13 มีนาคม 2546 04:15 น.

สิ้นศรัทธา

เชษฐภัทร วิสัยจร

พระผู้มีพระภาคเจ้า              ตถาคต พระองค์ใด

อริยสัจธรรมรส                            ตรัสรู้

พระผู้ประกาศกฎ                        กรรมบท กรรมโลก
 
กรรมย่อมติดตามผู้                      ต่อผู้ ก่อกรรม

 

     ครั้นหากเป็นเยี่ยงนั้น           ดังคำ พ่อเอย

ไฉนโลกจึ่งอยุติธรรม                ปดปลิ้น

ไฉนบุญจึ่งหนุนนำ                    คนบาป ฤาพ่อ

ผู้ผิดพลิกเล่นลิ้น                       จึ่งยิ้ม ยินดี

 

        ไฉนโลกยังร่ำไห้              ย้อนศึก สงคราม

พวกชอบคุกคามคึก                  อยู่รอด

กรรมกฎใฮ่ตรองตรึก                 ไร้ร่อง รอยฤา

พวกเสือกพวกแส่สอด                กลับยิ้ม ยินดี

 

         ฦาลูกผิดด้วยกฎ              ใดฦา พ่อเอย

ผิดเพราะใจลูกซื่อ                     ฉะนี้?

ใจเจ็บปริ่มสิ้นชื่อ                       สิ้นชีพ

เพราะผิดใดเล่านี้                       จึ่งต้อง รับกรรม

 

            ใดใดในโลกล้วน           อนิจจัง 

แม้แต่บาปบุญยัง                       มอดสิ้น

กามรสจึ่งบทบัง                         สัจมรรค สัจธรรม

ผู้ผิดพลิกเล่นลิ้น                        จึ่งยิ้ม ยินดี

 

             เสียงฦาเสียงเล่าอ้าง       เป็นจริง ฉันใด

คนผิดเยี่ยมยุทธยิ่ง                     รอบรู้

คนซื่อย่อมถูกทิ้ง                         ให้เจ็บ ฉันนั้น

ลูกก็สิ้นสัตย์สู้                              หมดสิ้น ศรัทธา				
11 มีนาคม 2546 15:35 น.

เพลงยาวสำนวนชาย

เชษฐภัทร วิสัยจร


...
จรดปากกา หน้ากระดาษ ประกาศก้อง
หนึ่งน้ำเพชร เชษฐภัทร จำรัสทอง
จะกลั่นกรอง จรัสสาร จารวาที

เอาความรัก ร้อยเสียง สำเนียงใส
ละเมียดละไม จำเรียงกลอน อักษรศรี
งามบรรเจิด จิตซึ้ง หนึ่งมณี
กล่อมนารี ถนอมขวัญ เฝ้าบรรจง

แม้มิใช่ มหากวี ราศีศักดิ์
แต่ใจรัก จะเรียงร้อย ถ้อยประสงค์
คือหนึ่งสร้อย ร้อยไมตรี ที่บรรยง
ถึงอนงค์ ต่างอนรรฆ สลักกลอน

ขอเชิญเนตร สบเนตร สังเกตบ้าง
อย่าเมินหมาง คำละเมียด ละเอียดอ่อน
ขอเชิญชื่น ชมประจักษ์ ทุกวรรคตอน
อย่าตัดรอน รสคำ ร่ำจำเรียง

บุญกุศล ส่งแล้ว แก้วตาพี่
ทุกราตรี ที่ได้พบ ประสบเสียง
ยินเสียงสรวล นวลน้อง ประคองเคียง
ทิพาเพียง พี่เมียงมอง ผ่องอุรา

หอมระเหย หวนเย็น มิเว้นค่ำ
กลิ่นรสคำ ล้ำเล่ห์ สิเนหา
กลิ่นกรุ่นนาง อย่างพะยอม หอมผกา
กลิ่นวาจา พาที พี่ชื่นชม

งามมณี เนตรล้ำ หยาดน้ำเพชร
สวยวิเศษ พร้อมพริ้ง ทุกสิ่งสม
พยายาม ห้ามรัก หักอารมณ์
แต่ ตรอมตรม ด้วยป่วนตาม จะปรามตรอง

งามชม้าย ชายมา พี่ว้าวุ่น
เพียงกลิ่นกรุ่น อุ่นฤทัย ใจพี่ล่อง
หนาวนวลยิ้ม พิมพ์ใจ ใจพี่พอง
เก็บนวลน้อง มาเฝ้าฝัน ทุกวันยาม

ด้วยอยู่ห่าง วรนุช สุทธิศรี
ต้องจรลี ลี้จบ ภพสยาม
จึงไว้วอน วังศรีรัตน์ ศาสดาราม
แก้วมรกต จรดนาม ความจำนง

ให้คำรัก ครานี้ จงมีค่า
อย่างสิ้นมาตร ปรารถนา อารมณ์หลง
ให้น้องเพ่ง เพียงพินิจ พิศผจง
กระแจะทรง จะคล้องใจ มาลัยกลอน

ขอฝากชื่อ สลักใส่ ไว้ในสาร
ฝากวิญญาณ ผสานรัก ศรีอักษร
ฝากสำนึก หนึ่งกมล คนสัญจร
บอกบังอร เอื้อนเอ่ย เผยวจี

เอ็นดูวาน ผสานรัก สักหน่อยบ้าง
นะอย่าร้าง แรมฤทธิ์ หัวจิตพี่
อย่าตัดเยื่อ ตัดใย ตัดไมตรี
อย่าตัดลม สมประดี ชีวีชาย

คำน้ำค้าง อย่างคำ ย้ำรอยเพชร
จำนงเจตน์ ชัดเจน เป็นสร้อยสาย
ประหนึ่งสร้อย สอดถนิม พริ้มแพรวพราย
ส่องประกาย รายระยับ ประดับคำ

ขอฝากสร้อย ร้อยล้ำ ลำนำเอก
เสาวนีย์ เสาวเลข พี่เสกพร่ำ
กุศลใด ใจเคย เผยกระทำ
จงหนุนนำ ย้ำประจักษ์ คำรักนี้

ขอชื่นจิต พิศวาส อย่าคลาดแคล้ว
ชื่นเพลงแก้ว เก็จเพริศ บรรเจิดศรี
ชื่นสัจจัง จิตเจิม เติมฤดี
ฝากสารนี้ ถนอมไว้ แนบใจน้องฯ
				
10 มีนาคม 2546 22:37 น.

เพลงพระจันทร์

เชษฐภัทร วิสัยจร


จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า
ขอดาว พราวเด่น
เคล้าสายลมเย็น
ให้น้องเล่นยามหนาว

ขอแสงโสมใส
สว่างไสวในหมู่ดาว
ทอเป็นผ้าสีขาว
ห่มให้น้องนอน


กล่อมขวัญตา คนสวย ด้วยเพลงหวาน
คนไกลบ้าน นารี ศรีสมร
ขอฝากจันทร์ แจ่มจำเรียง เป็นเสียงกลอน
กล่อมบังอร เป็นบทเพลง บรรเลงไพร

นอนเสียเถิด ดึกแล้ว แก้วตาพี่
ฝากฟ้าใส ใจดี พัดวีให้
เสียงพัดซอ ไผ่สี กวีไกว
ขอฝากใจ ไปกับลม ห่มนวลน้อง

หนาวน้ำค้าง กลางป่า ในหน้าหนาว
กลัวผิวสาว สะอาดสอาง จะหมางหมอง
อยากร้อยหมอก ระลอกเย็น เล่นละออง
เคล้าไอจันทร์ สีทอง ห่มน้องยา

โอละเห่ เอละช้า อย่าว้าวุ่น
พี่จะส่ง ไออุ่น ละมุนหา
เก็บกลิ่นกรุ่น ละมุนหอม ย้อมผกา
พร้อมมนตร์เพลง แห่งจันทรา อย่าช้าที



จันทร์จ๋า จันทร์เจ้า
ฝากเย้า คนดี
ฝากหยอก แทนพี่
ยอดกวี คนไกล

ฝากกล่อม นวลน้อง
ปนละออง ฟ้าใส
ฝากบทเพลง แห่งหัวใจ
ให้น้องไว้ นิจนิรันดร์

				
9 มีนาคม 2546 02:10 น.

