House of D เพื่อนต่างเวลา

กรกฎายน

House of D  เพื่อนต่างเวลา
โดย"หางดารา"
   
แอ็คชั่น...
เด็กหนุ่มคนนั้น  ทำให้ฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อ
ขอบคุณที่ในห้องแคบเล็กยัง มีกระจก
ทำให้ฉันไม่รู้สึกว่ามีเพียงตนอยู่ลำพัง
อย่างน้อยยังมีนังคนนั้นในนั้น
หลายคราเราสบตากัน  สนทนากันแผ่วเบา ถึงเรื่องราวความหลังไกลออกไป  ไกลออกไป  ไกลโพ้น
ฉันเคยพูดกับกระจก เหมือนกับแม่มดในเรื่องสโนไวท์พูดกับกระจกวิเศษ
ฉันเป็นคนดำ  แต่ฉันไม่คิดว่าผิวดำไม่สวย  ฉันสวยในแบบของฉัน  
แต่ฉันซวย  !
ใช่ฉันซวยที่มาติดแหง็กอยู่ในนี้
ฉันทำความผิด  ความผิดที่ฉันไม่อยากพูดถึง
การถูกขังอยู่ที่นี่ทำให้ฉันมีโอกาสได้ทบทวน
ชีวิตมีโอกาสหยุดพักผ่อน
แทนที่จะถูกผีห่าซาตานเข็นไปเรื่อย ๆ  ไม่สิ้นสุด
ฉันจะถือเสียว่านี่เป็นการลาพักร้อน
ถ้าอย่างนั้นฉันก็มีโชคสินะ
2.นอกจากจะมีกระจกแล้ว  ยังมีหน้าต่างบานเล็ก ๆ
ที่แสงแดดข้างนอกพอที่จะลอดเข้ามาได้
มันเป็นแสงสว่างแห่งความอบอุ่นและความหวัง
แต่หน้าต่างเล็กเกินไป 
ฉันทำได้เพียงยื่นมือออกไปสัมผัสลม
ไม่อาจโผล่หน้า
แต่ยังได้เห็นเมฆลอย
ได้เห็นนกบิน
ฉันกระซิบบอกตัวเองให้อดทน
วันหนึ่งหล่อนจะกลับออกไปข้างนอกและสามารถเดินทอดน่องอยู่ท่ามกลางแสงสีทองอย่างเต็มที่อีกครั้ง
ไม่หรอกฉันไม่กลัวว่าผิวตัวเองจะดำไปมากกว่านี้อีก
ยิ่งดำสิดีฉันไม่เห็นว่าจะชอบผิวสีขาวตรงไหน
3.ฉันยังมีเพลงเป็นเพื่อน  มันเป็นเพลงที่ฉันจดจำได้  สมัยอยู่ข้างนอก
ฉันร้องเพลงให้หัวใจตัวเองเต้นรำ   ฉันร้องเบา ๆ  แต่ดูเหมือนเพื่อนในห้องขังข้าง ๆกำลังเอียงหู
ดูเหมือนพวกเขาจะเคลิบเคลิ้ม  หัวใจติดปีก  บินร่อน  ลอดรูลูกกรง  หน้าต่างออกไป
ลืมเลือนไปหมดสิ้นว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
ฉันจึงกลายเป็นนักร้องจำเป็นของที่นี่ไป พวกเขาบอกว่าชอบเสียงของฉัน    
 เสียงของฉันสามารถทำให้ชีวิตด้านในของพวกโลดแล่นกระโจนทะยาน
4.ฉันทำกระจกหลุดมือตกแตกเป็นสองเสี่ยงวันนี้   
ฉันลองนำมันมาประกบกัน  แต่  ไม่ติด
ฉันยกซีกหนึ่งให้เพื่อนห้องข้างๆ
ยังเหลือกระจกอีกซีกหนึ่ง
กระจกแตกเหมือนกับที่ใจฉันเคยแตก
ฉันเดินไปที่หน้าต่างในมือถือเสี้ยวกระจก  
ฉันยกกระจกในมือขึ้น  สอดออกไปนอกลูกกรง ทำท่าจะหย่อน
แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า  ถ้ามันถูกหัวใครเข้าล่ะ
ฉันอยากจะขอบคุณพระเจ้า ที่ทำให้ฉันยังมีความรู้สึกห่วงใยในสวัสดิภาพของเพื่อนร่วมโลกอยู่
อีกครั้งหนึ่งที่ฉันได้สัมผัสกับความวิเศษของหัวใจ
ที่แท้หัวใจฉันไม่ได้ดำเหมือนร่าง
หัวใจของคนทั้งโลกเป็นสีเดียว
5.ภาพของผู้คนเบื้องล่างกำลังเคลื่อนไหว
หัวใจฉันเต้นแรง
คนข้างล่างเงยหน้าขึ้นมา
ฉันรีบหดมือกลับ
หลับตาเห็นกระจกของพระเจ้าบนสรวงสวรรค์
ทีนี้ฉันก็จะใช้กระจกวิเศษส่องดูผู้คนบ้างล่ะแทนที่จะส่องดูแต่หน้าดำๆของตัวเองแต่เพียงอย่างเดียว
