กลอนอกหัก

ฉันไม่ต้องการ

เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย


เจ็บ...หัวอกที่หลงรักคนอย่างเธอ
มากจนเพ้อละเมอร้องอยู่หลายหน
ที่เธอทำให้ปวดร้าวและทุกข์ทน
รักเปรอปรนเจือพิษร้ายทำลายใจ
ปวด...หัวใจยามเธอเอ่ยคำรัก
ร้าวระบมเกินจะหักใจไปไหน
เจียนจวนแล้ว...ใกล้หยุดจังหวะใจ
ตายดีไหมจะได้พ้นคนอย่างเธอ
เพราะฉันเองก็เผลอไผลให้ใจรัก
ฉันถูกผลักลงหลุมแลหลงเพ้อ
มาชวนฉันให้รักให้ละเมอ
ช้าแล้วเธอ...ฉันมิอาจจะถอนใจ
เป็นแค่เพียงคนรักยามขาดแคลน
ได้ควงแขนตอนแฟนเธอนั้นเผลอไผล
แค่รักลับมิอาจบอกใครออกไป
ชู้...นั่งไง....ตำแหน่งนี้...มิอยากครอง

เมื่อความรู้สึกคุยกับความรัก ๒

ดวงจันทร์


ความรู้สึก: “ในความนึกคิดของฉัน
เจ้ากำลังบอกว่านั่นคือความไม่แน่นหนัก”
ความรัก: “ก็เธอไม่เชื่อใจในความรัก
ทั้งที่ไม่รู้จักว่ารักเป็นอย่างไร”
ความรู้สึก: “ฉันเข้าใจดี
ว่ารักที่มีคือการให้”
ความรัก: “แต่เธอก็ไม่เคยรับไว้
กับบางหัวใจที่เขามอบไว้ให้เธอ”
ความรัก: “นั่นหรือคือความรัก
ที่เธอนึกตระหนักอยู่เสมอ
คือทอดทิ้งความห่วงใยที่บางใครมอบให้เธอ
แล้วเอารักไปปรนเปรอให้กับคนที่เธอต้องการ”
ความรู้สึก: “ก็ฉันรัก...”
ความรัก: “แต่ก็ไม่รู้จักที่จะสงสาร”
ความรู้สึก: “ก็ใจฉันทรมาน...”
ความรัก: “หรือจะให้อีกคนร้าวรานกับการเสียใจ”
ความรัก: “คนที่รักเธอยังพอมี
เขาก็ดูดีและพร้อมจะมอบชีวีให้
ความรู้สึก: “แล้วถ้าเขาทิ้งเราไป”
ความรัก: “คงไม่เป็นอะไร ก็แค่กลับไป(ไม่มีใคร)เหมือนเดิม”

รักสมหวัง...ก็มีค่าแค่เศษดิน

ผู้หญิงสีน้ำตาล


เธอให้ฉันเพียงความเจ็บช้ำ
ที่ตอกย้ำในใจไม่สุดสิ้น
ตลอดมาฉันมีค่าแค่เศษดิน
ต้องกลืนกินเพียงคราบหยาดน้ำตา
ไม่เหลือแล้วไม่เหลืออะไรเลย
จากที่เคยมีรักสมปรารถนา
นานนานไปรักชืดจืดเฉยชา
มีแต่ความเหว่หว้าเข้าครองใจ

เพ้อ

ร้อยฝัน


ท่ามแสงเทียนวิบวับระยับแสง
มิอาจแข่งดวงดาวที่พราวใส
เย็นน้ำค้างพร่างพรมลมโชยไป
หนาวถึงใจดวงนี้ที่รอคอย
ลมหนาวพัด พัดผ่านสะท้านผิว
ใบไม้ปลิวลอยคว้างอย่างเหงาหงอย
ตามทำนองเพลงเศร้าเจ้าล่องลอย
ดั่งเรือน้อยล่องไปในสายชล
กระชับผ้าโอบอุ่นที่คุ้นชิน
หอมกรุ่นกลิ่นจางจางอย่างสับสน
เมื่อใดหนอคนไกลจะได้ยล
ฤาต้องทนทุกข์สิ้นกินน้ำตา
ขอวงแขนแข็งแรงแกร่งคู่นั้น
โอบกอดฉันเอาไว้ใกล้เถิดหนา
คงลืมสิ้นทุกข์ใดได้เจอมา
ขอเวลาเราอยู่เคียงคู่กัน
อย่าเป็นเพียงแค่เพ้อท่ามลมหนาว
ลืมตาตื่นร่วงกราวราวกับฝัน
ใช่เป็นเพียงแค่ถ้อยร้อยรำพัน
ไม่มีวันเป็นจริงได้ดั่งใจปอง

รักที่ถูกลืม

พิมญดา


บอกมาเลยสักคำจะจำจด
อย่าโป้ปดหลอกกันมันหม่นหมอง
สิ่งเคยดีเคยฝากอยากครอบครอง
เหลือแต่น้ำตานอง..ตรอมทรวงใน
คงเหมือนกับใบไม้ที่ร่วงหล่น
ปลิวไปกับลมฝนจนสั่นไหว
นับจากนี้คงไม่เหลือแม้เยื่อใย
เพราะมีใครบางคน..มาทดแทน
มองสิห้องว่างเปล่าร้าวใจหนัก
กอดเข่ามองความรักที่หวงแหน
บนที่นอนไร้ร่างขานเรียกแฟน
ไม่เหลือเลยอ้อมแขนของแฟนเรา
ใจแปรผันตัดขาดอนาถสิ้น
หายลยินเสียงเสียงร้องของคนเศร้า
นี่หรือคนเคยบอกว่ารักเรา
คำพูดเขาเหมือนลมเพ..แล้วเรรวน
รักถูกลืมเติมต่อขอทิ้งสิทธิ์
คงไม่คิดรักหนอขอคืนหวน
อาจเสียใจเพราะช้ำจำคร่ำครวญ
อาจจะป่วนหัวใจไปอีกนาน

เสียงเพลงรัก

ลูกหว้า


เสียงเพลงรักมาหยุดสะดุดกึก
ความรู้สึกน้ำตาแทบบ่าไหล
อารมณ์รักเรียกร้องของหัวใจ
วอนเธอให้บรรเลงบทเพลงเดิม

เคยกล่อมดาวกล่อมเดือนเลือนรานร้าว
ให้เดินก้าวสะพานเธอสานเสริม
เสียงไพเราะเนิบเนิบเคยเคลิบเคลิ้ม
จะซ้ำเติมใจนี้อีกกี่ครั้ง

เธอจะเป็นเช่นน้ำยามโหยอ่อน
เหมือนมนต์พรเพลงทิพย์กระซิบสั่ง
บนทางเดินขวากหนามข้ามระวัง
ภาพความหลังอันหวานผ่านคืนวัน

ด้วยมือเธอที่ก่อถักทอรัก
จึงรู้จักหนแห่งแหล่งสวรรค์
มิได้อยู่ฟ้าไกลเข้าใจกัน
แต่อยู่นั่นที่เธออยู่ผู้บันดาล

เรามาปันสุขกันฉันคนรัก
เพื่อรู้จักชื่นมื่นวันคืนหวาน
ใจจริงจังหวังให้ได้พบพาน
สู่วิมานสวรรค์อันอำไพ

เมื่อจบการบรรเลงบทเพลงรัก
สุดจะหักห้ามตรมข่มไม่ไหว
แม้เพลงรักเคยหลงจบลงไป
ความรักไม่จบลงคงนิรันดร์

ผู้ชายใจร้าย

ทิพย์โนราห์ พันดาว


ทำไมหนอผู้ชายใจร้ายนัก
ยามหมดรักเรรวนก็ด่วนหนี
เหลือเพียงความช้ำใจให้นารี
ล้านวจีด่ำดื่มกลับลืมคำ
ดั่งนิทานโบราณมีนารีเอ๋ย
พระอภัยเอยหลอกนางยักษ์ปักถลำ
เพียงไม่งามรูปชั่วตัวด่างดำ
ไม่นึกนำเคยอยู่ร่วมคู่เคียง
เคยครองคู่ร่วมใจที่ในถ้ำ
คืนเดือนร่ำดาวระยิบกระซิบเสียง
เคยโอบกอดประคององค์ลงนอนเคียง
ชื่นสำเนียงเรไรร่ำฉ่ำฤดี
ใยพิฆาตยักษีด้วยปี่แก้ว
ซึ้งทรวงแล้วพระอภัยฤทัยพี่
หรือนางยักษ์ไม่งามเด่นเช่นนารี
คุณความดีมีให้...ไฉนลืม

อกหัก......

นิติ


คงเพราะพื้นฐานเราไม่ใช่เพื่อนหรือน้อง
คิดแต่จะครองไม่ที่รากฐาน
ว่าเคยพูดเคยคุยลุยงาน
จึงไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน  .......   หัวใจเธอ

‎---- ใจทัก ว่า รักเธอ ----

victoriasecret


๏ โปรดขานถ้อย..หน่อยเอย..คนเคยซึ้ง
จะมาทำ..อ้ำอึ้ง..ไปถึงไหน
จะให้หัก..รักวาง..หรืออย่างไร
เหตุอันใด..ไหนกัน..ไม่หันมา
๏ โปรดขานถ้อย..หน่อยเอย..คนเคยรัก
ไยหาญหัก..รักหลบ..ไม่พบหน้า
ร้าวฤดี..ที่เห็น..เธอเย็นชา
ราวกับว่า..ฆ่าฉัน..นั้นทั้งเป็น
๏ โปรดขานถ้อย..หน่อยเอย..คนเคยคบ
จะจากจบ..ลบเลือน..เหมือนไม่เห็น
เคยพะนอ..คลอเคล้า..ทั้งเช้าเย็น
กลับต้องช้ำ..ลำเค็ญ..จนเข็ญใจ
๏ โปรดขานถ้อย..หน่อยเอย..คนเคยภักดิ์
จะไสผลัก..หักวาง..อย่างไรไหว
เคยเคียงคู่..อยู่ข้าง..ลืมอย่างไร
เพราะฤทัย..ไม่อาจ..ขาดสัมพันธ์
๏ โปรดขานถ้อย..หน่อยเอย..คนเคยหวง
ฉันระกำ..ช้ำทรวง..แม้ห้วงฝัน
จะมาพราก..จากไป..อย่างไรกัน
หัวใจฉัน..มันทัก..ว่ารักเธอ๚ะ๛

พายุใจ

กานต์..อันเป็นที่รัก


ท้องฟ้าคลื้มซึมเซาเปล่าเปลี่ยวจิต
ทั่วทุกทิศเมฆมัวมืดสลัว
สายฟ้าแลบแปบปรายมองน่ากลัว
ทรงกายตัวมองหน้าต่างที่ห่างไกล
ยืนเม่อลอยเงียบเหงาเศร้าลึกๆ
ทำไมนึกถึงเขาเหตุไฉน
เป็นแค่เพื่อนย้ำเตือนกับหัวใจ
อย่าเหลวไหลนะเจ้าเราเว้าวอน
เขาเป็นเพื่อน..เพื่อนๆแล้วก็..เพื่อน
ต้องคอยเตือนหัวใจเกินไถ่ถอน
ยิ่งบอกห้ามเหมือนตอกย้ำให้ร้าวรอน
แม้ยามนอนยังเพ้อรักเธอจัง
เพียงแค่นี้ยังเจ็บไม่พอหรือ
ยังดึงดื้อครุ่นคิดจนคลุ้มคลั่ง
เธอเพียงหลอกให้รักไม่จริงจัง
หลอกให้หวังให้รักแล้วจากลา
สายฝนสาดเข้ามาน้ำตาเอ่อ
ยืนละเมอเผลอใจคิดครวญหา
ขอสายฝนพร่างโพมโลมวิญญา
ล้างน้ำตาเป็นน้ำฝนปะปนกัน
พรุ่งนี้หนาฟ้าหลังฝนเป็นคนใหม่
จะไม่สนใครๆให้โศกสันต์
จะไม่เพ้อไม่รักเธอชั่วชีวัน
จะไม่ฝันไม่ครวญหาให้อาวรณ์../

อก หัก รัก คุด ตุ๊ด หนี พริตตี้ เมิน

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


อก เอ๋ยเคยรักกันวันยังค่ำ
หัก ระกำซ้ำซากยากนักหนา
รัก ไม่สม ล่ม-ไม่รอด ตลอดมา
คุด หักคา หารักใครไม่เคยเจอ
ตุ๊ด ยังมีคนรักตุ๊ดเป็นสุดรัก
หนี เรานักรักหนีเราเหงาเสมอ
พริ้ตตี้ ยิ่งห่างไกลไม่มีเจอ
เมิน เวิ่นเว้อ เพ้อพก อกหัก เซ็ง
เวิ่นเว้อ = วุ่นวาย + เยิ่นเย้อ  (ศัพท์แสลง พ.ศ. 2554)

ฮักอ้ายหลายกว่าฟ้า

ร้อยฝัน


ฮอดเดือนหกฝนตกมาน้ำตาหลั่ง
เสียงฟ้าสั่งตึ้มต้ำซ่ำใจหลาย
ดินกะสุ่มเซาแห้งแล้งกะกลาย
บัดใจอ้ายคือซ่างแล้งแห้งกว่าดิน
เห็นน้องดำคำผู้ฮ่ายซ่างกายหนี
อ้ายบ่มีหัวใจให้ทั้งสิ้น
หนออ้ายเอ้ยน้องคอยถ่ามาจนวิน
อ้ายกลับบินหาคนโก้โอ้หนอชาย
เห็นฟ้าก่ำกรำฝนน้องทนสู้  
ทั้งที่ฮู่อ้ายบ่สนคนบ่หมาย
ยืนฮ่องไห้ในสายฝนหล่นโปรยปราย
ฮู่ใจหง่ายย่อนฮักหลายตายบ่จื่อ
คำแปลนะจ๊ะ
ถึงเดือนหกฝนตกมาน้ำตาหลั่ง
ฟ้าร้องสั่งเหมือนย้ำช้ำใจหนา
พอฝนตกดินชุ่มคลุมผืนนา
แต่อุราพี่กลับแล้งแห้งกว่าดิน
เห็นน้องดำซ้ำร้ายพี่หน่ายหนี
ไม่เคยมีหัวใจให้ทั้งสิ้น
โอ้พี่จ๋าน้องรอมาเป็นอาจิณ
พี่กลับบินหาคนงามหยามน้ำใจ
เห็นฟ้าก่ำกรำฝนน้องทนสู้
รู้ทั้งรู้พี่ไม่รักไม่อยากใกล้
ก็ต้องยอมทนฝืนยืนร้องไป
รักทั้งใจจนตายก็ไม่จำ

..ใช่ตัว"สำรอง"ห้องใจเธอ..

พิมญดา


เมื่อพระพรหมสรรค์สร้างทางรักร้าว
คงถึงคราวเดินออกนอกใจเขา
แม้จะเหลือเพียงรักลางเลือนเงา
กอดแต่ความว่างเปล่าร้าวเกินทน
มาทีหลังหวังไปไกลเกินจริง
เมื่อทุกสิ่งรู้กันฉันสับสน
เขาคนนั้นฉันคนนี้ก็เป็นคน
รักเธอจน..ตัดไม่ขาดสวาทวาย
ศีลธรรมค้ำจิตคิดแล้วถอย
แม้จะเหลือร่องรอยความเสียหาย
เจ็บแค่นี้คงไม่ถึงกับตาย
หากต้องพ่ายตราบาปตราบชีวี
ขอโทษนะ!ที่รักจักต้องห่าง
ฉันขอเดินอ้างว้างข้างศักดิ์ศรี
ตัวสำรองกองไว้นะคนดี
จากกันที..ที่เคยรักหักใจลา
รักให้เป็นเช่นนี้ดีกว่าฝืน
ทนกล้ำกลืนต่อไปใจเหนื่อยล้า
ขอบคุณนะที่รักตลอดมา
ขอมีค่า..บนทางใจ..ใช่สำรอง

ดาวก็หม่น คนก็เมา ..เหล้าเกือบหมด

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


.. ดาวหม่น คนเริ่มเมา เหล้ายังมี
ณ คืนนี้ถ้าไม่เมาเราไม่หยุด
เหตุด้วยเรื่องเปลืองใจคิด ..จิตมนุษย์
ที่มันสุดลึกล้ำเหลือรำพัน
เธอรักเขา เขาไม่รักหนักอกเธอ
เมื่อรักเก้อเพ้อพกตกสวรรค์
เศร้าแสนเศร้าเพียงแค่ไหน รู้ใจกัน
เธอกับฉันมันเพื่อนเก่า ฉันเข้าใจ
...
ดาวก็หม่น คนก็เมา เหล้าเกือบหมด
รินเหล้ารดราดดวงแดแก้หมองไหม้
..จะคอยรับซับน้ำตาทุกคราไป
แม้ที่เธออยากอยู่ใกล้ ไม่ใช่ฉัน
คำเตือน : สุราไม่ใช่ยาแก้อกหัก เด็กและเยาวชน ควรพิจารณาในการอ่านกลอนขี้เมาแต่ง.. หุ หุ

รอย-ยิ้ม-ที่-หาย-ไป

ลูกหว้า


และแล้วน้ำตาแห่งความอ่อนไหว
ก็ย่ำเท้าทิ้งตัวเป็นสายบนใบหน้า
ลบความเข้มแข็งสุดท้ายที่ฉันมีชั่วพริบตา
มันเป็นเกมส์แห่งความปวดปร่า ที่สั่นคลอนน้ำตา จนท่วมใจ
หมากตัวหนึ่ง .. . บนกระดานแห่งความอ้างว้าง
ร่ำไห้กับการถูกทิ้งขว้าง . .. อย่างหวั่นไหว
ช่วยตอบโจทย์ให้กระจ่างสักนิด   ความจริงแล้วฉันทำผิดเรื่องใด
จึงถูกพันธนาการความเหงาไว้ .. . เข่นฆ่ากัน
หรือว่าที่แท้  ~ ฉันเป็น “แค่” คน “ไม่เคยถูกรัก”
คนแสนดีอย่างเธอ จึงไม่อาจจมปลัก . .. เดินร่วมฝัน
ไม่มีสิทธิ์ .. เลือกเอาความรักทั้งชีวิตไปผูกพัน
ควรต้องยอมรับคำพิพากษาลงทัณฑ์ .. . ด้วยความเต็มใจ
ฉันยอมจำนนแล้วล่ะ . .. ที่รัก
ช่วยอยู่ปลอบโยนอีกสักพัก  ~ แล้วค่อยแยกย้ายได้ไหม?
แลกกับรอยยิ้มของคนตรงหน้าที่กำลังหมดไป
พร้อมกับการมาเยือนของความเสียใจ . .. ชั่วนิรันดร์

รักครั้งแรก

อนงค์นาง


เธอกับฉันเรานั้นรักกันนัก
เรารู้จักคบกันวันเดียงสา
บ้านติดกันวิ่งเล่นเห็นทุกครา
เธอแก่กว่าหนึ่งปีใจดีจัง
เธอตามใจทุกอย่างน้องนางซึ้ง
ไม่เคยขึ้งโกรธใครให้สมหวัง
ไม่เคยแตะต้องให้ใจระวัง
ดูแลยังกับฉันนั้นเลิศเลอ
ยี่สิบปีกว่าที่มีเพื่อนรัก
เคยงอนนักเธอง้อขอโทษเสมอ
ไม่เคยคิดรักใครได้เท่าเธอ
ฝันละเมอแต่งงานมีบ้านงาม
แล้ววันหนึ่งถึงคราสารภาพ
ใจแปลบปลาบง่อยเปลี้ยละเหี่ยถาม
เธอยอมรับรักชายใจหายตาม
อึ้งทุกยามที่คิดพิษรักลวง

แพ้ใจเธอ

คนกรุงศรี


ฟังเสียงขลุ่ย โหยหา พาใจหวน
จึงรัญจวน รักจาง อย่างใจหาย
รู้ว่าเจ็บ เหน็บร้าว หนาวใจกาย
แต่ก็สาย แล้วหนอ ท้อใจเกินคำสัญญา ยังอยู่ คู่ใจสาว
ครั้งที่กล่าว เธอให้ ด้วยใจเขิน
มาวันนี้ เหตุใด ดวงใจเมิน
ต้องเผชิญ ความหม่น จนใจตรม
อยากบอกว่า ยามนี้ มีใจภักดิ์
เกรงเจ็บหนัก หมองไหม้ จนใจขม
กลัวจะจาก พรากไป จนใจซม
ทุกข์ระทม จริงแท้ แพ้ใจเธอ
พอดวงจิต คิดไป พาใจหน่าย
ยังเสียดาย ตัวที่ มีใจเผลอ
ต้องผิดหวัง เพราะเขลา เราใจเบลอ
จึงมาเจอ คนซื่อ หรือใจเก
บางครั้งที่ คิดถึง จึงใจหม่น
เจ็บเสียจน หม่นไหม้ ดวงใจเขว
เพราะยังจำ สัญญา พาใจเซ
เพราะรวนเร หรือไม่ ดวงใจนี้แว่วเสียงขลุ่ย อีกคราว สาวใจหวั่น
อยากลืมวัน เคยรัก หักใจหนี
ทนระทม ตรมเศร้า เข้าใจดี
ด้วนมิมี คนใด รู้ใจเรา