ข้าพเจ้าคิดจะตามหาใครคนหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าเองก็ไม่รู้ว่า..เขาคือใคร ?

อัลมิตรา

ข้าพเจ้าคิดจะตามหาใครคนหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าเองก็ไม่รู้ว่า ใช้จะใช้วิธีไหนดีที่จะตามหาเขา
เปล่าเลย .. หากคุณคิดว่า ข้าพเจ้าอยากพบตัวเขา
ไม่ใช่สักหน่อย .. หากคุณคิดว่า ข้าพเจ้าอยากเจอตัวเขา
ข้าพเจ้าเองก็บอกเหตุผลไม่ถูกเหมือนกัน ข้าพเจ้ารู้แต่ว่า .. 
บ่อยครั้งที่ข้าพเจ้ารำลึกถึงเขา
ล่วงเลยมาห้าปีแล้ว ในครั้งที่ข้าพเจ้ามีโอกาสพบเขา 
ซึ่งโอกาสที่มีครั้งเดียวนั้น 
สืบเนื่องมาจากความมีน้ำใจของเขา ที่มีต่อข้าพเจ้าผ่านอินเตอร์เน็ต
นานแล้วจริง ๆ แต่ความรู้สึกที่ดี .. มันไม่เคยลบเลือนจากใจเลย
........................................................................................................................				
มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ภาคที่ (.......) 
สิ่งที่อยู่ในความใฝ่ฝันของข้าพเจ้า ทว่า ข้าพเจ้าไม่มีโอกาสทำฝันให้เป็นจริง

ข้าพเจ้าเกริ่นเรื่องราวตามหัวข้อฟอรั่มแบบนี้ ในเวปแห่งหนึ่ง หมวดอาวุโส
สิ่งที่อยู่ในความใฝ่ฝันของข้าพเจ้า คือ ..
ข้าพเจ้าอยากอ่านนิยายเพชรพระอุมา 
ซึ่งความอยากของข้าพเจ้าถูกสั่งสมมาตั้งแต่เด็ก

ทุกคราวที่ข้าพเจ้าเข้าไปในร้านหนังสือ 
ข้าพเจ้าได้แต่มองหน้าปก คิดอยากจะจับก็ยังไม่กล้า 
และเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดอ่าน ...

สภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ต้องประหยัด 
บางวันข้าพเจ้าไม่มีเงินไปโรงเรียน บางวันอดอาหารมื้อกลางวัน 
บอกเล่าเพียงเท่านี้ หลายคนคงนึกสภาพออกว่า .. 
ข้าพเจ้าไม่มีโอกาสจริง ๆ ที่จะได้เป็นเจ้าของนิยายชุดเพชรพระอุมา แน่นอน

แต่ข้าพเจ้ายังหวัง ข้าพเจ้ายังใฝ่ฝัน.. 
สักวัน หากข้าพเจ้ามีโอกาส ข้าพเจ้าจะต้องมีโอกาสนั้น 
ของขวัญสำหรับมอบให้ตัวเอง ของขวัญที่พิเศษสุด
ก็ได้แต่เพ้อฝันไปลม ๆ แล้ง ๆ เพราะผ่านมาปีแล้ว ปีเล่า .. 
ข้าพเจ้าก็ยังปล่อยให้เป็นเพียงความหวัง เป็นเพียงความใฝ่ฝันล่องลอย

เอาเถอะ หากข้าพเจ้าเติบโตขึ้น และได้ทำงาน 
ข้าพเจ้าคงพอมีเงินที่จะทยอยซื้อได้ ทีละเล่ม สองเล่ม 
และแล้วข้าพเจ้าก็ปล่อยให้เวลาเลยผ่านไป โดยที่ คิดจะทำก็ยังไม่กล้า ...
ดูเหมือนว่า โอกาสเช่นนั้น เป็นโอกาสง่าย ๆ ใครต่อใครก็สามารถบรรลุได้ 
แต่สำหรับข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีสิ่งอื่นที่จำเป็นกว่าเสมอ
ข้าพเจ้าเก็บความรู้สึกเอาไว้ พร้อมกับปลอบใจตัวเองว่า .. สักวัน  สักวัน ... 
ปีแล้ว ปีเล่า .. ข้าพเจ้าก็ปลอบตนเช่นเดิม .. สักวัน สักวัน ...

จนกระทั่งถึงวันที่ข้าพเจ้าเขียนระบายลงในฟอรั่ม ..
ข้าพเจ้าก็ยังไม่มีโอกาสที่จะความฝันของข้าพเจ้าให้เป็นจริงเลย 

.......................................................................................................................				
...    " ผมมีหนังสือชุดที่คุณกล่าวถึง ผมจะให้คุณยืมอ่าน "
ข้าพเจ้า " หืมม คุณ ... คุณอย่าล้อเล่นนะคะ "
...    " ผมไม่ได้หลอกเล่นครับ ผมจะให้คุณยืมจริง ๆ 48 เล่ม ครบชุด "
ข้าพเจ้า " คุณคะ ถ้างั้น ขออนุญาตใช้เวลาในการอ่าน 2 ปี นะคะ "
...    "ไม่เป็นปัญหาครับ "
ข้าพเจ้า " เพราะต้องการอ่านแบบซาบซึ้งจริง ๆ ไม่ใช่แค่อ่านผ่าน ๆ ตา ค่ะ "
...    " รับทราบครับ "
ข้าพเจ้า " ถ้าเล่มใดเสียหาย จะชดใช้ให้ค่ะ  "
...    " ครับ 
ข้าพเจ้า "ขอบคุณมาก สำหรับความกรุณาของคุณ ... "
...    " ผมยังไม่มีชื่อครับ คุณช่วยตั้งชื่อให้ผมได้ไหม ? "
ข้าพเจ้า " ชื่อไวท์โรด ดีไหม เป็นนิยายแฟนตาซี ตอนนี้กำลังอ่านอยู่ค่ะ "
ไวท์โรด " ครับ ต่อไป ผมจะชื่อไวท์โรด "
ข้าพเจ้า " ค่ะ คุณไวท์โรด สัญญาว่าจะดูแลหนังสือของคุณอย่างดีที่สุดค่ะ "
ไวท์โรด " คุณครับ "
ข้าพเจ้า " คะ "
ไวท์โรด " ผมเปลี่ยนใจแล้ว "
ข้าพเจ้า " หืม "
ไวท์โรด " ผมเปลี่ยนใจจากให้คุณยืม เป็นมอบหนังสือให้คุณเป็นเจ้าของ "
ข้าพเจ้า " หืมมมม  !!!!! "

ข้าพเจ้ารู้สึกถึงการเต้นอย่างแรงของหัวใจ 
ด้วยความแปลกใจอย่างมากในบทสนทนา
อีกสองนาทีถัดมา เขาคนนั้นก็ให้เบอร์โทรศัพท์เพื่อให้ข้าพเจ้าติดต่อกลับ
โดยข้าพเจ้าเป็นผู้นัดแนะสถานที่ ที่จะรับมอบหนังสือ 

แน่นอน ..
ข้าพเจ้าเลือกสถานที่พลุกพล่าน ซึ่งข้าพเจ้าเองก็ขี้ขลาดที่จะไปรับหนังสือลำพัง

.......................................................................................................................				
ข้าพเจ้า " ปู่ ว่างไหม ช่วยไปเป็นเพื่อนหน่อยนะ ปู่ น่า นะ "
จอมยุทธเมรัย " ถ้าได้หนังสือมาแล้ว ให้ปู่ยืมอ่านก่อนได้เปล่าล่ะ "
ข้าพเจ้า " ได้สิ แต่ปู่ต้องคืนหนังสือนะ อย่ายืมนาน ปู่ตกลงแล้วใช่ไหม "
จอมยุทธเมรัย " งั้นก็ได้ เดี๋ยวไปรอที่จุดนัดเลยนะ ไปไม่สายหรอก "

.......................................................................................................................				
จอมยุทธเมรัย " คนนั้นเป็นใคร ทำไมจู่ ๆ ให้หนังสือมาล่ะ แพงนะนั่น "
ข้าพเจ้า " ไม่รู้จักอ่ะ แต่เขาบอกว่า เขาจะให้จริง ๆ นะ ปู่ "
จอมยุทธเมรัย " อย่าลืมล่ะ ว่า..ต้องให้ปู่ยืมอ่านก่อน "
ข้าพเจ้า " ไม่ลืมหรอกน่า แต่ต้องคืนนะ ห้ามยึด "

.......................................................................................................................				
เขามาแล้ว ..
เดินเข้ามาในร้านแมคโดนัลล์ สาขาโลตัสพระราม 3 ตรงตามเวลานัด
มีผู้ชายตัวโตกล้ามใหญ่เดินตามหลังเขาสองคน 
ข้าพเจ้าสังเกตว่า สองคนนั่นน่าจะเป็นผู้คุ้มกัน

ข้าพเจ้า " สวัสดีค่ะ คุณไวท์โรด "
ไวท์โรด " สวัสดีครับ " 

เขายิ้มให้ข้าพเจ้าและเพื่อนของข้าพเจ้า คนของเขาแยกไปนั่งอีกโต๊ะ
ข้าพเจ้า " ดีใจจัง คุณมาตามที่นัดหมาย "
ไวท์โรด " อ้าว ต้องมาสิ ทานอะไรกันยัง เดี๋ยวผมให้เด็กไปจัดการให้ "

ข้าพเจ้าเป็นงง..
เมื่อเขาบอกว่า เดี๋ยวให้เด็กไปจัดการให้ ซึ่งเขาเพียงแต่ส่งสายตาไป 
หนึ่งในผู้ติดตามเขา ก็เดินมายังโต๊ะที่พวกเรานั่ง เพื่อฟังคำสั่งเขา

ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าเขาจะส่งมอบเงิน ..
แต่เด็ก(ของเขา) ก็สามารถนำพาอาหารมากมายมาจัดวางไว้ให้

ข้าพเจ้ากล่าวคำขอบคุณเมื่อได้รับอาหาร ..
และเชิญชวนให้ผู้ติดตามของเขานั่งทานร่วมโต๊ะด้วยกัน

ทว่าไวท์โรดบอกว่า พวกเขาไม่กล้ามาร่วมโต๊ะทานอาหารด้วยหรอก 
เพราะพวกเขามีหน้าที่คุ้มกัน และดูแลความปลอดภัยให้กับพวกเรา

ข้าพเจ้าอึ้ง !!! ..  ไวท์โรดก็ชิงกล่าวว่า เราทานกันเถอะ

สักพักใหญ่ เขาก็สั่งการให้ผู้ติดตามเขา ไปยกกล่องหนังสือมามอบให้กับข้าพเจ้า 
หนังสือจำนวน 48 เล่ม ในกล่องเซ็ทเป็นชุด อยู่ตรงหน้าของข้าพเจ้าแล้ว .. 

แทบไม่น่าเชื่อ จริงหรือฝัน

.......................................................................................................................				
เขาเล่าว่า ช่วงนั้นเขาว่าง..
 สืบเนื่องจากต้องพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ รถคว่ำที่ จ.สุพรรณบุรี
ข้าพเจ้าสอบถามอาการบาดเจ็บของเขา เขาบอกว่า กรามหัก เหงือกต้องเย็บ
ฟังเขาเล่าแล้ว รู้สึกเจ็บไปด้วย เป็นห่วงในอาการ จนต้องเอ่ยถามว่า
 " ยังเจ็บอยู่มั๊ย "..

เขายิ้มและหัวเราะเบา ๆ บอกว่า..
 " เจ็บสิ แต่ไม่ใครกล้าถามผมนะว่า เจ็บหรือเปล่า "

เจ็บก็เจ็บ ทำไมถึงไม่มีใครคิดถามเขา ข้าพเจ้าคิดในใจ .. 
กลัวอะไรกันนะ แค่นี้ก็ไม่ถาม

ข้าพเจ้าถามเหตุผลของเขา..
 ในการที่เขาตัดสินใจเปลี่ยนจากการให้ยืม เป็นการให้เลย เหตุผลคือ ??
เขาตอบข้าพเจ้าด้วยน้ำเสียงปกติว่า..
เขามีหนังสือมากมาย ที่จริงแล้ว เขาก็เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ
มีทั้งกำลังภายใน มีทั้งนวนิยาย และอื่น ๆ อีกด้วย..
ซึ่งบางเล่มเขาก็แจกจ่ายไป บางเล่มเขายังเก็บไว้
ส่วนชุดของเพชรพระอุมานี้ เขาอ่านจบแล้ว..
 เก็บไว้อย่างดี ซึ่งเขาคิดว่าคงไม่ได้กลับไปอ่านซ้ำอีก
จึงคิดว่า.. 
ควรมอบให้กับคนที่เห็นคุณค่าของหนังสือชุดนี้ ดีกว่า จะเก็บไว้ปล่อยให้ปลวกกิน

ข้าพเจ้าถามเขาอีกว่า แล้วเขาแน่ใจได้อย่างไรว่า.. 
ข้าพเจ้าคือคนที่เขาคิดว่าเหมาะสมแล้ว
เขาบอกว่า เขาติดตามอ่านฟอรั่มของข้าพเจ้านานพอสมควร ..
รับสัมผัสรู้ถึงนิสัยใจคอผ่านตัวหนังสือ
เขามั่นใจว่า เขาตัดสินใจถูกต้อง 

ข้าพเจ้า " คุณดีเช่นนี้  จะทำอย่างไร เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณดี "
ไวท์โรด " ผมไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใด ๆ คุณมีมิตรภาพให้ผม ผมมีมิตรภาพให้คุณ เท่านี้ก็พอครับ "

.......................................................................................................................				
เขาเล่าคร่าว ๆ ในความเป็นเขา 
เขาเล่าว่า ตอนนี้เขากำลังทำรีสอร์ท ก่อสร้างใกล้จะแล้วเสร็จ 
ถ้าอย่างไร ก็เชิญข้าพเจ้ากับคุณพ่อเป็นแขกพิเศษ
เขาเล่าว่า เขาเป็นมาเฟีย (ทำนองนั้น)
ชีวิตของเขา อันตรายรายล้อม ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อ เพราะเห็นผู้คุ้มกันของเขาแล้ว
เขาเล่าว่า เขาประกอบอาชีพในเรื่องความเสี่ยง หวย บอล ฯลฯ  
ซึ่งข้าพเจ้าไม่ได้ถามลึกไปกว่านั้น ว่าอะไรบ้าง
รู้เท่านั้น .. ข้าพเจ้ารู้เท่าที่เขาบอกเล่ามาเท่านั้นจริง ๆ

.......................................................................................................................				
ในโลกเน็ต ข้าพเจ้าเจอะเจอกับสิ่งที่มากระทบมากมาย 
หลายหนที่ข้าพเจ้าถูกกระแทกจนเจ็บจุก จนรู้สึกเสียใจ จนรู้สึกเสียกำลังใจ
แต่ข้าพเจ้าก็ค้นพบว่า ..
ท่ามโลกที่เหวี่ยงข้าพเจ้าลงกับพื้น ยังมีมิตรภาพดี ๆ ฉุดข้าพเจ้าให้ลุกขึ้น

ไวท์โรด เป็นคนหนึ่ง ที่อยู่ในความทรงจำที่ดี 
ข้าพเจ้าเคยบอกเล่าเรื่องราวผ่านประสบการสัมมนา
บางคนที่รับฟัง นิ่ง ตะลึง 
บางคนที่รับฟัง งง เหมือนกับจะไม่เชื่อว่า มีคนเช่นนี้จริง ๆ เหรอ
บางคนที่รับฟัง น้ำตาคลอ และรู้สึกซาบซึ้งไปกับมิตรภาพที่งดงามนั้นด้วย

.......................................................................................................................				
บางครั้งที่ข้าพเจ้าบาดเจ็บจากเน็ต 
จนเกือบมองโลกเน็ตเป็นเรื่องลบเสียทั้งหมด
ข้าพเจ้าก็มักจะฉุกนึกถึงเขา  
อันที่จริงแล้ว นอกจากไวท์โรด ข้าพเจ้ายังมีเพื่อนที่แสนดีอีกหนึ่งคน
เพื่อนที่ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความหมายของมิตรภาพ  
You say it best... when you say nothing at all

เช่นกัน ทั้งไวท์โรด และเพื่อนที่แสนดีคนนั้น .. ข้าพเจ้าไม่รู้ว่า เขาคือใคร ?
ความแตกต่างระหว่างไวท์โรดกับเพื่อนที่แสนดีของข้าพเจ้า อยู่ตรงที่..
ข้าพเจ้ายังพบกับเพื่อนที่แสนดีของข้าพเจ้าได้ทุกบ่อย ในโลกของอินเตอร์เน็ต
แต่ ข้าพเจ้าไม่ได้พบกับไวท์โรดอีกเลย ตั้งแต่ปี พ.ค.2546 
ในข้อความสุดท้ายที่เขาเขียนถึงข้าพเจ้า

-  ( รบกวนหาข้อมูลหนังสือเก่าให้หน่อยครับ 

- ....เรื่อง นิทานชาวไร่ 
- ....ท่านนาวาเอก สวัสด์ จันทนี แต่ง 
- ....พิมพ์ครั้งแรกปี 2515 จำนวน12เล่ม 
- ....หาซื้อได้ที่ไหน 

- ยืมพวกมายังไม่ทันได้อ่านดันไปทำหายทั้งถุง 
- มึนตึ๊บไม่รู้จะไปซื้อที่ไหนใช้เขา 

- ช่วยหน่อยนะนึกว่าสงสารเหอะ  ขอบคุณมาก )

ข้าพเจ้ากระจายข้อความนี้ ขอความช่วยเหลือไปยังคนอื่น ๆ ที่ข้าพเจ้ารู้จัก
โดยที่ทุก ๆ คน ก็ช่วยกันสืบหา ค้นหา ทว่า ไม่สามารถที่จะช่วยจัดหาให้เขาได้
แย่นะ แย่จัง  ที่ข้าพเจ้าไม่สามารถทำอะไรเพื่อเขาได้เลย

.......................................................................................................................				
ข้าพเจ้าเลือกใช้วิธีนี้ ที่จะตามหาเขา 
แต่ไม่ได้หมายความว่า อยากพบ อยากเจอเขา

ข้าพเจ้าอยากบอกเขาว่า ..
หนังสือที่เขาให้มา ข้าพเจ้าอ่านจบสองรอบแล้ว และเก็บรักษาเป็นอย่างดี

ข้าพเจ้าอยากถามเขาว่า ..
เขาหายขาดจากอาการบาดเจ็บหรือยัง

ข้าพเจ้าอยากบอกเขาว่า ..
ให้เขาดูแลตัวเองให้ดี

ข้าพเจ้าอยากบอกเขาว่า .. 
ระลึกถึงเขาเสมอ และยังรู้สึกขอบคุณในความมีน้ำใจของเขา

ข้าพเจ้าคือคนหนึ่งที่เขาเคยรู้จักมักคุ้นในนามแฝงว่า .......
ใช่ .. ถ้าเป็นเขา เขาย่อมรู้ดีกว่า เขาเคยเรียกชื่อข้าพเจ้าว่าเช่นไร


มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า				
comments powered by Disqus
  • ผู้หญิงช่างฝัน

    21 ตุลาคม 2551 08:17 น. - comment id 102064

    ไม่รู้หละ..  อ่านจบแล้วยืมต่อนะ..  มีไม่ครบอ่ะ    64.gif
  • ลุงแทน

    21 ตุลาคม 2551 09:18 น. - comment id 102065

    36.gif มิตรภาพไม่สามารถซิ้อขายได้แม้ราคาจะสูงเพีนยง  แต่สามารถ ให้กันและกันได้ด้วยจิตที่บรัสุทธื์ อย่างจริงใจ ที่ปราศจากอกุศลจิต  และความจริงใจนี้ไม่สามารถตีเป็นราคาได้ เพราะเป็นสิ่งที่มีค่าแต่ไม่มีราคา
  • แก้วประภัสสร

    21 ตุลาคม 2551 09:48 น. - comment id 102066

    ขอให้คุณอัลมิตรา ได้พบคนนั้นเร้วๆนะคะ เอาใจช่วยค่ะ อยากช่วยตามค่ะ แต่ไม่ทราบว่าเขาคนนั้นเป็นใคร
    36.gif36.gif
  • คอนพูทน

    21 ตุลาคม 2551 10:15 น. - comment id 102067

    ขอบคุณเรื่องราว..ดีๆ
    ระยะทางยังยาวไกล..ตามหาต่อไป..
    คงได้พบพาน..
    
    สุขอย่าได้สร่าง
    36.gif6.gif7.gif8.gif16.gif
  • ช้างตกมัน ตัวดำดำ

    21 ตุลาคม 2551 10:49 น. - comment id 102069

    ตามเขาเจอหรือยังนะ..
    มิตรภาพไม่มีขายที่เซเว่น
    มิตรภาพซื้อขายไม่ได้
    
    ว่าแต่ว่า..
    ขอได้ป่ะ..
    ขอจากอัลมิตรานี่แหละ
    
    
    
    โอ๊ยยยย...คิดถึงเพื่อนอะ
    ซำบายดีเก่าะเจ้า
    
    
    
    
    
    46.gif
  • อัลมิตรา

    21 ตุลาคม 2551 13:06 น. - comment id 102071

    ทุกครั้งที่ได้ยินใครกล่าวถึง "เพชรพระอุมา"
    นอกเหนือจากคิดถึงหลายบุคคลในนวนิยายชุดนั้น
    ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึง ผู้ที่มอบหนังสือชุด ... ให้
    
    คนที่ ข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักมาก่อน
    จนกระทั่งบัดนี้ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้คืบหน้าในการคุ้นเคยเลยสักนิด
    ทว่า .. ข้าพเจ้า คิดถึงเขา ความคิดถึงที่อาจส่งไปไม่ถึงที่หมาย
    
    :)
    
    หนึ่งในความรู้สึกดี ๆ ข้าพเจ้าย่อมมี 
    หนึ่งในความรู้สึกที่ดีที่สุด ข้าพเจ้าย่อมมี
    คนที่ข้าพเจ้า คิดถึง .. ย่อมมี
    
    บางคนล่วงลับไปแล้ว
    บางคน ยังอยู่ให้ความคิดถึงหอมกรุ่น
    และบางคน ไม่รู้เหมือนกันว่า .. คือใคร
    
    ไวท์โรด คือ หนึ่งในมิตรภาพที่เกิดขึ้นบนโลกอินเตอร์เน็ต ที่ข้าพเจ้ามิได้สานความสัมพันธ์ต่อ
    หากแต่ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกัน ข้าพเจ้า ย่อมมี บุคคลนั้น
    เก็บไว้ในใจ .. เก็บไว้ลึก ๆ .. ความรู้สึกที่ไม่ต้องเอื้อนเอ่ย .. แต่เข้าใจในความรู้สึก
    you've got friend .. 
    
    .....................................................................................................
    
    คุณผู้หญิงช่างฝัน .. ขาดเล่มไหนบ้างเอ่ย
    
    คุณลุงแทน .. เนอะ ลุงแทน ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีจัง เป็นอะไรที่เปี่ยมสุขจริง ๆ นะ
    
    คุณแก้วประภัสสร .. อัลมิตราก็อยากให้เขาทราบว่า อัลมิตราระลึกถึงเขานะ ยังรู้สึกขอบคุณเสมอ
    แต่อัลามิตราก็ไม่อาจรู้ได้ว่า เขาจะมีโอกาสรับรู้ไหม
    
    คุณคอนพูทน . .:) เช่นกันค่ะ สุขอย่าสร่าง
    
    คุณช้างพลาย .. ได้ไปแล้ว ถ้าเอามาคืน จะแช่งให้มะรืนนี้ตายนะ
    กินยาเม็ด เจ็ดวันตาย กินยาถ่าย ตายเร็ว ๆ ... ตกลงอิ๊บอั๊บ รับไปแล้ว ใช่ป่ะ
    คิดถึงเหมือนกันนะ พ่อช้างอ้วนตุ๊
  • มายอามีน

    21 ตุลาคม 2551 15:08 น. - comment id 102073

    อยากอ่านบ้างจังคะ
    
    
    คงจะสนุกมาก
    ^^
  • ฉางน้อย

    21 ตุลาคม 2551 17:59 น. - comment id 102076

    อ่านเรื่องราวนี้แล้วรู้สึกดีมากๆนะคะ
    
    ฉางน้อยก็เจอนะคะเพื่อนแบบนี้ เขาเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ที่ดีตลอดที่รู้จักกันมา  เราสามารถหยอกล้อเล่นกันได้ แต่บางทีฉางน้อยก็เหลิงมากไป อิอิ 
    
    มิตรภาพหาได้ง่ายค่ะ แต่มิตรภาพที่ดีจริงใจอย่างแท้จริง ฉางน้อยว่ายากพอสมควรนะคะ
    
    ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะคุณอัลมิตรา
    
    คุณเชื่อไหม ฉางน้อยเข้ามาอ่านแล้วยังอมยิ้มไปด้วย เหมือนมีความสุข สุขตอนที่เราได้ไปเจอใครบางคนโดยที่เราไม่คาดหวังว่าจะได้เจอน่ะคะ 
    
    .....สุขใจคะ อ่านแล้วอมยิ้มเล็กๆคะ ....
  • มินนี่

    21 ตุลาคม 2551 20:31 น. - comment id 102079

    อ่านไปยิ้มไปเหมือนกันค่ะ
    ชอบเพชรพระอุมาเหมือนกันค่ะ
    อ่านจากห้องสมุดโรงเรียน
    (ไม่มีตังค์ซื้ออะค่ะ)
    
    เอาใจช่วย และอวยพรให้อัลมิตรา
    ได้เจอคนคนนั้นนะคะ
    
    "นิทราจงสวัสดิ์เถิดพรานไพร"
  • อัลมิตรา

    21 ตุลาคม 2551 21:02 น. - comment id 102080

    คุณมายอามีน .. สนุกมากค่ะ เป็นหนังสือที่คุ้มกับการรอคอยจริง ๆ 
    
    คุณฉางน้อย .. อย่างที่เขียนเล่าในเรื่องสั้น อัลมิตรายังมีเพื่อนที่แสนดีอยู่อีกบ้าง
    ซึ่งทุกวันนี้ต่างก็ดูแลและรักษาน้ำใจของกันและกัน เป็นมิตรภาพที่แสนงดงาม
    อัลมิตราเคยเขียนเล่าใน you've got mail เมื่อหลายปีที่ผ่านมา .. ลองค้นอ่านนะคะ 
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story6168.html
    ทุกวันนี้อัลมิตราก็ยังไม่เคยเจอะเจอเขา .. แต่ไม่เป็นไร เรารู้จักกันเท่าที่เราต่างขีดกรอบไว้
    เป็นเช่นนั้นจริง ๆ กับนิยามของคำว่า "มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า" ค่ะ
    
    คุณมินนี่ ..  ตอนที่เป็นนักเรียน อัลมิตรามีเวลาน้อยมากที่จะคลุกอยู่ในห้องสมุด
    เว้นแต่ชั่วโมงเรียนที่คุณครูไม่ได้เข้ามาสอน นอกเหนือจากนั้น ส่วนใหญ่อยู่ในสนามกีฬา
    ดังนั้น สิ่งที่อยากอ่าน จึงถูกกำหนดไว้ในใจว่า .. สักวันจะได้อ่านให้สมใจอยาก
    สำหรับเรื่องซื้อหนังสือนิยายในสมัยนั้น เป็นเรื่องที่ฟุ้งเฟ้อเกินไปสำหรับเงินในกระปุกค่ะ
    ลำพังหนังสือเรียน ยังต้องซื้อต่อจากรุ่นพี่ในราคาครึ่งเดียวเลย ยากเข็ญสุด ๆ ..นะนั่น
  • โคลอน

    22 ตุลาคม 2551 08:35 น. - comment id 102086

    บางครั้งพื้นที่ว่างที่เราต่างมีให้กันพอเติมความอบอุ่นเข้าไปมันก็เต็มในใจได้เนาะ
    
    ปล.เพชรพระอุมา ไม่เคยอ่านสักเล่มเลยค่ะแต่ได้ยินชื่อนานแล้ว.....เหมือนเคยได้ยินว่า ท่านมุ้ยจะสร้างเป็นหนังแต่ก็เงียบๆไปไม่รู้ความคืบหน้าเป็นยังไงเนาะ29.gif
  • ช่วย

    22 ตุลาคม 2551 09:27 น. - comment id 102089

    ข้าพเจ้าคิดจะตามหาใครคนหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าเองก็ไม่รู้ว่า..เขาคือใคร ?
    
    โอ้ว ชอบหนังสือชุดนี้เหมือนกันค่ะ แต่ ..
    เรื่องที่คุณเล่า  กินใจได้อีก
    ...
    .
  • เฌอมาลย์

    22 ตุลาคม 2551 10:14 น. - comment id 102092

    เป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆค่ะ
    
    มิตรภาพที่ดีที่แท้จริง ซื้อไม่ได้ด้วยเงินทอง แต่ซื้อหาด้วยน้ำใจไมตรีที่มีความจริงใจต่อกันเท่านั้น
    
    หวังว่าสักวันคงได้พบกับเขาคนนั้นอีกนะคะ
    36.gif
  • เอื้องอังกูร

    22 ตุลาคม 2551 10:31 น. - comment id 102095

    เปนเรื่องราวที่แทบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในโลกอินเตอร์เน็ทแต่...เปนเรื่องจริงที่แสนประทับใจ...เป็นเรื่องราวดีๆที่อ่านดูแล้วสุขใจ..ชื่นใจ...อย่างน้อยเราก้อมีความหวัง...อย่างน้อยก้อทำให้เราคิดว่า...มิตรภาพจะไม่มีวันจางหายไปจากมนุษย์....อย่างน้อยทำให้ลืมเรื่องร้ายๆที่เกืดในเมืองไทยขณะนี้...อื่ม...มิตรภาพไร้ขีดจำกัด...
  • อัลมิตรา

    24 ตุลาคม 2551 07:27 น. - comment id 102114

    คุณโคลอน .. ได้ยินข่าวเหมือนกันว่าท่านมุ้ยจะสร้าง"เพชรพระอุมา"
    เมื่อคราวที่อัลมิตราไปเยือนโรงถ่าย"พระนเรศวร" คนในนั้นก็บอกแบบนั้นค่ะ
    ก็คงมีแต่ท่านมุ้ยคนเดียวที่จะสามารถทำฝันในเล่มให้โลดแล่นมีตัวตนได้
    ติดตามอย่างใจจดใจจ่อเช่นกันค่ะ
    
    คุณช่วย .. :) เป็นเรื่องเล่าที่มาจากความจริงทั้งหมด ค่ะ
    
    คุณเฌอมาลย์ .. ได้แต่หวังนะคะ ซึ่งเป็นความหวังที่ริบหรี่จัง
    อย่างน้อยเพื่อให้เขาทราบว่า อัลมิตรายังระลึกถึงเสมอ
    ไม่ใช่ว่า ได้หนังสือของเขาไปแล้วก็กลายห่างไป ค่ะ
    
    คุณเอื้องอังกูร .. ยังมีอีกคนนะคะ ที่เป็นความประทับใจไม่รู้ลืม 
    ซึ่งอัลมิตราก็ไม่เคยพบเขาอีกเช่นกัน (โดยเราต่างไม่เคยเรียกร้องที่จะพบกันด้วย)
    อันที่จริง ในความรู้สึกดังกล่าว มันยากที่จะถ่ายทอดเล่าให้ใครต่อใครฟัง
    คล้ายเป็นความไม่น่าเชื่อ .. ทว่า สิ่งเหล่านั้น อัลมิตราประสบแล้ว 
    คือความสุขบนมิตรภาพที่มีต่อกันค่ะ
  • แทนคุณแทนไท

    24 ตุลาคม 2551 10:10 น. - comment id 102117

    โชคดีหลายชั้น1.gif
  • ก.กุ้ง

    24 ตุลาคม 2551 10:57 น. - comment id 102122

    อืม...คุณค่าของหนังสือก็ย่อมคู่ควรกับคนที่อ่านทุกตัวอักษรน่ะ  เขาคงมองเห็น...
    
    :)
  • อัลมิตรา

    24 ตุลาคม 2551 14:04 น. - comment id 102124

    คุณแทนคุณแทนไท . .:) อืมม บนความโชคดีจริง ๆ 
    
    คุณกุ้งหนามแดง .. อยากตอบแทนคุณเขาบ้าง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสเลย
  • แจ้นเอง

    30 ตุลาคม 2551 20:44 น. - comment id 102246

    36.gif
    
    สวัสดีค่ะคุรอัลมิตรา
    
    ไม่ได้เข้า thai poem ซะนาน คุณอัล สบายดีนะคะ พอเข้าปุ๊บก็มาเรื่องสั้นก่อนเลยเห็นชื่อคุณก็อ่านก่อนชอบในความเป็นคุณค่ะ
    
    เคยอ่านเพชรพระอุมาตอนปี 23  ตอนนั้นลงใต้ไปอยู่ดูแลพ่อสามี แต่คุณแม่แค่ให้อยู่เป็นเพื่อนว่างๆก็เลยไปสมัครเป็นสมาชิกห้องสมุดยะลา  อ่านวันละ 15 -18  ชั่วโมง จนจบก็บ้าเอาการอยู่แต่มันคุ้มกับการอ่านจริงๆ 
    
    อ่านเรื่องคุณอัล แล้วก็ให้คิดว่า โลก internet ก็ยังมีมิตรภาพที่สวยงามอยู่  ขอให้คุณอัลสมหวังกับการตามหา ...และขอให้คุณมีความสุขมากๆค่ะ
    
    1.gif
  • ไวท์โรด

    7 มีนาคม 2552 11:51 น. - comment id 104274

    นาง ช้าง ตัวหนึ่ง ออกไป เที่ยวเดิน บนใยหม่าแลงมุม เที่ยวจนเพลิดเพลิน มันเห็นเป็นการ สนุ๊กเหลือใจ มันจึงร้องเรียกให้นางช้างอีกตัวหนึ่งขึ้นมา  นางช้างสองตัว...........................
    
    จำเพลงนี้ได้ไหม มาร์ตี้ /คิดถึงเสมอ
  • อัลมิตรา

    23 มีนาคม 2552 14:13 น. - comment id 104383

    คุณแจ้น .. หนังสือเพชรพระอุมา อัลมิตราเคยอ่านแต่ปกมานานแล้ว
    เก็บความรู้สึกความอยากได้เอาไว้ในใจ กระทั่งคิดจะขอเงินพ่อแม่ยังไม่กล้า
    เพราะรู้ว่า ที่บ้านตอนนั้นลำบากมาก ครั้นทำงานได้ก็ยังต้องคิดแล้วคิดอีก ไม่กล้าซื้อ
    ทว่า.. ความอยากได้ ก็ยังคงอยู่  
    แล้วจู่ ๆ วันหนึ่ง อัลมิตราได้ถ่ายทอดความรู้สึกนี้ลงในเวปบอร์ดแห่งหนึ่ง
    ปรากฏว่ามีคน ๆ หนึ่งบอกว่า จะให้ ..  แรก ๆ เลย รู้สึกงง กับ กลัวว่าจะถูกอำ
    และในที่สุด เมื่อหนังสืออยู่ตรงหน้า ก็ยังแทบไม่เชื่อสายตาว่า คือความจริง
    รู้สึกขอบคุณในความมีน้ำใจจริง ๆ .. :) ยิ้มได้ทุกครั้งที่คิดถึงค่ะ
    
    คุณไวท์โรด .. แง๊  อยากร้องไห้จัง ทำไม มาร์ตี้ถึงได้มาเปิดอ่านคำทักทายของคุณช้านัก
    นึกว่าคุณจะลืมมาร์ตี้ไปแล้ว คุณหายไปอ่ะ มาร์ตี้ไม่รู้ว่าจะไปหาคุณได้จากที่ไหน
    มาร์ตี้คุณกับป๋าเทพเสมอในเรื่องของคุณ ซึ่งมาร์ตี้ก็ได้แต่อึ้งอื้อเมื่อป๋าเทพถามว่า แล้วไงต่อ
    ก็มาร์ตี้ไม่รู้ว่าจะยังไงต่ออ่ะ 
    
    มาร์ตี้จำได้นะ คุณบอกว่า (ตอนนั้นนะ ที่บอก) กำลังทำรีสอร์ทแถว ๆ เขาใหญ่
    แต่คุณรู้ไหม ทางขึ่นเขาใหญ่มีตั้งหลายทางแน่ะ เวลาที่มาร์ตี้ขึ้นเขาใหญ่ก็มักจะแลหา
    หาไปเรื่อย ทั้งที่รู้ว่า หายังไงก็ไม่พบ เพราะรีสอร์ทเยอะมาก 
    
    ก็คงเหมือนกับที่มาร์ตี้รู้ว่า เพื่อนที่ดีของมาร์ตี้บ้านอยู่ริมน้ำแถว ๆ ปทุมธานี
    ทุกครั้งที่ผ่านก็จะมองหา ไม่รู้เหมือนกันว่า หลังคาบ้านหลังไหนกันแน่
    ประมาณนั้นน่ะ คุณพอจะนึกภาพออกไหมคะ
    
    ส่วนเพลง นางช้างเดินเล่น  จำได้ จำได้ ..
    นาง ช้าง ตัวหนึ่ง ออกไป เที่ยวเดิน บนใยหม่าแลงมุม 
    เที่ยวจนเพลิดเพลิน มันเห็นเป็นการ สนุกเหลือใจ 
    มันจึงร้องเรียกให้นางช้างอีกตัวหนึ่งขึ้นมา  นางช้างสองตัว...........................
    
    จะว่าไปแล้ว .. อยากตีคุณจัง คุณหายไปไหนมาอ่ะ บ้า ๆ ชะมัดเลย 
    ปล่อยให้ตามหาอยู่ฝ่ายเดียว

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน