4 พฤศจิกายน 2546 20:06 น.

บนหนทาง

แววดาว

เหมือนพายุรุนแรงแฝงชีวิต
    รอบทางทิศทะเลใจเริ่มไหวหวั่น
    เมฆหมอกครึ้มปรากฎบดบังจันทร์
    ความเปลี่ยนผันทอภาพฉาบทุกข์ทน
           ล่องเรือกล้าท้าฝันสู่วันใหม่
    ปวดร้าวในคืนวันอันสับสน
    สุดขอบเขตทะเลพรางต่างวกวน
    ละครคนเสแสร้งแฝงมายา
          สุดขอบรุ้งขอบฝันอันแปรเปลี่ยน
    โลกวกเวียนเหตุการณ์ผ่านปัญหา
    ร้อยเรื่องราวซึมซับกับเวลา
    ล่องนาวาชีวิตลิขิตทาง
         ฝ่าคลื่นลมมรสุมที่รุมเร้า
    สุขโศกเศร้าบรรเลงบทเพลงต่าง
    กี่หัวเราะน้ำตามาอำพราง
    ทะเลกว้างเรือล่องท่องวันคืน
          ค้นจุดหมายปลายทางอย่างเรียนรู้
    หลากฤดูเยือนท้าต้องกล้าฝืน
    ฝั่งความฝันมนุษย์พบจุดยืน
    ร้อยพันหมื่นอุปสรรคคือหลักชัย
          เป็นเรือที่เข้มแข็งแกร่งชีวิต
    มีหางเสือเอื้อทางทิศลิขิตได้
    กี่คลื่นลมมรสุมคลี่คลุมใจ
    ปรับใบให้เรือสู้สู่เส้นทาง				
2 พฤศจิกายน 2546 12:55 น.

บ้านนาสู่ป่าตึก

แววดาว

ทุ่งรวงทองถิ่นนี้เคยมีค่า
   น้ำมีปลานามีข้าว  คำกล่าวขาน
     ทรัพย์ในดินสินในน้ำคำโบราณ
     สืบตำนานท้องทุ่งเคยรุ่งเรือง
          คราดคันไถสงบนิ่งถูกทิ้งขว้าง
     ไร้กองฟางด้ามเคียวควายเคี้ยวเอื้อง
      แผ่นดินที่อัตคัดดูขัดเคือง
      ถูกคนเมืองยื้อแย่งเข้าแข่งครอง
          ใช้เม็ดเงินหว่านนาแทนกล้าข้าว
      ดอกเบี้ยกราวงอกงามบนความหมอง
      หนี้สินล้นพ้นกายขึ้นก่ายกอง
      น้ำที่นองท่วมหน้าน้ำตาใคร
           อพยพหลบเศร้าเข้าเมืองหลวง
      มาเสี่ยงดวงเบื้องหน้า...หาทางใหม่
      พลีหยาดเหงื่อหลั่งรินแทบสิ้นใจ
      ทาสรับใช้นายทุน...เงินหมุนงาน
          เพียงสองมือสองขาก้าวมาสู้
      ภัยซ่อนอยู่รอบตัวทั่วทุกด้าน
      กลางป่าตึกลึกเร้นเช่นวิมาน
      กลับประจานให้เห็น...ความเป็นคน
           หวังลมลมแล้งแล้งเหมือนแกล้งหวัง
      ผิดพลาดพลั้งซ้ำซากมามากหน
       ห่างบ้านนาลาจากความยากจน
       กลับทุกข์ทนบนถิ่น...แผ่นดินเมือง				
1 พฤศจิกายน 2546 13:33 น.

จดหมายรันทด

แววดาว

อ่านจดหมายจบลงก็คงเศร้า
   ลายมือเก่าคุ้นตาภาษาเขียน
   ถ้อยสำนวนหยิบยกแสนวกเวียน
   แค่ปรับเปลี่ยนเหตุผลซ่อนกลใน
         อ่านจดหมายหลอกลวงช้ำทรวงซ่อน
   คำออดอ้อนวาจาพาหลงใหล
   ทุกอักษรร่ายมนต์เหมือนดลใจ
   สุขอยู่กลางเปลวไฟภัยบดบัง
          เบื่อจดหมายปรวนแปรแค่กล่าวอ้าง
   รักอำพรางเสแสร้งแล้งความหวัง
   ให้สัญญาเอ่ยเอื้อนเหมือนจริงจัง
    ...รักคงยังหวานถ้อยร้อยคารม...
        เบื่อจดหมายเพ้อพร่ำทุกคำเอื้อน
   รักลืมเลือนสะอื้นแสนขื่นขม
   นิยายช้ำบทเก่าเหงาระทม
   แต่งเรื่องราวทุกข์ตรมห่มหัวใจ
        อ่านจดหมายจบลงต้องปลงว่า
   ดินกับฟ้าต่างกันจึงหวั่นไหว
   ยอมอยู่อย่างคนแพ้แม้ปราชัย
   ดีกว่าไปเป็นสองสำรองเธอ				
31 ตุลาคม 2546 15:26 น.

ดอกไม้แห่งน้ำใจ

แววดาว

คือดอกไม้ดอกงามในความฝัน
   ที่เธอนั้นปันจิตคิดรักษา
   เป็นดอกไม้เบ่งบานกาลเวลา
   ตั้งชื่อว่าดอกไม้แห่งน้ำใจ
         เธออยากมอบดอกไม้น้ำใจนี้
   ให้คนที่รันทดได้สดใส
   และงอกงามในกมลคนทั่วไป
   เป็นดอกไม้ดอกใหม่ในใจคน
         เพราะดอกไม้แห่งน้ำใจในวันวาน
    ถูกริดก้านกิ่งใบไร้ดอกผล
    ยืนโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาเศร้าทุกข์ทน
    ยังแต่ต้นเติบกล้าอยู่ช้านาน
           ด้วยน้ำใจของเธอเลิศเลอยิ่ง
     ต่อก้านกิ่งใบดอกงอกสืบสาน
     จากหนึ่งสองสามสี่ที่เบ่งบาน
     เป็นหมื่นล้านแสนต้นบนแผ่นดิน
           ขอดอกไม้ดอกนี้ที่เธอสร้าง
     สถิตกลางดวงใจไทยทุกถิ่น
     ให้สายธารน้ำใจที่ไหลริน
      คลายทุกข์สิ้นระทมตรมอุรา
             เพราะเธอคือดอกไม้แห่งน้ำใจ
     ที่ใครใครตั้งนิยามและถามหา
     แท้จริงเธออยู่ในใจประชา
     รอศรัทธาเบ่งบานดอกก้านใบ				
30 ตุลาคม 2546 15:56 น.

สูงสุดของการให้

แววดาว

ให้สิ่งของเงินตรามีค่ามาก
  ให้ของฝากญาติมิตรจิตเกื้อหนุน
  ให้ปัจจัยอาหารอิ่มทานบุญ
  ให้ความรู้เป็นทุนอุ่นปัญญา
         ให้ลาภยศตำแหน่งพร้อมแต่งตั้ง
  ให้ความหวังต่อสู้รู้ปัญหา
  ให้คำพรชื่นชมสมอุรา
  ให้พบสิ่งปรารถนาน่ายินดี
         ให้ร่ำรวยล้นฟ้ากว่าใครเขา
  ให้ความเศร้าละลายพ่ายหลีกหนี
  ให้บ้านใหญ่หลังโตโก้เต็มที
  ให้ชีวีสดใสไร้กังวล
          ให้เพื่อนพ้องยอมรับล้วนนับถือ
   ให้สร้างชื่อเกียรติยศปรากฎผล
   ให้เด่นดังทั่วหล้าทั้งสากล
   ให้ผู้คนสรรเสริญเกินกว่าใคร
          ให้ ทุกอย่างที่เอ่ยเฉลยแจ้ง
    ก็เพียงแค่เติมแต่งแฝงเงื่อนไข
    แต่สิ่งหนึ่งล้ำเลิศเกิดจากใจ
    ให้อภัย กันเถิดประเสริฐจริง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแววดาว
Lovings  แววดาว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแววดาว
Lovings  แววดาว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแววดาว
Lovings  แววดาว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแววดาว