พ่อ,แม่รัก ลูกนี้ กว่าชีวาตม์ ต่างมุ่งมาด ทำดี ถึงที่สุด ลูกผิดพลาด เพียงใด ไม่ประทุษ เร่งรีบรุด บูรณะ ช่วยประทังดูพยัคฆ์ ทมิฬ ใช่กินลูก กลับพันผูก มุทุตา ห่วงหน้า-หลัง คอยปกป้อง อาพัทธ์ ระมัดระวัง เพียรสอนสั่ง เยี่ยงมนุษย์ ดุจเดียวกันลูกเข้าใจ พ่อ,แม่ สักแค่ไหน ว่าห่วงใย ลึกซึ้ง จึงกวดขัน หวั่นเกรงลูก หูเบา มิเท่าทัน อาจหุนหัน บุ่มบ่าม ตามเล่ห์กลลูกเชื่อเพื่อน ง่ายดาย คล้ายหัวอ่อน พ่อ,แม่สอน กลับโกรธา ว่าขี้บ่น คือปัญหา หนักใจ ของหลายคน ต้องกังวล ทนแก้ แม้ยากเย็นเพียงลูกลูก กตัญญู รู้จักคิด ย่อมวิศิษฏ์ แสนสุข พ้นทุกข์เข็ญ แม้นลูกเขลา หลงผิด คิดไม่เป็น ก็เหมือนเวร-กรรมแผดเผา น่าเศร้าใจวันใดลูก นิราศ ขาดพ่อ,แม่ ใครจะตาม เหลียวแล บ่มแก้ไข ที่พ่อ,แม่ อุตส่าห์ จาระไน ล้วนหวังให้ ลูกลูก เดินถูกทาง
๏ หาบน้ำ จนคานแอ่น ทั้งไหล่และแขน เกร็งขึ้นเป็นสัน ๏ ย่างเหยาะ เลาะคันนา จากบ้านเฮือนมา ตักน้ำท่ากัน ๏ หนองน้ำ คือจุดหมาย สาวเจ้าทั้งหลาย พบปะสังสรรค์ ๏ เว้าจา ประสาสาว เป็นเรื่องเป็นราว บอกเล่าความฝัน ๏ แลกเปลี่ยน ทุกข์และสุข ที่เร้ารานรุก อยู่ทุกคืนวัน ๏ ปลอบโยน ยื่นน้ำใจ พี่น้องมีให้ ห่วงใยแบ่งปัน ๏ รอยยิ้ม พริ้มใบหน้า ไมตรีเมตตา ห่วงหาต่อกัน ๏ ภาระ เต็ม ๒ ไหล่ เหนื่อยหนักแค่ไหน บ่ย่านบ่ยั่น ๏ หาบน้ำ เหยาะเยื้องย่าง หัวใจอี่นาง บ่ร้าง...ความฝัน๚๛
ถึง.... เพื่อนรัก สบายดีไหม อยู่ห่างไกลกันสุดขอบฟ้า คิดถึงเธอเสมอมา อยากพบหน้าเธอเหลือเกิน เป็นไงบ้าง บนเส้นทางที่เลือกเดิน ทุกข์สุขได้ไปเผชิญ หรือเพลิดเพลินทุกเวลา เป็นห่วงนะ แม้จะอยู่ไกลนักหนา ขอให้ยิ้มสู้ชีวา อีกฝั่งฟ้าจะยิ้มเช่นกัน ไม่เป็นไร มุ่งหน้าไปตามไล่ฝัน คงจะถึงสักหนึ่งวัน เพียงเธอมั่นในความดี กำลังใจ จะส่งให้เธอทุกที่ ยามใดทนทุกข์ทวี เพื่อนคนนี้จะปลอบใจ หากอ่อนล้า พบปัญหายากแก้ไข บอกมานะฉันจะไป อยู่เคียงข้างไม่ห่างเธอ จำไว้นะ ฉันจะอยู่ตรงนี้เสมอ ยามใดที่อยากพบเจอ เพียงแค่เธอส่งข่าวมา ^o^ คิดถึงสม่ำเสมอนะ
คิดถึง กาลเวลาช่วงหนึ่ง ณ ที่นี่ ได้เรียน ได้รู้ อยู่สี่ปี แต่จดจำ สิ่งดีดี ได้แสนนาน ห่วงใย ชงโคระบัดใบ...เคยอ่อนหวาน เดี๋ยวเดียวก็กลับกลายเป็นวันวาน ยังอ่อนหวานอยู่ไหม...ใบชงโค? เข้าใจ วันทุกวันโลกเปลี่ยนไปอีกมากโข และชีวิตทุกชีวิต ต้องเติบโต เหมือนที่ช่อชงโค ต้องเติบงาม รัก รักแน่นหนักและไม่มีวันมองข้าม รักที่ซึ่งมีความดี ให้เดินตาม รักในความธรรมดา...เทวาลัย
หัวใจไม่ยั้งฝังในหัว สุดขั้วมอบรักภักดิ์ที่สุด คุดงอท่อตันพลันรักคุด พลีหลุดสุดถนอมต้องยอมพลี บางใครก้าวมาเราหน้าบาง หนีห่างรีบหลบจบด้วยหนี ทีเขาเราเร้นเป็นถ้อยที ทุกข์เศร้าเหงาลี้เพราะมีทุกข์ ช้ำนักรักขมตรมเจ็บช้ำ สุขปองร้องร่ำเคยนำสุข ยุคเปลี่ยนเวียนวนคนละยุค เพลินเพลิดเกิดทุกข์เพราะสุขเพลิน กล่าวลาอาวรณ์มาอ้อนกล่าว เขินหนักรักร้าวก้าวขัดเขิน เดินห่างร้างเร้นเส้นทางเดิน ใจเจ็บเหน็บเกินจะห้ามใจ พรใดประเสริฐเลิศคำพร ให้ย้อนประสบครบพรให้ ใครหวังดั่งเป็นเช่นบางใคร เคียงใกล้สุขสันติ์สวรรค์เคียง..
อย่าพร่ำเพรียกเรียกหาคำว่ารัก คำว่ารอรู้หลักภักดีมั่น ภักดีเหมือนบันได้ให้ฝ่าฟัน ให้ฝ่าฝืนคืนวันครั้นห่างตา ครั้นห่างตัวกลัวไยหัวใจชิด หัวใจชอบชวนคิดพินิจค่า พินิจคำฉ่ำหวานน้ำตาลทา น้ำตาลท่วมอุราพารำพัน พารำพึงจึงคล้อยละห้อยหวน ละห้อยหารัญจวนจิตป่วนปั่น จิตป่วนแปรแต่เราเข้าใจกัน เข้าใจกว่าเสกสรรวันผ่านมา วันผ่านมีสุขใจเมื่อได้รัก เมื่อได้เรียนรู้จักสลักค่า สลักความห่วงใยในแววตา ในแววต่างห่วงหาคราห่างกาย คราห่างเกินใกล้ชิดสนิทสนม สนิทสนองต้องข่มอารมณ์หาย อารมณ์แห่งโหยหาชีวาวาย ชีวาวางปางตายเดียวดายเดิน เดียวดายดุ่มโดดเดี่ยวเปลี่ยวชีวิต เปลี่ยวชีวันมืดมิดคิดขัดเขิน คิดขัดข้องขุ่นขวางทุกทางเดิน ทุกทางดุจเผชิญห่างเหินกัน ห่างเหินกายแต่ใจอย่าได้ห่าง อย่าได้ห่วงก้าวย่างสู่ทางฝัน สู่ทางใฝ่ให้ชื่นทุกคืนวัน ทุกคืนเวลานั้นยังมั่นคง ยังมั่นคือจริงใจมิไหวหวั่น มิไหวหวาดหมื่นพันครั้นประสงค์ ครั้นประสานสายตาอย่าพะวง อย่าพะวักรักจงตรงต่อเรา
โอ้อนิจาชีวิตนี้ชั่งร้ายนัก อาจจมีห่วงใยบ้างในบางครา แต่ทำไมวันนี้ดูห่างเหินนัก โกรธอะไรใยไม่บอกกล่าว วันนี้อาจจะมองหาดาวสักดวงไม่มี แต่มีฝนที่ตกโปรยปราย แต่ก็ทำให้สดชื่นและสดใส อาจจะมีทำให้ใจดวงนี้เศร้าบ้าง แต่ยังไงเป็นหัวใจที่ชินชา อาจมีน้อยใจบ้างแต่อย่าใส่ใจ คนนี้อาจไม่มีค่าในสายตาคุณ ขอแค่ได้ห่วงใยทุกเวลา
ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด แต่รู้ดีวีนนี้ฉันมีสิทธิได้แค่ไหน อย่ากลัวไปเลยฉันไม่ชอบแย่งคนรักใคร วันนี้ฉันมีทางเดินของหัวใจที่ฉันมี ขอโทษหากทำให้ร้าวราน ฉันไม่ได้ต้องการทำร้ายใครที่นี่ ที่ฉันเข้ามาก็แค่ความรู้สึกที่ดี มิตรภาพตอนนี้แค่เพียงคนรู้จักกัน ห่วงใยอยู่ในความห่าง ระหว่างเราไม่มีอะไรให้ฝัน ขอให้เธอเชื่อใจฉันไม่ทำร้ายหัวใจกัน เธอกับเขาจะมีความสุขอยู่อย่างนั้นตลอดไป หากฉันจะก้าวข้ามความผูกพัน คงไม่ปล่อยคืนวันเหล่านั้นให้หวั่นไหว ฉันคงแย่งมาในเวลาที่ยังไม่มีใคร แต่ฉันรู้เพราะไม่มีสิ่งใดจะแย่งมา เขากับเธอก็เหมาะสมกันดี ฉันอยู่ตรงนี้ก็อาจมีบ้างความเหว่ว้า และฉันไม่ต้องการทำร้ายใครที่ฉันศรัทธา ได้โปรดเชื่อเถอะว่าทุกอย่างมันจบด้วยดี วันนี้ฉันมีทางเดินชีวิตของฉัน สำหรับทุกความผูกพันมันจบแล้วที่นี่ สิ่งที่ยังเหลือคือมิตรภาพที่แสนดี แต่ในฐานะที่มีคือพี่กับน้องเท่านั้น สิ่งที่ฉันต้องการวันนี้ คือการที่เรารู้จักมักจี่และดีต่อกันเท่านั้น ขอให้เธอมีความสุขกับชีวิตรักนิรันดร์ วันนี้สำหรับฉันก็มีความสุขเพียงพอแล้ว
...ได้โปรดรับรู้นิยาม...ของความเป็นห่วง... ...ว่า...ความรู้สึกทั้งปวง...ที่ฉันมอบให้... ...ล่องลอยเคว้งคว้าง...เดินทางมาแสนไกล... ...แท้คือเยื่อใย..น้ำใจ..ไมตรี... ...หมายไขว่ใคร่คว้า...รักมาแนบอก... ...ใช่ว่าเพ้อพก...อยากทบทวนเรื่องนี้... ...แม้ร้างห่างไกล...ใช่สิ้นไมตรี... ...อยากให้คนดี...รับรู้เรื่องราว... ...ว่าแสนคิดถึง...ตราตรึงในจิต... ...แม้เสี้ยวแห่งชีวิต...เคยคิดเหน็บหนาว... ...มีร้อนรุ่มสุมใส่...บ้างในครั้งคราว... ...เจ็บปวดรวดร้าว...ทุกคราวที่คำนึง... ...อยากบอกให้รู้...ผู้อยู่ตรงนี้... ...ยังคงปรารถนาดี...มีความซาบซึ้ง... ...อดีตกาลผ่านแล้ว..ไม่แคล้วตราตรึง... ...มอบความคิดถึง...สุดซึ้งมากมาย... ...คิดย้อนกลับไป...ถึงผู้อยู่ไกลสุดปลายฟ้า... ...สืบเสาะค้นหา...ทิศทางอันหลากหลาย... ...สะท้อนความคิด...ดวงจิตไม่คิดกลับกลาย... ...ไม่เคยเสื่อมคลาย...เปลี่ยนไปจากเดิม... ...รู้ซึ้งตรึงตรา...เกินกว่าพร่ำบอก... ...แม้อาการภายนอก...มาดนิ่งไร้สิ่งเสริม... ...เสมือนเฉยชา...ดั่งว่าผิดแผกจากคนเดิม... ...แต่อ่อนโยนนั้นเริ่ม...ต่อเติมเพิ่มทรวง... ...เก็บงำความรัก...ไว้อย่างนิรันดร์... ...พร้อมกับความสำคัญ..."แสนรักแสนห่วง"... ...ฉันให้ไปแล้ว...หัวใจหมดทั้งดวง... ...ความรู้สึกทั้งปวง...ยังยืนยง... ...เยื่อใยสายรัก...ที่ถักเป็นสร้อย... ...ฉันเฝ้ารอคอย..เธอผู้ประสงค์... ...แม้ว่าอยู่ไกล..
ยังคงรักเธอเสมอ แม้ไม่อาจพบเจอ..อยู่ใกล้ เธอยังคงเป็นหนึ่งในดวงใจ เธอคือใครคนนั้นที่ฉันรอ เธอจะรับรู้บ้างได้ไหม ว่ามีใครที่รักเธออยู่ตรงนี้ ใครที่คอยเธอมารับความรู้สึกดีดี ที่มีให้เธอเสมอมา.. แค่อยากให้เธอรับไว้ ไม่รักไม่เป็นไร ฉันไม่ว่า แค่ขอให้รู้ว่ามีคนห่วงใยตลอดมา คนคนนั้นคือคนไร้ค่าที่รักเธอ
เดือนสิบเอ็ด ย่างกราย ปลายหน้าฝน สายลมวน พัดล่อง ลงต้องผิว มองข้าวกอ ช่อไสว เอนใบปลิว แลลิบลิ่ว เขียวขจี ที่ปลายนา หนาวลมเหนือ เมื่อก่อน ตอนปีเก่า เคยนั่งเศร้า สิ้นสุข ทุกข์นักหนา ทั้งหนาวนอก เหน็บใน ใจวิญญา วันนี้มา บรรจบ พบอีกคราว คนมีคู่ เคียงกัน มิหวั่นไหว แต่ฉันไร้ เราจึง ถึงทนหนาว อยู่คนเดียว อ้างว้าง อย่างยืนยาว เจ็บปวดร้าว กมล จนชาชิน พอหนาวกาย คลายด้วย ผ้าผวยห่ม เมื่อหนาวลม ฝากั้น มันก็สิ้น แต่หนาวใจ รักเลาะ มาเกาะกิน จะหันหิน หน้าไป พึ่งใครเอย จะแก้หนาว ให้อุ่น ต้องหนุนแขน มีสาวแทน ต่างหมอน นอนเขนย แอบอกอุ่น เนื้ออ่อน นอนเสบย ก็มิเคย คิดไว้ เมื่อไรกัน นั่งเขียนกลอน ตอนดึก รู้สึกเหงา คิดถึงเขา อยากรู้จัก เพื่อนนักฝัน หนาวจะเยือน เดือนนี้ ไม่กี่วัน สาวคนนั้น ฉันห่วงใย รู้ไหมเธอ ผอ. สมพิศ พระนครศรีอยุธยา
ฝน ตกมาจะฝ่าฝนหาคนรัก ตก หนักนักตกปลักรักสับสน ทาง ก็เหมือนจะปิดไปใจอับจน โน้น ถนนของคนหวังยังทางไกล หนาว ใจแสนแม้นใจสาวเจ้าไม่สน คน หนึ่งคนท้อบนทางรู้บ้างไหม ทาง จะสั้นลงทันตาถ้าห่วงใย นี้ อย่างไรคือรักแท้ ไม่แพ้ทาง
หากเธอคิดฉันไกลปันใจห่าง ฉันรักเธอเสียอย่างอย่าสงสัย เถิดที่รักโปรดอย่าหมองเศร้าไป จะห่างเธออย่างไรให้ไกลกัน หากเธอนั้นชี้นกฉันว่านก อย่าตระหนกรักแน่มิแปรผัน หากเหน็บหนาวหัวใจอย่างไรกัน จะมีฉันเคียงข้างไม่ห่างไกล บนหนทางหวังไว้ดั่งใจฝัน จงเชื่อมั่นหนักแน่นอย่าหวั่นไหว หากเธอล้มพลาดพลั้งในครั้งใด กลับมาหาฉันได้ในทันที หรือพลัดหลงเผลอไผลในบางครา ฉันจะออกตามหาเธอทุกที่ หากชอกช้ำปวดร้าวล้นฤดี ฉันจะอยู่ตรงนี้ซับน้ำตา ไม่มีหรอกวันใดปันใจห่าง รู้เสียบ้างฉันรักเธอยิ่งกว่า จะโอบกอดเธอไว้ทุกเวลา คอยห่วงใยห่วงหาทุกคราไป