ใจสั่นเทาเสียงรอสายปลายทางมีคนรับ ฮัลโหล!!..สวัสดีครับ หลับหรือยัง จำผมได้ไหม รบกวนรึเปล่า แค่คิดถึง ไม่คิดทบทวนเรื่องราวหัวใจ โทรหาบ้างได้ไหมบอกคนใกล้ๆแค่คนยังห่วงใยโทรมา ใจมันหายไปลับตาที่ต้องใช้คำว่าเราโดยลำพัง ห่วงใยเธอจัง สบายดีหรือเปล่า กับเขายังดีอยู่ไหม ฝากขอโทษคนของเธอ กับการที่ฉันไม่อาจหักห้ามใจ ยังไม่ชินกับการไม่มีใครโปรดอภัยถ้าโทรไปรบกวน หัวใจคล้องโซ่มัดตรวนเดินผ่านมุมเดิมมุมเก่า ภาพของเรามันรุมเร้าทำเหงาใจต้องโทรหา บอกคนใกล้ๆเธอ แค่คนเคยรักที่ยังผูกพันโทรมา ไม่คิดจะย้อนเวลา แค่ห่วงใยจึงโทรหา อย่าว่ากัน
สวัสดียิ้มแย้มแซมอักษร ทักทายกันทุกตอนตามนับได้ พี่กุ้งหญิงหนามแดงแฝงนามนัย เรื่องฝีมีอย่าสงสัยไม่อยากยอ ทุกเรื่องเล่าลำดับจับประเด็น ตามกระแสใดเด่นเล่นเติมต่อ สอดแทรกความตามด้วยมุขสนุกรอ สาระก็มีแน่แหมเผลอชม น้องร่วมเรือนกลอนไทยใช่กวี เหงาอย่างนั้นเศร้าอย่างนี้มีสุขสม แต่งต่อคำคัดเขียนเกรียนอารมณ์ กุ้งยังแวะเวียนชมผสมทักทาย ความห่วงใยมีมอบให้เสมอ ครั้งหนึ่งเธอถามไถ่ด้วยใจหมาย ห่วงอารมณ์ห่มเศร้าของน้องชาย มาคอมเมนท์ปิดป้ายหวังหายดี บท "กวีนิพนธฺ์เล่มเก่า" ตัวอักษรนอนเหงาเสียทุกที่ ราวกุ้งหญิงรับรู้เรื่องที่มี ยามกะวีปะกลอนในตอนนั้น "บุคคลภายนอกห้ามเศร้า" เล่นเอาความเหงาเงียบสนั่น แย้มรอยยิ้มพิมพ์คำออกรำพัน ผู้ร่วมเรือนเดียวกันในบ้านกลอน ขอมิตรภาพนั้นยืนยงอยู่ แม้ไม่รู้เห็นหน้าเพียงอักษร กว่าเป็นคำเป็นความเป็นบทตอน ล้วนต้องผ่านใจก่อนร้อยกรองคำ บนบรรทัดห้าเส้นเล่นเป็นเสียง บนสี่วรรคเรียบเรียงสูงกลางต่ำ บนบ้านกลอนมีผลงานเธอประจำ นามกุ้ง-หนำ-แดงใช่มีไมตรี
หว่านเมล็ดพันธุ์ให้หัวใจ ห้วงหัวใจสานฝันวันระวี เกิดก่อมีรักใหม่ใจเรียกหา สานสิ่งเอื้อเกื้อหนุนเจือจุนมา บ่มเวลาด้วยรักจักงดงาม รดน้ำใจรินน้ำใจให้เต็มใจ ทุกข์สุขอยู่อย่างไรได้ไต่ถาม เฝ้าคิดถึงห่วงใยในทุกยาม เติมเต็มความรักแท้ให้แก่กัน แล้วจงมอบเมล็ดพันธุ์สรรค์ความสุข เพื่อลดเลือนความทุกข์กระตุกขวัญ รอดอกรักเบิกบานระหว่างวัน ปล่อยดวงใจดวงนั้นละวางตน จะได้อยู่กับตัวเมื่อมัวหมอง อยู่กับห้องหัวใจในบางหน เฝ้าดูแลเมล็ดพันธุ์หว่านใจตน เพียรขุดก่นพรวนดินถิ่นหัวใจ และจะได้รดน้ำใจให้ต้นรัก สานทอถักกิ่งต้นจนใบใหม่ รอดอกบานผลิผลล้นหัวใจ รู้ความหมายดอกผลรักตนเอง เพื่อจะได้ยืนได้เมื่อไร้รัก เหลือดอกบานทักทายไล่ข่มเหง เมื่อกลับมาคนเดียวเปลี่ยววังเวง ฮำบทเพลงส่งท้ายในความหลัง ในตอนนั้นแผ่นดินใจอุดมแล้ว ด้วยหน่อแนวเมล็ดพันธุ์สรรค์ความหวัง เติมน้ำใจเต็มใจได้พลัง เฝ้าฝากฝังพันธุ์ไว้ในเวลา และจะได้รู้จักรักที่แท้ ใจแน่วแน่รื้อพังข้อกังขา วันทุกข์เกี่ยวเกาะรั้งพันธนา เมล็ดกล้าจะเติบโตมาคุ้มครอง โรยละอองเกสรให้หัวใจ อ่อนละมุนกรุ่นละไมขับไล่หมอง วันความเหงาตรวนปักตอกหลักจอง แต่ได้มองและยิ้มให้ไม้ต้นงาม .................. วันความเหงาตรวนปักตอกหลักจอง ยังได้มองเห็นว่ารักตัวเอง ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ
อย่าพร่ำเพรียกเรียกหาคำว่ารัก คำว่ารอรู้หลักภักดีมั่น ภักดีเหมือนบันได้ให้ฝ่าฟัน ให้ฝ่าฝืนคืนวันครั้นห่างตา ครั้นห่างตัวกลัวไยหัวใจชิด หัวใจชอบชวนคิดพินิจค่า พินิจคำฉ่ำหวานน้ำตาลทา น้ำตาลท่วมอุราพารำพัน พารำพึงจึงคล้อยละห้อยหวน ละห้อยหารัญจวนจิตป่วนปั่น จิตป่วนแปรแต่เราเข้าใจกัน เข้าใจกว่าเสกสรรวันผ่านมา วันผ่านมีสุขใจเมื่อได้รัก เมื่อได้เรียนรู้จักสลักค่า สลักความห่วงใยในแววตา ในแววต่างห่วงหาคราห่างกาย คราห่างเกินใกล้ชิดสนิทสนม สนิทสนองต้องข่มอารมณ์หาย อารมณ์แห่งโหยหาชีวาวาย ชีวาวางปางตายเดียวดายเดิน เดียวดายดุ่มโดดเดี่ยวเปลี่ยวชีวิต เปลี่ยวชีวันมืดมิดคิดขัดเขิน คิดขัดข้องขุ่นขวางทุกทางเดิน ทุกทางดุจเผชิญห่างเหินกัน ห่างเหินกายแต่ใจอย่าได้ห่าง อย่าได้ห่วงก้าวย่างสู่ทางฝัน สู่ทางใฝ่ให้ชื่นทุกคืนวัน ทุกคืนเวลานั้นยังมั่นคง ยังมั่นคือจริงใจมิไหวหวั่น มิไหวหวาดหมื่นพันครั้นประสงค์ ครั้นประสานสายตาอย่าพะวง อย่าพะวักรักจงตรงต่อเรา
เหมันต์หวนครวญหาคนน่ารัก ได้รู้จักแล้วจากเพียงฝากฝัน ลมหนาวโหมโถมมายิ่งจาบัลย์ ความโศกศัลย์ระคนปนหนาวใจ เก็บเอาความอาภัพไว้คับอก ถึงเข็นครกขึ้นเขาเรายังไหว สุดยากเย็นเข็นรักหนักทรวงใน เข็นเท่าไหร่ไม่พ้นวังวนลวง เสียดายความรู้สึกที่นึกรัก เสียดายที่สมัครปักใจหวง สงสารความจริงแท้ในแดดวง ที่เซ่นสรวงให้แด่ความแปรปรวน พบกับความผิดหวังครั้งที่ร้อย คิดแล้วน้อยใจช้ำสุดกำสรวล เหมันตกาลผ่านผันยิ่งรัญจวน ได้แต่ครวญเพลงเศร้าเคล้าสายลม นี่ก็อีกราตรีที่หนาวเหน็บ ทนปวดเจ็บอีกคราให้สาสม เป็นทาสรักปักจิตคิดระทม ร้าวระบมไร้คู่อดสูใจ เหมันต์หวนครวญหาสุดว้าวุ่น ได้พบคุณเพียงฝันยิ่งหวั่นไหว หนาวลมโชยโหยหาห่วงอาลัย ป่านนี้ใครเค้าหนอเคลียคลอคุณ (เหมันตฤดู ๒๕๓๕)
มีเรื่องเล่ามากมายจากเพื่อนเก่า ทั้งเรื่องเศร้าและสุขสนุกสนาน ระหว่างการรอข่าวที่ยาวนาน ความน้อยใจไหลผ่านกาลเวลา มาเยี่ยมยามถามไถ่ห่วงใยอยู่ ได้ยินคำพร่างพรูคิดฮอดหา ความปวดเจ็บเก็บกดตลอดมา ระบายเป็นน้ำตาออกจากใจ เป็นอย่างไรทางบ้านการค้าขาย เรื่องการเรียนน้องชายไปถึงไหน ยังอยากเรียนต่อโทที่เมืองไทย หรือพากันเปลี่ยนใจไปเวียดนาม กราบพระบางบูชาสารภาพ ลูกทำบาปบิดเบือนเหมือนมองข้าม ทางชีวีแต่นี้จะดีงาม เพราะทุกยามมั่นคงองค์ปฏิมา เช้าวันนี้สายหมอกทักหยอกเย้า ร้านกาแฟครั้งเก่าเราหวนหา ริมน้ำโขงถึงตอนย้อนเวลา มองสบตาใจสั่นหวั่นหวิวทรวง มีคำถามมากมายในครานี้ คงจะมีเพื่อนใหม่คนเมืองหลวงฯ น้ำคานใสไหลลงแม่โขงลวง ยังเป็นห่วงกลัวใครทำให้ตรม
ฝากดอกไม้จากเหนือเมื่อหนาวผ่าน ฝากความหวานเจือจาน..อย่าเงียบหาย ฝากกลิ่นหอมพฤกษาพรรณราย ฝากจดหมายแนบดอกบอก"รักเธอ" หอมเอ๋ยหอมลอยลมพรมใจพี่ ขอวจีเคยพร่ำย้ำเสมอ ว่าจะรักหนักแน่น..ไม่เผลอเรอ เพียงมีเธอ..นวลนางมิร้างไกล จะรอรักคนดีที่ปลายฟ้า เหมือนดาราคู่จันทร์..มิหวั่นไหว แม้จะหนาวแสนหนาว.สักเพียงใด แต่หัวใจ..อบอุ่นหนุนรักนอน อ่านกลอนน้องหอมหวานอย่าพาลเบื่อ ความคิดถึงเหลือเฟือ ..เลยถ่ายถอน กลั่นจากจิตคิดจากใจ..ในบทกลอน ฝากหนุนนอนก่อนหลับ..จับฤดี ความเหนื่อยหน่ายหายไปในวันรุ่ง ขอพี่มุ่งทำงาน..อย่าคิดหนี เก็บเงินทองขอน้องแต่งสักที วาเลนไทน์ปีนี้..มีหวังเอย
หวังว่าความคิดถึงจักสอนให้เหี้ยมหาญ จะรู้จักเก็บไว้ดังใจหมาย แม้ความรักหักห่างร้างแรมไกล แต่ในความห่วงใยยังไม่คลาย หวังว่าหวังที่หวัง จะยังไหว หวังหัวใจ ยังเข้าใจในความหมาย หวังรู้สึก จะรู้สึก ไม่นึกคลาย หวังจะได้พบกันวันฟ้างาม เมื่อยังมีหวัง ก็มีหวัง การรอคอยเหมือนพลังเฝ้ารอถาม ข้ามเส้นโค้งขอบฟ้าที่งดงาม หรือว่าความ รักแท้ ไม่แม้มี ฤา เป็นเพียงสิ่งสมมุติที่หยุดทัก เหมือนผีเสื้อบินทักหลงแสงสี ทุกๆห้วงช่วงเสี้ยวเศษนาที มิอาจหยุดสักนาที ที่รักเธอ หวังจักสอนหัวใจให้เหี้ยมหาญ ตั้งเป็นแน่วแน่ปฎิธานกังวานไหว ว่าจะรัก จะรอ เช่นนี้ เสมอไป จนลมหายใจสุดท้าย...รอเธอทั้งน้ำตา
อ่านจดหมายของนากที่ฝากถึง ช่างซาบซึ้งยิ่งนักที่รักเอ๋ย หวนนึกถึงวันเก่าสองเราเคย ยั่วยิ้มเย้ยหยอกเย้ากระเซ้ากัน เป็นผัวเมียเคลียคลอถักทอรัก เฝ้าฟูมฟักเรือยไปไม่แปรผัน คล้ายเวรซ้ำกรรมซัดพลัดพรากพลัน นากตั้งครรภ์ทว่าพี่ปรี่ชายแดน ท่ามสงครามยามนี้มีแต่ทุกข์ พี่ต้องขลุกอยู่อีกฟากลำบากแสน ทั้งหยูกยาสารพันมันขาดแคลน ทั่วขาแขนร่างกายมากมายพรุน กลิ่นลำดวนยวนใจให้ครุ่นคิด เคยจุมพิตบอกรักนอนตักหนุน ซอกแก้มดอกพยอมหอมละมุน ยังหอมกรุ่นเสมอมาแม้นคราใด ที่ห่างหายไปนานใช่ห่างเหิน ลำบากเกินตามประชิดติดต่อไหน มีแต่ศพทหารกองคราวมองไป แสนปวดใจคิดถึงนากมากเหลือเกิน ไม่รู้ว่าป่านฉะนี้อยู่ดีไหม เจ็บป่วยไข้หรือเปล่าใคร่กล่าวเกริ่น อีกเจ้าแดงลูกพ่อรอหัดเดิน คงเพลิดเพลินดื่มดมนมแม่มัน เขียนจดหมายถึงนากฝากส่งถึง บวกอีกหนึ่งลูกน้อยกลอยใจฉัน เสร็จสงครามเมื่อไหร่ได้พบกัน ส่วนนมนั้นบอกเจ้าแดง "ขอแย่งคืน"
คำสัญญา แม่นมั่น ในวันก่อน เธออาทร กลัวจบ พบวันหน่าย เกรงถ้อยคำ วาจา มาเสื่อมคลาย หมดความหมาย วาจา พาเสื่อมลง จะเนิ่นนาน ปาดใด ไม่ลืมคิด เคยตั้งจิต บอกว่า อย่าลืมหลง เฝ้าปกปักษ์ รักษ์ไว้ ให้มั่นคง ขอเธอจง เชื่อฉัน เถอะมั่นใจ หากชาตินี้ จะไม่ ได้พบเห็น ก็คงเป็น ชาคิหน้า มาพบใหม่ ถึงอยู่ห่าง ต่างแคว้น ถิ่นแดนไกล ก็มิใช่ ต้องพราก จากแดนทอง วาดภาพฝัน กันไว้ ในคืนก่อน อาจสั่นคลอน ประสพ พบคืนหมอง แม้ทุกข์ตรม ขมขื่น ฝืนลำพอง ใจจึงต้อง เก็บงำ ตาลำพัง ในความฝัน ฉันคู่ อยู่เคียงข้าง ความอ้างว้าง ทิ้งไว้ ให้อยู่หลัง อนาคต ที่ปอง ต้องจริงจัง ถึงบางครั้ง หงอยเหงา เศร้าจริงเจียว เมื่อมีทุกข์ ช่วยแก้ เฝ้าแลหา ตรมวิญญา ท้อแท้ คอยแลเหลียว ความห่วงใย มอบเสมอ เธอคนเดียว หากเปล่าเปลี่ยว จงจำ คำตนเดิม
ฟ้าฝั่งนี้ มีคนหนึ่ง ซึ่งอ่อนล้า หมดแรงสู้ ดูชะตา น่าอับเฉา ทุกวันนี้ มีเพื่อนแท้ เพียงแค่เงา ที่ปลอบเรา ว่าต้องสู้ อยู่ต่อไป ทำทุกอย่าง สร้างทุกสิ่ง วิ่งกันต่อ ไม่อาจรอ ชะตาฟ้า มาช่วยได้ กายยังไหว ใจยังอึด ฮึดมันไป ถ้ายังไหว ให้มันรู้ ด้วยตัวเรา ฟ้าฝั่งนั้น ฉันอยากรู้ อยู่ดีไหม ถึงอยู่ไกล ใจห่วงหา อาทรณ์เขา ขออย่าเป็น ลำเค็ญ เช่นกับเรา เพียงให้เขา ฝ่าฟัน พ้นมันไป ถ้าสุขดี คนทางนี้ ไม่มีห่วง หวังว่าดวง เขาคงดี รัศมีสดใส คนทางนี้ คงจะมี แค่ห่วงใย ที่ส่งไป ให้อีกฝั่ง ของท้องฟ้า
ดวงฤดีพี่พร้อมยอมมอบให้ ด้วยดวงใจของพี่ที่เคยฝัน จะถนอมรักเราเท่าชีวัน เป็นคำมั่นสัญญานะคนดี ค่ำคืนนี้ที่รักจงพักผ่อน ก่อนจะนอนพี่มาหาที่นี่ ที่บ้านกลอนถักถ้อยร้อยวจี จากใจพี่สื่อสารผ่านเว็บมา ด้วยความรักห่วงใยมีให้น้อง อย่าหม่นหมองเชื่อพี่นี้เถิดหนา พี่รักน้องจริงจังดังแก้วตา รักเท่าฟ้าอยากเคียงเพียงแต่เธอ พี่ห่างหายไปนั้นหวั่นเจ้าลืม เราเคยปลื้มต่อกลอนก่อนเสมอ มาวันนี้เงียบเหงาเศร้านะเออ ปล่อยพี่เพ้อเผลอบ่นบนลานกลอน ตรวจสอบเพลงให้ด้วยนะครับ ผู้ดูแลระบบ แล้วบอกวิธีลงเพลงไว้ด้วยนะครับ เพื่อความครื้นเครงครับ...