มิตรภาพ #1ตอน เข้าสู่โลกความฝัน

ปลาทูสามเข่ง

คำคืนหนึ่งในฤดูหนาว ลมเย็นโบกพัดมา ทำให้รู้สึกห่างจากเตาผิงไม่ได้เลยทีเดียว หลายบ้านในแถบนี้ มีต้นไม้ปกคุมร่มรื่น พระจันทร์กลมๆส่องแสงแวววับจับตา หิมะก็เริ่มค่อยๆตกลงมา ลงมา........
      " แม่จ๋าเล่านิทานให้หนูฟังหน่อยสิจ๊ะ"น้องฟาง เด็กหญิงหน้าตาน่ารักตัวน้อยๆอายุราวๆ6ขวบเห็นจะได้ พูดกับแม่ขึ้น"แต่เอ๊ะ.......น้องฟางพรุ่งนี้ลูกต้องไปเรียนแต่เช้านะ"แม่ของฟางเอ๋ยขึ้น "นะ...นะ แม่จ๊ะหนูอยากฟัง เอาเรื่องดินแดนผจญภัย ก็ได้ น่า....นะแม่จ๋า" ฟางพูดขึ้นพร้อมทำสีหน้าอ้อนวอนเป็นพิเศษ " หนูสัญญาว่าพรุ่งนี้จะรีบไปโรงเรียน จะตื่นแต่เช้า จะตั้งใจเรียน จะเชื่อฟังแม่....และหนู.....จ..จะ.." "เอาละๆ" แม่เด็กหญิงเอ๋ยขัดขึ้น  "พอได้แล้ว งั้นตกลงแม่จะเล่านิทานให้หนูฟังแต่สัญญานะ ว่าพรุ่งนี้ต้องรีบๆตื่น!" "จ๊ะ จะ...แม่หนูสัญญาโดยให้ดวงจันทร์เป็นพยาน หนูจะทำตามที่แม่สั่งทุกอย่าง! เว้นเสียแต่............แม่อย่าเลิกเล่านิทานให้หนูฟังก็แล้วกันจ๊ะ"ฟางพูดขึ้นด้วยท่าทีที่มุ่งมั่น แต่สายตาของเธอดูไม่มุ่งมั่นเอาซะเลย ดูเหมือนเธอจะ ทำได้ไม่ครบตามที่บอก "อืม! ดีมากลูกคนนี้" แม่ลูบหัวฟางแล้วสายตาเต็มเปี่ยมด้วยความชื่นชม "งั้นแม่จะเริ่มเล่าเลยละกัน เดี๋ยวเสียเวลาไปมากกว่านี้!.............ฟังนะลูก
           "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ได้มีกลุ่มปีศาจที่ตั้งตนเป็นใหญ่ ได้กวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ยากที่จะหาผู้ใดมาห้ามปราบได้! แต่มีอาสาสมัครเพียงไม่กี่คนที่จะกล้าเสี่ยงชีวิต คนแล้วคนเล่า เข้าไปในดินแดนของพวกมัน แต่นับจากนั้นมาก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวของเล่าผู้กล้าพวกนั้นอีกเลย......  ชาวบ้านแถวนั้นก็ไม่มีใครที่จะกล้าเข้าแวะข้องเกี่ยวกับพวกมัน..........  แต่พอนานเข้า....พวกนั้นก็กวาดล้างทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง...... มีคนในหมู่บ้านถูกจับให้ไปใช้งาน ถูกเฆี่ยนตี จนไม่มีใครอีกเลย...... ที่จะกล้าไปเผชิญต่อสู้.....กับพวกมัน........"แม่พูดแค่นี้ก็หยุดแล้วก็ตั้งคำถาม ถามฟางว่า ถ้าเป็นลูก ลูกจะกล้าเข้าไปช่วยพวกนั้นไหม........... ฟาง......ฟางจ๊ะ"แม่พูดแล้วก้มลงมองดูฟาง แม่เห็นฟางหลับไปเสียแล้ว แล้วเอ๋ยขึ้นว่า "หลับฝันดีนะจ๊ะ"พร้อมก้มลงหอมแก้มเด็กน้อยที่หลับปุ๋ย สักพักแม่ก็เดินออกจากกห้องปล่อยให้เด็กน้อยนอนให้สบาย
          "นี่!!! ฟาง!!!!!!! ตื่นได้แล้ว!!!!.......สายแล้วนะ" เช้าวันต่อมาแม่ของฟางตะโกนเรียก "แม่จ๋า.....ทำไมเวลามันเร็วจังจ๊ะ หนูรู้สึกว่าพึ่งหลับไปเมื่อตะกี้เอง......" ฟางพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่งงงัน แต่แม่ไม่ได้ตอบอะไร   เดินลงไปข้างล่างเพื่อเตรียมอาหาร ฟางเห็นเช่นนั้นก็นึกสงสัย แต่ไม่กล้าถาม ลุกขึ้นมาเพื่ออาบนำแต่งตัว..........แต่งเสร็จก็เดินลงมาบันได เห็นแม่ไม่อยู่แล้ว ก็คิดในใจว่าแม่คงออก ไปทิ้งขยะข้างนอกละมั้ง ฟางนั่งลงกินข้าว และก็เดินออกจากบ้านเพื่อออกไปรอรถรับส่ง      แต่ว่ารอแล้ว รอเล่ารถก็ยังไม่มาอีก ฟาง ซึ่งนิสัยเด็ดเดี่ยว(อายุเพียงแค่6) จึงเดินไปโรงเรียนเองโดยถ้ายืนรอต่อไป ไปโรงเรียนสายแน่ๆ คงรถเสีย........พร้อมนึกในใจ วันนี้ เป็นอะไรกันไปหมดนะ...........ทำไมแถวนี้เงียบ จัง  ขณะนั้นลมก็โบกพัดมา เล่นเอาฟางหยุดอยู่กลับที่.......ไม่อยากเดินเพราะความหนาว.....ฟางมองออกไปรอบๆตัว มองเข้าไปในป่า มองลึกเข้าไป.......เห็นแสงสีทองๆ ใหญ่เหลืองๆ ฟางนิสัยที่ยังเด็กเพราะความอยากรู้อยากเห็น จึงเดินเข้าไปดู แต่ในใจไม่อยากไปเพราะกลัวไปโรงเรียนสาย แต่นิสัยของเด็กจึงเดินออกไปดู   และฟางก็มาถึงที่ที่มีแสงนั้น ฟางมองออก ไปรอบๆและ! และฟาง...ก็ต้องตกใจ เพราะที่ตาเห็นมันก็คือ..........คนแคระกำลังขนย้ายลูกแอ็ปเปิ้ลสีทองอยู่มีแคระคนหนึ่งเป็นหญิง แก่ชราพอสมควร เหลียวมองเห็นฟาง จึงยิ้มให้และยื่นลูกแอ็ปเปิ้ลให้ฟางลูกหนึ่ง พอฟางหยิบที่จะรับลูกแอปเปิ้ล ก็รู้สึกเหมือนตัวเองจมลึกเข้าไป ไม่รู้สึกถึงความรู้สึกต่างๆ ฟางลองมองไปรอบๆสิ่งที่เห็นเป็นเหมือนผนังมีลวดลายจะว่าได้!!!  ตรึง!!!!!!!!!!!..............โอ้ยย!!!  ฟางตระโกนขึ้น ด้วยความเจ็บ เพราะรู้สึกเหมือนก้นเธอกระแทกแล้วรู้สึกเหมือนว่าตัวเองอยู่บนที่นอน ฟางมองไปรอบๆ นี้คือห้องของเรา!!!!นี้นี้เราฝันไปรึ??? ฟางนึกอยู่ในใจแต่ก็ดีแล้วที่ฝัน แต่ฟางก็ต้องเอะใจเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรอยู่ที่มือของตัวเอง และลองก้มลงมองไปดู ก็ต้องเห็นแอ็ปเปิ้ลที่คนแคระชราให้มามันอะไรกันนี่????? เราไม่ได้ฝันไปเหรอนี่!!!   แต่ก่อนที่ฟางจะคิดทบทวน แม่ก็เดินมาเคาะประตู "ฟาง.....ฟางจ๊ะ..ลูก  ตื่น!!!!ได้แล้ว เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ"  ฟางก็ขานรับ"จ๊ะแม่เดี๋ยวหนูลงไป" และเช้าวันใหม่ที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครรู้ก็มาถึง(นอกจากผู้แต่งที่รู้ อิ..อิ)
                          ตอนต่อไปคือ แอ็ปเปิ้ลสีทองคะโปรดติดตามชมตอนต่อไปนะคะ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน