หิ่งห้อยน้อยใจ
บทที่ 2 ปราสาทลึกลับ
หลังจากที่นายหมีรูปไม่หล่อแต่พ่อรวยอย่าง(อะ)โกโก้ฟื้นขึ้นมา นายพีทจังจึงพาทั้งคู่เข้าไปในปราสาท
ระหว่างที่สามชีวิตเดินทางกลับเข้าไปในปราสาทนั้น เจ้ากระต่ายน้อยหมูเตยและหมีน้อย(อะ)โกโก้คอยสังเกตสิ่งต่างๆ ตามทางที่เดินผ่าน
ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อเข้าใกล้ปราสาทจะต้องเดินผ่านป่าทึบที่ต้นไม้สูงขึ้นหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นแสงตะวัน
เจ้ากระต่ายหมูเตยเหลียวซ้ายแลขวากลับหน้ากลับหลังมองดูบรรยากาศโดยรอบ คิดในใจว่าเมืองอะไรฟระเนี่ยทำไมน่ากลัวจัง
นี่ทางไปปราสาทยังน่ากลัวขนาดนี้ แล้วในปราสาทจะน่ากลัวขนาดไหน คิดไปแล้วก็แอบขนลุกอยู่ตัวเดียวด้านหลัง
พอเห็นว่าหมีน้อย(อะ)โกโก้และพีทจังเริ่มเดินห่างก้าวออกไปทุกทีจึงรีบวิ่งเข้ามาเบียดกลางเกาะแขนกันคนละข้างกระชับเข้าแนบตัว
เมื่อทั้งสามมาถึงหน้าปราสาทที่ตั้งอยู่สุดทางถนนแคบๆ ที่ตัดผ่านป่าทึบ ประตูหินบานใหญ่ที่สลักลวดลายมังกรตัวเขื่องก็ค่อยๆเปิดออก
ไอเย็นยะเยือกรอดผ่านช่องว่างระหว่างประตูมากระทบกับใบหน้าของคุณกระต่าย และ คุณหมี
"พวกเจ้าคือใคร ใคร ใคร ใคร ใคร . . . "
เสียงก้องกังวานสะท้อนสะท้านมาจากเบื้องหลังประตู ทำให้สัตว์น้อยทั้งสองสะดุ้งเฮือก กระโดดเกาะกันแน่น
แล้วก็หันไปหาพีทจังชายร่างสูงหวังจะขอความเห็นใจ เอ๊ย ขอความช่วยเหลือ แต่อนิจจา...
ชายร่างสูงพีทจังได้หายไปแล้ว !!!!
ทั้งสองตกอยู่ในความมืดมิด ความมืดมิดที่ไร้ขอบเขต และความหนาวเย็นที่ไออุ่นของกันและกันก็ไม่ช่วยให้ความเยือกเย็นลดน้อยลง
"ทำไมยังไม่ตอบมาอีก หา หา หา หา หา..."
เสียงกังวานกระหน่ำซ้ำ พร้อมกับสายลมพลังมหาศาลดูดเจ้าสองตัวน้อยลึกเข้าไปกลิ้งโค่โล่กันอยู่ที่เชิงบันได และประตูหินบานใหญ่ก็งับปิดไล่หลังดังปัง !!!
ทั้งสองตกใจมากมาย หายไปหนายยยยอะ พีทจังหายไปหนายยยย แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นฟระทำไมมันถึงได้มืดขนาดนี้
ทั้งสองเริ่มกระแซะเข้ากอดกันแน่นขึ้นและแน่นขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะพิศวาทกันนะแต่เพราะหนาวต่างหาก เกล็ดน้ำแข็งเล็กๆ เริ่มเกาะตามร่างกาย
รู้ตัวอีกทีเจ้าสัตว์น้อยทั้งสองก็เข้ามาอยู่ในโถงกลางปราสาทเสียแล้ว
ทันใดนั้น พื้นหินของห้องโถงก็เริ่มสั่น แรงขึ้น แรงขึ้น จนทำให้หมีน้อย(อะ)โกโก้ได้สติ รีบหันไปบอกเพื่อน
"เร็วเข้า ไอ้ตัวยุ่ง เราต้องขึ้นไปข้างบน"
ทั้งสองจับมือกันแน่นท่ามกลางความมืด แล้วออกวิ่งทันทีโดยไม่รู้ทิศทาง พลันจมูกของทั้งสองก็ได้กลิ่นอาหารโชยมาจากส่วนที่ลึกเข้าไปในปราสาท
"ทางนี้ ทางนี้"
แน่นอนว่าเป็นเสียงของเจ้ากระต่ายน้อยหมูเตย ซึ่งถึงจะรักการผจญภัยแค่ไหน ก็เห็นของกินเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง
สรุปแล้ว แทนที่สองสัตว์จะวิ่งขึ้นข้างบนตามความเห็นของน้องหมี ก็เลยจับมือกันวิ่งเข้าไปยังทางเดินด้านขวาซึ่งกลิ่นหอมโชยออกมาตามคำสั่งน้องหมูแทน
แต่พอเลี้ยวอ้อมโค้งทางเดินปุ๊บ เจ้าสองตัวก็ต้องตกตะลึงเมื่อโดนแสงสว่างจากกรอบประตูบานใหญ่สาดใส่หน้า พร้อมกับที่ความสั่นสะเทือนยิ่งแรงขึ้นกว่าเดิม
เบื้องหน้าคือภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่กำลังปะทุลาวาแดงร้อนออกมา
เจ้ากระต่ายน้อยหมูเตย : "พี่หมี ข้าหิวจัง เราตามกลิ่นอาหารนี้ไปเถอะ"
หมีน้อย(อะ)โกโก้ : "ดีเหมือนกัน ข้าก็หิวแล้ว ว่าแต่เราจะไปยังไง มืดซะขนาดนี้"
แล้วทั้งสองตัวก็เดินโซซัดโซเซคลำฝาผนังห้องไปตามทิศทางที่คาดว่าจะมีอาหารอันโอชะรออยู่
โดยไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย ว่าลาวาร้อนแดงกำลังไหลใกล้เข้ามาทุกที (นี่คงหิวกันจนตาลายเลยนะเนี่ย หยึย)
เสียงก้อง แฝงแววขุ่นเคืองดังขึ้นอีกครั้ง
"เจ้าทั้งสองเข้ามาในครัวข้าทำไม คิดจะขัดขวางการทำไก่อบภูเขาไฟของข้ารึ"
เจ้าหมูน้อย และเจ้าหมีน้อยสะดุ้ง เหมือนตื่นจากภวังค์ ตรงหน้าห่างออกไป มีไก่อยู่ตัวหนึ่ง เสียบไม้ทะลุกลาง วางนอนอยู่บนยอดเสาสองต้น
ใต้ไก่ตัวนั้น มีทะเลสาปลาวา... ใช่แล้วครับ ทะเลสาป เพราะไก่ตัวนั้น... มัน... มัน...
เป็นไก่ยักษ์ !!!
"หยุดนะเจ้าลิน้อยอย่ามาเสียมารยาทกับแขกของข้า"
ทั้งกระต่ายหมูเตยและหมี(อะ)โกโก้ ต่างหันมามองที่ต้นเสียงนั้นทันทีเพราะจำได้ว่าเป็นเสียงของพีทจัง
แต่...รูปลักษณ์ที่เห็นก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว ลักษณะการแต่งกายก็เปลี๊ยนไป๋ด้วยเช่นกั๋น
ร่างที่ยืนอยู่บนชะง่อนผาสูงลิบด้านข้าง (ทำไมในปราสาทมีชะง่อนผาฟะ... อ๋อ มันแถมมากับภูเขาไฟ)
ไม่ใช่ชายหนุ่มรูปงามร่างสูงโปร่ง หากเป็นชายชราหลังไหล่งองุ้ม หนวดเคราสีเทาแกมขาวยาวถึงพุง เสื้อผ้าที่ใส่ก็มิใช่ชุดขุนนางแบบเดิม
กลับเป็นเสื้อคลุมผ้าหยาบหนาสีน้ำตาลเหมือนเปลือกไมั
พีทจังยกไม้เท้าในมือชูขึ้น ทันใดนั้น!! ก็มีแสงสว่างพุ่งมามัดตัวหมี(อะ)โกโก้และกระต่ายยักษ์หมูเตยไว้
แล้วทั้งสองเก๊าะลอยสูงขึ้น... สูงขึ้น... ขึ้นไปอยู่เหนือทะเลลาวา
ทันใดนั้นแสงสว่างก็วาบขึ้น พีทจังในร่างชราตกใจมากมายทำให้กระต่ายหมูเตยและหมีโก้ร่วงปุลงไปในทะเลลาวา
"เฮ้อ... ขออภัยในความไม่สะดวกที่ไฟฟ้าในปราสาทขัดข้องอีกแล้ว ข้าเพิ่งจะซ่อมมันเสร็จ ว่าแต่มีใครเห็นแขกของข้าบ้างไหม
เป็นกระต่ายกะหมีตาตี่ใส่แว่น หายไปไหนกันแล้วล่ะเนี่ย??? ว่าไงเจ้าลิน้อย ว่าไงท่านเจจุน?"
เสียงของพีทจังดังขึ้นอีกครั้ง
"ช่วยด้วยจะลงทะเลลาวาแว้ววววว อ๊ากกกกกก"
เสียงของเจ้ากระต่ายหมูเตยก็ดังขึ้นเช่นกัน
'ตูม...ตูม'
เจ้ากระต่ายและเจ้าหมีตกทะเลลาวาจนได้ โชคดีที่ก่อนหน้านี้ทั้งสองมีไอเย็นและเกล็ดน้ำแข็งเกาะอยู่ตามร่างกาย
จึงยังไม่ถูกเผาไหม้ในทันที และโชคดีอีกเช่นกันที่แสงจากแหวนมณีนาคาห่อหุ้มตัวทั้งสองไว้ได้ทัน
ทำให้ทั้งสองที่น่าจะตกทะเลลาวาไปแล้วตกลงมากองอยู่แทบเท้าพีทจังตัวจริงอีกครั้งดัง
'แอ้ก'
แผล่บ! เสียงกระต่ายยักษ์หมูเตยใช้ลิ้นเลียตามแขนตัวเอง พลางตะโกนลั่นว่า
"อร่อย!"
แล้วจึงหันไปเลียน้ำลาวาที่ยังติดอยู่ตามแขนของหมีน้อยหน้าตาบ้านๆ อย่างนาย(อะ)โกโก้ "อร่อยจริงๆ เลย"
"หือ?"
พี่หมียกแขนขึ้นมาดมกลิ่นน้ำลาวาที่ติดอยู่บนเสื้อผ้า ก็ได้กลิ่นคล้ายๆ เครื่องเทศ ยังไม่ทันจะลองทดสอบด้วยลิ้น
เจ้ากระต่ายยักษ์ ก็กระโดดใส่ พี่หมี(อะ)โกโก้ต้องล้มลงไปนั่งทั้งยืนโดยมีเจ้ากระต่ายหมูเตย นั่งเลียหน้าเลียตาพี่หมีอย่างเอร็ดอร่อย (สะกดถูกมะเนี่ย)
หลังอิ่มจากการเลีย เอ๊ย ชิมน้ำลาวา เจ้ากระต่ายน้อยก็ตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าแหวนมณีนาคาได้หายไป
"แหวน !!! แหวนของข้า หายไปไหน..."