หน้าของหล่อนบางทีก็ทำให้ฉันเหม็นเบื่อ
ฉันอยากเห็นหน้าของคนอื่นบ้าง
ฉันอยากเห็นหน้า ของนกที่อยู่นอกกรง
ฉันอยากเห็นประกายตาของพวกมันยามถูกแสงจากกระจกส่อง
6. ฉันยื่นมือที่กำกระจกเสี้ยวออกไปนอกหน้าต่างเป็นอีกครั้งด้วยมืออันสั่นเทาเพราะตื่นเต้น
ที่จะได้เห็นโลกข้างนอก  ข้างล่าง   ข้างบน
ทันทีที่มือยื่นออกก็ได้สัมผัสกับไออุ่นของแสงแดด  สายลมอิสระพัดผ่านสัมผัสมือ
เกือบไปแล้วฉันเกือบทำกระจกลื่นหลุด
กระจกจะแตกออกเป็นกี่เสี่ยงถ้าร่วงหลุดลงไป
ใครจะเจอะแจ๊คพ็อต
7. แทนที่จะไปเที่ยวเตร่เถลไถลกับ  เพื่อนในวัยเดียวกัน  แต่เขากับคบหากับเพื่อนต่างวัย 
 ดูแววตาที่พวกเขามองกันสิ
ไม่มีกำแพง  ไม่มีหุบเหวกั้น  แนบสนิทชิดใกล้เหลือเกิน  
วันนี้เขามาที่นี่คนเดียว   ข้างกายไม่มีสหายคนเก่า  ท่าทางของเขาค่อนข้างยุ่งยาก 
 เพื่อนต่างวัยที่ถูกหยุดเวลา
คงช่วยอะไรหนุ่มน้อยไม่ได้มาก  ฉันจะลองดู
  ฉันจะลองทอดสะพานออก 
 ฉันจะพยายามจูนคลื่น 
 หากโอกาสยังมาเยือนอีก
8.  เด็กหนุ่มคนนั้น  ซ่อนอะไรไว้ตรงมุมตึกข้างล่างนั้นนะ  โอ..ฉันแอบรู้ความลับของเขาเข้าแล้ว
ลองแหย่เขาเล่นหน่อยดีกว่า  ดูซิเขาจะว่าอย่างไร  หนุ่มน้อยน่ารักยังบริสุทธิ์อยู่มาก
คงยังถูกเพื่อนร่วมโลกทำร้ายไม่เท่าไหร่ก
เขาคุยตอบฉัน  เขารับลูกเสิร์ฟที่ฉันส่งไป เขาเงยหน้าขึ้นมา   แววตาของเขาเหมือน ๆ..ๆ
เหมือนกับใครสักคนที่ฉันรู้จักมาก่อนนานแล้ว โอ..นานมากเหลือเกิน
 เด็กหนุ่มได้สะกิดความทรงจำส่วนนั้นของฉันสะดุ้งตื่น
เขาเงยหน้าขึ้นมามองฉันไม่ใช่สิ  มองกระจกเสี้ยวต่างหากกระจกในมือดำ ๆ
วูบแรก   ฉันรู้สึกว่ามือที่ยื่นออกไปนอกกรงหน้าต่างเป็นมือของซาตาน  แต่ก็เพียงวูบเดียว
เพราะความรู้สึกได้เปลี่ยนเป็นตรงกันข้าม
9. ฉันไม่เคยบอกชื่อเขา  แต่เขาเรียกเขาว่าคุณสุภาพสตรี  ช่างให้เกียรติเหลือเกิน  เหมือนว่าฉันเป็นนางฟ้าเลย
ทั้งๆที่ฉัน  เป็นเพียงนังมืดขี้คุก   เขาเห็นว่าฉันเป็นเพื่อนของเขาแน่ะ 
 เวลามีเรื่องทุกข์ใจเขาจะมาหาฉัน  ส่งเสียงที่เพิ่งแตกหนุ่มขึ้นมา  ว่า  "เลดี้ๆ "
หัวใจฉันกระตุกกึก  เปลี่ยนจังหวะใหม่  จากบลูส์  เป็นป๊อบ...
เขาเป็นเด็กหนุ่มที่กล้าหาญเขากล้าพูดคุยกับผู้หญิงที่ผู้คนข้างล่างรังเกียจโดยไม่อาย
ช่วงนี้หัวใจฉันเต้นแรงเหลือเกิน  เลือดสูบฉีดไปได้ทั่ว   ชีวิตกลับมาแล้วสินะ   เจ้าหนุ่มน้อยที่น่าเอ็นดูเอ๋ย
บางทีในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ  พระเจ้าอาจจะเลือกให้ฉัน  ทำหน้าที่หนึ่ง   ขอบคุณพระองค์
ขอบใจเจ้าหนุ่ม  ที่ทำให้  รู้สึกถึงคุณค่ามหาศาลของชีวิต 
ดูสิปีกของฉันกำลังงอกยาวขึ้น  ๆ...ๆ ......ๆ
10.รักแรกของเด็กหนุ่มช่างงดงาม   เหมือนกับรักแรกของฉันเลย  น่าเศร้าที่คนเราส่วนมากไม่ได้หยุดอยู่ที่รักแรก
รักแรกของฉันผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว   ฉันจะไม่พูดถึงมันดีกว่า มันตายไปแล้ว  
