กลอนห่วงใย

ขอบฟ้า

อันดามัน


ต่อให้ขอบฟ้ากว้าง...กว้างแค่ไหน
ขอให้มั้นใจว่าจะไม่แปรผัน
ต้อให้ระยะทางจะไกลสุดฟ้ากั้น
ความผูกพันที่มีต่อกันจคงมั่นตลอดไป
แล้วเธอล่ะ...คนดี
รู้สึกแบบนั้น...รู้สึกดีๆกับฉันบ้างไหม
ถ้าไม่...ก็ไม่เป็นไร
แค่รับความรู้สึกห่วงใยเอาไว้ก็พอ

แม้ความตายมาพราก

din


แม้ว่าคำปลอบใดไม่อาจช่วย
แต่อย่าม้วยมอดดับกับรักขม
ในนิรันดร์...หนาวเหน็บ...เจ็บระบม
มันซ่อนคมพิศวาทมิคลาดคลาย
ยังหวงห่วงอาลัยแม้ไกลห่าง
จวบเดือนจางลางลับกับฟ้าสาย
หากหนาวเหน็บเจ็บปวดรวดร้าวกาย
แม้ความตายมิอาจพรากเราจากกัน
ให้นิรันดร์ยาวนานที่พานพบ
จงเลือนลบปวดเจ็บที่เหน็บขวัญ
ณ จุดที่...คำปลอบใด...ไม่สำคัญ
แต่มันกลั่นจากห้วงดวงหทัย
ยังคงหวงห่วงแท้แม้อยู่ห่าง
จะอ้างว้างร้าวรานสักปานไหน
แผ่วระรวยโรยรินเหมือนสิ้นใจ
แต่คิดถึงห่วงใยไม่เคยจาง

ที่พักใจ

คนกรุงศรี


แม้เหนื่อยนัก พักลง ที่ตรงนี้
ฟังวลี ลำนำ ที่ฉ่ำหวาน
มธุรส บทอ้อน ของกลอนกานท์
ปลอบดวงมาน ให้คลาย หายกังวล
บทกวี ที่กราย ร่ายอักษร
ของนักกลอน  หลากแหล่ง ทุกแห่งหน
ร่วมเรียงร้อย ภาษา มาให้ยล
ดุจดั่งมนต์ เทียมเทียบ เปรียบดนตรี
มาร่วมงาน สานฝัน วรรณศิลป์
ให้โลกยิน ลือไกล ไปทุกที่
ท่องโลกฝัน บรรเลง เพลงกวี
ปล่อยฤดี ตามมนต์ ของกลกลอน

แด่เธอ 2

Hide


"ถึงแม้วันเวลาจะผ่านไป ความห่างไกลระหว่างเรามากขึ้นทุกที แต่ความรักความห่วงใยที่เคยมี ถึงวันนี้ทุกอย่างคงเหมือนเดิม"

ฝากสายลมห่มใจบางใครจร

(น้ำตาลหวาน)


เสียงสายฝนหล่นฟ้าพาใจอุ่น
หอมละมุนกรุ่นไอเย็นกระเซ็นไหว
แอบหนาวเหน็บเก็บกลิ่นฝนระคนไอ
แม้นหนาวเย็นกายเพียงใดใจชื่นทรวง
ฝากสายลมห่มใจบางใครจร
ฝากสายฝนระคนวอนอ้อนแดนสรวง
ฝากสายน้ำไหลเฉื่อยฉิวริบริ่วรวง
ขออย่าลวงอย่ารับไปแล้วหายเลย
สายฝนพรำวอนขอนำจากใจนี้
ฝากคนดีที่อยู่ไกลได้ไหมเอ๋ย
สายลมพัดดึกสงัดอย่าปัดดั่งเคย
ความคิดถึงคนึงเอ่ยนิ่งเฉยไย
แม้นสายลมห่มหอบมอบแล้วหนัก
วอนสายลมนำห่มรักแอบพักไว้
คลายเหนื่อยหนักพักแล้วเร่งเร็วไว
นำคิดถึงและห่วงใยบางใครจร

รางวัลของครู

อรุโณทัย


ทุกคำที่บ่นว่า
ด้วยเมตตาศิษย์ทั้งหลาย
เหน็ดหนื่อยก็ไม่หน่าย
ห่วงใยศิษย์ทุกทุกคน
สั่งสอนคอยชี้แนะ
แนวทางแก้เพื่อหวังผล
ให้ศิษย์ทุกทุกคน
ประพฤติตนเป็นคนดี
ทุกคำที่บ่นว่า
คือปรารถนาและปราณี
ให้ศิษย์ของครูนี้
มีชีวีที่ก้าวไกล
ทนทุ่มเทเพื่อศิษย์
ด้วยดวงจิตที่ห่วงใย
เหนื่อยกายและเหนื่อยใจ
ยังภูมิใจทุกนาที
ทุกคำที่บ่นว่า
เรื่อยเรื่อยมาทุกทุกปี
สำนึกในหน้าที่
ปูชนียบุคคล
****************
ความภูมิใจของครู
วันที่รู้ศิษย์ทุกคน
ได้ดีมีสุขล้น
ในกลุ่มชนของสังคม
ทุกทุกคนคือศิษย์
ตลอดชีวิตที่อบรม
ถ้อยคำหรือคารม
ไม่ต้องชมครูก็ได้
ต้องรู้ถูกรู้ผิด
มีชีวิตที่ก้าวไกล
สื่งนั้นครูฝันใฝ่
เพื่อเป็นแรงใจให้ครู
******************
รู้ถูก รู้ผิด มีชีวิตที่ก้าวไกล
เป็นคนที่ดีให้ได้ นั่นคือ "รางวัลให้ครู"
อรุโณทัย
๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๕

ห่วงคนไกล

ปราทร


ห่วงคนไกล
เสียงฟ้าร้องก้องฟ้าเวลานี้
ห่วงคนดีคนไกลทำไรหนอ
ราตรีมืดคงเหงานั่งเฝ้ารอ
ระทดท้อจ้องฟ้าน้ำตาริน
ฝนเริ่มพรำร่ำไห้ใจสะท้าน
หนาวเหน็บนานกาลล่วงห่วงถวิล
เหงาแสนเหงาบอกเล่าให้ได้ยิน
มีปีกบินจะถลาฝ่าฝนลม
มาอยู่ใกล้กอดใจให้อบอุ่น
ลิ้มละมุนเนื้อนุ่มร่วมอุ้มสม
ปลดความเศร้าผ่อนคลายหายตรอมตรม
ทุกข์ระทมร้ายร้ายให้กลายดี
ฝนสร่างฟ้านภาแจ่มกระจ่างฟ้า
โปรดรู้ว่าพี่ชายไม่หน่ายหนี
ห่วงแสนห่วงห่วงมากนะคนดี
จะต้องมีฤดีพร้อมหลอมรวมเรา
ทร...

รอยยิ้ม..

ยังแคร์


ไม่อยากเห็นเธอเสียใจ
ไม่อยากเห็นรอยร้าวไหวในตาคู่นั้น
รอยยิ้มที่เคยสดใสมันหายไปไหนกัน
รอยยิ้มที่เคยแต้มฝันในดวงตา
ยิ้มนะ...กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ยิ้มนะ...แล้วหยัดยืนอย่างแกร่งกล้า
จะรอ...จนคนเข้มแข็งคนนั้นกลับมา
จะรอ...ยิ้มรับรอยยิ้มที่เริงร่า ของเธอคนเดิม

กุ้ง-หนำ-แดง

กวีปกรณ์


สวัสดียิ้มแย้มแซมอักษร
ทักทายกันทุกตอนตามนับได้
พี่กุ้งหญิงหนามแดงแฝงนามนัย
เรื่องฝีมีอย่าสงสัยไม่อยากยอ
ทุกเรื่องเล่าลำดับจับประเด็น
ตามกระแสใดเด่นเล่นเติมต่อ
สอดแทรกความตามด้วยมุขสนุกรอ
สาระก็มีแน่แหมเผลอชม
น้องร่วมเรือนกลอนไทยใช่กวี
เหงาอย่างนั้นเศร้าอย่างนี้มีสุขสม
แต่งต่อคำคัดเขียนเกรียนอารมณ์
กุ้งยังแวะเวียนชมผสมทักทาย
ความห่วงใยมีมอบให้เสมอ
ครั้งหนึ่งเธอถามไถ่ด้วยใจหมาย
ห่วงอารมณ์ห่มเศร้าของน้องชาย
มาคอมเมนท์ปิดป้ายหวังหายดี
บท "กวีนิพนธฺ์เล่มเก่า"
ตัวอักษรนอนเหงาเสียทุกที่
ราวกุ้งหญิงรับรู้เรื่องที่มี
ยามกะวีปะกลอนในตอนนั้น
"บุคคลภายนอกห้ามเศร้า"
เล่นเอาความเหงาเงียบสนั่น
แย้มรอยยิ้มพิมพ์คำออกรำพัน
ผู้ร่วมเรือนเดียวกันในบ้านกลอน
ขอมิตรภาพนั้นยืนยงอยู่
แม้ไม่รู้เห็นหน้าเพียงอักษร
กว่าเป็นคำเป็นความเป็นบทตอน
ล้วนต้องผ่านใจก่อนร้อยกรองคำ
บนบรรทัดห้าเส้นเล่นเป็นเสียง
บนสี่วรรคเรียบเรียงสูงกลางต่ำ
บนบ้านกลอนมีผลงานเธอประจำ
นามกุ้ง-หนำ-แดงใช่มีไมตรี

คือสายน้ำที่หวังดี...

นิติ


แค่เพียงเพื่อนคิดถึงคนึงหา
บางเวลาไม่มีใครใจสับสน
เพื่อนจะรู้มีเพื่อนใจคลายกังวล
ดั่งสายชลคือสานน้ำที่ห่วงใย

ขอทานรัก

Prayad


ณ ซอกตึกแห่งนี้มีที่ว่าง
สำหรับวางหัวใจอันไร้ค่า
คนมอซอรอเศษความเมตตา
นั่งก้มหน้าคอตกอกขอทาน
ความเจ็บปวดรวดร้าวคราวแรกรัก
สะท้อนทรวงฮักฮักคอยหักหาญ
ดวงฤทัยรักแรกเหลวแหลกลาญ
จนพิการเช่นนี้ฤดีตรม
จึงกลายเป็นยาจกที่อกหัก
ขอเศษรักคนอื่นอย่างขื่นขม
พิการใจไร้หญิงอิงแอบชม
นั่งซานซมหน้าด้านขอทานรัก
ไม่เกินวันพรุ่งนี้หรอกชีวิต
คงปลดปลิดลงด้วยใจป่วยหนัก
ดุจไร้ญาติขาดหญิงไว้พิงพัก
โถ...ใครจักต่อชีพจงรีบไว
โปรดให้ทานรักล้นแด่คนยาก
ผู้ฝันฝากใฝ่รักเจียนตักษัย
มิเคยเกี่ยงเลี่ยงเว้นว่าเป็นใคร
ขอเพียงใจมีรักจักสมปอง
มัวชักช้าร่ำไรอาจใจร้าว
หากได้ข่าวยาจกอกกลัดหนอง
สิ้นชีวาตม์ขาดคนมาสนมอง
เมื่อนั้นน้องอาจช้ำนอนคร่ำครวญ
(ธันวาคม ๒๕๒๘)

ส่งใจสู่ด้ามขวาน

ทิพย์โนราห์ พันดาว


...ส่งใจสู่ด้ามขวาน...
เสียงกระสุนสาดระห่ำกระหน่ำคลั่ง
หาหยุดยั้งถาโถมเข้าโหมล่า
กลางใจเมืองระอุไอในปัตตา
ท่ามประชาแผ่วเสียงเพียงบางเบา
...มโนภาพเลือนลางร่างคลุกฝุ่น
หวนละมุนไอท้องนาแลป่าเขา
เพลงพิญแคนโหวยแว่วดังแผ่วเบา
รวยรินเล่า..ลมหายใจในกายา
..หลับเถิดหนาทหารข้า..ผู้กล้าแกร่ง
อย่างระแวงสิ่งใดในปราถนา
เจ้าพลีชีพเพื่อชาติกษัตรา
ท่าม..นคราที่รุ่มร้อนด้วยฟ่อนไฟ
อย่าห่วงเลยคนอยู่หลังจะฝังจิต
แม้ชีวิตพลีพร้อมจะยอมให้
เพื่อสยามอาณาเขตประเทศไทย
มิหวังใดกว่าจงรัก..และภักดิ
มโนภาพเลือนลางร่างคลุกฝุ่น
ไอละมุนจากห่วงใยไทยที่นี่
ส่งข้ามโขดหินผาฝ่านที
ถึงชาตรีชายชาญทหารไทย
......เหล่าทหารกรำกล้าฝ่าหาญหัก
......ไทยตระหนักคำนึงซึ้งบ้างไหม
......ทุกวันนี้ไทยผองเป็นสองไทย
......หากร่ำไรเพลงชาติ....ขาดคนฟัง
ถูกใจ ·  · แชร์

* * * จดหมาย.... ถึงเพื่อน * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ


ถึง.... เพื่อนรัก
สบายดีไหม
อยู่ห่างไกลกันสุดขอบฟ้า
คิดถึงเธอเสมอมา
อยากพบหน้าเธอเหลือเกิน
เป็นไงบ้าง
บนเส้นทางที่เลือกเดิน
ทุกข์สุขได้ไปเผชิญ
หรือเพลิดเพลินทุกเวลา
เป็นห่วงนะ
แม้จะอยู่ไกลนักหนา
ขอให้ยิ้มสู้ชีวา
อีกฝั่งฟ้าจะยิ้มเช่นกัน
ไม่เป็นไร
มุ่งหน้าไปตามไล่ฝัน
คงจะถึงสักหนึ่งวัน
เพียงเธอมั่นในความดี
กำลังใจ
จะส่งให้เธอทุกที่
ยามใดทนทุกข์ทวี
เพื่อนคนนี้จะปลอบใจ
หากอ่อนล้า
พบปัญหายากแก้ไข
บอกมานะฉันจะไป
อยู่เคียงข้างไม่ห่างเธอ
จำไว้นะ
ฉันจะอยู่ตรงนี้เสมอ
ยามใดที่อยากพบเจอ
เพียงแค่เธอส่งข่าวมา  ^o^
คิดถึงสม่ำเสมอนะ

หากวันใด

กลั่นแก้ว


หากวันใดที่เธอทุกข์ท้อแท้
ขอเพียงแค่เธอนึกถึงฉันคนนี้
ยังยืนเคียงข้างเธอเสมอทุกนาที
ยังเป็นคนที่หวังดีไม่เปลี่ยนแปลง
ขอให้เธอรับรู้ไว้ด้วยเถิด
คนคุ้นเคยคนนี้ยังห่วงใย
ไม่ว่าเธอทุกข์ท้อสักเพียงใด
จะเป็นกำลังใจให้กับเธอ
........................

** ด้วยความคิดถึง **

ราชิกา


**  สุดขอบฟ้า  แสนไกล  หทัยนี้
ดวงฤดี เคียงข้าง มิห่างหาย
อุ่นไอรัก สลักซึ้ง ตรึงใจกาย
รักมิคลาย คิดถึง คะนึงครวญ
**  เหม่อมองฟ้า สะท้อน  ถึงก้อนเมฆ
คล้ายมนต์เสก   ดวงจิต  ให้คิดหวน
ความผูกพัน  ห่างเห ไม่เรรวน
น้องเนื้อนวล  ใจภักดิ์  สองรักเรา
**  กระซิบหวาน  คนดี  สุดที่รัก
ใจแน่นหนัก  คงมั่น  ดั่งขุนเขา
กระซิบแผ่ว  แว่วเสียง  สำเนียงเบา
คราใดเหงา  เฝ้ารำพึง...คิดถึงเธอ.....
**  ด้วย...ความรัก  สลักไว้  ในดวงจิต
ความ..ใกล้ชิด  ห่วงใย  ให้เสมอ
คิด...ทุกวัน  ห่วงหา  ทุกคราเจอ
ถึง...ละเมอ  คอยอยู่  เธอผู้เดียว.......ฯ

๏ เยื่อใย๚ะ๛

บินเดี่ยวหมื่นลี้


๏ ฟากสรวงแดนแสนห่างจากกลางเถื่อน
มองดาวเดือนโพ้นฟ้าสุดตาเหลียว
ฤๅโทษแถนปางบรรพ์ยังฝั้นเกลียว
เกินโน้มเกี่ยวเถื่อน-สรวงคล้องพ่วงกัน
เพียงสายใยอาทรแทรกซอนอยู่
ทุกอณูดวงแดมิแปรผัน
เกลียวฝั้นสองดวงมานนานนิรันดร์
ป้องปกขวัญดวงใจด้วยไมตรี
ช่วงคาบแห่งหนาวลมใกล้ล่มแล้ว
ต้นดอกแก้วรานงามจนทรามสี
ยามดอกใบหล่นร่วง..ห้วงฤดี
หวั่นในที..กลัวรักจะหักราน
ครายามยลพจน์ถ้อยที่ร้อยพากย์
เจ้าจารฝากความคำลำนำสาส์น
ที่ไหวหวั่นกลางห้วงของดวงมาน
ก็พ้นผ่านลับล่วงจากทรวงใน
แม้มีบ้างบางคืนสะอื้นอั้น
จำกลืนกลั้นน้ำตามิบ่าไหล
เฝ้านับคืนนับวันที่ผันไป
หวังถอนไถ่ปลดเปลื้องทัณฑ์เบื้องบน
**ขอฝากสายลมร่ำแห่งค่ำนี้
พาไมตรีเคลื่อนผ่านข้ามลานหน
หอบหวานชื่นแผ่ระนาบโอบทาบมน
จากอกคนกรุงไกรสู่ไพรวัน**
ระลอกลมพลบค่ำพลิ้วรำร่าย
กิ่งแก้วส่ายก้านใบดูไหวสั่น
ดอกสุดท้ายเบ่งบานบนลานจันทร์
ก่อนถึงวันรุ่งเช้าจักเฉางาม
แต่ดอกรักเบ่งบานเต็มลานป่า
ด้วยลมพาห่วงใยคอยไถ่ถาม
จากกรุงไกรข้ามฝั่งมารั้งความ
ทุกโมงยามอาทร ร้อน ฤๅ เย็น
ผ่านช่วงกาลลมหนาวอีกคราวหนึ่ง
แต่หวานซึ้งอักษราทุกคราเห็น
ยังบ่งบอกความเผยดั่งเคยเป็น
มิซ่อนเร้นเงื่อนงำแม้นคำใด
เช้าเคยฉ่ำย่ำกรายด้วยสายหมอก
น้ำค้างหยอกยอดแก้ววาวแววใส
นับจากนี้คงผ่านล่วงกาลไกล
หมุนเวียนไปตามห้วงของช่วงกาล
ที่รักของคนไกล
นานเพียงไหนคงยังรั้งประสาน
เยื่อใยแห่งสองเราให้ยาวนาน
แม้จบปราณวางวาย..ยังหม

พี่น้อง

กันนาเทวี


เดินโดดเดี่ยวเหลียวไหนใครคู่สอง
มีพี่น้องตามติดพิศมัย
ยามจำพรากจากกันแสนอาลัย
ซ้อนอยู่ในกายหนึ่งต่างพึ่งกัน
แม้ลุกนั่งเดินย่างต่างร่วมกิจ
ทำพูดคิดตรงแน่ไม่แปรผัน
น้องอยู่นอกพี่อยู่ในแฝดสัมพันธ์
หากดึงดันหลบลี้อาจมีตรม
สามัคคีคุมสติดำริพร้อม
ใจนึกน้อมกุศลดลสุขสม
ทุกขณะหายใจใฝ่เกลียวกลม
ย่อมรื่นรมย์พี่น้องท่องเดินไป
ทางสองแพร่งมิรู้เห็นเป็นบุญบาป
เมื่อกายหยาบเหินห่างสว่างใส
ลืมรำลึกสำนึกน้อมภายใน
ชวนพี่ให้หลงเพลินเดินตามมาร
น้องเข้าใจห่วงใยในตัวพี่
เฝ้าชวนชี้ตั้งมั่นหมั่นสังหาร
คราเผอเรอมืดมัวตัวซาตาน
จิตวิญญานพาลหลงคงซึมเซา
เดินโดดเดี่ยวเกี่ยวพันกันอยู่สอง
ตามครรลองธรรมชาติมิขลาดเขลา
สำรวมตนทำดีพี่น้องเรา
จึงรู้เท่าทันมายาประสาคน...
พี่....ธาตุรู้ หรือจิตวิญญาน
น้อง....กาย รวมองค์ประกอบธาตุ 4
แฝดพี่น้องทำหน้าที่ร่วม
เดินทางชีวิต
ป้ากันนา
14  พฤษภาคม 2555