22 พฤศจิกายน 2546 14:09 น.

ผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง

แม่หญิง

คุณธรรมของผู้ยิ่งใหญ่
ผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้
ให้กำเนิด โดยมิอ้างเป็นเจ้าของ
บำรุงเลี้ยง โดยมิถือเป็นบุญคุณ
เกื้อกุล โดยมิก้าวก่าย
ไม่นำความยิ่งใหญ่ ไปแทรกแซงขู่เข็ญบังคับใคร
เมื่อได้รับการเทิดทูน ท่านไม่ทะนงตน
เมื่อได้รับการทักท้วง ท่านไม่ท้อแท้ 
เมื่อกิจการงานอันยิ่งใหญ่สำเร็จลง
ท่านถอนตัวจากไป...				
9 พฤศจิกายน 2546 01:28 น.

ตนของตนเป็นที่พึ่งแก่ตน

แม่หญิง

พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า ตนของตนเป็นที่พึ่งแก่ตนเอง ก็คนอื่นใครจะเป็นที่พึ่งแก่ใครได้  ด้วยว่าตนของตน ที่ตนฝึกฝน  ทรมานดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งอันผู้อื่นได้ด้วยยาก ดังนี้
	ตนของตนจะเป็นที่พึ่งแก่ตนได้อย่างไร
	เราก็ทราบแล้วว่า  การกระทำ  คำพูด  ความคิดของเรา  แต่ละอัน ละอัน ละอัน นั้นแล คือ  เหตุซึ่งจะผลิดอก  ออกผล  ให้เราได้รับ  ดังนั้น  จะทำ  จะพูด  จะคิด  สิ่งใด  ให้มีสติตามรักษา  มีปัญญาแนะสอน  ไตร่ตรอง  พินิจ  พิจารณา  โดยถี่ถ้วน  รอบคอบ  ให้เกิดปัญญาเห็นชอบ  เป็นสัมมาทิฐิก่อนทุกครั้ง
	ใจที่พร่อง  ที่หิวโหย  เป็นใจที่ดิ้นรน  แสวงหา  ซัดส่าย  ย่อมเดือดร้อน  ย่อมทุกข์  เพราะความบกพร่อง  ความขาดแคลน  ในตนของตน  ได้มาเท่าไรก็ไม่รู้อิ่มรู้พอ  เพราะความพร่อง  ความหิว  ที่เนื่องมาแต่มาแต่กิเลสนั้น  ไม่รู้จักคำว่าเต็ม  ว่าอิ่ม
	กิเลส  คือสิ่งที่มาเคลือบคลุมใจ  ให้ไม่เห็นตามสภาพเป็นจริง  เกิดเป็นความหมอง  ความทุกข์  ความเดือดร้อนขึ้น  เมื่อใจคละเคล้าอยู่กับกิเลส  ย่อมคิดซัดส่าย  ย้อนไปในอดีตบ้าง  ไหลไปยังอนาคตบ้าง  ซึ่งล้วนเป็นมายา  เพราะอดีตเปรียบเหมือนรอยที่ขีดไปบนผิวน้ำ  เมื่อขีดแล้วก็จบสิ้นไป  ณ ขณะที่ขีดนั้นเอง  เราจะหมุนเวลาเพื่อย้อนรอยเอากลับคืนมาอีกไม่ได้  แต่ใจที่รู้ไม่รอบ รู้ไม่จริง  ไปหลงยึดติดอยู่กับความจำ  ความยึดมั่นสำคัญหมาย  คอยคิดปรุงสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนเราถ่ายหนังเอาไว้ แล้วเอากลับมาฉายซ้ำๆอยู่อย่างนั้น  แทนที่จะอยู่กับปัจจุบันกับความเป็นจริงที่กำลังเกิดอยู่ต่อหน้า  แต่ละขณะ แต่ละขณะ แต่ละขณะ
	มิฉะนั้นก็คิดหวังไปยังอนาคต  วาดภาพตระเตรียมไว้  โดยไม่คำนึงว่า  ความเป็นจริงจะเป็นอย่างไร  แล้วทุ่มเทใจไปยึดมั่นสำคัญหมาย  วิตก  กระวนกระวาย  ว่าจะไม่เป็นดังใจคิด  จนลืมสารัตถะของปัจจุบันโดยสิ้นเชิง  แทนการสร้างทุกข์สร้างโทษให้ตนเองเช่นนั้น  ลองหยุดใจให้นิ่งสักชั่วขณะ  แล้วเพ่งมองเข้าไปในใจของตน  เพ่งจนเห็นชัดเจน  เหมือนมองกระจกที่ใสบาง  แล้วเห็นใจที่นิ่งนั้น  มีความระลึกรู้ตื่นตัวพร้อมอยู่ด้วยสติ  แหลมคมด้วยปัญญาที่สามารถรู้เห็นทุกสิ่งที่บังเกิด  ที่สัมผัสตามความเป็นจริง
	เราจะพบด้วยความประหลาดใจว่า...ใจขณะนั้น  เป็นใจที่เป็นอิสระ  เบา  เยือกเย็น  สงบ  และผาสุก...				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแม่หญิง
Lovings  แม่หญิง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแม่หญิง
Lovings  แม่หญิง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแม่หญิง
Lovings  แม่หญิง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแม่หญิง