tiki
ช่วงบ่ายฉันลุกขึ้นมา ขณะกำลังปวดท้องอยู่อย่างนั้น
ถามตัวเองว่า นี่คือพิษณุโลก ดินแดนที่พระนเรศวร
มหาราชท่านทรงถือกำเนิดขึ้นมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา
อีกไม่กี่กิโลเมตร ก็จะได้เห็น อนุสาวรีย์ท่านที่ แค้มป์สน
ใจเร็วกว่าจรวด ฉันลงจากเปลยวน แล้วเดิน
ไปถาม ท่านอาจารย์ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ (โรงเรียนนี้ก็
เหลืออาจารย์กันอยู่สองคน สอนกันแต่ประถมหนึ่งยันชั้น
ประถมปีที่หกเลย ส่วนอนุบาลนั้น อาจารย์หญิงหนึ่งคนดู
แล อยู่)....
อาจารย์ท่านรับทราบความต้องการแล้วก็ หันไปหา
* นายแจ๊ว* ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตอเรือให้มาหา สั่งงานว่า
ช่วยพาคุณผู้หญิงนี้ เธอปราถนาจะนำหนังสือไปบริจาค
ที่สถานปฏิบัติธรรมแค้มป์สน ฉันก็สำทับไปว่า เรื่องค่า
น้ำมันรถเดี๋ยวจะจัดการให้
ดังนั้นในเวลาสิบนาทีถัดมา ฉันก็นั่งในรถ ที่มีตรา
ช่อง ๙ ของ นายแจ๊ว มุ่งเดินทางไป แค้มป์สน ทางขึ้น
เขาค้อเพชรบูรณ์
ไปถึง ศูนย์พัฒนาศาสนา และ ได้เข้าไปพบ ท่าน
พระมหาฯ องค์หนึ่งซึ่งท่านเป็นเจ้าหน้าที่ดูแล วิทยุชุมชน
เอ๊ฟเอ็ม 100.75 มอบหนังสือให้ท่าน เพียงบอกว่าพิมพ์ที่
โรงพิมพ์ ซึ่งท่านผู้กำเนิดแค้มป์สนนี้เป็นผู้ก่อตั้งไว้ ท่าน
พระมหาฯ ท่านก็ยินดี ที่ ได้รับหนังสือไว้ และ สำทับว่า
ในเดือนนี้ จะมีพระเณร ขึ้นมาปฏิบัติธรรมถึง 300 รูป
ก็ยิ่งน่าเลื่อมใสที่ ท่านอาจารย์พร รัตนสุวรรณ ท่านได้
สร้าง แค้มป์สนไว้เป็น สถานสัปปายะเหมาะแก่พระปฏิบัติ
เป็นที่ยิ่ง
เมื่อได้กระทำบุญกุศลดังเจตนาแล้ว ก็ลาท่านกลับ
ระหว่างทางก็ โทรศัพท์ กลับไปแจ้งท่าน ว่าพ้นเขตเพชร
บูรณ์ เข้าเขตวังทองแล้ว และ ก็ส่งข่าวไปยัง น้องๆที่รออยู่
ที่บ้านตอเรือ ได้ข่าวว่า งุนงงว่า ฉันหายไปไหน ก็กล่าว
ขออภัยเขาไปหน่อยว่า หากรอให้ถึงวันพรุ่งคือ วันที่ ๖
ธันวาคมอันจะต้องเดินทางกลับ คงฉุกละหุกนัก อย่างไร
ค่ำ ๕ ธันวาคมนี้ ก็กลับมาร่วมพิธีทันแน่นอน และส่งข่าว
ว่าอยู่ถึงไหน ไปตลอดทาง
ที่แปลกนักคือ ความเจ็บปวดที่มีอยู่ หายไปเป็นปลิดทิ้ง
แต่ครั้นเมื่อ รถกลับถึง บริเวณงานที่ผู้คนกำลัง จุดเทียนชัย
ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกันอยู่นั้น ความ
หิว และ กังวล ก็ทำให้เกิดอาการปวดท้องขึ้นมาอีกจนได้
จึงยืนอยู่รอบนอก ดูงานพิธีให้ผ่านไปจนสำเร็จเรียบร้อย
อย่างน่าปลื้มใจ และ ชื่นชม ในความพร้อมเพรียงของเหล่า
เทวดาน้อยเหล่านั้น