เรื่องเล่าของแม่ 49'

แมงกุ๊ดจี่

...ตึกตั๊ก  ตึกตั๊ก........เสียงหัวใจของฉันมันเต้นผิดจังหวะ  ไม่เหมือนอย่างเคย   พร้อมกับเสียงหายใจที่ติดขัด  ไม่เป็นจังหวะอย่างเคยเป็น   ฉันนั่งกำมือแน่น  ตัวเก็งไปหมด   ฉันนั่งลำพังคนเดียวอยู่หน้าห้อง....ซึ่งก่อนหน้านั้น   ฉันได้เจอผู้ชายใจดีคนหนึ่งเขาดูภูมิฐาน   เขาเอ่ยบอกฉันว่า  *ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง   อย่ากังวลเลย   เดี๋ยวเดียวก็เสร็จแล้ว*
...คำพูดที่ปลอบโยนของผู้ชายใจดีคนนั้น   ไม่ได้ช่วยให้ฉันคลายความกังวลอะไรเลย  ฉันนั่งนิ่ง  ตัวแข็งทื่ออยู่ไม่นาน   สักพักได้ยินเสียงดังก้อง...ในหู  *อย่าทิ้งพ่อนะ   ดูแลพ่อนะ*   มันวนซ้ำ ๆ   ในหูเหมือนอยู่ใกล้  ๆ  
ไม่ไกลจากฉันเท่าไหร่    ฉันมองไปรอบ  ๆ   มีภาพผู้หญิง   อายุมากแล้วนอนอยู่บนเตียง   สายตาเหม่อลอย   จ้องมองมาทางฉันแล้วเอ่ยขึ้น  *อย่าทิ้งพ่อนะ   ถ้าแม่...ไม่อยู่แล้ว  ดูแลพ่อด้วย  อย่าลืมนะ*    แม่...พร่ำบอกฉัน...ช้ำ ๆ 
...ตอนนั้น    ที่แม่...เอ่ยออกมาทั้งที่ลำบากในการที่จะเปล่งเสียงออกมา  แต่แม่...ก็พยายามที่จะพูด   ให้ฉันได้รับฟัง   แต่ตอนนั้นฉันไม่ได้รับปากกับแม่ไว้ ฉันสนิทกลับแม่...ตั้งแต่เด็กจนโต... ฉันซึมซับเรื่องราวของแม่...มากกว่าใคร ๆ  ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด   แม่...ไม่ได้ไว้ใจฉันหรอก   แม่...เคยบอกว่า   ฉันเหมือนพ่อทุกอย่าง   รูปร่าง   หน้าตา   นิสัยใจคอ  ผิวพรรณ    แม้นแต่โรคลมในกระเพราะ    ก็ยังเหมือนพ่อ....สงสัยตอนฉันอยู่ในท้องแม่   แม่คงรักพ่อมากหรือเปล่า  หรือโกรธพ่อน๊า  ฉันเองก็ไม่กล้าถาม...
...เมื่อฉันเหมือนพ่อทุกอย่าง   จึงทำให้ฉันพยายามทดแทนสิ่งที่แม่ขาด  สิ่งที่พ่อไม่เคยให้แม่... ทุกเรื่องราวของแม่...ฉันซึมซับมาทุกอย่าง  ความเจ็บปวดทุกอย่างที่พ่อทำไว้กับแม่...พ่อเจ้าชู้แค่ไหน?   พ่อนอกใจแม่กี่ครั้ง   ฉันรับรู้และรับทราบทุกอย่าง   พี่ ๆ  น้อง ๆ  ไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้เลย...
...ฉันไม่ได้ดีใจหรอก   ที่รู้เห็นเรื่องราวพวกนี้    ฉันเสียใจต่างหาก  และร้าวรานในหัวใจ   รักและสงสารแม่มากแค่ไหน?   แต่ฉันทำอะไรไม่ได้  ได้แต่นั่งอยู่ข้าง  ๆ   เป็นเพื่อนแม่  ร้องไห้ไปกับแม่เท่านั้นเอง...พ่อไม่ใช่บุคคลที่น่าประทับใจสำหรับลูก ๆ  ทุกคน   แต่พ่อใม่เคยสอนให้ลูกเป็นคนไม่ดีเลย มีประโยชน์หนึ่งที่พ่อบอกพวกเราเสมอ   *รักที่จะเป็นอะไรให้เลือกเอา   รักดีก็ทำ  รักชั่วก็ทำ*   พ่อให้อิสระกับพวกเรา      พ่อไม่มาดูแลพวกเรา   ทำให้เราไม่ยอมที่จะเป็นคนไม่ดีในสายตาของใคร ๆ
...วันที่แม่ออกจากโรงพยาบาล   เพื่อกลับมาบ้าน   เป็นวันที่ทรมานในหัวใจเหลือเกิน ฉันไม่ได้ไปทำงาน   ฉันนั่งอ่านหนังสือให้แม่ฟัง   ใคร  ๆ  บอกว่าฉันบ้าไปแล้ว   ไม่หรอกฉันไม่ได้บ้า... เพราะหนังสือที่ฉันอ่านเป็นคัมภีร์พระไตรปิฎก   ทำให้ใคร ๆ  คิดว่าฉันเป็นบ้าไปแล้ว    แม่เริ่มไม่ไหวแล้ว...ฉันเอียงตัวไปแนบแก้มแม่   และพูดข้าง ๆ หูบอกให้แม่ท่องพุทธโธ  พุทธโธ   พุทธโธ   
*คิดถึงพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์ ไว้ในใจนะแม่นะ* 
...ฉันจับมือแม่ไว้มั่น   แม่พยายามพูด   แต่ไม่มีแม้นเสียงเปล่งออก   สายตาของแม่ดูวิงวอน...เห็นสายตาแม่แล้วทำไม?   ฉันจะไม่รู้ว่าท่านต้องการอะไร    ฉันตัดสินใจ  บอกแม่ออกไป...*แม่ไม่ต้องห่วงนะ   หนูจะดูแลพ่อ   จะไม่ทิ้ง   และจะคอยดูแลน้อง   แม่ไม่ต้องห่วงนะ*   ฉันพูดเสียงดังฟังชัด   ปะปนกับเสียงร้องไห้  โฮของพี่สาว   และพ่อที่อยู่รอบ ๆ ข้าง...  ปู่และญาติ   ดึงตัวฉันออกมา   เพื่อไม่ให้น้ำตารดศพแม่   มือของแม่ยังกำมือของแน่น   ตาของแม่ไม่ปิด  ฉันค่อย ๆ เอื้อมมือไปปิดตาแม่   เพื่อให้แม่หลับตาให้สนิท  เหตุการณ์วันนั้นทำให้ฉันรู้สึกผิด   ผิดจนถึงทุกวันนี้...  
...แหลม   แหลม...เสียงดังมาจากข้างหลังทำให้ฉันสะดุ้งตื่นจากพะวังภ์  ฉันหันไปมองพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลมาจากไหนก็ไม่รู้   แล้วมองหน้าพี่ชาย   เห็นเขามาแล้วทำให้ฉันอุ่นใจขึ้นเยอะ   ความหวาดกลัววิตกกังวลหายไปบ้าง  แต่ก็ยังมีอยู่
พี่ชายของฉันนั้นเอง   เขาเรียบร้อนหน้าตาตื่นมา   แล้วถามขึ้นแบบเรียบ  ๆ  ในแบบของเขา  *พ่อเป็นไงบ้าง...*  เขาเอ่ยถามหน้าของเขาเหมือนเฉย ๆ  
แต่แววตาเขาก็กังวลไม่ต่างจากฉันหรอก  *ไม่รู้หมอยังไม่ออกมาเลย*  ฉันตอบไปด้วยเสียงสะอื้นในคอ... พี่คงไม่รู้สินะว่าฉันกลัวแค่ไหน?  
...สักพักผู้ชายใจดีคนที่ปลอบฉันก่อนหน้านั้น  เดินออกมาจากห้อง...ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วนะ    คนไข้ต้องฟักฟื้นที่โรงพยาบาลก่อน ประมาณ   1   อาทิตย์นะ  ฉันมองหน้าพี่แล้ว  ความกังวลใจ  ที่มีบนใบหน้าก็หายไป   ฉันเอยขึ้นพร้อมยกมือไหว้เขา *ขอบคุณมากคะหมอ*   แล้วหมอก็เดินจากไป...การผ่าตัดของพ่อผ่านได้ด้วยดี    รอแค่การฟักฟื้นเท่านั้น  อีก  1   อาทิตย์ก็กลับบ้านได้แล้ว...				
comments powered by Disqus
  • mashimaro99

    8 สิงหาคม 2549 19:09 น. - comment id 92090

    10.gif10.gif  ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงจะดีใจมาก ๆ ค่ะ  แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง ..10.gif10.gif
    
    เอาใจช่วยให้คุณพ่อหายไว ๆ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • ตะวันจะลับขอบฟ้า

    8 สิงหาคม 2549 20:11 น. - comment id 92093

    ชีวิตของลูกคนหนึ่ง ที่ไม่มีแม่
    
    คอยเป็นห่วงอยู่ข้าง ๆ ยากจังเลยนะค่ะ
    
    ที่จะมีชีวิตอยู่ได้ รักท่านตั้งแต่วันที่ท่านยังอยู่ข้าง ๆ เรา
    
    ดีกว่ารักท่านตอนที่เรา จากเราไปแล้วนะค่ะ31.gif31.gif31.gif
  • เฌอมาลย์

    8 สิงหาคม 2549 22:53 น. - comment id 92094

    เป็นเรื่องที่เศร้ามากๆเลยค่ะ
    
    กตัญญูเป็นสิ่งประเสริฐค่ะ สักวันคุณมะกรูดก็จะได้สิ่งดีๆส่งผลกลับมาแน่นอนค่ะ36.gif
  • เพียงพลิ้ว

    9 สิงหาคม 2549 08:20 น. - comment id 92096

    พี่กานต์รักแม่ค่ะน้องมะกรูด
    แม่พี่กานต์พูดบ่อยๆว่า ไม่อยากตายก่อนพ่อเพราะกลัวลูกจัดการอะไรได้ไม่ดีพอ
    ยิ่งคิดเรื่องของแม่ยิ่งชื่นชมค่ะ แต่เขียนออกมาไม่ได้ค่ะ
    
    ขอเพียงความเข้มแข็งครึ่งหนึ่งของแม่ก็พอค่ะ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • คนผ่านมา

    10 สิงหาคม 2549 21:00 น. - comment id 92103

    เรื่องนี้ นับว่า อ่านแล้วได้เห็นความรักที่แม่มีต่อลูก ลุกมีต่อแม่และพ่อ
    แล้วตกลงในเรื่อง แม่ยังมีชีวิตอยู่ไหม
    พอดี  ตอนแรกเป็นแม่ ตอนหลังเป็นพ่อ
    โลกเรามีพบ ก็มีจาก มีจากก็มีพบ
    ทุกสัพสิ่ง เป็นไปโดยธรรมชาติปรากฏการของโลก ................
  • แก้วประเสริฐ

    11 สิงหาคม 2549 11:02 น. - comment id 92110

    36.gif16.gif36.gif
       เป็นงานที่ซาบซึ้งมากจ้า
    
           16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • เหมียว

    11 สิงหาคม 2549 12:31 น. - comment id 92117

    " คิดถึงพ่อกับแม่ค่ะ รักท่านมากค่ะ \"
    
    พี่สาวดูแลตัวเองนะค่ะ
    
    เป็นห่วงค่ะ
    
    36.gif
  • พี่ชาย

    12 สิงหาคม 2549 14:57 น. - comment id 92126

    น้องสาวจ๋า
    
    อ่านแล้วเศร้านะ แต่น้องจ๋าเข้มแข็งมากนะจ๊ะ พี่ชายก็กำพร้าแม่ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย จำหน้าแม่ไม่ได้เลย ได้ดูแต่รูปถ่ายแม่แค่นั้น ถ้าพี่เสียแม่ไปตอนที่จำความได้แล้ว ไม่รู้เหมือนกันนะว่าจะเข้มแข็งได้เหมือนน้องสาวจ๋าหรือปล่าว??
    
    พี่ชายเสียใจด้วยนะเรื่องคุณแม่ ชื่นชมในความเข้มแข็งของน้องสาวนะครับ..36.gif
    
    ดูแลคุณพ่อดูแลตัวเองดีๆนะ..16.gif
  • แมงกุ๊ดจี่

    15 สิงหาคม 2549 14:04 น. - comment id 92187

    สวัสดีค่ะ   คุณmashimaro99
    เรื่องที่มะกรูดเขียน    มีเรื่องจริงอยู่   60 %   ค่ะ
    แต่งเติมบ้าง  อีก  40%  ค่ะ   แต่ความรุ้สึกน่าจะ  100%  คะ
    ขอบคุณมากนะคะ    รักษาสุขภาพนะคะ
    
    -------------------------------------------------------------------------------
    สวัสดีค่ะ    คุณตะวันจะลับขอบฟ้า...
    3  ปีแล้วที่มะกรูดไม่มีแม่  คอยให้กำลังใจเหมือนก่อน
    แต่ก็มีท่านอยู่ในนี้    ในใจดวงนี้เสมอ...แม้ท่านไม่อยู่แล้ว
    ใหม่ ๆ  ก็ลำบากเหมือนกันคะ   เคว้งคว้างอยู่นานคะ
    แต่ทุกชีวิตต้องก้าวเดิน   ต่อไป...   
    
    รักษาสุขภาพนะคะ 
    
    -------------------------------------------------------------------------------
    สวัสดีค่ะ   คุณเฌอมาลย์
    ขอบคุณมากค่ะ   สำหรับกำลังใจ...
    รักษาสุขภาพนะคะ   
    
    -------------------------------------------------------------------------------
    สวัสดีค่ะ  พี่สาวจ๋า...
    วันนี้พี่สาวจ๋าคงจะกลับแล้วใช่มั้ยคะ....คิดถึงล่ะ  มากด้วย...
    มะกรูดก็รักแม่มาก    ไม่ว่าตอนเท่าอยู่หรือไม่อยู่
    ทุ่มเททำเพื่อท่านเสมอมา    แต่ก็มีที่ทำท่านเสียใจ...
    แม่มะกรูดเก่งค่ะ    ท่านเก่งมาก ๆ  มะกรูดก็ไม่ได้ครึ่งของแม่หรอกคะ
    แม่อดทน   แม่รักพ่อมาก   ถ้าเป็นมะกรูดคงไม่ทน   และไม่ทำแบบแม่แน่ ๆ
    คิดถึงพี่กานต์นะคะ    พี่กานต์กราบแม่พี่กานต์แทนมะกรูดด้วยนะคะ
    
    -------------------------------------------------------------------------------
    สวัสดีค่ะ  คุณคนผ่านมา...
    แม่มะกรูดเสียแล้วค่ะ   เมื่อต้นปี  46
    อ่านแล้วงง   เหรอ?  คะ   มะกรูดคงเบลอด้วยมั่งคะ
    เพราะเรื่องนี้ตั้งท่าเขียนตั้งแต่เดือนที่แล้ว  แต่ไม่สำเร็จ
    เพราะว่ามะกรูดรอ้งไห้ทุกที...   ขอบคุณนะคะ  ที่แวะมาทักทาย...
    
    -------------------------------------------------------------------------------
    สวัสดีค่ะ  คุณแก้วฯ
    ขอบคุณมากคะ   ที่แวะมาทักทาย....
    รักษาสุขภาพนะคะ   ระลึกถึงเสมอ..
    
    -------------------------------------------------------------------------------
    สวัสดีค่ะ  น้องเหมียว....
    เจ้าก็ดูแลตัวเองนะคะ   สาวน้อย...
    คิดถึง....
    
    -------------------------------------------------------------------------------
    สวัสดีค่ะ   พี่ชายจ๋า...
    ไม่มีแม่แล้วความรู้สึกตอนนั้นมันก็เคว้งคว้างนะคะ
    เหมือนตัวเองไร้จุดยืน      เพราะทำทุกอย่างก็เพื่อแม่
    แต่ตอนนี้ไม่มีท่านแล้วแต่เราต้องก้าวต่อบ้างทีก็ท้อ   และอ่อนล้าใจ
    แต่เมือ่คิดถึงท่านอยู่เสมอ    แม่ไม่จากน้องสาวจ๋าไหน?  หรอกคะ
    ท่านยังอยู่ในใจ    อยู่กับน้องสาวจ๋าเสมอตลอดเวลา....
    
    คะน้องสาวจ๋า   จะดูแลพ่ออย่างดีค่ะ
    ตอนนี้ท่านก็เกือบจะหายแล้วมั่ง   ขานั้นบ่นเก่ง
    อยู่ด้วยนาน ๆ    ไม่ได้    ปะทะคารมณ์ประจำ    ตอ้งอยู่ห่าง ๆ  คอยห่วง...
    (ท่านแต่งงานใหม่แล้ว    เลยไม่ค่อยเข้าใกล้เท่าไหร่  แต่ก็ห่วงใยเสมอ)
    พี่ชายรักษาสุขภาพนะคะ    คิดถึง  และเป็นห่วงเสมอ...
    -------------------------------------------------------------------------------
    -------------------------------------------------------------------------------
  • การทำเเท้ง

    20 กุมภาพันธ์ 2553 01:10 น. - comment id 92507

    อ่านเพื่อเล่าเป็นคติสอนใจแก่ผู้หลงผิดคิดทำแท้ง
    
    เราไปทำแท้งมาเมื่อวาน
    
    ดิฉันเป็นนักเรียน มหาลัยแห่งนึงซึ่งอาศัยอยู่กับแฟนที่คบกันมา 
    3 ปี
    ตอนแรกที่รู้ว่าท้อง ฉันตัดสินใจไม่บอกให้แม่รู้เพราะว่ายังไม่พร้อมและยังเรียนไม่จบกลัวแม่จะด่าเอา พอกลับบ้านไปหาแม่แม่ก็เริ่มสงสัยว่าทำไมเข้าห้องน้ำบ่อยจังเป็นอะไรหรือป่าว ฉันก็ปัดไม่บอกแม่และเปลี่ยนเรื่องคุยเสมอจนแม่เริ่มสงสัย และฉันจึงตัดสินใจบอกแม่กับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวฉัน ตอนแรกคิดว่าแม่จะต่อ ว่า แต่แม่ไม่ทำอะไรเลยได้แต่เงียบฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จึงร้องไห้ออกมา หลังจากนั้น 2-3 วันฉันก็กลับไปหอพักที่พักอยู่ไปถามแฟนว่าจะเอายังไง แฟนกลับไม่ให้คำแนะนำใด ๆ และบอกว่าจะเลี้ยงไหวหรอถ้ามีลูกทั้งค่านม แพมเพริด อะไรอีกมากมาย ฉันจึงโทรไปหาแม่ว่าแฟนเค้ารับไม่ได้ไม่หร้อมที่จะมี แม่ฉันจึงบอกว่าทำอะไรให้คิดเสียก่อน
    
    มาอีกวันนึงแฟนบอกว่ามีสถานรับทำแท้งที่สุขุมวิท 12 ราคาไม่แพงมาก ฉันทำอะไรไม่ถูกจิง ๆ
    แฟนจึงพาไป ตอนแรกที่เดินเข้าไปมันก็เหมือนกับร้านอาหารด้านล่างแต่มีทางขึ้นบันไดขึ้นไปชั้นบน พอขึ้นไปพยาบาลที่หน้าเค้าร์เตอร์จะถามว่าประจำเดือนขาดกี่เดือนแล้วเค้าก็ให้นั่งรอ คุณเชื่อไหมว่าคนที่รอทำบาปกรรมนั้นมีเยอะมากเลย และยังมีนักเรียนผมสั้นตัวเล็กมาก ๆ มานั่งรอ เฮ้อพอนึกก็สมเพดตัวเองจิง ๆ พอนั่งซักพักเค้าก็เรียกให้ไปชั่งน้ำหนะกและจ่ายตัง ตอนแรกจ่อย 200 และเข้าปัยอีกห้องจ่ายอีก 1800  ฉันคิดไปคิดมากแล้วก็ไม่อยากทำแต่มันก็จำเป็นจิงๆ แล้วตอนที่ฉันพร้อมใครที่ไหนอยากจะมาเกิดกับฉันร่ะ ?
    
    ฉันไม่เคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับฉัน พอฉันนั่งสักพักเค้าก็ให้ขึ้นไปชั้นบน แล้วเค้าจะพาเดินไปห้องรอทำ พอถึงพยาบาลก็จะให้เปลี่ยนผ้าถุง และกินยาแก้ปวด แล้วพอถึงเวลาหมอก็เรียกในห้องนั้นมันน่ากลัวมากตอนที่ฉันเข้าไปมือไม้สั่นไปหมดตัวเย็น พยาบาลบอกว่าห้ามเกร๊งเค้าให้ฉันยกขาขึ้นปัยเหมือนขาหยั่ง แล้วซักพักเขาก็นำอะไรไม่รู้เสียบเขาไปที่ช่องคลอดฉันรุ้สึกเจ็บปวกมากเค้าดึงเข้าดึงออกอยู่ปะมาน4-5ครั้งมันจุกมากแทบจะทนไม่ไหวฉันน้ำตาซึมพอเส๊ดพยาบาลอีกคนก็มารับตัวฉันกลับไปที่ห้องเดิมและให้ฉันกินน้ำร้อนและนอนพักแต่ทว่ามันไม่ได้เจ็บแค่ร่างกายแต่มันเจ็บทั้งจิตใจ ฉันได้ชื่อว่ากำลังจะเป็นแม่คน แต่ฉันกลับทำลายเค้าคนนั้นไปเสียแล้ว ฉันนอนร้องไห้อยู่ในห้องนั้นได้ปะมาน 5 นาทีฉันก็ใส่กางเกงเหมือนเดิม ยาที่เค้าให้มาเป็นยาแก้ปวดและวิตตามินธรรมดา ฉันพอแข็งแรงดีแล้วก็เดินลงปัยข้างล่างซึ้งแฟนรออยู่ แล้วก็โบกรถกลับบ้านฉันยืนแทบไม่ไหวแต่ก็ต้องทน
    
    
    
    ฉันอยากเตือนสติกับผู้ที่จะคิดไปทำว่าอย่าทำเลยเด็กเค้ามีบุนเกิดมาอยู่กับเราแล้วเราอย่าปัยทำลายเค้าสิ่งที่ฉันทำมันผิดพลาดมากฉันอยากฝากปัยบอกกับวินญาณ น้อย ๆ ของแม่ว่าแม่ขอโทดจิง ๆ แม่อยากให้ลูกอโหสิให้แม่เลว ๆ คนนี้ 
    
    จึงอยากฝากมาเป็นคติสอนใจ
    
    
    
    
    ........แม่ที่แสนเลว........

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน