กลอนห่วงใย

ห่วงเสมอ..แด่..เธอผู้ห่างไกล...

DaRk_LoRd


ไม่อยากเห็นเธอเศร้าอยู่อย่างนี้
ไม่อยากเห็นเธอคนดีต้องหวั่นไหว
ไม่อยากเลยที่เห็นเธอทนทุกข์ใจ
ไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อช่วยเธอ
ฉันได้แต่มองเธอจากตรงนี้
ฉันคงมีแต่ห่วงใยเธอเสมอ
ฉันคงทำได้เพียงปลอบโยนเธอ
ขอให้เธอได้พบเจอแต่สิ่งดี
ไม่เคยหวังหรือตั้งใจให้เธอเศร้า
ฉันยอมรับความโง่เขลาไม่ถอยหนี
ไม่ควรเลยที่พูดเรื่องไม่ค่อยดี
จนทำให้เธอนี้ไม่สบายใจ
ฉันจะทำอย่างไรในวันนี้
เพื่อให้เธอคนดีนั้นสดใส
นอกจากคอยปลอบโยนเธอด้วยหัวใจ
ฉันยังทำอะไรได้ไหมเธอ
เป็นเพราะฉันที่รื้อฟื้นเรื่องวันวาน
ซึ่งฉันนั้นกล่าวขานไปอย่างพลั้งเผลอ
ไม่รู้ว่าจะสร้างทุกข์ให้กับเธอ
อยากเสนอคำขอโทษโปรดอภัย
เลยอยากบอกเธอเรื่องเดิมเรื่องเก่าเก่า
ว่าฉันยังอยู่เป็นเงาไม่ไปไหน
ไม่ว่าเธอนั้นมีสุขหรือทุกข์ใด
ฉันยังอยู่ที่นี่ไงข้างใจเธอ
แค่มองหันกลับมาเรียกหาบ้าง
ยามอ้างว้างไม่เหลือใครใคร่เสนอ
ว่ายังมีฉันที่คอยคิดถึงเธอ
ห่วงเสมอเรื่องพี่ชายที่แสนดี
อยากให้ช่วยในสิ่งใดแค่เอ่ยมา
จะสรรหาจัดไปให้ไม่หน่ายหนี
บอกได้เลยจะรีบทำในทันที
สิ่งดีดีพร้อมมอบให้ทุกเวลา
เห็นเธอยุ่งอยู่กับงานพาลเป็นห่วง
อยากทักท้วงให้เธอพักบ้างเถิดหนา
เพียงอยากขอให้เธอดูแลกายา
พักสายตานิทราบ้างเพื่อคืนแรง
เรื่องเก่าเก่าเฝ้าคิดไปก็เท่านั้น
มีแต่บั่นทอนจิตใจให้หน่ายแหนง
ฉันจะเป็นกำลังเมื่อเธออ่อนแรง
ให้เธอเข้มแข็งขึ้นใหม่ได้ทุกยาม
ไม่วาดหวังคิดเป็นอื่นเกินกว่าเดิม
ไม่ฮึกเหิ

..รักกันเสมอทุกชาติไป..

ปรัมปุราณ


พิรุณแก้วหล่นร่วงจากห้วงหน
หยาดหยดบนกลีบมาลย์ยากทานไหว
แรงกระหน่ำเก็จแก้วซัดกลีบใบ
ดลดอกให้ช่อบางซบกลางดิน
หวั่นสัมพันธ์แห่งรักที่ถักไว้
ยั่งยืนจักแปรไปจนผันผิน
ไม่ต่างจากบุษบาต้องหยาดริน
ในหัตถ์วรรษาสิ้นซึ่งปราณี
ขอฝากคำพร่ำพรอดถึงยอดรัก
หวัง..คนภักดิ์..อยู่ไกลไม่หน่ายหนี
อาวรณ์หวามข้ามฟ้าเปี่ยมไมตรี
ทุกนาทีห่วงใยไม่สร่างซา
ว่าแต่ใจอีกดวงที่ห่วงนั้น
ยังอาทรผูกพันละห้อยหา
ถึงหนึ่งใจที่ไกลสุดสายตา
เช่นผ่านมารักหวานทั้งลานทรวง
พิรุณหยาดขาดช่วงมิร่วงแล้ว
มณีแก้วบอกลาฟากฟ้าสรวง
พลิ้วอารมณ์อ่อนไหวในแดดวง
ยังโหมห่วงว้าวุ่นครุ่นคำนึง
เพียงวลีสักน้อยจากกลอยขวัญ
หนึ่งคำมั่นในห้วงความคิดถึง
ก็เสมือนโซ่คล้องล่ามล้อมตรึง
อีกใจหนึ่งต่างฟากมิพรากกัน
รอรับสารแห่งรักจากอีกฟ้า
ทอดสัญญาสองใจไม่แปรผัน
ปฏิพัทธ์ทุกชาติตราบนิรันดร์
จวบอนันต์สิ้นภพจบวัฏฏา

ทำไมยังแคร์อยู่

ภพ


ไม่รู้ใจทำไมต้องคอยแคร์
คอยดูแลห่วงใยและห่วงหา
ทั้งที่เธอทำฉันเจ็บแทบทุกครา
กลับไม่ว่าแต่ยิ่งรักละมุนละไม
หรือเพราะการที่ฉันได้เคยรัก
เคยจมปักรักแท้ที่ฝันใฝ่
เคยทุ่มเททั้งตัวและหัวใจ
ให้เธอไปแม้ไม่ได้ตอบกลับมา
มาวันนี้ใจยอมรับว่าแต่เพื่อน
จิตก็เตือนแต่ใยยังห่วงหา
แถมกลับยิ่งมากขึ้นทุกทุกครา
ไม่เข้าใจใจนี้หนาเป็นอะไร

เพียงนี้...

แมงกุ๊ดจี่


เครดิตภาพจาก : http://greenmindbook.com
ภพชาตินี้คงเคียงแต่เพียงฝัน
แอบผูกพันข้างเดียวทนเปลี่ยวเหงา
เขามองผ่านเลยไปไม่เห็นเงา
ทุกข์ทนเศร้า...เจ็บปวดร้าวรวดใจ...
มีสิทธิ์เพียงวาดภาพจนตราบสิ้น
เฝ้าถวิล...หนึ่งนั้นข่มหวั่นไหว
ขอได้มองห่วงหวงและห่วงใย
อยู่ไกลไกลตรงนี้ที่โค้งฟ้า...
คอยหวังดีมอบให้ด้วยใจภักดิ์
ด้วยประจักษ์สองเราเกินเข้าหา
อยู่ห่างเกินฟ้าปลายไกลสายตา
หวังเพียงว่าแอบฝันถึงวันเคียง...
ปรารถนาดีแด่พี่...ตรงที่เก่า
จักคอยเฝ้าห่วงใยอย่างไร้เสียง
ในปางพ์นี้บุญน้อยเกินร้อยเรียง
อยู่ร่วมเตียงเคียงเขนยลงเอยกัน...อิอิ

บึนทึกจากพ่อ

รงค


พ่อยินดีเหน็ดเหนื่อยเพื่อลูกรัก
แม้งานหนักเท่าไรไม่บ่นหนี
ตั้งใจสู้เสมอทุกนาที
ปรารถนาที่ดีมีทุกวัน
แม้เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าขนาดไหน
ยังมุ่งไปข้างหน้าท้าสู้ฝัน
เพียงหวังไว้ให้เจ้าเฝ้าผูกพัน
ได้มีวันดิบดีมีหน้าตา
คอยส่งเสียเจ้าเรียนเพียรเขียนอ่าน
ปฏิบัติการงานเร่งศึกษา
ยอมอดออมให้เจ้ามีวิชา
เพื่อภายหน้าเติบใหญ่ได้ดิบดี
อย่าคบเพื่อนเพียงเพื่อคอยเที่ยวเตร่
ช่วยเกเรเฮฮาพาบัดสี
จงมุ่งสร้างสะสมบ่มวิธี
สร้างศักดิ์ศรีติดตัวอย่ามัวเพลิน
อบายมุขทั้งหลายจงละเว้น
ที่หลีกเร้นเย็นค่ำควรห่างเหิน
อย่ามัวหลงระเริงบันเทิงเกิน
ความเจริญล้วนมาจากการเรียน
เจ้าจงเร่งร่ำเรียนนะลูกรัก
หากเหนื่อยนักพักผ่อนก่อนปวดเศียร
เพราะห่วงใยในเจ้ายังวนเวียน
พ่อจึงเพียรทำงานสร้างความดี
ด้วยพ่อหวังสักวันฝันของเจ้า
คอยไต่เต้าเติบใหญ่ได้ศักดิ์ศรี
สร้างหน้าที่การงานบารมี
เป็นคนดีที่สังคมชื่นชมกัน
พ่อยังสู้เสมอเพื่อลูกรัก
ความตระหนักตื่นตัวทั่วความฝัน
หลับตานึกถึงเจ้าอยู่ทุกวัน
ต้องคอยกั้นน้ำตาความห่วงใย
๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔

ปีใหม่ หัวใจเก่า

แดดเช้า


ปีใหม่ หัวใจเก่าไม่เศร้าหมอง
หัวใจนี้ยังครองรักคงมั่น
เป็นหัวใจใสสะอาดวาดสัมพันธ์
หวังเพียงฉันกับเธอรักกันนาน
หัวใจนี้ยังมีเธอเสมอใจ
และจะไม่มีนาทีที่เลยผ่าน
เก็บความรักทุกห้วงของดวงมาลย์
จะประสานความผูกพันให้มั่นคง
ปีใหม่ หัวใจเก่า ยังเล่าขาน
เป็นนิทานความห่วงใยไม่ลืมหลง
ถึงปีใหม่ ผ่านไปใจบรรจง
เขียนบันทึกความรักลง ณ ห้วงใจ.
แดดเช้า: ๑ มกราคม ๒๕๕๕

รอยยิ้ม..

ยังแคร์


ไม่อยากเห็นเธอเสียใจ
ไม่อยากเห็นรอยร้าวไหวในตาคู่นั้น
รอยยิ้มที่เคยสดใสมันหายไปไหนกัน
รอยยิ้มที่เคยแต้มฝันในดวงตา
ยิ้มนะ...กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ยิ้มนะ...แล้วหยัดยืนอย่างแกร่งกล้า
จะรอ...จนคนเข้มแข็งคนนั้นกลับมา
จะรอ...ยิ้มรับรอยยิ้มที่เริงร่า ของเธอคนเดิม

สั่งนาง

สุนทรวิทย์


แหวนนี้  พี่สวมให้
จองขวัญใจ  หมั้นไว้ก่อน
หนาวหน้า  อย่าเกี่ยงงอน
พี่จะย้อน  ตอนวิวาห์ลาไกล  ไปทำกิจ
เลิกหงุดหงิด  จิตผวา
คำนึง  ถึงสัญญา
ว่าเราจัก  มั่นรักเดียวแม้นใคร  หมายเกี้ยวพา
ขอแก้วตา  อย่าแลเหลียว
ขับไส  ให้พ้นเชียว
ใจเด็ดเดี่ยว  งดเกี่ยวพันนงราม  ต่างความหวัง
คือพลัง  กำลังขวัญ
เป็นเพื่อน  เตือนชีวัน
ให้เร่งสรรค์  ความมั่นคงพี่รู้  สู้ยืนหยัด
คอยระมัด  ตัดลุ่มหลง
อาบเหงื่อ  เพื่ออนงค์
ขอน้องจง  หมดสงกายามใด  ใจคลอนแคลน
โปรดดูแหวน  ทดแทนหน้า
ชายหนึ่ง  ซึ่งบูชา
จะกลับมา  มิช้าเชือนที่ย้ำ  พร่ำพิไร
เพราะห่วงใย  กว่าใดเหมือน
แสนรัก  จึงตักเตือน
เอื้อนสอนสั่ง  ด้วยหวังดีรักนวล  สงวนกาย
รอพี่ชาย  ห้ามหน่ายหนี
ก่อนพราก  ฝากวจี
จากว่าที่-สามีเธอ

โศลกร่ำวันอำลา

เปลวเพลิง


“อย่าร้องไห้เสียใจไปเลยน้อง
พี่หมายปองเดินทางอย่างชาติทหาร
ศึกผจญผองริปูผู้รุกราน
ด้วยเชิงชาญณรงค์รบทบธรณีทุ่มแรงกาย กำลังนี้ทั้งหมด
สร้างทางสู่อนาคตอันสดศรี
บ้านเราจักปลอดภัยในเสรี
ทั้งวันนี้ พรุ่งนี้ ตราบนิรันดร์”“พี่จ๋า
นับเวลาผ่านปีหรี่ตาฝัน
ในวงแวดผุดผ่องของนวลจันทร์
ในเพชรพรรณแสงพราวของดาวพรายพี่กลับมาที่นี่ที่อบอุ่น
เขนยหนุนน้ำจิตมิตรสหาย
หลับลงกับนิยามของความตาย
นอนอยู่ภายใต้หลุมหญ้าคลุมดินวีรกรรมความกล้าในคราก่อน
อนุสรณ์ตรึงจิตชีวิตสิ้น
เกียรติขจรเจือผสานสายธารริน
ศักดิ์กสิณหอมในดอกไม้บานและแม้ว่าตัวน้องจะร้องไห้
ก็ภูมิใจยามพี่ยากลับมาบ้าน
ไผ่เสียดสีบทเพลงวังเวงมาน
เปล่งคำขานโศลกร่ำน้ำตานองกับอีกหลายหลายคนบนโลกนี้
ชีพยอมพลีเพื่อชาติเห็นไม่เป็นสอง
ยอมฝังร่างภายใต้หินทรายรอง
หลังปกป้องรักษามายาวนานนิทราเถิดพี่ยาใต้ฟ้าค่ำ
ดาวจะร่ำโศลกแว่วผิวแผ่วผ่าน
หลับจากสงคราม ท้อ ทรมาน
อยู่ที่บ้านเรานั้นนิรันดร”

ขอบฟ้า

อันดามัน


ต่อให้ขอบฟ้ากว้าง...กว้างแค่ไหน
ขอให้มั้นใจว่าจะไม่แปรผัน
ต้อให้ระยะทางจะไกลสุดฟ้ากั้น
ความผูกพันที่มีต่อกันจคงมั่นตลอดไป
แล้วเธอล่ะ...คนดี
รู้สึกแบบนั้น...รู้สึกดีๆกับฉันบ้างไหม
ถ้าไม่...ก็ไม่เป็นไร
แค่รับความรู้สึกห่วงใยเอาไว้ก็พอ

อวยพรให้ไปดี

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


หัวใจไม่ยั้งฝังในหัว
สุดขั้วมอบรักภักดิ์ที่สุด
คุดงอท่อตันพลันรักคุด
พลีหลุดสุดถนอมต้องยอมพลี
บางใครก้าวมาเราหน้าบาง
หนีห่างรีบหลบจบด้วยหนี
ทีเขาเราเร้นเป็นถ้อยที
ทุกข์เศร้าเหงาลี้เพราะมีทุกข์
ช้ำนักรักขมตรมเจ็บช้ำ
สุขปองร้องร่ำเคยนำสุข
ยุคเปลี่ยนเวียนวนคนละยุค
เพลินเพลิดเกิดทุกข์เพราะสุขเพลิน
กล่าวลาอาวรณ์มาอ้อนกล่าว
เขินหนักรักร้าวก้าวขัดเขิน
เดินห่างร้างเร้นเส้นทางเดิน
ใจเจ็บเหน็บเกินจะห้ามใจ
พรใดประเสริฐเลิศคำพร
ให้ย้อนประสบครบพรให้
ใครหวังดั่งเป็นเช่นบางใคร
เคียงใกล้สุขสันติ์สวรรค์เคียง..

ที่พักใจ

คนกรุงศรี


แม้เหนื่อยนัก พักลง ที่ตรงนี้
ฟังวลี ลำนำ ที่ฉ่ำหวาน
มธุรส บทอ้อน ของกลอนกานท์
ปลอบดวงมาน ให้คลาย หายกังวล
บทกวี ที่กราย ร่ายอักษร
ของนักกลอน  หลากแหล่ง ทุกแห่งหน
ร่วมเรียงร้อย ภาษา มาให้ยล
ดุจดั่งมนต์ เทียมเทียบ เปรียบดนตรี
มาร่วมงาน สานฝัน วรรณศิลป์
ให้โลกยิน ลือไกล ไปทุกที่
ท่องโลกฝัน บรรเลง เพลงกวี
ปล่อยฤดี ตามมนต์ ของกลกลอน

....แด่ คนไกล....

cicada


เหนื่อยมากไหมที่รักโปรดพักบ้าง
ส่งใจมาอยู่เคียงข้างเธอทราบไหม
ยามฟ้ามืด ทางนี้เหงาเฝ้าอาลัย
ถึงคนไกลด้วยห่วงหา อย่าร้างเลือน
อ้อมแขนอุ่น ยังว่างบ้างหรือเปล่า
คนที่เหงา อยู่แสนไกลคงไม่เหมือน
ดังดอกแก้วหอมบางอยู่ข้างเรือน
ถึงแชเชือนไปนิด ยังชิดใจ
คิดถึงกัน หรือเปล่า เช้าที่นั่น
ที่นี่นั้น ดึกเหงาเข้าวันใหม่
เกินข่มตา สุดหวง และห่วงใย
คนอยู่ไกลอ้อนออดขอกอดเธอ
และยามนี้แสงทองของวันรุ่ง
แดดทอรุ้งฉ่ำหวานจนมานเผลอ
ฝากจุมพิตผ่านลมพรมละเมอ
ขอให้เธอหลับฝันดี...นะที่รัก..

คนสำคัญในหัวใจยังเป็นเธอ

ลูกหว้า


ลองถามตัวเองสักกี่ครั้ง
ใจก็ยังตอบว่ารักอยู่เสมอ
เเละไม่สามารถเอาใครมาแทนเธอ
ยังรักอยู่เสมอไม่เปลี่ยนไป
ยังรักยังห่วงใยอยู่เสมอ
ถึงแม้ไม่ได้เจอก็ไม่หวั่นไหว
แม้ชีวิตมากมายด้วยใคร-ใคร
แต่คนสำคัญในหัวใจยังเป็นเธอ

ส่งใจไปชายแดน

หญิงบ้า


แอบส่งความห่วงใยไปที่หนึ่ง
ส่งไปถึงผู้คนไม่รู้จัก
ณ มุมนี้มีหนึ่งคนหม่นใจนัก
รุนแรงหนักไม่สงบอบอุ่นใจ
อยู่ทางนี้มีแต่รับข่าวสาร
สิ่งที่อ่านที่เห็นเท็จจริงไหม
เมื่อรับรู้เหตุการณ์ความเป็นไป
ทำได้เพียงทำใจและไตร่ตรอง
แต่ละวันปั่นป่วนล้วนสลด
ช่างรันทดหมดกันพลันเศร้าหมอง
อยากให้หยุดให้จบทบทวนมอง
นั่นพวกพ้องมิใช่หรือที่สิ้นใจ
มิอาจหรอกบอกกล่าวใครเศร้ากว่า
หยดน้ำตาฉันเธอล้วนเอ่อไหล
เธอฆ่าฉันฉันฆ่าเธอเสมอไป
คนข้างหลังขาดใจไปตามกัน
.:T____T:.

หว่านเมล็ดพันธุ์ให้หัวใจ

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ


หว่านเมล็ดพันธุ์ให้หัวใจ
ห้วงหัวใจสานฝันวันระวี
เกิดก่อมีรักใหม่ใจเรียกหา
สานสิ่งเอื้อเกื้อหนุนเจือจุนมา
บ่มเวลาด้วยรักจักงดงาม
รดน้ำใจรินน้ำใจให้เต็มใจ
ทุกข์สุขอยู่อย่างไรได้ไต่ถาม
เฝ้าคิดถึงห่วงใยในทุกยาม
เติมเต็มความรักแท้ให้แก่กัน
แล้วจงมอบเมล็ดพันธุ์สรรค์ความสุข
เพื่อลดเลือนความทุกข์กระตุกขวัญ
รอดอกรักเบิกบานระหว่างวัน
ปล่อยดวงใจดวงนั้นละวางตน
จะได้อยู่กับตัวเมื่อมัวหมอง
อยู่กับห้องหัวใจในบางหน
เฝ้าดูแลเมล็ดพันธุ์หว่านใจตน
เพียรขุดก่นพรวนดินถิ่นหัวใจ
และจะได้รดน้ำใจให้ต้นรัก
สานทอถักกิ่งต้นจนใบใหม่
รอดอกบานผลิผลล้นหัวใจ
รู้ความหมายดอกผลรักตนเอง
เพื่อจะได้ยืนได้เมื่อไร้รัก
เหลือดอกบานทักทายไล่ข่มเหง
เมื่อกลับมาคนเดียวเปลี่ยววังเวง
ฮำบทเพลงส่งท้ายในความหลัง
ในตอนนั้นแผ่นดินใจอุดมแล้ว
ด้วยหน่อแนวเมล็ดพันธุ์สรรค์ความหวัง
เติมน้ำใจเต็มใจได้พลัง
เฝ้าฝากฝังพันธุ์ไว้ในเวลา
และจะได้รู้จักรักที่แท้
ใจแน่วแน่รื้อพังข้อกังขา
วันทุกข์เกี่ยวเกาะรั้งพันธนา
เมล็ดกล้าจะเติบโตมาคุ้มครอง
โรยละอองเกสรให้หัวใจ
อ่อนละมุนกรุ่นละไมขับไล่หมอง
วันความเหงาตรวนปักตอกหลักจอง
แต่ได้มองและยิ้มให้ไม้ต้นงาม
..................
วันความเหงาตรวนปักตอกหลักจอง
ยังได้มองเห็นว่ารักตัวเอง
ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ

แสนห่วงใย

ทิพย์โนราห์ พันดาว


ฝากคำถ้อย ลอยฟ้า ไปหาเจ้า
อยู่ดีเล่า หรือทุกข์ใจ เพราะไกลห่าง
บนทางเดิน แห่งเรียวรุ้ง ที่รุ่งลาง
ฝันอำพราง สว่างใส ในความจริง
เห็นไหมนั่น ริมรอบ ตรงขอบฟ้า
ต้นดารา ดอกพราว ทุกราวกิ่ง
เพียงเพื่อเจ้า หมายหวัง ตั้งใจจริง
จงโน้มกิ่ง เกี่ยวคว้า ดาราชม
แม้เส้นทาง ขวากหนาม จะลามกั้น
เจ้าอย่าหวั่น เร่งฟันฝ่า มาให้สม
แม้นางไพร ล่อบ่วง ลวงให้ชม
อย่านิยม หวั่นไหว ใฝ่ว่างาม
ฝากคำถ้อย ลอยฟ้า ไปหาเจ้า
ห่วงใยเล่า กับหัวใจ คนไถ่ถาม
ใจดวงนี้ เปี่ยมคิดถึง ซึ้งทุกยาม
มองฟ้าคราม แสนห่วงใย คนไกลกีน
ทิพย์โนราห์ พันดาว