26 มิถุนายน 2546 20:44 น.

มอบกายถวายชีวิต

พี่ดอกแก้ว

เมื่อมอบกายให้เป็นทาสพระศาสนา 
ต้องเชื่อนายพระศาสดาอย่าแข็งขืน 
ต้องเชื่อฟังพระธรรมทุกค่ำคืน 
จะนั่งยืนต้องมีวินัยธรรม 

ให้รู้ตัวทั่วพร้อมยอมวิบาก 
ที่ไหลหลากจากอดีตที่ขีดย้ำ 
สนองรับจับด้วยวิวัฏฏ์กรรม 
เพียรกระทำในเส้นทางสามัคคี 

สันโดษหรือคือภูษามาคลุมร่าง 
รู้จักวางไม่โกยไว้ให้หมองศรี 
นั่งและนอนในที่สงบดี 
คือหนึ่งในวจีพระศาสดา 

โอวาทปาฏิโมกข์คือโชคล้น 
จะนำชนไปสู่ผู้มีค่า 
หาใช่สิ่งลวงหลอกนอกกายา 
อริยทรัพย์จักพาพบสุขจริง 				
26 มิถุนายน 2546 15:03 น.

๒๖ มิถุนาบูชาครูกลอนสุนทรภู่

พี่ดอกแก้ว

วันกวีอนุสรณ์สุนทรภู่ 

บรมครูผู้กรองกานท์ผ่านอักษร 

ท่านร้อยกรองครองพจน์เป็นบทกลอน 

นิราศรอนรักร้าวให้เศร้าทรวง 



 วรรณรสบทประพันธ์ท่านหวานซึ้ง 

ให้ติดตรึงตราใจไปทุกห้วง 

ร้อยเหตุการณ์ผ่านคมกลอนรอนความลวง 

สะท้านใจทั้งดวงในปวงความ 



 มณีเอกเฉกเช่น....อภัยมณี 

วรรณคดีร้อยกรองของสยาม 

มีค่าควรล้วนเพชรเผด็จงาม 

ในค่าคำสั่งสอนของกลอนครู 



 จึงดำเนินรอยตามความลึกซึ้ง 

ที่ตราตรึงฉันทลักษณ์ประจักษ์รู้ 

ประดิษฐ์กลอนตามรอยของท่านครู 

ขอบูชาท่านภู่สุนทรกวี. 
				
26 มิถุนายน 2546 10:30 น.

ปฐพีแห่งความรัก

พี่ดอกแก้ว

@..ณ ปฐพีลุมพินีวัน 
พระทรงเคลื่อนจากครรภ์มาสู่หล้า 
ทรงดำเนินเจ็ดก้าวในมรรคา 
เปล่งอาภิสวาจาว่าเลิศคน 

เกินกว่าสี่อสงไขยในอดีตกาล 
ทรงบารมีอเนกสถานในเบื้องหน 
ทรงบำเพ็ญจริยาเพื่อน้อมชนม์ 
ทรงมหาปริจาคล้นเพื่อพ้นมาร 

ทรงหมายมุ่งโพธิญาณให้ผ่านล่วง 
เพื่อโปรดปวงปุถุชนพ้นสงสาร 
ทรงประสูติเป็นพระราชกุมาร 
ในเบื้องกาลวิสาขปุณมี 

ณ แผ่นดินถิ่นนี้ที่ปวงข้า 
เดินทางมานมัสการสถานที่ 
เพื่อบูชาคารวะสดุดี 
พระโพธิสัตว์ผู้มีมากพระคุณ 

กราบบูชาพระมโนปณิธาน 
ที่อาจหาญบำเพ็ญจิตคิดอุดหนุน 
พระวจีปณิธานเพื่อสานบุญ 
อดทนเพื่อการุณย์ทุกชีวา 

ขอกล่าวคำสัจจะปฏิญาณ 
กี่ชาติเกิดขอพบพานพระศาสนา 
จะบำเพ็ญเพื่อเกิดใหม่ในมรรคา 
จะทิ้งรอยน้ำตาให้สิ้นไป 

ขอเสาหลักประจักษ์คำที่นำนี้ 
เป็นสักขีให้คงมั่นอย่าหวั่นไหว 
มีศรัทธามั่นคงต่อธงชัย 
สำเร็จในปณิธานสราญธรรม

@..ณ มหาเจดีย์ที่เด่นหล้า 
สัญลักษณ์คยาบรมสถาน 
แว่วสำเนียงเสียงระฆังก้องกังวาน 
ดุจขับขานกล่อมโลกไม่โศกตรม 

บรรจงกายทรุดลงตรงพระแท่น 
วชิรอาสน์มาตรแม้นเป็นปฐม 
ตั้งจิตพร้อมน้อมกายถวายบังคม 
บัลลังก์แห่งบรมศาสดา 

กราบสักการ์บูชาพระโพธิญาณ 
ที่ประหารนายช่างเรือนคือตัณหา 
ดับสนิทสิ้นเชื้ออวิชชา 
ตรัสรู้อริยสัจจาบรรลุธรรม 

กราบบูชาโพธิพฤกษ์ระลึกค่า 
ต้นไม้แห่งศาสนาที่งามล้ำ 
เป็นเพื่อนผู้พยานการตรัสธรรม 
ในคืนค่ำวิสาขปุณมี 

จึงพร้อมพรักจำหลักลายสายกุศล 
ปฏิบัติหัดตนบนถิ่นนี้ 
เจริญวิปัสสนารอบเจดีย์ 
ถวายแด่องค์ชินสีห์ผู้ทรงชัย 

จรดกายกำซาบจิตอธิษฐาน 
ขอพระบารมีพระทรงญาณจงช่วยไข 
ให้ปัญญาส่องสว่างกระจ่างใจ 
พบเห็นไตรลักษณาไม่ช้าที 

อย่าพลัดพรากจากไปไกลบัณฑิต 
ได้พบกัลยาณมิตรในจิตนี้ 
และพบทางสร้างใจไร้ราคี 
สำเร็จตามปณิธีโดยเร็วพลัน

@..พระสถูปสวนกวางกระจ่างขวัญ 
มหัศจรรย์โอฬารตระการหล้า 
สัญลักษณ์แห่งพระไตรรัตนา 
ครบองค์สามยามอาสาฬห์ปุณมี 

ทรงประกาศพระธรรมจักรสลักธรรม 
ย้อนกงกรรมให้คลายข้องส่องสุขศรี 
ทรงประทานมัชฌิมามรรควิธี 
จึงกำเนิดผู้มีดวงตาธรรม 

เทวดาทั่วพิภพสยบเกล้า 
บันลือเคล้าสีหนาทประกาศย้ำ 
จรดห้วงภวัคคพรหมทรงน้อมนำ 
บรรลุธรรมโสดากว่าแสนองค์ 

ณ ที่นี้จึงมากมีประวัติการณ์ 
หนึ่งนั้นคืออุบัติผ่านแห่งพระสงฆ์ 
สองคือพระสัทธรรมได้ดำรง 
สามพระองค์ทรงผลิตศิษย์บดี 

จึงบรรจงคงกายหมายบูชา 
พร้อมวจีเจรจาเป็นสักขี 
จะเพ่งเพียรเรียนธรรมค้ำชีวี 
ให้ต้องตามวิธีที่ประทาน 

เพื่อวันหนึ่งเปี่ยมพร้อมจนย้อมจิต 
ให้ยิ่งใหญ่ในสิทธิ์ที่สืบสาน 
เป็นดวงดาวพราวแสงรัตติกาล 
บรรลุธรรมพ้นผ่านปวงโลกีย์

@..กุสินารากราบบูชาพระพุทธองค์ 
ผู้เสริมส่งปวงสัตว์ให้หน่ายหนี 
พ้นจากบ่วงห้วงมารสานเสรี 
ตลอดพระชนม์ทรงมีแต่กรุณา 

มาบัดนี้มีเพียงรอยสลัก 
พระรูปลักษณ์ปรินิพพานในคูหา 
สถิต ณ เบื้องแท่นแผ่นศิลา 
ให้ส่ำสัตว์ทัศนาอย่างเดียวดาย 

พระโพธิ์แก้วสิ้นแล้วในกาลนั้น 
ดวงหทัยไหวหวั่นพลันสลาย 
ดุจสิ้นสูรย์แสงสีที่พร่างพราย 
มาลับหายจากหล้าพามืดมน 

จึงสลดสังเวชสมเพชจิต 
ให้หวนคิดที่เชื่องช้าไม่หาผล 
ไม่รักทางรักธรรมน้อมนำตน 
ฝึกให้พ้นความมืดมิดปิดชะตา 