เมือฮอดลำมูล

เชษฐภัทร วิสัยจร

คึดฮอดฮิมแม่น้ำ            แม่มูล
มูลแม่เคยย่างซูน           แต่น้อย
แต่น้อยแต่ยามพู่น         เคยแล่น นำหาด
แล่นเล่นหาดแต่ข้อย       ห่อนฮู้ จักควม

ฮู้จักควมจึ่งได้                 จักเฮียน
เฮียนร่ำย้ำควมเพียร       อดอั้น
อดอั้นบ่เคยเปลี่ยน          มักมุ
มุอดทนด้นดั้น                 จึ่งได้ จากมา

ได้ไป่เฮียนฮอดพู่น         บางกอก เมืองกรุง
บางกอกเฮ็ดข้อยยอก       ซุมื้อ
ซุมื้อแม่หญิงหลอก            เว้าปด เว้าตั๋ว
เว้าปดย้อนข้อยบื้อ           ซื่อซ้า ตาดำ

ซื่อซ้าซ้ำซั่วข้อย                 ซ้ำใจ แท้เด
ใจเจ็บย้อนแม่นไผ           เฮ็ดซ้ำ
น้ำตาตกฮินไหล               คึดฮอด เฮือนหลาย
คึดฮอดลำมูลล้ำ                 ฮอดบ้าน ลานบุญ

บัดนี้ข้อยฮอดบ้าน             ลำมูล ลำบุญ
มูลแม่ได้ย่างซูน                สะอ้าน
ม่วนปานแต่ยามพู่น           ข้อยย่าง นำแม่
ม่วนซื่นเมือฮอดบ้าน          สุขล้ำ ออนซอน				
8 มีนาคม 2546 02:12 น.

อหังการ์พญาอินทรี

เชษฐภัทร วิสัยจร

   
เมื่อพญาอินทรี จะคลี่ปีก
ใครจะไม่หลบหลีก ไม่ปลีกหนี
ข้าเป็นเจ้าเวหา พญาอินทรี
ใครไม่เกรงฤทธี จะบีฑา

พญาอินทรีเป็น-สัตว์-ชั้นสูง
มักชักจูงชี้แจง แฝงคาถา
สูตรไฮเทคเทคโนโลยี มีวิชา
ต้องยกให้อเมริกา อารยธรรม

เป็นผู้นำอุดมการณ์--เสรีภาพ
คอยปรามปราบพวกหยาบช้า บ้าระห่ำ
คอมมิวนิสต์ เทอร์โรริสต์ -ชิท----->ระยำ
ข้านี่แหละผู้นำ จำจนตาย

เป็นผู้กุมอำนาจทางเศรษฐกิจ
คอยคอนโทรลความคิด มิตรสหาย
ใครหูเบา เขางอก ออกเป็นควาย
ลัทธิร้าย เกมส์ชั่ว กินหัวกู

บัดนี้...อเมริโกง หลงโมหะ
เคล้าโทสะ โลภะ คลุ้งคละอยู่
ปล้นสะดม คางคก จิ้งจกงู 
-บาร์บาเรี่ยน- หรือจะสู้ ศิวิไลซ์

เมื่อเทพีเสรีภาพ กระหายเลือด
นกพิราบก็ถูกเชือดไม่เหลือไส้
สังเวยรัฐเสรีประชาธิไตย
จึงจรรโลงความจัญไร ไร้จรรยา

หยุดเสียเถิดพญาอินทรีบ้าบิ่น
หยุดเล่นลิ้น ปลิ้นปด บทคาถา
หยุดเข่นฆ่า เพื่อนมนุษย์ ดุจผักปลา
เพื่อบรรเลง เพลงตัณหา อารยชน

หรือจะสิ้น เทพี เสรีภาพ
เหลือแต่คราบ ความบัดสี อย่างปี้ป่น
หากอินทรี ยังริสร้าง ทางทุกข์ทน
น้ำตาคน จะเจิ่งนอง ทั่วท้องฟ้า				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเชษฐภัทร วิสัยจร
Lovings  เชษฐภัทร วิสัยจร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเชษฐภัทร วิสัยจร
Lovings  เชษฐภัทร วิสัยจร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเชษฐภัทร วิสัยจร