ฉันเองก็รู้สึกรักเด็กหนุ่มแต่ไม่ได้รักอย่างหนุ่มสาว
 แต่เป็นรักที่เหมือนกับต้นไม้มีต่อนกสักตัว   
ฉันไม่รู้สึกปรารถนาจะครอบครองเจ้าหนุ่ม  ฉันเพียงคิดว่าฉันอยากจะให้  ให้สิ่งที่ฉันพอจะมี
11.หนุ่มน้อยกำลังมีรักแรก  กับสาวน้อย
แต่กำลังขาดความเชื่อมั่น  ฉันจะลองช่วยเขาดู   เพราะชีวิตที่ขาดความเชื่อมั่น
จะก้าวต่อไปข้างหน้าไม่ได้   เขาเป็นวัยที่จำเป็นต้องก้าวต่อไปข้างหน้า
 อายุ  13 เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ  ถ้าเขาต้องการพี่สาวสักคน.... สักครู่
ถ้าเขาต้องการเพื่อน  ต้องการที่ปรึกษา  ฉันจะลองเป็นฉันคิดว่าฉันพอเป็นได้ อยู่  
ฉันกระซิบบอกพระเจ้า ว่า"เจ้าค่ะ ๆ  ตกลงฉันรับบทนี้เจ้าค่ะ"
12. ฉันได้รู้ความเป็นไปของเขา  เขาตะโกนคุยกับฉัน  โดยที่ไม่ถามสักคำว่าฉันเป็นใคร  ต้องคดีอะไร
เขาสนใจแต่  มือสีดำ  ที่ถือกระจกวิบวับยื่นออกมากจากหน้าต่าง  และเสียง...ใช่สิ
ดูเหมือนเขาจะชอบเสียงของฉันด้วย   ใครๆก็ชอบเสียงฉัน  เสียงฉันเปล่งออกมาจากวิญญาณ
 เวลาพูดกับฉัน  เขาจะแหงนหน้าขึ้นมา  จนคอตั้งบ่า
เราไม่ได้กระซิบคุยกัน  เราตะโกนคุยกัน  บทสนทนาของเราไม่ใช่ความลับ  หลายหูกำลังผึ่ง
หัวใจของเขาเปิดประตูผลัวะออก หิ่งห้อยบินเข้าไปเป็นแถว
กระจกในมือสีดำมีแสงสะท้อน
13. ตัวเท่านั้น  แต่เขาก็มีปัญหามากมายเสียแล้ว  
 มันเริ่มต้น  ตั้งแต่   พ่อ ที่ควงกับมะเร็งจากไป  และต่อมาก็กำลังจะเป็นแม่
ต่อมารักแลก ก็หลุดลอย
  บางทีรักมีไว้เพื่อรักเท่านั้น
เด็กหนุ่มแทบไม่เหลือใครอีก    นอกจากความฝัน ที่กำลังตะโกนกู่ก้อง 
ปีกของเขาเรียวยาว  ขนเต็ม  พร้อมบิน
เพื่อนต่างเวลาของเขาคนนั้นอายุ  41ปี แต่คล้ายเขาติดอยู่ที่อายุ  12มานานเนิ่น
ชีวิตถูกหยุดเวลา
เหมือนฉัน  ฉันก็ถูกหยุดเวลา
 แต่เวลาชีวิตของเด็กหนุ่ม ไม่ใช่
เขาจำเป็นต้องล่วงหน้าไป   
12.เขามาพบฉันครั้งสุดท้ายในสภาพที่น้ำตานองหน้า  
 เขาบอกว่าไม่เหลือใครที่เข้าใจเขาแล้ว  แต่ยังเหลือฉัน
เขาอยากจะโบยบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังที่แสนไกล  แต่เขาอยากจะเห็นหน้าฉัน 
 อยากพบ เขาอยากจะรอฉันก่อน 
รอจนปีกฉันงอกยาว จนกลับมาบินได้  แล้วค่อยบินไปด้วยกัน
 แต่ฉันปฏิเสธ  หนทางที่ทอดข้างหน้า  กำลังรอ
หนทางข้างหน้าต้องการตัวเขาเดี๋ยวนี้
แต่หนทางยังไม่ต้องการตัวฉันตอนนี้
หนทางของเขากำลังดึงดูดชีวิตเขา  และฉันก็คงจะดึงดูดชีวิตเขาด้วย 
 แรงดึงดูดทั้งสองกำลังยื้อกันอยู่เหมือนชักเย่อ
แล้วฉันก็ตัดสินใจเขวี้ยงกระจกเสี้ยวออกไปนอกหน้าต่าง   
 นกน้อยนอกหน้าต่างตกใจกระพือปีกบินเตลิด
เสียงกระจกแตกเพล้ง  
สำเร็จ!....โลกหลุดออกจากดวงจันทร์
ฉันทรุดตัวลงหลับตานับจำนวนสะเก็ดกระจก  
น้ำพุร้อนผุดพุ่งถึงฟ้า
คัต.
ขอบคุณ				
นิ้วยอก  เอ้ย  นิวยอร์ค ซิตี้				
โรบิน วิลเลี่ยม				
เอริก้า บาดู				
				
แอนตัน เยลชิน				
สาวน้อย...				
				
				
ความรัก				
และถ้าไม่มีเขาเรื่องราวทั้งหมดจะไม่เกิดเลย
  เดวิด   ดูชอฟนีย์

ขอบคุณครับ				
ขอบคุณพระเจ้า.				
comments powered by Disqus
  • กีกี้

    1 กุมภาพันธ์ 2550 18:23 น. - comment id 94859

    .. 1.gif ..
    
    ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ แต่น่าจะเป็นหนังดี 
    
    เพราะเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดงานดีๆ ชิ้นนี้ .. 
    
    ปล. ไม่ได้หลวมตัว แต่ตั้งใจเข้ามาเลยแหละ 1.gif
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    2 กุมภาพันธ์ 2550 11:43 น. - comment id 94864

    1.gif
  • แดนไกล

    4 กุมภาพันธ์ 2550 01:03 น. - comment id 94879

    ดีครับ ท่านกรกฎายน
  • กรกฎายน

    8 กุมภาพันธ์ 2550 13:06 น. - comment id 94915

    หวัดดี คุณกี้  
    คุณพันเก้าร้อยแปด
    นายกูซ่า
    
    ไม่ค่อยได้เข้ามาเลยครับ
    วันนี้เข้ามาอีกแล้ว
    
    ผมยังไม่ได้ขอบคุณคนสำคัญคนหนึ่ง
    ผู้ให้กำเนิดเรื่องนี้
    
    เดวิด  ดูชอฟนีย์
    
    29.gif
    
    And last   
    Thanks   God

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน