มธุรสวาที มุขมณีของสุนทรภู่ โดย ศรีปาด

ศรีปาด เฟสเก่าโดนระบบลบเฉยเลย

๏ กราบกวี ศรีกลอน สนทรภู่ 
ขอกราบครู ครอบกานท์ ด้วยงานเขียน
จำสำเนียง เสียงครู มาชูเพียร
และฝึกเขียน คำกลอน ถึงตอนนี้

๏ กลอนของครู เคร่งครัด เรื่องจัดสร้อย 
สำเนียงถ้อย ทับผูก ท่านถูกศรี
สัมผัสใน ใส่เน้น ต้องเห็นมี 
สามไปสี่ ห้าไปเจ็ด สำเร็จพลัน

๏ รูปอักษร ซ่อนเสียง ท่านเรียงถ้อย 
ท่านต่อห้อย หันหก ไม่ตกผัน
บาทสองสี่ มีอักษร ไว้ซ่อนกรรณ 
สำเนียงนั้น แนบเนื้อ ไม่เชื่อดู

๏ ท่านไม่ส่ง เสียงตรี ที่บาทสอง 
เสียงไม่คล้อง เคียงกัน จักคันหู
จัตวา มาซุก ให้จุ๊กกรู 
ดนตรีครู ขานเพราะ เสนาะคม

๏ ท้ายบาทแรก แทรกโท มาโห่ห้อย 
จบบทร้อย รับสามัญ จึงผันสม
อย่าไปซัด จัตวา ไม่น่าชม 
สูงระงม เงยโหน เดี๋ยวโดนปา

๏ คำสัมผัส จัดนิยม ผสมสร้อย
ท่านมักต้อย แต่งเสียง อัน. ไว้ผันหรา
อวม. อิ. อบ. หลบเสียง ไม่เรียงมา 
เสียงมันว้า วุ่นหยูก ไม่ผูกใย

๏ มักอุทาน ขานโชว์ ว่าโอ้เอ๋ย 
คงคุ้นเคย คำอยู่ เพราะครูไหล
โอ้บาปกรรม น้ำนรก ที่หมกใจ 
ท่านกล่าวไว้ ว่าเอ๋ย ก็เคยลอง

๏ กลอนตลาด ปราชญ์โลก โขยกฟ้า 
ให้รากหญ้า ยิ่งใหญ่ วิไลผอง
ระบือบ้าน ย่านตลาด ระบาดคลอง 
ต้องหันมอง หมั่นถือ หนังสือแล

๏ อันร้อยกรอง มองกาล ที่นานเก่า 
มีแต่เหง้า งามศักดื์ จึงจักแถ
แต่คนจน บ่นเง่า ไม่เล่าแปล 
วิชาแหม หมกทุ่ง สะดุ้งฤา

๏ สมัยโน้น คนหรู เขาตู่เต้า 
ว่ากลอนเง่า โง่โหงก กระโหลกหรือ
อย่ามาเปรียบ เทียบโคลง จรรโลงลือ 
เป็นแค่มือ เมาผี กวีไพร

๏ ท่านเขียนโคลง โจ๋งครึ่ม กระหึ่มเสียง 
กลับว่าเรียง ร้อยเกย จนเลยไหล
สัมผัสใน ใส่เยอะ มันเลอะไป 
เพราะมิใช่ ชนชั้นหรู มิชูชม

๏ เสลาสลอดสลับสล้าง ......... สลัดได
สะอึกสะอะสะอมสะไอ ........... สะอาดสะอ้าน
มะแฝ่มะฟางมะเฟืองมะไฟ ...... มะแฝงมะฝ่อ พ่อเอย
ตะขบตะขาบตะเคียนตะคร้าน . ตะคร่อตะไคร้ตะเคราตะครอ 

( โคลงกลบทสระล้วน ของสุนทรภู่ , นิราศสุพรรณ )
.

๏ จึงขอโยง โคลงครู ให้ดูเห็น 
สัมผัสเต้น ต่อเคียง ท่านเรียงสม
เขียนลำบาก ยากเหลือ ว่าเนื้อตม 
ว่าไม่คม ความหมาย ถวายใคร

๏ กลอนนิทาน ขานคม ขย่มพื้น 
ทุกวันคืน ใครอ่าน ยังหวานไหล
จินตนา การเลิศ กำเนิดไกล
ทั้งเมืองใหญ่ ยักษ์มนุษย์ สมุทรคราม

๏ ปัจจุบัน วรรณศิลป์ ไม่ชินเสียง 
ไม่ร้อยเรียง รับลูก ไม่ผูกหาม
อันเสียงกลอน ซ่อนผูก จึงถูกงาม
กลับเขียนความ ครอบเฉย เหวยเหวยไป

๏ ร้อยกรองเอย เลยถอย เป็นร้อยแก้ว 
ส่วนใหญ่แล้ว ร่ายตรงตรง เพราะงงไสย์
เหลือแต่ต้น ด้นเฝือ สิ้นเนื้อใบ 
สัมผัสใน นั้นหนา ไม่หาเลย

๏ สัมผัสใน ใครไม่เขียน ว่าเซียนขลาด 
ฉันศรีปาด ปฏิบัติ กำหนัดเหวย
สัมผัสนอก ในเขียน ยังเวียนเฮย 
ขอครูเอย อ้างอวด ตะกวดแปลง ๚ะ

https://www.facebook.com/pages/ศรีปาด/197098973660931?ref=tn_tnmn
				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน