tiki
สลักธรรม 12
สวัสดีค่ะ
พี่เข้ามาเยี่ยมชม แต่เขียนกลอนไม่เป็นหรอกค่ะ
อ่านที่คุณทิกิ ชื่นชมพี่ดอกแก้วแล้ว
ก็ขอขอบคุณแทนไว้ก่อนเลยนะคะ
เพิ่งรู้จักกับพี่ดอกแก้วไม่นานนัก
แต่ก็ต้องคารวะในน้ำใจงามของพี่ดอกแก้ว
คารวะในภูมิธรรมความรู้ของพี่ดอกแก้ว
.......
ที่สำคัญยิ่งพี่ดอกแก้วเป็นผู้ที่ไม่เพียงแต่สอน แต่ปฏิบัติให้ศิษย์ และน้องๆ ได้เห็นทันที
พี่ดอกแก้วเป็นทั้งครู ทั้งพี่ ที่แสนประเสริฐค่ะ
โดย พี่ดา [10 พ.ย. 2547 , 09:47:59 น.]
สลักธรรม 14
ได้รู้จักกับพี่ดอกแก้ว 10 กว่าปีแล้ว
เห็นพี่ดอกแก้วใช้ชีวิตอยู่คุ้มค่าและเป็นประโยชน์
ทั้งสอนธรรมะ ช่วยเหลือ แก้ไขสิ่งต่างๆ......
และเป็นแบบอย่างที่ดีให้ดำเนินตาม
โดย เซิ่น [10 พ.ย. 2547 , 12:25:09 น.]
สลักธรรม 15
ทุกคำที่ทุกคนชื่นชมคุณ พี่ดอกแก้ว
จะชื่นชมด้วยจนซึ้งใจในคุณความดี
ของเธอ...ซึ่งหายากในโลกนี้จริงๆค่ะ
โดย ทิกิ_tiki [10 พ.ย. 2547 , 17:27:32 น.]
สลักธรรม 16
มาขอบคุณอีกครั้งค่ะคุณทิกิ ..คุณพี่ที่น้ำใจแสนงาม
กระทู้จากไทยโพเอ่มนี้นับว่านำความชื่นใจมาสู่มวลศิษย์ของพี่ดอกแก้วอย่างมากมายเลยค่ะ
โดย น้องกิ๊ฟ [10 พ.ย. 2547 , 17:56:34 น.]
กระทู้ที่ อภิธรรมออนไลน์ น้องกิฟท์เธอนำข้อความบทกลอน
จากหน้ากลอนไทยโพม
tp://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_65230.php
นี้ไปแปะไว้ที่นั่น แล้วส่งเมล์มาบอกให้ข้าพเจ้าทราบในยามสาย
ขอเรียนว่า กระทบกระเทือนใจมากมาย
กับการกระทบกระทั่งกันในวาจาของคนที่
ไม่รู้ ว่า อกุศลกรรมบทสิบ มันต่างจาก
กุศลกรรมบทสิบ อย่างไร แถมไม่ค้นคว้าหาความรู้
ข้าพเจ้าก็มิใช่ครู ไม่ใช่นักธรรมตรี ธรรมโท ธรรมเอก
ได้แต่ วางตัวอย่างโน่นนี่ไว้ให้
ก็มิได้เฉลียวใจกันสักคนว่า
สตรีที่เห็นนั้นเป็นใคร
ยังคงลามปาม ท้าตี ท้าต่อย ท้าดวลกันอยู่เรื่อยไป
ราวกับว่า หน้ากลอนไทยเป็นสนามประลองรบ
ในขณะที่อีกฝ่ายก็ปราถนาดีรักใคร่ผู้คนในเว็บเสียเหลือเกิน
นำมาแต่พระมหาวัจนะอันล้ำเลิศประเสริฐยิ่งซึ่งยากนัก
ที่บุคคลธรรมดาจะมีสติปัญญาเข้าถึงเรียนได้
แต่ด้วยบารมีธรรมที่เธอมีเมตตาต่อฝูงชน
รู้แล้วไม่เก็บไว้คนเดียวนำมาเผยแผ่ ข้าพเจ้าเคยติติง
ไว้หลายหนว่า แม้นพระพุทธองค์เมื่อตรัสรู้แล้ว เพ่งมองดู
ความดิบแห่งปัญญาคนในโลก ก็ยังจะตัดช่องน้อยแต่พอตน
เสด็จไปนิพพานเป็น พระปัจเจกพุทธเจ้าเสียแต่บัดนี้น
โดยเหตุแห่งองค์สหัมบดีพรหม พรหมธาดา ทรงเพ่ง
พระเนตรสอดส่องอุบัติการณ์แห่งมหาบุรุษที่นับเป็นล้านๆปี
ถึงจะมีโอกาสมาบังเกิดในชมพูทวีปเสียที จึงลงมากราบทูล
พระพุทธองค์ไว้ว่า
คนเรานั้นยังพอมีที่จะรู้ธรรมแห่งพระองค์ได้
ไม่ได้มืดบอดเสียเสมอไป
นั้นแล พระพุทธองค์จึงทรงตอบรับคำเชิญให้อยู่เผชิญ
วิบากกรรมในโลกมนุษย์ ต้องทนรำคาญกับฝูงชนที่สดับพระธรรม
ก็เสมอเหมือนฟังเพลงฉ่อย หาได้รู้รสธรรมเหมือนคนกินแกง
ไม่รู้คุณเกลือ ฉันใดก็ฉันนั้น
ข้าพเจ้าจึงบางครั้งก็ไปเหมือนขวางลำเธอเหมือนกันว่า
จะเผยแพร่ไปทำไมหนอ ที่นี่มันแดนกิเลส มีแต่รักๆใคร่ๆ อะไร
ก็ไม่ทราบทั้งวี่ทั้งวัน แต่เมื่อข้าพเจ้าเผลอโดดเข้ามาสิงสู่เสียแล้ว
ก็หัวเราะ ร้องไห้ ตามคำกวีกลอนต่างๆนาๆสารพัดอารมณ์นั้นไป
มีตีกันก็บ่อย ราวกับเวทีลิเก มีเชียร์พระเอกนางเอก จับคนดูมา
ซัดกัน ขว้างกระป๋องขวดเบียร์กันหัวร้างข้างแตกเพราะด้วยเหตุ
เพลินในอารมณ์ ตัวแสดงกันมากไปหน่อย
ก็เป็นเว็บที่มีสัสันดีไปอีกแบบ คนดูก็กระหึ่มมากมาย ดูไป
ก็ด่าว่าตัวแสดงไป ขว้างเกี๊ยะกันมาเป็นประจำ รับมั่งไม่รับมั่ง
รับได้ ก็เอาเป็นเกือกกันอุจจาระสุนัขเสีย รับไม่ทัน เกี๊ยะนั้นก็
ลอยไปถูกเอาครูหัวโน ปากแตก ให้ครูโกรธเกรี้ยวจับเราโยนออก
นอกเว็บไปบ่อยๆ ว่า ชิ้วๆๆๆ ไปยุ่งกับไอ้พวกลิงพวกเด็กนี้ทำไม
ไปสิงเว็บอื่นของเอ็งเถิด เสียเวลาทำมาหากิน
เสียเวลาประพฤติปฏิบัติธรรม
แต่ข้าพเจ้าก็อดไม่ได้ ด้วยนิสัยมันเอะอะเฮฮาเสียจนเคยชิน
น้องๆมันรู้ใจ เจอหน้าชวนไปเล่มเกมโน่นนี่กันบ่อย คุณ พี่ดอกแก้ว
เล็งญาฯมาแล้วคง เอน็จอนาถใจกับข้าพเจ้าเป็นกำลัง ถึงแก่ต้องลงมา
ตามเชิญไปดูงานกฐินของเธอด้วยตนเองว่า เวลาที่ผ่านไป มัวแต่ไป
ทำอะไรอยู่ คนเขาสร้างเสนาสนะให้พระปฏิบัติ โยคาวจรไว้ปฎิบัติ
วิปัสสนากรรมฐาน คุณเธอ มัวแต่ไปนั่งเล่น โกะ มั่ง ไปเล่นเกมอยู่
msn มั่ง ไปเล่น เกมอยู่ Bangkokcity.com นั่นมั่ง
ก็โดนโทษเอาจากครูบาอาจารย์สายนี้ให้เห็นเหมือนกันว่า
เป็นแข้งเป็นขาเป็นมือเป็นเท้าให้ อถิธรรมมูลนิธิแบบไหนถึงอยู่วง
นอกตลอดไปทั้งปีทั้งชาติ
ก็ฝากกราบคุณ พี่ดอกแก้ว นะที่นี้เลยค่ะว่า
ที่ผ่าน มันก็เหนื่อยหน่ายใจกับน้องๆที่ไม่ค่อยจะสนใจธรรม ว่า
ธรรมะนั้นสูงเกินที่คนธรรมดาสามัญจะเข้าใจ...
แต่วันนี้ ที่ถูกคุณดอกแก้วให้นั่งเฝ้าศาลาเล็กหน้า สำนักปฏิบัติธรรม
ในความเงียบสงัดวิเวก มองต้นไม้ใบหญ้าในดินแดนสงบธรรม รำลึก
ถ้อยคำ ที่พระอาจารย์บุญมี เมธังกุโร ท่านเอ่ยไว้บ่อยๆถึงทิศทางที่
มนุษย์จะก้าวไปหลังความตาย
มีเวลา มีสติ มีปัญญา ไม่คิดปฏิบัติธรรม
ใช้เวลาไปเล่นกับ โมหะจริตของตน แปลว่า ความหลงใหลได้ปลื้ม
กับเกมบ้าง เพลง บ้าง กลอน บ้างแล้วแต่...มันก็หนทางไปอบายด้วยกัน
อบายในที่นี้ ก็รำลึกคำ
หลวงพ่อเสือท่านกล่าวไว้ว่า
ที่เห็นเกิดเกิด เป็นสุนัขบ้างแมวบ้าง เปิดเพลงที่ไรก็เต้นแร้งเต้น
กากันไป ก็ด้วยบ้างตายในท่าเต้นระบำ หลงใหลตายกันทั้งนั้น บ้างก็เล่น
โน่น เล่นนี่ เล่นเกม เล่นพนันตาย
ไร้แม้นคำว่า พุทโธติด วิญญาณไป ใครจะจำแนกวิญญาณหลังตาย
ได้ ไปเกิดเป็นสัตว์เสียก็มาก
เขียนปลงวิบากกรรมไว้ตรงนี้อีกรอบตอนค่ำวันนี้ค่ะ
พุธ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
เวลา ย่ำค่ำ ๑๘:๔๐ นาฬิกา