กลอนให้กำลังใจ

อย่าท้อ

วาสุกรี


เพียงหนึ่งก้าว  ที่ขยับ  เริ่มปรับเปลี่ยน
สู่บทเรียน  แต่ละก้าว  ให้เข้าถึง
ที่ถอยหลัง  เพื่อเดินหน้า  อย่ารำพึง
เรารู้ซึ้ง  ไม่มีอะไร  ได้ง่ายดาย

อยากให้รู้ไว้

ฟา


หากวันใดเธอล้มลงจงรู้ว่า
ยามเงยหน้ายังพบฉันอยู่เสมอ
ยังยืนอยู่รอคอยพยุงเธอ
พร้อมจะก้าวกันใหม่นะเออฉันสัญญา

ยอเกียรติพลทหาร๐

บุญเพิ่ม


ยอเกียรติพลทหาร๐
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
๐ร้อยกรองวจีรจิตพจน์                มธุรสมิพบพาน
ยอเกียรติคุณพลทหาร                นรชาญฉกรรจ์ไทย
๐ตื่นเช้าก็วิ่งหทยโลด                และกระโดดถลันไป
ครูฝึกก็จ้องระยะมิไกล                จะเตะใครมิอดทน
๐วิดพื้นกระอักขณะจะพัก            คุรุผลักและถีบก้น
คิดแล้วก็เศร้าปะฉะดะจน               มนพลทหารพัง
๐อาหารผักมธุระสิ้น                  จะมิกินก็ท้องหวัง
เสร็จแล้วก็หวีดระดะประดัง           จรหลังจะโดนทัณฑ์
๐จับปืนสนามปุ!ปะ!ปะ!ป้าง!      เฟอะฟะบ้าง ก็ฮาลั่น
น้องใหม่จะยิงกะระยะกัน           ปะทุปืนก็ดันให้
๐ร่างเซถลา ระอุ อุรา                ภยครูมิเห็นใจ
แต่ครูก็คนฤจะมิใส่-                   ธุระในทหารมี
๐ยามไทยระทมอุทกภัย           ชนไห้และขวัญหนี
ได้เหล่าทหารยุวทวี                พลมีประคองชน
๐ช่วยเหลือประชาพิริยะมุ่ง          ขณะถุงก็หนักล้น
ลากเรือและของอนุเคราะห์คน    และก็ตนพยุงไว้
๐เสร็จงานก็เข้าสมุหกอง*       มิคะนองฉลองใด
อยู่เวรประทังและจะมิให้          อริภัยผยองมา
๐แม้พลทหารยศมิเด่น             ผิก็เป็นทหารกล้า
สร้างชื่อและเกียรติรุจิรา           และสถิตหทัยชน! ฯ
อริญชย์
๑๙/๑๑/๒๕๕๔

เริมต้นใหม่ ด้วยใจเดิม

มวลภมร


กลับมายืน ที่เดิม เคยเริ่มต้น
แม้ไร้คน เคียงกาย คล้ายเคยหวัง
ชีวิตคง ต้องอยู่ สู้ลำพัง
สร้างกำลัง กายช่วย ด้วยใจเรา
กลับมายัง ทางเดิม เริ่มเดินซ้ำ
เคยหลงคำ หลงทาง อย่างคนเขลา
ประสบการณ์ สะสม บ่มใจเรา
กลับทางเก่า เดินใหม่ อย่าได้รอ
อุปสรรค ทางเก่า เราเคยเห็น
แม้ยากเย็น แค่ใหน ต้องไม่ท้อ
แม้หนทาง ขวากหนาม มีมารอ
ก็ต้องผ่าน ไปต่อ อย่างมั่นใจ
หนักหน่อยหนา รู้ว่า ยังต้องหนัก
ต้องตั้งหลัก ใจกัน อย่าหวั่นไหว
ไม่ย่อท้อ รอหา กำลังใจ
ไม่หวังมอง หาใคร มาประคอง
กลับมาตาม ทางเดิม ที่เคยคุ้น
ประสบการณ์ เป็นทุน ไม่มัวหมอง
สู้ด้วยใจ เต็มใจ หวังได้ครอง
ตั้งใจมอง จุดหมาย แล้วป่ายปีน
o...มวลภมร..o

เวลา..พิสูจน์ใจคน

ต้น


เข้มแข็งขึ้นแล้วใช่ไหมหล่ะ
ก้อรู้ไว้เถอะนะไม่มีอะไรที่ใช่
ทุกสิ่งทุกอย่างต้องรอเวลาผ่านพ้นไป
ที่เค้าบอกกันว่าเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ใจของคน
ก้อคงดีใจด้วย
แม้จะไม่ได้ช่วยอะไรมาก
คงมีแต่ถ้อยคำออกจากปาก
ของเพื่อนคนยากสักคน.....

กำลังใจ

kwan


แด่เพื่อนรักคนดีที่ผิดหวัง
ขอให้เธอมีพลังต่อสู้ไหว
เก็บผ้าเช็ดหน้าที่ใช้แล้วโยนทิ้งไป
แม้คราบน้ำตาอย่าเหลือไว้ให้เห็นเลย
ฉันรู้ดีว่ามันคงทำยากอยู่
และไม่รู้ว่าเธอจะทำมันได้ไหม
แต่ที่รู้ว่าถ้าทำได้เธอจะต้องดีใจ
เมื่อเวลาผ่านพ้นไปจะรู้สึกดี
อยากให้เธอลองพิสูจน์ดูสักตั้ง
รวบรวมพลังทั้งกายใจให้คงที่
ให้เธอได้ตั้งสติ ไตร่ตรองให้ดี
นับหนึ่งไปถึงสิบ หลับตาปี๋ แล้วผ่อนคลาย
เมื่อลืมตามาอีกครั้งคงดีขึ้น
ขอให้ตื่นจากห้วงภวังค์หมดทั้งหลาย
ขอให้เธอได้มีความสุขทั้งใจกาย
และสุดท้ายกลับเป็นตัวของตัวเอง

ก้าวนึง....ของวันวาน

ละอองดาว


ื  แกร่งกล้าพอหรือไม่ในวันนี้
พร้อมฤดีฝ่าฟันวันหน้าไหม
พร้อมจะเดินในเส้นทางอย่างมั่นใจ
หรือจะไม่คิดค้นหาคุณค่าตน
ยืนขึ้นสิ...ถ้าล้มลงตรงทางเปลี่ยว
อย่ามัวเหลียวหาใครในแห่งหน
ด้วยตรงนั้นว่างไร้ในผู้คน
ไร้ผู้สนใจช่วยด้วยยินดี
ช่วยตัวเองเท่าที่ดีที่สุด
ทุกทุกจุดเตือนใจไว้ในวิถี
รวมแรงขึ้นเพื่อก้าวเท่าที่มี
ก้าวก่อนที่เธอจะล้ม ลงอีกครา
ก้าวไปด้วยความตั้งมั่นอย่าหวั่นไหว
ด้วยหัวใจด้วยพลังที่หวังหา
สิ่งต่างต่างที่ฝันไฝ่จะได้มา
อยู่ที่ว่าเธอต้องกล้าต้องฝ่าฟัน.....
ละอองดาว....

หญ้าแพรก

จันทร์เพ็ญ จันทนา


ฝนตก ฟ้าร้อง ลมแรง
พายุกร้าวแกร่ง...โหดหิน
ไม้ใหญ่ล้มฟาดแผ่นดิน
ด่าวดิ้น อเนจอนาถ เจียนขาดใจ
สงสารหญ้าแพรก
เจ้าก็แหลก เจ้าก็ป่น หม่นไหม้
หรือชีวิตเจ้าเล็กน้อยเกินไป
เจ้าหัวเราะ เจ้าร้องไห้...ใครจะรู้!
คนเห็นไม้ใหญ่ล้ม
ก็ระดมกำลังเข้ากอบกู้
ประคบประหงมอุ้มชู
ลืมดู ลืมห่วงใย อะไรทั้งนั้น
เพียงหยาดน้ำตา หญ้าต่ำต้อย
คงเล็กน้อยเกินกว่าใครจะไหวหวั่น
เสียงร้องของคนไม่สำคัญ
โหยหวน พร่าสั่น สะท้านใจ
สะท้านใจ แต่ก็ไม่สะท้านป่า
เจ็บปวดก็ก้มหน้า เพียงร้องไห้
สะท้อนเรื่องสะท้อนภาพ กับทุกข์ภัย
เก็บเป็นความน้อยใจ...ใจน้อยน้อย
เช็ดคราบน้ำตา
เชิดหน้าขึ้นเถิด ความต่ำต้อย
“เรื่องราว” เดี๋ยวก็เป็นเพียง “ร่องรอย”
จะเศร้าสร้อยต่อไป ทำไมกัน
มองดูรอบรอบข้าง
ใช่เจ้าจะอ้างว้าง...อย่าไหวหวั่น
เป็นหญ้าแพรกต้นน้อย...ก็สำคัญ
เพราะหญ้าแพรกด้วยกัน...เท่านั้นที่รู้!

เปิดใจ

ใบไม้


บอกลาความเหงา
บอกตัวเองว่าโลกใบเก่ายังสดใส
ยิ้ม   ให้กับความเศร้าที่ผ่านไป
โลกกว้างใบใหญ่......ความงดงามยังมี
ไมเคยเลยมีความเหงา
บนโลกกว้างใบเก่าใบนี้
สิ่งงดงามนับล้าน...พร้อมเสมอเป็นเพื่อนที่ดี
เพียงลองสักทีลองเปิดใจ.

จงหยัดยืนแม้ทนฝืนกลืนน้ำตา

ไม้หอม


โลกไม่เคยเหงา
เจ้าอย่ากลัวความว่างเปล่าร้างไร้
ทุกที่ยังคงมีความห่วงใย
เปิดสิเปิดดวงใจรอรับความห่วงใยในดวงตา
เจ้ามองเห็นใช่ไหมเด็กน้อย
สายตาเจ้าที่เฝ้าคอยความห่วงหา
ดวงใจเจ้าที่รอรับความศรัทธา
ร่างกายเจ้าที่โหยหาความอุ่นไอ
อย่ามองด้วยตาเปล่าอย่างเจ้าเห็น
อย่าคิดว่าลำเค็ญที่หม่นไหม้
อย่าบอกว่าเจ้ากลัวความเป็นไป
อย่าแสดงความหวั่นไหวในวัยวัน
ยิ้มสู้เด็กน้อยจงยิ้มสู้
หยัดยืนฝืนดูความไหวหวั่น
สองมือเจ้ายังมีสองเท้าจงฝ่าฟัน
จิตใจจงตั้งมั่นฝันยังมี
อย่ากลัวระแวงภัย
เจ้ายังมีความห่วงใยจากตรงนี้
พ่อ  แม่  พี่ น้อง  เจ้ายังมี
โลกนี้ยังปราณีคืนชีวีให้เจ้ามา
อย่าคิดว่าตัวเองสิ้นไร้
หมดหนทางจะก้าวไปข้างหน้า
หยัดยืนฝืนยิ้มกินน้ำตา
ลุกขึ้นมาเถอะนะสู้ด้วยกัน
รอยทางชีวิตเจ้าอาจหมองหม่น
รอยรักอับจนเจ้าหม่นฝัน
รอยเวลาเจ้าเลวร้ายเกินฝ่าฟัน
รอยฝันของเจ้านั้นยังหยัดยืน
สู้เถิดเด็กน้อยกลอยใจของแม่พ่อ
อย่าแท้ท้อย่นย่อจนขมขื่น
ฝืนเถิดสักนิดแม้กล้ำกลืน
โลกจะยิ้มระรื่นเจ้าคืนมา
( จงหยัดยืนแม้ทนฝืนกลืนน้ำตา )

บนทาง

ลานเทวา


บน ทาง...
........................
ด้วยงดงามความหวัง ที่ยังเหลือ
เป็นหนึ่งเชื้อโชนจิต ลิขิตฝัน
ยามทุกข์ท้อบนทาง ระหว่างวัน
หนึ่งแรงใจจักปัน เป็นแรงใจ…
แม้มิอาจรู้ได้ ในวันนี้
การเดินทางจะจบที่ หนแห่งไหน
จึงมิอาจรู้แจ้ง ทุกแหล่งนัย
สุดเส้นทางยาวไกล ใดจีรัง
ขอผู้อ่อนล้าใจ อย่าได้สิ้น
เรี่ยวแรงอันโบยบิน สู่ความหวัง
ปรารถนาดีจักเร้น เป็นพลัง
ให้เธอยังเพื่อนร่วมก้าว แม้ร้าวราน….
ไปเถิด ไปเพื่อค้นหาบางสิ่ง
ที่โลกลืมและทอดทิ้ง บนทางผ่าน
เพื่อความหมายอันงามงด ในบทกาล
เพื่อคุณค่านั้นเบ่งบาน ในชีวิต…
…………………………..
โดยคำ ลานเทวา

วันเกิดของเธอคนของใจ

ยิปซี4


วันนี้จะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ
แม้จะเหนื่อยล้าก็ขอให้สู้
วันนี้ทุกๆคนที่ได้รู้
หัวใจสู้ของเธอคนอยู่ไกล
ร่างกายแม้จะยังไม่เต็มร้อย
ต้องค่อยค่อยประคับและประคอง
แม้มันนี้น้ำตาอาจจะนอง
แต่ใจยังเรืองรองและสู้ทน
แข็งแรงและอดทนนะที่รัก
ทุกคนจักไม่ทิ้งเธอไปไหนหรอก
และทุกคนยังรักเธออย่างที่บอก
และจะบอกรักเธอทุกวันไป
วันเกิดเธอปีนี้อาจจะไม่ดีเท่าไรนักแต่ให้เธอรู้ไว้ว่าเราทุกคนรักและห่วงใยเธอเสมอ..รอวันที่เธอได้ออกจากโรงพยาบาลและทำกายภาพบำบัด..6  เดือนไม่นานหรอกนะ..ของขวัญที่ตัวเองอยากได้เค้าให้ตัวเองแล้วนะตามสัญญา..
สัญญาที่เคยมีไว้ยังไม่เปลี่ยนแปลงให้เธอจงเข้มแข็งไว้คนของใจ

เส้นทางที่ต้องกล้า

อัลมิตรา


จะหวาดหวั่นไปไยภัยเผชิญ
มัวขัดเขินทำไมไม่เข้าท่า
เป็นมนุษย์สุดแต่กรรมจะนำพา
สู้อุตส่าห์ประเสริฐเกิดเป็นคน
ทุกเรื่องที่ติดขัดจิตขัดข้อง
แม้มิลอง ฤๅ จะประสบผล
เจอะปัญหาคราใดให้อดทน
แล้วคิดค้นหนทางสว่างเดิน
ชั่วชีวิตปรัศนีย่อมมีบ้าง
ทะเลกว้างยังมีที่ตื้นเขิน
ตั้งสติแกร่งกล้าท้าเผชิญ
โลกเชื้อเชิญแล้วหนาอย่าหวั่นใจ
เมื่อแสงแดดแผดจ้าเริ่มปรากฏ
หมอกที่บดบังทางเริ่มจางใส
เมื่อหนทางทอดยาวจงก้าวไกล
ลุกขึ้นใหม่เถิดเพื่อนพ้องลองอีกที

ส่งใจสู่ด้ามขวาน

ทิพย์โนราห์ พันดาว


...ส่งใจสู่ด้ามขวาน...
เสียงกระสุนสาดระห่ำกระหน่ำคลั่ง
หาหยุดยั้งถาโถมเข้าโหมล่า
กลางใจเมืองระอุไอในปัตตา
ท่ามประชาแผ่วเสียงเพียงบางเบา
...มโนภาพเลือนลางร่างคลุกฝุ่น
หวนละมุนไอท้องนาแลป่าเขา
เพลงพิญแคนโหวยแว่วดังแผ่วเบา
รวยรินเล่า..ลมหายใจในกายา
..หลับเถิดหนาทหารข้า..ผู้กล้าแกร่ง
อย่างระแวงสิ่งใดในปราถนา
เจ้าพลีชีพเพื่อชาติกษัตรา
ท่าม..นคราที่รุ่มร้อนด้วยฟ่อนไฟ
อย่าห่วงเลยคนอยู่หลังจะฝังจิต
แม้ชีวิตพลีพร้อมจะยอมให้
เพื่อสยามอาณาเขตประเทศไทย
มิหวังใดกว่าจงรัก..และภักดิ
มโนภาพเลือนลางร่างคลุกฝุ่น
ไอละมุนจากห่วงใยไทยที่นี่
ส่งข้ามโขดหินผาฝ่านที
ถึงชาตรีชายชาญทหารไทย
......เหล่าทหารกรำกล้าฝ่าหาญหัก
......ไทยตระหนักคำนึงซึ้งบ้างไหม
......ทุกวันนี้ไทยผองเป็นสองไทย
......หากร่ำไรเพลงชาติ....ขาดคนฟัง
ถูกใจ ·  · แชร์

ลิขิตฟ้า...แค่โจทย์

กวีบ้านไร่


หลากหลายร้อยบทโหดเหี้ยม จากฟ้า
โหมเข้ามา จนฟันฝ่า ล่าจุดหมาย
หลายร้อยครั้งเกือบพลาด ชีพเกือบวาย
ตะเกียกตะกาย ต่อสู้ จึงเป็นคน
คำว่าคน คำนี้
ยากเกินที่จะนิยาม จึงขวายขวน
หรือนิยาม คือการต่อสู้ดิ้นรน
หรือว่าคน คือการแย่งชิงกัน
เราเป็นคน คนหนึงที่แข่งฟ้า
หลอกชะตา ที่เล่นกลย์ จนน่าขำ
ชะตาฟ้า ขีดเส้นร่าง ข้างกายนั้น
ไม่ใช่กัลย์ สุ่มร่าง โปรดก้าวเดิน
อย่ายอมให้ฟ้าลิขิตชีวิตนี้
ทุกนาที ต่อสู่น่าสรรเสริญ
หากพลาดพลั้ง อย่ารั้งจงเผชิญ
ก้าวย่างเดิน ต่อสู่ ให้รู้กัน
จริงแท้แล้วฟ้าไม่ได้ลิขิตเขียน
แต่คอยเตือนให้รู้ผล ของขันธ์
ความร้อนรุ่มสุ่มร่างเป็นไฟกัลย์
ก็เพราะนั้น ตัวเราสร้างกรรมขึ้นมา
ตนคิดก่อ อย่ารอผลกรรมที่สร้าง
โปรดจงวางแนวทาง ให้คิดหา
กรรมใดทำ กรรมใดสร้างมันขึ้นมา
สติปัญญา ฟ้าให้ มาแก้ไขดู
หากเรายอมอ่อนตามกรรมลิขิต
ทั้งชีวิตมีสิ่งใด น่าอดสู
อย่าให้ฟ้า มาขีดเส้นให้คิดดู
ก็เพราะรู้ ตัวเราลิขิต เรา
กลอนนี้มอบให้เพื่อนคนหนึ่งที่เข้ามาอ่านกลอนของกวีบ้านไร่ และขอโทษด้วยที่ไม่ได้เขียนกลอนให้ เพราะช่วงนี้ ว ๔ หนาแน่นมาก

* * * You Can Win * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ


You can win life by all means if you....
"Simply avoid two things in your life Comparing with others & Expecting from other"
You can win ได้ยินแล้ว  ต้องทำได้
กำลังใจ  เพิ่มขึ้น  หายขื่นขม
ยังมีคน  ห่วงใย  คลายระทม
ความรื่นรมย์  กลับสู่  ประตูใจ
Compare life กับใคร  ในโลกนี้
จะรู้ว่า  ชีวี  ยังสดใส
หลายล้านคน  บนโลก  โศกฤทัย
จงรู้ไว้  ว่าเรานี้  ช่างดีจริง
Don't expect  ผู้อื่น  ตามใจตัว
อย่าเกรงกลัว  มากมาย  ในทุกสิ่ง
ต่างคนต่าง  แสวงหา  ที่พักพิง
โลกความจริง  อย่าคาดหวัง  ยังผู้ใด
Sms  จากคนดี  พี่คนหนึ่ง
อยู่ไกลถึง  อินเดีย  เฮียส่งให้
หวังให้น้อง  คลายเหงา  และเศร้าใจ
คงห่วงใย  หนูหิ่ง ฯ  ด้วยเอ็นดู     ^__^

หากวันใด

กลั่นแก้ว


หากวันใดที่เธอทุกข์ท้อแท้
ขอเพียงแค่เธอนึกถึงฉันคนนี้
ยังยืนเคียงข้างเธอเสมอทุกนาที
ยังเป็นคนที่หวังดีไม่เปลี่ยนแปลง
ขอให้เธอรับรู้ไว้ด้วยเถิด
คนคุ้นเคยคนนี้ยังห่วงใย
ไม่ว่าเธอทุกข์ท้อสักเพียงใด
จะเป็นกำลังใจให้กับเธอ
........................