กลอนเสียดสี

เชือดไก่ให้ลิงดู

กุ้งหนามแดง


หลังเรียกร้องก็ได้ชัยชนะ
โดยสละเลือดเนื้อบางเสื้อสี
ประชาธิปไตยเชื่อว่ามี
การันตีโอกาสอย่างเท่าเทียม
เสรีภาพพร่ำพรอดเคยออดอ้อน
ชักร้อนร้อนหนาวหนาวคละเคล้าเหนียม
ได้แต่คิดผลิตคำผิดธรรมเนียม
จั๊กกะเดียมลมโปรยหยอกโชยดิน
มีอำนาจสมหวังก็ตั้งกฏ
ใจกบฎโยนความปรามติฉิน
หมิ่นประมาทปรักปรำขวางทำกิน
กดหัวก่อนตัดลิ้นสิ้นจุดยืน
อุดมการณ์สนธิเกียรติศักดิ์
เทน้ำหนักทางใดไม่ขัดขืน
เสมอภาคชีช้ำทนกล้ำกลืน
ขวางทางปืนรอดตายเลี้ยงไม่โต!!!
..

สังคมก้มหน้า

กุ้งหนามแดง


ไม่สนคนอยู่ตรงหน้า
ไขว่คว้าคนไกลไร้เสียง
โต้ตอบถ้อยคำลำเลียง
จ้องเพียงในกรอบชอบจริง
หลงใหลได้ปลื้มลืมกิจ
เสพติดมาร์ทโฟนโดนสิง
ตื่นมายันง่วงท้วงติง
หงุงหงิงรีรองอแง
เป็นโลกส่วนตัวหัวใหม่
ตามไล่ฝันเลี้ยงเหวี่ยงแห
โลกจริงละเลยเหลียวแล
ตอแยแค่จ่ายรายเดือน
ขอเธอจำแนกแยกแยะ
โลกและสังคมเสมือน
ต่างเห็นคุณค่ามาเยือน
ลืมเลือนเกลื่อนกลบ.ทบทวน
..

มรดก

กุ้งหนามแดง


นี่คือความเจริญที่เดินพร้อม
กับภาวะจำยอมแห่งหนี้สิน
ห้าสิบปีผ่อนพลางร่างฝังดิน
จะได้ยินเสียงใดจากปลายทาง
สมัยแม่คิดแค่มีรถด่วน
ถึงกระอักกระอ่วนล้วนถือหาง
เพื่อต้อนรับ AEC เร็วรี่วาง
ระบบรางตามรัฐพัฒนา
ในวันนี้ส่งผ่านสารจากแม่
เยี่ยมหรือแย่คิดถูกไหมลูกจ๋า
ขอให้เจ้าเข้าใจเจตนา
ไม่ก่นด่าเย้ยหยันบรรพชน
อนุสรณ์รถไฟความเร็วสูง
ยกประโยชน์ชักจูงฝันฟุ้งขน
เป็นศูนย์กลางอาเชียนแลกเปลี่ยนคน
สำเร็จผลตามเป้าหรือเปล่าดาย..
..

เลือกไปก็เท่านั้น

วิทย์ ศิริ


เลือกไปก็เท่านั้น
คนหน้าเดิมมันบงการ
วางแผนตราบเท่านาน
มีสายป่านอันยาวไกล
เลือกไปก็เท่านั้น
ไม่ว่าฉันหรือใครใคร
ได้พวกหน้าเดิมไง
ทั้งเสือกไสทั้งมาเอง
เลือกไปก็เท่านั้น
บทเรียนเก่ามันครื้นเครง
กินกันไม่ยำเกรง
ช่างข่มเหงน้ำใจกัน
เลือกไปก็เท่านั้น
รู้ทันมันสู้อดกลั้น
ก่อกรรมอย่างล่ำสัน
หวังโทษทัณฑ์สักวันเยือน
เลือกไปก็เท่านั้น
วาดสวรรค์ฝันสะเทือน
ตื่นมาต้องย้ำเตือน
ระอาเอือมเบือนหน้าหนี
เลือกไปก็เท่านั้น
ใครเพื่อนกันมันบายศรี
ใครศัตรูสู้ราวี
หาคนดีจากที่ใด
เลือกไปก็เท่านั้น
ไม่หมดยุคทุกข์แบบไทย
การเมืองแบบสาไถย
ไร้จริงใจใครศรัทธา
เลือกไปก็เท่านั้น
อย่าหุนหันมันอุตส่าห์
กับดักเลือกเฟ้นมา
หมายสวา-ปามทั้งเมือง

บ่นออกเฟซ

สีอำพัน


..มานั่งคิดสิทธ์อะไรไปสอนสั่ง
จึงต้องนั่งวางท่าทำหน้าเฉย
ช่างมันซะใช่ธุระปล่อยละเลย
ผลลงเอยเพื่อนเที่ยวพาลประจานตน
..ภาษิตไทยน้ำใสจึ่งไว้นอก
ดังท่านบอกห้ามพูดร้ายขยายผล
หยุดป่าวร้องฟ้องเรื่องร้ายทำลายตน
หมั่นฝึกฝนสิ่งใดควรล้วนเรื่องดี
..ละเรื่องลบหยุดสาวใส้ให้กากิน
คำติฉินหรือควรคู่คิดดูถี
มีใครบ้างเห็นใจเล่าเจ้าคนดี
หยุดซะทีเลิกเล่าขานประจานตัว
..วันหนึ่งใดต่อไปในวันหน้า
เรื่องวันนี้จะพาส่งผลชั่ว
โพสต์เรื่องดี ส่งเสริมดีมีแก่ตัว
พร่ำบ่นมั่ว พ่นทุกยามงามหน้าเอง

ถึงฤดูกาล ....อีกแล้ว

อิสรชัย รัตน


สวัสดี พี่น้อง ผองมิตร
ทักทายกัน ใกล้ชิด มิตรสหาย
มีโครงการดีเด่นให้มากมาย
เพียงจำไว้ เข้าคูหา กาทันที
โครงการผมทำได้ไร้รอยต่อ
เพียงแม่พ่อ พอใจไม่แหนงหนี
ให้ผมได้รับใช้ เลือกผมที
สิ่งที่ดี จะตามมา หาเร็วพลัน
เลือกผมไป ทำงาน สานต่อเนื่อง
เร่งสร้างเมือง ให้ก้าวหน้า ดั่งพาฝัน
เมืองหลวง ประเทศไทย เติบใหญ่ครัน
ผมมุ่งมั่น ทุ่มเท ทุกเวลาเสียงปี่กลอง
เพลงหาเสียง สำเนียงฉาว
มากเรื่องราว หลากหลายคำ นำกล่าวหา
เพียงเพื่อตน ได้ทำงาน พร่ำพรรณนา
อดีตนั้น อย่ากล่าวหา ไม่น่าชม
แม้ประวัติด่างเสีย อย่าได้คิด
แม้อดีต เคยทำผิด คนด่าขรม
อย่าไปย้อน ให้รำคาญ ด้านมืดมน
ปัจจุบัน ผมเป็นคน ดีจริงจริง
เชื่อคำผม เถิดพี่น้อง  เชื่อผมเถิด
ขอให้ผม ได้เกิด สร้างทุกสิ่ง
เลือกเบอร์ผม เถิดหนา อย่านอนนิ่ง
ผมไม่ทิ้ง แน่นอน ประชาชน

* อธิปไตยไร้เสรีภาพ *

แก้วประเสริฐ


* อธิปไตยไร้เสรีภาพ *
อยุติธรรมนำหน้าเสรีภาพ
เหม็นโฉ่ฉาบตุลาการผ่านรักษา
สร้างความดีได้ชั่วมั่วทุกครา
ยากจะหายุติธรรมนำปกครอง
สิ้นนับถืออันธพาลผ่านครานี้
ไร้ศักดิ์ศรีความชั่วกลั้วเกิดสนอง
ฝากความหวังครั้งใดคล้ายละออง
สร้างหม่นหมองแบ่งชั้นกลั้นน้ำตา
ประชาธิปไตยไหนใคร่มองเห็น
ทุกประเด็นสร้างไว้ไร้สิ่งหา
อันความหวังผ่านไปไร้ราคา
สิ้นศรัทธาเหลือทนของคนดี
ความโป้ปดมดเท็จดั่งเห็ดสล้าง
งามกระจ่างดังเดือนเหมือนสุรสีย์
แผ่กระจายทั่วไทยกระจายมี
มองทุกที่ประหลาดดารดาษตา
คนทำดีเหมือนได้คล้ายสิ่งชั่ว
ถูกเขามั่วเหลือเกินเมินรักษา
เกลื่อนไปด้วยหมู่มารผ่านอหังกา
อดทนฝ่าเพื่อหวังสร้างธิปไตย
เสรีภาพฉาบไว้คล้ายน้ำตาล
แต่ไม่หวานคนชั่วมั่วหวั่นไหว
ทุกวันนี้เขย่าบ้านผ่านแกว่งไกว
ยากหวังได้อิสระมาครอบครอง
ล้วนแต่พวกมารเหล่าเฝ้าครอบงำ
สร้างสิ่งช้ำทำลายให้มาสนอง
เฝ้าปั่นหัวพวกไว้ให้คึกคนอง
ต่างยกย่องเป็นพ่อแม่แท้จริง
ประชาธิปไตยอิสระชนปนอนาถ
แค่ภาพวาดให้งามหยามทุกสิ่ง
ประหลาดหนอเมืองไทยไร้ที่อิง
มีพวกปลิงเสรีภาพฉาบล่อลวง.
*  แก้วประเสริฐ. *

ชั่งใจ

กุ้งหนามแดง


ฆ่าตัดตอนละครสามตอนจบ
แล้วสยบข่าวลือมือสังหาร
ยกเรื่องราวทายท้าบรรณาการ
เสียงวิจารณ์ลุกลามจนข้ามแดน
เสรีภาพเข้าปิ้งสิ้นติงไหว
สวนประชาธิปไตยที่แห่แหน
ลดศรัทธาบั่นทอนจนคลอนแคลน
เข้าใจแก่นจริงแท้ฤาแค่เงา
เชือดไก่ให้ลิงดูต่างรู้สึก
ยึดขวดหมึกเปิดสาดกระดาษเผา
ปากกาด้ามสุดท้ายข้างกายเรา
จะโยนเข้ากองไฟหรือใช้งาน
อยู่กันอย่างหลอนหลอกถูกฟอกขาว
ต่อปรองดองชั่วคราวใต้ร้าวฉาน
เมื่อสงบภาคบังคับขยับลาน
ความจริงย่อมคืบคลานประสานเฟือง!!!
..

...ตำนานเกินไป...

dark side of mind


...
มีแต่เจ๊ากับเจ๊งเซ็งไม๊เจ๊
เล่นแต่เล่ห์กับเหลี่ยมอันเหี้ยมโหด
คอยปั้นเรื่องปั้นราวมากล่าวโทษ
ปลุกให้โกรธให้เกลียดเบียดเบียนกัน
เก่งทั้งโกงทั้งแก้แต๊แต๊เจ้า
เรื่องพิพาทกลับงี่เง่าโง่เข้าขั้น
เรื่องสอพลอจ้อถวายเป็นรายวัน
เรื่องสร้างสรรค์กลับแบนแสนระกำ
กล่าวถึงใครที่ไหนอย่างไรนี่
จะยุคโน้นยุคนี้มีซ้ำซ้ำ
ใช่จะมาตอกลิ่มคอยทิ่มตำ
แค่ตอกย้ำตำนานนักการเมือง

ฉายา.. ว่ากันไป

ศรีสมภพ


ฉายา " การเมือง "
ฉายาว่าไว้              หลายฝ่ายการเมือง
มากมายหลายเรื่อง  ประเทืองปัญญา
“ ละครคนจน ”        ไม่พ้นเน่าหนา
มายาดราม่า              ดารามากมาย
ราคาค่าข้าว              จำนำค้ำขาย
โรงสีสบาย                กำไรกำรี้
น้ำท่วมร่วมแล้ง       ร้ายแรงเหลือที่
น้ำตาท่วมปรี่           ไม่มีข้าวขาย
ละครคนจน             ทุกคนทนไป
ปีหน้าฟ้าใหม่           ปลูกขายอีกที !
“ สภา ” หน้าฉาก      มีมากหน้าที่
หลังฉากไม่มี            ชีวิตชีวา
“ ซอมบี้ ” ถูกปลุก    ให้ลุกขึ้นฆ่า
ไม่มีราคา                 อาสาให้นาย
ประทุประท้วง           ก้าวล่วงหยาบหลาย
ต่อหน้าท้าทาย          ลงท้ายฟ้องความ
“ ฝ่ายรัฐ ” ก่อร่าง     ขึ้นห้างช่างค้ำ
ร่วมเวรร่วมกรรม     ต่างทำต่างถอย
จับปลาสองมือ            ต้องถือมือค่อย
จำใจไม่ปล่อย           จำถอยเพราะปอด
โลงผุผีเน่า                งานเข้าตลอด
จำใจจำกอด              อิดออดพรอดพร่ำ
สัญญาว่าไว้               เปลี่ยนได้ไม่ย้ำ
จำเป็นเปลี่ยนคำ       จำใจลงเรือ
“ ฝ่านค้าน ” ฉันหล่อ นั่งรอกินเหยื่อ
ท่าเก่าเน่าเบื่อ           เล่นเผื่อมีโชค
ติดหล่มความหลัง       ไม่ยั้งคลั่งโขก
บลั๊บท่านายก              ฉกฉวยเสียดสี
ดึงขาหน้าขวาง            ไม่วางวาที
ปิดทุกวิถี ..                 อย่ามีที่ไป
ฉายานี้หนอ                มก. ว่าไว้
แต่งกลอนค่อนใส่       อย่าได้ว่

บอกแล้วไง..ไม่เป็นไร..สักหน่อย

มวลภมร


o ไม่เป็นไร สักหน่อย เรื่องแค่นี้
ก็แค่อยู่ ดีดี เธอหนีหาย
ไม่เป็นไร ไม่มี แแผลทางกาย
พักสักหน่อย ค่อยหาย อย่าเอ็นดู
o ไม่เป็นไร สักหน่อย ไม่เป็นไร
เจ็บเจียนตาย ก็ยัง หายใจอยู่
ไม่เป็นไร หรอกนะ จงรับรู้
ก็ยังหาย ใจอยู่ ยังไม่ตาย
o ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร จริงจริงจ๊ะ
ก็เจ็บนะ แต่ว่า ยังทนไหว
คำสามคำ จำไว้ ไม่เป็นไร
ไม่ต้องการ ให้ใคร เวทนา
o ไม่เป็นไร บอกว่าไม่ เป็นไรเล่า
ก็ใจเรา ยังอยู่ กับเราหนา
แค่ใจเจ็บ ช้ำหน่อย ธรรมดา
พลาสเตอร์ยา ปิดไว้ ก็หายเอง
o ไม่เป็นไร จริงจริง เชื่อบ้างสิ
แค่ตำหนิ ในใจ ไงคนเก่ง
ไม่เป็นไร มั่นใจ ใจนักเลง
มันเจ็บเอง ก็หายเอง “ไม่เป็นไร”
.....19/11/12....

ฮาโลวีนไทยแลนด์

ศรีสมภพ


“ ฮาโลวีน ”  วันฉลองของผีผี
ตำนานมีที่เมืองนอกบอกเล่าขาน
กุศโลบายเลิศล้ำ เพื่อสำราญ
ปล่อยวิญญาณกลับบ้านเก่าเล่าต่อกัน
แดร๊กคิวล่า แวมไพร์ ไอ้ครูเกอร์
ลองมาเจอผีไทยใครแน่นั่น
ฝีฝรั่งผีจีนแขกแหกตากัน
ผีไทยนั้นเล่ามันส์หลายในตำนาน
ผีกระสือ.. คือผีหญิงหัวซิ่งได้
ลากตับไตใส้พุงมุ่งลอยผ่าน
ผีกระหัง.. คือชายชู้อยู่ร่วมบ้าน
ต่างชอบทานของคาวสดซดเลือดกิน
ผีกองกอย.. ชอบกระโดดโปรดอยู่ป่า
มีหน้าตาคล้ายลิงค่างต่างคนสิ้น
ผีโขมด.. เป็นเขมรเล่นแลบลิ้น
ทำตาปลิ้น เรียกผีโพงคงเข้าใจ
กุมารทอง.. จากท้องกลมอาคมกล้า
คนโหยหาเมตตาคุณหนุนโชดได้
ควายธนู.. ตะปูโลงป่าช้าไทย
เสือสมิง.. วิ่งหลบหาย เจอควายธนู
นางตะเคียน.. ผีพื้นบ้านตำนานเล่า
เป็นหญิงสาวสะสวยยิ่งสิงไม้อยู่
นางตานี.. ผีต้นกล้วยสวยน่าดู
ผีโบราณชาวบ้านรู้ ไม่หลู่นาง
ผีแม่นากพระโขนง.. โด่งดังสุด
วัดมหาบุศย์พระโขนง คงศาลสร้าง
เป็นหนังผีที่ทำเงินเกินหมายวาง
เป็นผีนางที่รักผัว แม้ตัวตาย !
ผีปอบ..  ชอบของสดปรากฏอีสาน
ไร้ตัวตนสิงคนบ้านมานานหลาย
แต่ผีเปรต..โปรดของทาน ต้นตาลอาย
เปรียบคนตาย ไปอบายภูมิรุมขอกิน
ผีตาโบ๋.. ผีตายโหง.. ผีตายห่า
ผีเรือนผีป่า ผีเป้า เล่าไม่สิ้น
ผีขนุน.. สนามหลวงลวงชายกิน
ผีพนัน.. มันโกงสิ้นกินหมดตัว !
ผีหลากหลายในตำนานเล่าผ่านเล่น
แยกให้เห็น เพื่อสนุกทุกถ้วนทั่ว
แต่ผีหก.. ตกเป็นทาสอนาถชัวร์
เป็นผีชั่ว สิงคนเป็น เห็นนมนาน
ผีที่หนึ่ง- "

เชิญ เลือกเอา

บุญพร้อม


ก็เห็นอยู่โต้งโต้งมันโกงชาติ
ยังปล่ออยขาดคดีความตามที่เห็น
กินป่าไม้หินทรายหลายประเด็น
ยังปล่อยเร้นหลบได้ ไร้น้ำยา
เราพูดมากลากปืนมายืนจ้อง
พวกเอ็งต้องหุบปากหากกังขา
เดี๋ยวจะโดนไข้โป้ง จบชีวา
อย่านินทารู้ไว้ใครคือนาย
ปากก็สอนกันไว้ให้รักชาติ
เป่าประกาศอย่าให้ใครไปขาย
เอาเข้าจริงเผยไปมีแด่ดาย
ไม่ก็ย้ายที่ทางถูกขังคุก
พูดกับทำแตกต่างกันอย่างนี้
ก็เห็นทีดีไป  คงไร้สุข
หากจะดีแล้วต้องเสี่ยงความทุกข์
เลิกเถอะลูกหลานข้าอย่าทำเลย
รู้รักษาตัวรอดนั่นยอดนัก
นี่คือหลักเขากระซิบหยิบมาเผย
มัวหลงลมชมเขาเราจะเชย
ถูกมันเย้ยเอาได้เมื่อปลายมือ
เหมือนปู่ไงล่ะหลาน   ห้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

กิน

แก้วประภัสสร


แสวงหาประโยชน์เือื้อ.......ญาติกา
ยกเหล่าทูนกันมา..........รอบข้าง
หมุนเวียนเปลี่ยนพฤกษา....ร่วงผลัด
จริงเท็จยกมาง้าง.........ประโยชน์นั้นผดุงผองฯ
ศรัทธาจักเกิดได้..........ฉันใด
หากกิเลสครองใจ..........ยากรู้
ความโลภเกาะเนื้อใน.....เกินสลัด
เถิดขี่หลังเสือสู้..........รีบร้อนลงไฉนฯ
กินปูนกินป่าไม้...........กลืนถนน
ความลับปิดปูดปน........ยักไว้
กินเถิดอย่ากังวล.......จะนิ่ง  เฉยนา
ฝนตกชะล้างได้........ผิดนั้นบ่เผยฯ
@ แก้วประัภัสสร @ 28/07/2555

โง่เขลา

น้ำแข็งไส


ไม่ได้โกรธที่เธอไม่จริงจัง
แต่โกรธเธอที่คิด..ฉันโง่เขลา
พูดอะไรเชื่อฟัง..ดูงี่เง่า
หูเบาเชื่อคำเธอหลอกลวง
เธอก็โกหกตอแหลไปวันๆ
บอกว่ารักฉันอย่างงั้น อย่างงี้
ดอกทองเกินหน้าเกินตา..พ่อตัวดี
กำลังโกรธแบบนี้..ต้องตบด้วยส้นตรีน!

ประชาธิปไตยยายกะหลาน

ศรีสมภพ


ประชาธิปไตยแบบไทยๆ.. ฟังยายเล่า
เป็นเรื่องยาวเก่าก่อนยังอ่อนหัด
สลับร่างนั่งเก้าอี้ มีปฏิวัติ
เข้ากุมรัฐ เหมือนกันหมดประโยชน์ท่าน
หญิงชรา.. ทำหน้าเศร้านั่งเล่าเรื่อง
ถึงการบ้านการเมืองเรื่องพ้นผ่าน
จากจุดเริ่ม ถึงจุดนี้ที่ยาวนาน
มีเหตุการณ์ ผ่านดีร้ายให้ติดตาม
เปลี่ยนระบอบ.. สมบูรณาญาสิทธิราชย์
มีประกาศปฏิวัติคณะราษฎร์สยาม
สู่ระบอบประชาธิปไตยให้งดงาม
เจริญตามอารยประเทศเหตุผลนั้น
๒๔ มิถุนา ๒๔๗๕ ....
ปักต้นกล้าประชาธิปไตยให้ตั้งมั่น
ร่างกฎหมายธรรมนูญหนุนรัฐบาล
เข้าบริหารบ้านเมืองสืบเนื่องมา
ยายได้รู้ได้เห็น..เรื่องหลายหลาก
มีแบ่งพรรค มีแบ่งฝ่ายหลายปัญหา
มีประท้วง มีล้มล้าง ต่างๆนาๆ
เปลี่ยนไปมาเปลี่ยนกันเล่นเช่นละคร
ยามเลือกตั้ง..ก็ยังเห็นอยู่เช่นนั้น
ถ้าเลือกมันจะเจริญมีเงินฟ่อน
พูดจาดี มีโค้งไหว้มือไม้อ่อน
ซ้ำบทตอน ละครเก่าเน่านานมา
๘๐ ปี .. ยายเฝ้าดูจึงรู้เห็น
ทุกสิ่งอย่างก็ยังเป็นเช่นนี้หนา
ก่อนอย่างไรก็อย่างนั้นไม่พัฒนา
เช่นต้นกล้าถูกรากินจนแคระแกร็น
ก่อนจะตายยายจะบอกให้หลานรู้
เพราะต่างตู่ เอามาอ้างอย่างมีแผน
เอาอัตตาประชาธิปไตยมาใส่แทน
ชาติจึงคลอนง่อนแง่นไม่แน่นหนา
หญิงชรา..นัยน์ตาเศร้ายังเล่าเรื่อง
หมุดทองเหลืองพื้นถนนสนามเสือป่า
สัญลักษณ์หมุดหมายชี้..เสรีประชา
นับเวลาอายุยาว.. เท่ากับยาย !
..............................................................................
วันนั้น.

หมาเห่าใบตองแห้ง

กันนาเทวี


หมาเห่าใบตองแห้ง
อาทิตย์อัสดงลงเหลื่ยมเขา
เสียงหมาเห่ากลางลานม่านไม้ไหว
แกรกแกรกแกรกแหวกหาว่าอะไร
.สัญชาตญานสั่งให้ไล่ล่าตาม
ก็แค่เห่าใบตองจ้องจ้องขู่
ที่รู้รู้ใครใครไม่เกรงขาม
ที่ป่าวร้องเสียงแหบหลายโมงยาม
เขาประณามหมาเห่าเขารำคาญ
เห่าประกาศศักดาบ้าอำนาจ
นี่แหละชาติสันดานเดรัจฉาน
หวงลาภยศหวงของเขตภิบาล
ใครอาจหาญบุกมาข้าเอาตาย
ต่างระแวงเกรงกริ่งชิงแข่งขัน
เข้าประจัญรุกรบจนเสียหาย
จิตอิจฉาจึงกล้าและท้าทาย
ลืมความหมายชีวิตลืมคิดตรอง
หมาเห่าใบตองแห้ง เป็นสำนวนที่เปรียบเทียบกับสุนัขที่ชอบเห่าใบตองแห้ง คือเห่าใบกล้วยที่แห้งติดอยู่กับต้น เวลาลมพัดใบกล้วยแห้งจะแกว่งหรือเสียดสีกัน มีเสียงแกรกกราก สุนัขเห็นอะไรไหว ๆ หรือได้ยินเสียงแกรกกรากก็จะเห่าขึ้น แต่ก็เห่าไปอย่างนั้นเอง ไม่กล้าไปกัดใบตองแห้ง
กิริยาของสุนัขนี้จึงนำมาเปรียบกับคนที่ชอบพูดจาเอะอะในลักษณะที่อวดตัวว่าเก่งกล้า แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ได้กล้าสมกับคำพูด
แต่ปกติถ้าเป็นสุนัขที่ได้รับการฝึกมาก่อนนะ เช่นสุนัขตำรวจ หมานายพรานมักใช้จมูกได้ไว และแม่นมาก ถ้าเห่าแล้วก็แสดงว่าเจองู แย้ กระต่าย หรืออะไรสักอย่างแน่ๆ แล้วแต่สายพันธุ์
หน้า / 4  
ทั้งหมด 63 กลอน