"เฮ้ย!! O_o"
หลังจากหันซ้ายหันขวาอยู่ครู่หนึ่ง เจ้ากระต่ายก็เหลือบไปเห็นที่หน้าผากพี่หมี
"แหวนข้ากลายเป็นรัดเกล้าอยู่บนหัวพี่ได้ยังไง"
"เปล่านะตัวเอง"
พี่หมี(อะ)โกโก้รีบปฏิเสธเสียงหลง
"เค้าเปล่าหยิบมานะ มันมาของมันเอง"
ว่าแล้วก็พยายามปลดรัดเกล้ามณีนาคาจากหน้าผาก ทว่าเอาไม่ออก เพราะติดหูอวบอูมปุกปุยน่ารักทั้งสองข้าง
มิหนำซ้ำแก้วมณีดวงที่เป็นตาของพญานาค ก็เปล่งแสงว้อบแว้บแสบตา เหมือนจะคาดโทษมือซุกซนของพี่หมี
น้องหมู เอ๊ย น้องกระต่ายเลยรู้สึกงอนเล็กน้อย และลงไปดิ้นปัดๆ อยู่ตรงแทบเท้าพ่อมดพีทจังจนน้ำซอส เอ๊ย น้ำลาวากระจาย
"เอาล่ะ อย่าเพิ่งทะเลาะกันเลย"
เสียงพีทจังพูดขึ้น หลังจากมองน้องกระต่ายคลุกซอส จนทั่วทั้งตัว
"เรื่องรัดเกล้ามณีนาคานั้น ข้าคิดว่าข้าช่วยท่านได้"
พีทจังพูดต่อ เมื่อเห็นทั้งสองนิ่งฟัง
"ท่านจะช่วยยังไง" พี่หมี(อะ)โกโก้ถามขึ้น
"ก่อนข้าจะช่วยท่าน ข้าก็มีเรื่องรบกวนให้ท่านช่วยข้าเล็กน้อย ....
เราไปคุยรายละเอียดเรื่องนี้กันที่โต๊ะอาหารดีมั้ย ... ตอนนี้ไก่อบภูเขาไฟก็สุกพร้อมเสิร์ฟแล้ว"
เจ้ากระต่ายน้อยหมูเตยได้ยินเรื่องอาหารก็หูตั้งขึ้นมาทันที (เป็นกระต่ายนะครับ อย่าลืม ฮ่าๆๆ)
"ดีฮะ ดีฮะ เราไปหม่ำกันเลยดีกว่า"
ว่าแล้วก็คว้ามือเจ้าหมีน้อยเต้นหย็องแหย็งตามพ่อมดเฒ่าพีทจังไป โดยไม่ทันได้ยินเสียงหัวเราะต่ำๆ ในลำคอที่แว่วมาจากข้างหน้า
"หึหึ เอาของกินมาล่อก็เชื่อแล้ว ช่างหลอกง่ายดีแท้ ซ้วบ!!!"
พ่อเฒ่าพีทจังหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้หนูลิที่ยืนยิ้มสวยอยู่
"เตรียมเครื่องเทศและเตาอบไว้ได้เลยเจ้าลิ งานนี้เรามีสิทธิ์ได้กินกระต่ายอบน้ำผึ้งและหมีร้า(เซมๆ กับปลาร้า อิอิ) อิ่มหนำแน่ๆ เจ้าลิ"
"ได้เลยจ๊ะ ปู่"
หนูลิรับคำพร้อมใช้ลิ้นเลียริมฝีปากอย่างอดใจไม่ไหว
"เมื่อกี้ท่านว่าอะไรนะ??"
เจ้ากระต่ายหูยาวถาม
"ไม่มีใครพูดอะไรหนิ ใครพูดอะไรเหรอ"
พี่หมี(อะ)โกโก้เงยหน้าขึ้นมาจากการพยายามจัดระเบียบขนที่ยุ่งเหยิงถาม
"ไม่มี้ ไม่มี"
พีทจังย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
แล้วทั้งสองเดินตามพีทจังไปตามทางเดินของปราสาทที่เรียงรายไปด้วยเสาหินสูงต้นมหึมา แสงสลัวจากโคมไฟที่แขวนอยู่ตามเสาทำให้มองไม่เห็นเพดานของปราสาท
พอมาถึงหน้าประตูเหล็กที่สูงจนไม่เห็นว่าไปสิ้นสุดตรงไหน พีทจังเจ้าเล่ห์ก็ชูไม้เท้าไปข้างหน้าพลางร่ายคาถา
"ลูกกบตัวหน่อย ลูกกบตัวหน่อย พากั๊นร่าเริงยินดี... เนื้อมันนุ่มดี เนื้อมันนุ่มดี อะฮื้อ... อะฮือ... อาหย่อย..."
ประตูบานโตท่าทางหนักก็เปิดเข้าไปด้านในช้าๆ เผยให้เห็นแสงสว่างระยิบระยับจากโคมแก้วเจียระไนบนเพดาน และโต๊ะอาหารยาวเหยียดทำด้วยทองคำ
"เฮเทล เกรเซล เข้าไปนั่งที่โต๊ะซิ" พ่อมดพีทซังเรียก (แก่ขนาดนี้เป็งพีทซังซะดีๆ เถอะ)
หมีใหญ่(อะ)โกโก้กับกระต่ายน้อยหมูเตยมองหน้ากันเลิกลั่ก
"เมื่อกี้ท่านเรียกเราเหรอ แต่เราไม่ได้ชื่อ เอ่อ ... เอ่อ ... นั่นสักกะหน่อย"
"อ้อ ข้าลืมนะ คนแก่ก็เป็นแบบเนี้ย"
พีทซังรีบกลบเกลื่อน
หมีน้อย(อะ)โกโก้ชักรู้สึกเอะใจ เลยเผลอเกาหัวกลมๆ แต่กระต่ายน้อยหมูเตยยอมรับคำอธิบายของพ่อมดพีทซังแต่โดยดี
วิ่งรี่ตรงไปที่โต๊ะทองคำ ซึ่งมีจานทองคำ ช้อนทองคำ ส้อมทองคำ ถ้วยทองคำ ถาดทองคำ
ตลอดจนมีดทองคำอันใหญ่เท่ากับความยาวของตัวเจ้ากระต่ายน้อยอีกหนึ่งเล่ม
"มานี่เถอะฮะ พี่โก้ มานั่งที่เร้ว หมูอยากกินไก่อบภูเขาไฟแล้วล่ะ"
เมื่อทั้งสามนั่งลงบนเก้าอี้ทองคำเรียบร้อยแล้ว จานทองคำเต็มไปด้วยเนื้อไก่ยักษ์อบภูเขาไฟ
หมูยักษ์ผัดซอส ลูกพีชอบราดชอคโกแลต กล้วยบวชชี ผลไม้สด และอื่นๆ มากมาย ก็ลอยดึ๊กดึ๋ย ดึ๊กดึ๋ย เข้ามา
"ไม่เห็นมีน้ำผึ้งเลย ข้าอยากกินน้ำผึ้งเหมือนของหมีพู"
พี่หมี(อะ)โกโก้ทักขึ้น หลังจากมองหาทั่วทั้งโต๊ะ
"อ๋อ ได้สิพี่โก้" ตาเฒ่าพีทคุง เอ๊ย พีทจัง เอ๊ะ พีทซังทำเสียงแหบพร่า แล้วโบกไม้เท้าไปมาในอากาศ
เพียงครู่เดียวก็มีหมอกควันสีน้ำตาลอ่อนก่อตัวขึ้นเหนือหัวสัตว์น้อยทั้งสอง และเกาะกลุ่มแน่นเข้ากลายเป็นเมฆสีทอง
กลั่นตัวจนกลายเป็นฝนน้ำผึ้ง หยาดหยดจ๊อกๆ ลงบนจอกทองคำที่อยู่ดีๆ ก็โผล่มาตรงหน้าเจ้าหมีน้อยราวกับถูกเสกมา
"พี่หมีและน้องหมูจงกินซะให้อิ่ม... ให้อ้วน... แล้วเราจะได้คุยกัน ว่าข้าอยากจะรบกวนขอให้ท่านช่วยอะไร เหอๆๆๆ"