกันสับสน
เพื่อ-จุดหมายปลายทางของบางคน
หรือปวงชนในชาติ..ผู้ขาดแคลน ? 
P8932068-0.jpg
จากคุณ : สดายุ...     
เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 19:47:02 A:125.24.210.92 X				
1 มีนาคม 2553 21:34 น.

อารมณ์ - คารม

เรายกทะเลมาไว้ที่นี่

นำทีเด็ดจาก ห้องกวีการเมือง ราชดำเนิน pantip.com  มาให้อ่านเล่น
เชิญติดตามครับ

๐ คางคก......๐       

๐ แล้วปุ่มปมหยาบกระด้าง-หนังคางคก
ก็ถูกถกหงายแผ่ให้แลเห็น
กระดูกเนื้อเชือดดึงจนถึงเอ็น
เอาผึ่งเค้นตรวจสอบความชอบธรรม

๐ การนิยมแล้วนิยามเป็นความรัก
เหมือนถูกผลักให้วกร่วงตกต่ำ
ที่งดงามสาธกเคยยกย้ำ
ก็สิ้นคำสิ้นศัพท์ควรรับรู้

๐ คล้ายกับพันธุ์กิ้งก่าเขาว่าไว้
เมื่อทองใส่สวมคอ,ที่รออยู่
คือยืดคอเหลืองพร้อยขึ้นลอยชู
ไม่รับรู้รับฟังใครทั้งนั้น

๐ หยาบหยามทั่วคามเขตประเทศนี้
ถ่อยวาทีหลามหลากช่างบากบั่น
อัตตาพลุ่งกระพือความดื้อรั้น
ถ่มทุ๋ย ! กันลั่นเมือง...เปล่าเปลืองแท้..!

๐ เมื่อถึงกาลตกต่ำ..สิ้นอำนาจ
จึงอุบาทว์บัดสีถูกตีแผ่
ส่งออกเป็นผลลัพธ์ให้ปรับแปร
ด้วยสุดแก้ถ่อยทราม...ให้งามตา

๐ จึงเห็นถ่อยใช้เงิน..บินเหินหาว
พร้อมกับปากร้องป่าว-ถูกกล่าวหา
เร่งเร้าให้ช่วยรื้อ..ล่าม-ขื่อ-คา
จากฎีกาตัดสิน..ให้ภินท์พัง

๐ ไร้การกระหวัดหาง..แห่งคางคก
เพียงลิ้นฉกแลบปราดด้วยวาดหวัง
น้ำลายจะพรมเหยื่อให้เชื่อฟัง
แล้วคลุ้มคลั่งร้อนเร่า..รอเผาเมือง !

๐ จึงต้องหวดตีร่างของคางคก
ทั้งสาวกลิ่วล้อ..อย่างต่อเนื่อง
อย่ามัวคิดแบบเก่าให้เปล่าเปลือง
เถิด...เร่งเครื่องทุบตี...อย่ารีรอ !


คางคกประดับเพชรพลอย
คางเหลี่ยมหรือเปล่าไม่แน่ใจ
.

.
====================
.

.
วันเวลาผ่านไปก็เหมือนสายน้ำ
ไม่ย้อนกลับ....คนที่โหยหาอดีตย่อมไม่อาจ
นอนตาหลับได้เลย....หากไม่รู้จักยอม
รับความเป็นจริงที่ดำรงอยู่....

สามปีก็แล้ว... สี่ปี ก็แล้ว...
ยังโหยหาอยู่อย่างนั้น....
น้ำตาหลั่งในยามค่ำคืนสักเพียงไหน...
จะมีใครรู้บ้าง....นะครับ

อดสงสาร...สมเพช...เสียไม่ได้...

ทุกวันนี้ผมเห็นข่าวเขาแล้วเหมือน
นั่งดูรายการ...วงเวียนชีวิต....ช่อง7
เลยครับ....

ถูกโทษจำคุกยังไม่พอ....
บ้านแตกสาแหรกขาด....
แล้วยังจะมาถูกยึดทรัพย์อีก....

วงเวียนชีวิต....คงมีเวลาไม่พอสำหรับ
ชีวิตแสนรันทดนี้นะครับ....

อยากร้องไห้...


==========================

วันศุกร์ ที่ 6 พฤศจิกายน 2552 

เขาคือใส้ศึกให้ต่างชาติมาเหยียบย่ำเรา 
Posted by สุทธิชัย หยุ่น  


================================


ใครว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนเก่งกาจสามารถ เรื่อง
เกมการเมืองเหนือชั้นกว่าใครๆ? ผมว่าเสร็จ "ฮุนเซน" 
เป็นไหนๆ... 

เพราะพอนายกฯ กัมพูชา ประกาศแต่งตั้งอดีตนายกฯ 
ประเทศไทยเป็น "ที่ปรึกษาเศรษฐกิจ" ของเขา 
นั่นคือสัญญาณว่า ... เขาเป็นคนคุมเกมการเมืองระหว่าง
สองประเทศนี้ได้แล้ว

ยิ่งเมื่อทักษิณ ไม่ปฏิเสธและพร้อมจะ "เล่นเกมนี้ด้วย" 
คนในต่างประเทศก็ต้องวิเคราะห์ว่า....    
ไ ท ย ต ก เ ป็ น เ บี้ ย ล่ า ง ทั น ที

และเมื่อฮุนเซน สำทับว่า แม้รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 
จะขอตัวทักษิณกลับประเทศไทยในฐานะ "ผู้ร้ายข้ามแดน" 
ก็จะไม่ส่งตัวให้เพราะทักษิณเป็นเพื่อน และทักษิณ ไม่ได้
รับความเป็นธรรมก็เท่ากับเป็นการประกาศสงครามทาง
การเมืองกับไทย..และ ทั ก ษิ ณ อ  ยู่ ข้ า ง ฮุ น  เ ซ น   
ใ น ก า ร ทำ ศึ ก ส ง ค ร า  ม ค รั้ ง นี้ กั บ ป ร ะ เ ท ศ 
บ้ า น เ กิ ด ข อ ง ตั ว เ อ ง

ทักษิณ อาจจะ นึ ก ว่ า ตั ว เ อ ง กำ  ลั ง "ใช้" ฮุนเซน
ให้เกิดประโยชน์ กับการดิ้นรนกลับไปเป็นใหญ่ที่ไทย 
แต่หนีไม่พ้นที่ ฮุ น เ ซ น   จ ะ ต้ อ ง ม อ ง ก ร ะ ห ยิ่ ม 
อ ยู่ ใ น ใ  จ ว่ า ต น ส  า มา  ร ถ จ ะ 
ใ ช้ ทั ก ษิ ณ   ม า เ ป็ น เ ค รื่ อ ง มื อ  เ พิ่ ม อำ น า จ 
ก า ร ต่ อ ร อ ง กั บ รั  ฐบ า ล ไ ท ย อ ย่า ง ง่ า ย ด า ย  
เพราะฮุนเซน ปล่อยให้ทักษิณ นึกว่าตัวเองฉลาด ทั้งๆ 
ที่ฮุนเซน ใช้เกมเหนือเมฆกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ต้องวิเคราะห์ลึกลงไปอีกว่า... ทำไมฮุนเซน ไม่ตั้งให้ทักษิณ 
เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวธรรมดา? ทำไมต้องออกเป็นพระราช
กฤษฎีกาโดยกษัตริย์เจ้าสีหมุนี .."ตามข้อเสนอของนายกฯ ฮุนเซน"?

คำตอบก็คือฮุนเซน... ต้องการ "สร้างเรื่อง" กับรัฐบาลไทย
ในระดับการเมืองสูงสุด... เพื่อให้แน่ใจว่า . . . ค น ไ ท ย 
จ ะ ต้ อ ง แ ต ก แ ย ก กั น ค รั้ ง ใ ห ญ่ อี ก ค รั้ ง
เพราะคนที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ จะต้องออกมา
แสดงความเห็นกันอย่างดุเดือดอีกรอบหนึ่ง และคนที่ได้
คือฮุนเซนแต่เพียงคนเดียวเพราะทักษิณคือเบี้ยทางการเมือง...

ทักษิณ คิดว่าตัวเองเป็นคนชนะ ทั้งๆ ที่ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย 
แ พ้ เ ข ม ร ใ น เ ก ม นี้ อ ย่ า ง ห ม ด รู ป
ทำไมผมจึงบอกว่าทักษิณ แพ้? 

เพราะต่อไปนี้ ไม่ว่าฮุนเซนจะเดินเรื่องอะไรเกี่ยวกับประเทศไทย 
หากเป็นเรื่องที่คนไทยไม่พอใจ หรือออกมาเป็นภาพว่ากัมพูชา 
เอารัดเอาเปรียบไทย ... ฮุนเซน ก็สามารถจะบอกได้ว่า 
คนที่ให้คำปรึกษาเขาในเรื่องนั้นๆ คือ อดีตนายกฯ ของไทย
เองต่างหากฮุนเซน สามารถทำให้คนไทยตีกันเองได้อย่าง
แยบยลและแนบเนียนยิ่ง

ถามว่า... หากรัฐบาลเขมรกับไทย ต้องเจรจากันอย่างเข้มข้น
และดุดัน เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ตรงชายแดน ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องพระวิหารหรือแหล่งน้ำมันและก๊าซรรมชาติ ... ทักษิณ 
จะอยู่ข้างไหน?
หากทักษิณ แนะนำฮุนเซน ไปในทางที่ผู้นำกัมพูชา ไม่เห็นด้วย 
เขาก็ไม่จำเป็นต้องฟัง... แต่ หากทักษิณ แนะนำไปในทางที่
เขมรได้ประโยชน์เพราะอดีตนายกฯ ไทยย่อมมีข้อมูลภายใน
ของไทยเอง หรือรู้วิธีการต่อรองกับฝ่ายไทย ...ฮุนเซน ก็กระโดด
เข้างับเพื่อให้ตนเองได้เปรียบในการต่อรอง...พลาดท่าพลาด
ทางอย่างไร .... ฮุนเซน ก็ยังสามารถจะโบ้ยเรื่องเลวๆ ไปที่ทักษิณได้

เพราะทักษิณ ในฐานะใหม่คือ "ที่ปรึกษาของนายกฯ เขมร" 
ไม่ใช่ "ราษฎรไทยที่เห็นประโยชน์ของประเทศไทยมาก่อนกัมพูชา"

น่ า อ ด สู ค รั บ

ทักษิณ เคยถูกคนจำนวนไม่น้อย มองว่าแยกไม่ออกระหว่างผล
ประโยชน์ของชาติ กับผลประโยชน์ส่วนตน วันนี้ทักษิณกำลัง
จะถูกมองในทางที่เลวร้ายกว่านั้นอีก... นั่นคือถ้าเขารับตำแหน่ง
ที่ปรึกษาของฮุนเซน เขาก็แยกไม่ออกระหว่างผลประโยชน์
ของประเทศไทยกับของกัมพูชา

ข้อกล่าวหาเรื่อง "ทรยศต่อชาติ" และ "ไส้ศึก" ก็จะพรั่งพรู
ออกมาจากบ้านเกิดเมืองนอนของคุณ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..
จะเอาอย่างนั้นหรือ?

ไปกราบขอความกรุณาและขออนุญาตสมเด็จฮุนเซน ที่จะ
ลาออกก่อนรับตำแหน่งเถอะ...เพราะตราบาปนี้จะอยู่ติดตัว
ไปนานแสนนาน


================================


๐ เสนา VS ทัพรากหญ้า..? ๐

ดูๆจะเลอะเทอะกันไปใหญ่กับแนวคิด...กองทัพเพื่อคนรากหญ้า...ที่เปิดออกมาพร้อมกับโยนภาระโครมใหญ่ลงหน้าตัก จิ๋วหวานเจี๊ยบ...จนต้องกระโดดหลบกันพัลวัน....เป็นแนวคิดของสายเหยี่ยวอดีตยังเติร์กเมษาฮาวาย กลุ่มก้อน จปร.7 เพื่อนรัก มหาจำลองคนนั้น

เมื่อมองดูความขัดแย้งในอดีตของกระบวนการต่อสู้ของประชาชนที่มีต่ออำนาจขุนศึกในแถวทัพนั้น...ภาพที่เห็นเป็นภาพของ.."ชนชั้นกลาง-ปัญญาชน" ในแวดวงการศึกษาที่จะคิด..วิเคราะห์ และรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของเหล่าขุนศึกในอำนาจนั้นก่อนเป็นเริ่มแรก

การต่อสู้ของชนชั้นกลาง-ปัญญาชน...จึงค่อนข้างมีพลังมาทุกยุคทุกสมัยเริ่มตั้งแต่ 14 ตุลา 2516 โน่นแล้ว...

ทำไมถึงมีพลัง ?
ตอบว่า...เพราะสู้ด้วยอุดมการณ์จากจิตใจตนเองเป็นสำคัญ 
ตอบว่า...เพราะสถานภาพทางเศรษฐกิจที่เลี้ยงตัวได้ ไม่ต้องมี"น้ำเลี้ยง" จึงเป็นความบริสุทธิ์ใจที่ผู้คนสามารถสัมผัสได้

ขุนศึกในแถวทัพ...มักอ่อนไหวต่อการกระทบกระทั่งถึงสถาบันที่เป็นที่เคารพตลอดมา..ตั้งแต่ครั้งสงครามอุดมการณ์โน่นแล้ว...เป็นสถาบันที่ดำรงอยู่คู่ชาติมานับนาน...และเป็นผู้นำจิตใจคนในชาติต่อสู้ขับไล่ศัตรูจนหลุดพ้นจากความเป็น( ^o^ )เขาตั้งแต่หลังเสียกรุงครั้งที่สอง

ขุนศึกในแถวทัพที่กุมอำนาจสั่งการกำลังพลได้นั้น...มีลักษณะพิเศษกว่าหน่วยงานอื่นอยู่ที่ความเป็นเอกภาพของสถาบันการศึกษาที่จบมา...สายหลักสายตรงที่จะขึ้นครองอำนาจได้นั้นต้องจบ...จปร...เท่านั้น นอกนั้นไม่มีสิทธิ์ แม้สิทธิ์อันนี้จะไม่ตราไว้เป็นลายลักษณ์อักษรก็ตาม

ความเป็นพี่น้องจึงค่อนข้างนับถือกันจับยึดกันเหนียวแน่น...ไปจนตาย...
และหากสมัยใดมีบุคคลที่โดดเด่นในรุ่นเดียวกันจำนวนมาก ก็จะเติบโตขึ้นมาพร้อมกันเป็นแผง...และอาจฮึกเหิมถึงขั้นสร้างความกดดันผู้บังคับบัญชาได้...เหมือน จปร. 5 และ จปร. 7 ในอดีตเคยมี

สองรุ่นดัง..ดังกล่าวเกาเหลากัน...ไม่กินเส้น...เกิดขึ้นแต่เมื่อใดไม่ชัดเจน

คนดังของรุ่น 5 เช่น
พล.อ.สุจินดา คราประยูร - ผบ.ทบ / นายกรัฐมนตรี
พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี - รองผบ.ทบ
พล.อ.วิมล วงศ์วานิช - ผบ.ทบ
พล.อ.วิโรจน์ แสงสนิท - ผบ.สส
พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล - ผบ.ทอ
ฯลฯ

คนดังของรุ่น 7 เช่น
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร
พล.อ.พัลลพ ปิ่นมณี
พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิต
ฯลฯ

เมษายน 2524 พล.อ.เปรม เป็นนายกรัฐมนตรี...จปร. 7 ทำรัฐประหารแต่ล้มเหลว เพราะพล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก และ จปร.5 ช่วยต่อต้านจนในที่สุด...นายทหาร จปร.7 กลายเป็นกบฎ ต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้จึงพ้นผิด
ตั้งแต่นั้น..บิ๊กซันก็ผงาด พร้อมหัวขบวน จปร 5 ส่วน จปร.7 บางคนขอกลับเข้ารับราชการจนไต่เต้ายศขึ้นชั้นนายพล

พ.อ.จำลอง ศรีมือง(ยศขณะนั้น)ไม่ได้ร่วมกระทำการด้วย ก็ทำงานต่อไป

จนต่อมา ในสมัยพล.อ.ชาติชาย เป็นนายกฯ ได้ไม่นาน จปร.5 ก็ทำรัฐประหารโค่นน้าชาติลง...ในนาม รสช แล้วตั้งนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกฯ 

ขุนศึกในแถวทัพบารมีคับเมืองในยุคนี้...และนั่นเป็นเหตุให้ชนชั้นกลางในเมืองหลวงเริ่ม"อึดอัด" กับความกร่างของอาชีพที่ไม่ค่อยได้เรื่องในการจะมาปกครองบริหารประเทศ...

จนระเบิดเป็นการเดินขบวนประท้วงใหญ่โตต่อการเข้าดำรงตำแหน่งของประธานรุ่น จปร.5 ครั้งนั้นเราเริ่มได้ยินคำว่า..."ม๊อบมือถือ"...อำนาจรัฐเสื่อมทรามลงอย่างรวดเร็วเมื่อชนชั้นกลางรวมตัวกันนับแสนเดินขบวนขับไล่หัวขบวน รสช. 

ครั้งนั้น มหาจำลองมีบทบาทต้านเผด็จการ รสช.อย่างโดดเด่น จนถูกจับกุมกลางถนนราชดำเนิน อันเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่นำไปสู่จุดแตกหัก คือ การยิงใส่ฝูงชนของนักรบถือปืน...

หลังจากนั้น ภาพของ พล.อ.สุจินดา...พล.ต.จำลอง...และพล.อ.เปรมผู้เป็นคนกลาง...นั่งอยู่เบื้องพระพักตร์องค์ในหลวง ทุกคนคงจำกันได้....

นั่นคือพลังของ"ชนชั้นกลาง-ปัญญาชน" ที่ขับเคี่ยวกับอำนาจขุนศึกจนได้รับชัยชนะ...ปีนั้นพศ. 2535 

การร่างรัฐธรรมนูญหลังการต่อสู้ครั้งนั้นนำมาสู่การได้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 นั่นเอง....การต่อสู้เผด็จการครั้งนั้น...ไม่มีชื่อเหล่านี้อยู่เลยในสารบบ...

ทักษิณ ชินวัตร
จตุพร พรหมพันธ์
ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ
วีระ มุสิกพงศ์
จักรภพ เพ็ญแข

.
.
พลังชนชั้นกลางนี้เองที่มาสำแดงเดชกันอีกครั้ง...ในยุค พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ เริ่มจากม๊อบสวนลุมพินี....

ครั้งนี้มวยเปลี่ยนคู่ไม่ใช่....ชนชั้นกลาง VS ขุนศึก
แต่เป็น...ชนชั้นกลาง+สูง VS นายกฯจากระบบเลือกตั้ง

โดยมีขุนศึกเป็นแนวร่วมให้ชนชั้นกลาง !!!

โลกท่าจะหมุนกลับ

แปลความว่า....5-6 ปีในอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นได้สร้างศัตรูไว้ไม่น้อยเลยทีเดียว...และอาจรวมทั้งผู้มีบารมีบางคน

และเพียงไม่กี่ยก....นายกฯจากระบบเลือกตั้งก็ถูกคว่ำลงจากอำนาจอีกครั้งด้วยขุนศึก....ที่"เหมือนว่า" ชนชั้นกลางจะเป็นแนวร่วมให้ขุนศึกอยู่กลายๆ...จึงไม่มีแรงต่อต้านจากกลุ่มพลังที่มีอานุภาพเสมอมานี้เลย...

และอดีตนายกฯ จากระบบเลือกตั้งพยายามแย่งชิงอำนาจคืนผ่านกระบวนการต่อสู้ของประชาชนชั้นรากหญ้าจนถึงปัจจุบัน...

สำเร็จไปครั้งหนึ่งเมื่อชนะการเลือกตั้งทั่วไปภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี พศ.2550 ได้นายสมัคร รวมทั้งนายสมชาย...คนในอาณัติมาเป็นนายกฯ...

แต่ในที่สุด...ขบวนการชนชั้นกลาง-สูงก็สำแดงเดชอีกครั้ง...ยึดทำเนียบ...ยึดสนามบิน...และมีคำพิพากษาสองดคีคว่ำนายกฯในอาณัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกครั้ง....

แล้วส่งไม้ต่อให้ขุนศึกจัดการ"บีบไข่" เนวินและพวกให้เปลี่ยนขั้วการเมือง...เป็นการสำแดงความร่วมมือกันอีกครั้งระหว่าง ชนชั้นกลาง-สูง กับ ขุนศึกในอำนาจคุมกำลัง

สมัคร สมชาย ล้มเหลวในการสั่งการกำลังพลเข้าจัดการเสื้อเหลืองที่ทำเนียบและสนามบิน....เพราะสั่งขุนศึกไม่ได้เป็นสำคัญ

เมื่อมีตำแหน่ง...แต่ไร้อำนาจสั่งการ...ความเป็นผู้ปกครองประเทศก็จบสิ้น

ผู้เขียนไม่มีความเชื่อถือในขบวนการรากหญ้าว่ามีพลังอย่างแท้จริงที่จะขึ้นมาเป็นคู่ต่อกรกับ..ขุนศึก+ชนชั้นกลาง-สูงได้

เนื่องจากไร้พลังทางจิตวิญญาณที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างแท้จริง...เป็นเพียงกลุ่มชนที่คอยพึ่งพาแกนนำทางด้านเศรษฐกิจส่วนตัวเป็นสำคัญ...และมีความเปราะบางสูงที่จะแตกแยกกันเพียงสาเหตุเล็กๆน้อยๆ....

เนื่องจากเป็นกลุ่มก้อนที่มีการศึกษาไม่สูงนัก...การคิดอ่านเชิงตรรกะเหตุผลไม่มีเป็นของตนเอง...จำต้องมีการชี้นำผ่าน"วิทยุชุมชน"ที่ดำเนินการอยู่ทั่วประเทศ...และเชื่อถือแกนนำแบบชาวบ้านเคารพรักศรัทธาเจ้ากูตามบ้านนอก...อย่างฝังหัว...และห้ามลบหลู่...ซึ่งถกเหตุผลด้วยไม่ได้เลย

อันเป็นลักษณาการ "เชื่อง-เชื่อ" ของคนไทยนั่นเอง

พลังของหมู่ชนลักษณะนี้คงยากจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆอย่างมีนัยะสำคัญในสังคมได้....

เชื่อว่าหลังคดียึดทรัพย์จบสิ้นลง....พลังชี้นำที่คอยปลุกเร้าความคิดอยู่นี้จะค่อยๆมอดเชื้อลงในที่สุด

จากคุณ : สดายุ...     
เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 13:09:21 A:110.164.41.25 X:				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรายกทะเลมาไว้ที่นี่
Lovings  เรายกทะเลมาไว้ที่นี่ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรายกทะเลมาไว้ที่นี่
Lovings  เรายกทะเลมาไว้ที่นี่ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรายกทะเลมาไว้ที่นี่
Lovings  เรายกทะเลมาไว้ที่นี่ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเรายกทะเลมาไว้ที่นี่