ได้แต่โอดครวญคร่ำและย้ำใจ 
ว่าช้าไปในทางพระศาสนา 
พระผู้เลิศทรงทิ้งแล้วไม่คืนมา 
เหลือเพียงบ่วงมารามาร้อยใจ 

จึงกอบกำความช้ำจิตที่ผิดทาง 
มาเอ่ยอ้างปฏิญญาคราสิ้นไร้ 
จะไม่ขอพรากจากทางเป็นไท 
จะมุ่งในคำสอนไม่ย้อนคืน 

แม้นอยู่เดี่ยวจะขับเคี่ยวกับกิเลส 
จะทำทางพิเศษเพื่อฝึกฝืน 
สะสมทุนหนุนปัญญาทุกวันคืน 
เพื่อเป็นผู้ที่ตื่น..พบพระองค์


..ใกล้วันเข้าพรรษาแล้วนะคะ
และวันอาสาฬหบูชาด้วยพี่ดอกแก้วจึง
ขอน้อมถวายกลอนเป็นเครื่องบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ร่ายลำนำถึงสังเวชนียสถานมาค่ะ				
25 มิถุนายน 2546 20:38 น.

เธอที่รัก

พี่ดอกแก้ว

หวานใดล้ำคำรักมาทักถาม 
เพียงชั่วยามก็หวามหวานซ่านแดนสรวง 
ฤดีดอมหอมรักตลบอวล 
ตราตรึงจิตพิษรัญจวนซึมซาบใจ 

คีตกานท์สานเพลงรักสลักถ้อย 
บรรเลงกล่อมหัวใจน้อยให้ฝันใฝ่ 
ลอยละล่องท่องทำนองของห้วงใจ 
ร่ายกวีพลีดวงใจไว้เพื่อรัก 

ลมรำเพยเชยกลิ่นสุคนธา 
เคลือบนาสาให้หอมหวานสานสลัก 
รัดรึงใจให้แน่นิ่งในความรัก 
มิอาจผลักสลักใจให้ไหวติง 

จะขออยู่ดูห้วงฟ้าคราจันทร์ฉาย 
เพื่อวาดลายรักแท้แก่ทุกสิ่ง 
จะวาดรักให้มวลมิตรได้พึ่งพิง 
จะวาดทุกทุกสิ่งให้สวยงาม 

ฟังเพลงพิณ กลิ่นสุคนธ์ ดลใจนัก 
ให้ตระหนักในมวลมิตรจิตวาบหวาม 
แว่วคำรัก ที่มิเลือน เคลื่อนตามยาม 
แม้นเดือนแรม ยังคงความ สว่างใจ 

แม้นพิบัติพลัดพรายกระจายถิ่น 
ต้องยลยินทุกข์ยากฉากโหยไห้ 
มิเคยคิดลืมเลือนเป็นเพื่อนใจ 
เธอที่รักอย่าหวั่นไหว.ในรักเลย 				
24 มิถุนายน 2546 20:17 น.

เมื่อดาวสิ้นแสง

พี่ดอกแก้ว

รักละลายหายลับไปกับดาว 
หล่นจากหาวแล้วคืนนี้ที่สิ้นแสง 
เคยสว่างกลางใจไฟเรืองแรง 
มิเคยแล้งแสงรักพิทักษ์ใจ 

เพ่งความงามยามคืนค่ำถลำจิต 
เก็บมาคิดมาฝันจนหวั่นไหว 
สร้างสะพานสู่ดวงดาวทุกคราวไป 
ความอบอุ่นอ่อนไหวได้เห็นดาว 

ฝันไปไกลว่าได้เคียงเรียงคู่ฟ้า 
ประดับห้วงนภาเวหาหาว 
สะท้อนน้ำยามแสงกระจ่างพราว 
เป็นดั่งดาวดวงงามยามคู่กัน 

แต่พริบตาพาใจช้ำระกำร้าว 
แสงที่พราวมาวูบวับและดับฝัน 
ร่วงสู่ดินจนสิ้นไร้สายสัมพันธ์ 
หมดเยื่อใยจากกันไม่เหลือรอย 

มีเพียงฝันวันเก่าที่ร้าวราน 
มองท้องฟ้าราตรีกาลยิ่งเศร้าสร้อย 
สะพานดาวร้าวฉานราญใจน้อย 
ให้รู้ค่าว่าคนคอยด้อยเพียงดิน
				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว