tiki
ในสายวันหนึ่งคุณติ๋มก็โทรศัพท์มาแจ้งให้ทราบว่า
วันนี้ ได้เรียนให้ คุณหญิงจรัสศรี .ทราบว่าเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งชื่นชอบผ้าไทยเป็นที่ยิ่ง จะมารับประทานน้ำชาบ่ายด้วย
คุณหญิงจรัสศรี .จะมีการขัดข้องไหม..? ท่านก็รับคำโดยดี ...เราทั้งสองจึงไปถึงคฤหาสน์งามนั้น หลังเที่ยงสักเล็กน้อย
คุณหญิงจรัสศรี . เป็นผู้กุลีกุจอเดินออกมาต้อนรับเอง...เธอในชุดเสื้อขาวแขนสั้น ยาวแค่เอวเข้ารูป ชายเสื้อเป็นการถักโครเชต์ต่อไปเป็นเส้นคล้ายลายน้ำไหล ลงไปเหนือสะโพกเล็กน้อย
ผ้าถุงที่เธอส่วมนั้น เป็นสีน้ำตาลไหม้ ตัดเย็บประณีตพองามกับสัดส่วนงดงามของเธอ ท่าทีรีบสวมรองเท้าแตะมาต้อนรับหน้าประตูที่กำลังเลื่อนออกไปด้วยพลังงานไฟฟ้า นั้น...แตกต่างจากคุณหญิงอื่นซึ่งเคยพบเห็นมาโดยสิ้นเชิง...
เธอช่างจริงใจกระไรอย่างนั้น...
ในยามบ่ายวันนั้น เราได้อ่านบทกวี ไทย อังกฤษของเธอ หลายเล่ม น่ามหัศจรรย์ในความสามารถอันน่าทึ่ง ซึ่งสามารถถ่ายทอดความรู้สึกสูงส่งด้านพุทธศาสนา และ จิตใจ แม้นความทุกข์ระทมของเธอออกมาได้อย่างงดงาม
หลายครั้ง ที่เธอนำขึ้นไปห้องแต่งตัว ชั้นบน รื้อค้นผ้า ไหม ผ้าทอมือ มากมาย ส่วนใหญ่ ก็เป็นผ้าลายน้ำไหล ที่เธอสวมอยู่
ฉันสัมผัส เส้นฝ้ายดิบสีน้ำตาลไหม้ ...นั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ
นั่งฟังเธอบรรยาย ถึงผู้หญิงสูงอายุท่านหนึ่ง....ผู้มีวิถีชีวิตเรียบงาม ริมน้ำปิง..
.ผู้หญิงคนเงียบสงบคนงามนั้น กับ กี่กระตุก และ หีบทอผ้า และ แนวการย้อมสีจากสมุนไพรและดอกไม้พื้นบ้าน
คือที่มาของผ้าลายน้ำไหลนั้น
**...ไปเถอะค่ะ ไปพบ ป้าเธอเถิด ไปถ่ายรูปเธอไว้ ไปสัมภาษณ์เธอมา หาวิดีโอไปถ่ายเธอสิคะ ...ถ่ายไว้ก่อนไม่ได้พบเธออีกนะคะ..**
คุณหญิงจรัสศรี .วางผ้าผืนสีน้ำเงิน ลายทอเส้นสีขาวนวล และ ชมพูจาง สอดผสานในเนื้อผ้า พร้อมทั้ง ผ้าผืนสีน้ำตาล เหมือนที่เธอสวมนั้น มาบนมือฉัน ...ให้ได้รับสัมผัสอันงามซึ้งใจนั้น..
นับเป็นวันแรก และก็ดูเหมือนจะเป็นวันสุดท้ายที่ได้เข้าไปพบเธอ คุณหญิงจรัสศรี .....กวีคนงาม
`*:-.ฤา,_,.-:*``ฝันนั้น*:-.,_,.-:*``มิใช่สิทธิ์ *:-.,_,.-:*``*:-ของฉัน ? ,.-:
*``*:-.,_,.-::-.,_,.-:*``*:-
ทิกิ_tiki