7 พฤษภาคม 2547 16:53 น.

หนึ่งชีวิตจากค่ายผู้นำ

jata

หนึ่งชีวิตในค่ายผู้นำเยาวชน
.....การเรียนรู้ที่ไม่ใช่เพียงท่องตำรา
ประสบการณ์ที่เงินซื้อไม่ได้
ความทรงจำที่เปี่ยมด้วยมิตรภาพของเพื่อน
ความอบอุ่นที่ได้จากคนที่รักเราอย่างน้องแท้ๆแม้คนละสายเลือด
และนี่คือสิ่งที่ท่านจะรับรู้ได้เมื่อได้มาใช้ชีวิตอยู่ใน  ค่ายผู้นำเยาวชน
	จากวินาทีแรกที่ได้ทราบว่าจะได้ไปเข้าค่ายผู้นำเยาวชนที่พัทลุง  และได้ทราบลายละเอียดของการเข้าค่ายแล้วยิ่งทำให้อยากไป  เพราะว่ากิจกรรมที่ระบุมานั้นน่าสนใจทั้งสิ้นและคาดว่าเมื่อได้ไปเข้าค่ายจริงทุกอย่างน่าจะสนุกตามที่ได้คิดไว้อย่างแน่แท้
	เมื่อได้มาเข้าค่ายปรากฎว่าผลที่ออกมานั้นเกินคาดเพราะนอกจากจะสนุกแล้วการเข้าค่ายครั้งนี้ยังมีของฝากให้เอากลับมาบ้าน  นั่นคือมิตรภาพระหว่างเพื่อน  มิตรภาพระหว่าพี่น้อง  ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามากว่าราคาค่างวดใดใดทั้งสิ้น
	พี่ค่ายของค่ายนี้ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองได้สมกับคำว่าพี่มากๆเพราะทุกคนให้การดูแล  เอาใจใส่  และห่วงไยน้องๆทุกคนอย่างดีเยี่ยม จรึงไม่ใช่เรื่องยากนักที่พี่ๆทุกคนจะสามรถครองใจบรรดาน้องค่ายเอาไว้ได้  หากแต่มิใช่เพียงการเอาใจใส่เท่านั้นที่สามารถทำให้พี่ค่ายสามารถครองใจน้องค่ายได้  แต่เป็นเพราะพี่ค่ายทุกคนสามารถที่จะเเสดงให้บรรดาน้องค่ายได้เห็นว่าทุกอย่างที่พี่เอามาสอนน้อง พี่ต้องทำได้ และต้องทำให้ได้ดีเป็นตัวอย่างของน้องให้ได้  ไม่ใช่เอามาสอนแล้วตัวเองทำไม่ได้ 
	พี่นกซึ่งเป็นพี่ค่ายที่มีตำแหน่งเป็นนายกสโมสรนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์  มักจะมีคำพูดดีๆที่ให้แง่คิด และเป็นแง่คิดที่เราสามารถดึงเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง   อาทิ 
 การจะเป็นผู้นำที่ดีได้นั้น เราต้องเข้าไปนั่งในใจของผู้ตาม ไม่ใช่เข้าไปนั่งบนหัว ประโยคนี้หมายความว่าเราต้องซื้อใจคนรอบข้างเราให้ได้ ให้เข้าทำงานกับเราด้วยใจ ไม่ใช่เพราะเกรงกลัวอำนาจของเรา เพราะงานทุกอย่างที่คนเราใช้ใจทำ มักจะมีคุณภาพเสมอ
  การเป็นผู้นำไม่จำเป็นว่าจะต้องทำทุกอย่าง แต่ต้องรู้ให้ได้ทุกอย่าง ประโยคนี้หมายความว่าผู้นำไม่จำเป็นต้องทำงานทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว ผู้นำมีหน้าที่แบ่งงานให้ผู้ตามทำ และควบคุมดูแลงานนั้นให้ประสบผลสำเร็จ แต่งานทุกอย่างนั้นตัวผู้นำเองจะต้องทำได้ เมื่อมีคนมาถามจะต้องตอบได้และสามารถที่จะให้คำแนะนำที่ดีในการทำงานนั้นๆได้
จากที่กล่าวมาคงจะไม่ใช่เรื่องแปลกที่พี่ค่ายจะสามารถครองความศรัทธา ความเชื่อมั่นจากน้องค่ายได้ การเข้าค่ายผู้นำเยาวชนครั้งนี้ได้พาพวกเรามาพบกับการเป็นผู้ตามที่ดีในค่าย ก่อนจะก้าวไปสู่การเป็นผู้นำที่ดีในชีวิตจริงได้
นอกจากความประทับใจเกี่ยวกับพี่ค่ายที่มีมากมายแล้ว  ความประทับใจในมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอดระยะเวลา 6วัน5คืน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน มีทะเลาะเบอะแว้งกันบ้างตามประสาคนที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันแต่สุดท้าย  เพื่อนๆทุกคนทั้ง19ชีวิตที่ได้ไปเข้าค่ายด้วยกัน ต่างมีสิ่งหนึ่งให้กัน นั่นคือ มิตรภาพ  ตำราและหนังสือหลายต่อหลายฉบับกล่าวไว้ว่า เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก แต่ในขณะที่อยู่ในค่ายนี้ทุกคนเท่าเทียมกันหมด ลำบากก็ลำบากเหมือนกัน  การที่มีเพื่อนในยามลำบากก็คงจะไม่ห่างไกลนักจากคำว่าเพื่อนแท้  แม้จะมีเรื่องผิดใจกันบ้างแต่เรื่องราวเหล่านั้นกลับทำให้ความสำพันธ์นั้นแนบแน่นยิ่งขึ้น แม้เวลาจะมีเพียงน้อยนิด แต่ก็เป็นเวลาที่สามารถทำให้พวกเราทุกคนเจอเพื่อนแท้อีก18คน
จะอย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทุกชีวิตในค่ายเกิดความรู้สึกดีดีต่อกัน  ทำให้เกิดคำว่าความ     ผูกพัน เกิดมิตรภาพดี คือกิจกรรมในค่ายซึ้งทุกกิจกรรมในค่ายนี้ล้วนแต่ฝึกฝนให้เราเป็รผู้นำที่ดีแทบทั้งสิ้น  ไม่เว้นแต่กิจกรรมนันทนาการที่สนุกสนานก็แฝงไปด้วยเรื่องราวดีดีเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี 
การบรรยายจากวิทยากรแต่ละท่านไม่ว่าจะเป็น เรื่องธุรกิจ  sme  การบรรยายเรื่องการเป็นผู้นำที่ดี และการบรรยายในเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ทุกทุกเรื่องล้วนแต่ส่งเสริมให้ชาวค่ายทุกคนเป็นผู้นำที่ดี  สำหรับตัวข้าพเจ้าเองได้ความรู้มากมายจากการฟังบรรยายในครั้งนี้  ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้รับฟังความรู้จากผู้ประกอบการจริง เรียกว่าเรียนรู้จากเรื่องจริงไม่ใช่เรียนรู้จากกระดาษสีขาวและหมึกสีดำในหนังสือเรียน 
หลังจากกลับจากค่ายก็ต้องไปโรงเรียนทันที  มุมมองในการทำงานกลุ่มตอนเรียนเปลี่ยนไปทันที  จากที่เคยรับมาทำเองเสียก็เปลี่ยนเป็นมานั่งคุยกันทุกคนและแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อยใช้ความสมัคใจของทุกคนในกลุ่มในการเลือก และสุดท้ายเมื่องานเสร็จผลที่ออกมาดีมากและทุกคนในกลุ่มล้วนแต่มีความภูมิใจกับงานที่ออกมาทุกคน  นี่คือการหยิบเอาความรู้ที่ได้จากการเข้าค่ายมาใช้ประโยชน์  ทั้งในเรื่องของการเป็นผู้นำและผู้ตามเพราะในการทำงานครั้งนี้ ไม่มีหัวหน้า  แต่ทุกคนต้องเป็นได้ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันคือ เป็นผู้นำที่ดี และเป็นผู้ตามที่มีประสิทธิภาพ 
ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีสองด้านมีทั้งด้านที่ดีและไม่ดี  สำหรับจุดบกพร่องของค่ายนี้เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมกระทันหันทำให้เกิดเรื่องติดขันบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกสนานลดลง คิดอีกแง่หนึ่งการที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้เรารู้จักแก้ไขสถานะการเฉพาะหน้าซึ้งในชีวิตจริงทุกคนต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อย่างแน่นอน
นี่เป็นเพียงแค่หนึ่งคำบอกเล่า
ใช่เรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาหรือเรื่องขัน
หากแต่เป็นเรื่องดีดีไว้แบ่งปัน
			เรื่องสุขสันต์น่าจดจำจากค่ายเรา
                                   ค่ายแห่งความผูกพัน...ค่ายผู้นำเยาวชน...#666FF				
9 เมษายน 2547 20:29 น.

เธอจะรักไหม

jata

นักเรียนเคารพ
สวัสดีค่ะ(ครับ)คุณครูเจี๊ยบ
ดูภายนอกแล้วคุณครูเจี๊ยบ สาวสวย หมวย เซ็กซ์   คนนี้ออกจะเฮี๊ยบๆ ดุดุ  ต่างกับครูสอนอนุบาลทั่วไปแต่ใครจะไปรู้ละว่า  สาวเจี๊ยบคนนี้ชอบเที่ยวกับเพื่อนๆเป็นฝูงใหญ่  ทุกทุกคืนจะพบกลุ่มนี้นั่งเม้าเฮอากันอยู่ที่ผับคาวบอย  ซึ่งเป็นผับชื่อดังสไตล์คาวบอย  ที่นี่สาวเจี๊ยบของเราหมดสภาพครูสาวสุดเฮี๊ยบ
	ในแก๊งของสาวเฮี๊ยบ เอ้ย เจี๊ยบ  มีด้วยกัน 7 คน เป็นชาย 3 หญิง 4
	ก้อย สาวสวยร่างอวบอึ๋ม  เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆก็เธอนะอารมณ์ดี  คุยเก่ง ฮาได้ทั้งวันจนบางครั้ง  อาการฮาแหลกของเธอ  ออกจะขัดๆกับหน้าสวยๆของเธอ
	เจน สาวสวยที่เรียบร้อยที่สุดในกลุ่ม  ขี้อาย  นิสัยดี  มีหนุ่มๆมาตอนฃมไม่แพ้ยัยก้อยเลยทีเดียว
	บุ๋ม สาวเปรี้ยวหุ่นเพรียว ที่แต่ละคนในกลุ่มพากันอิจฉา  แต่ด้วยหน้าตาที่ดูจะหยิ่งๆของเธอ  ทำเอาหนุ่มๆหัวหดกันเป็นแถว
	สาวคนสุดท้ายของกลุ่มคือ เจี๊ยบ สาวห้าว  ที่บางครั้งบ้าๆบวมๆ  รายนี้เป็นขาลุยแต่มักจะเจอเรื่องหน้าแตกประจำ  แม้เธอจะดูเป๋อที่สุดในกลุ่ม  แต่เธอก็คือคนที่มีหนุ่มหล่อมาจีบมากที่สุด  ก็เธอนะออกจะ  ขาว สวย หมวย เซ็กซ์  แล้วยังเป็นขาลุย แบบนี้เลยโดนใจหนุ่มๆเข้าอย่างจัง  แต่ยัยนี่ไม่ยักกะสนใจใครเลย
	รู้จักกับสาวๆในกลุ่มกันไปแล้วคราวนี้ก็ถึงตาหนุ่มหล่อของกลุ่มกันบ้าง   โอ้พระเจ้าจอร์ท  อะไรมันจะขนานนั้นทั้งกลุ่มมีแต่คนหน้าตาดีหมด  เอาละมารู้จักกับหนุ่มคนแรกเลยดีกว่า
	หนุ่มหล่อที่สุดในกลุ่ม  เพราะเขาสุดแสนจะสำอาง  จนมีน้องเทยติดเป็นแถวยาวยิ่งกว่า  รางรถไปสายมรณะที่คร่าชีวิตโกโบริของเราเสียอีก  แต่สุดท้ายหนุ่มหล่อคนนี้ก็สยบราบแทบเท้าของสาวบุ๋ม กระเทยสาวหุ่นดีเซ็กซี่ เอ้ย ไม่ใช่  สาวสวยหุ่นดีในกลุ่มนั่นแหละ  แหมอะไรมันจะน่าอิจฉาปานนั้น  สาวสวยกับหนุ่มหล่อ
	เค ชื่อเต็ม ทาเคชิ เป็นลูกครึ่งไทย เกาหลี  หนุ่มเจ้าสำราญ  ที่เจ้าชู้สุดฤทธิ์  แต่จะว่าพ่อหนุ่มคนนี้ฝ่ายเดียวก็ไม่ได้  คงเป็นเพราะหน้าตาที่เกินคำว่าใช้ได้  บวกกับบุคลิกที่สมาร์ตโดนใจสาว  แถมพ่วงด้วยนามสกุลดัง  เลยทำให้นายนี่เนื้อหอมมีแมลงวัน  เอ้ย สาวๆมาตอมเพียบ และทุกคนก็จะจบลงด้วยคืนอันโรแมนติก  
ณ. โรงแรงสุดหรู  แต่ทั้งใจของนายเค คนนี้มีเพียงสาวร่างอวบอึ๋ม  ผิวขาวเนียน  อารมณ์ดีอย่างยัยก้อยเป็นเจ้าของ  ก็ตั้งแต่รู้จักกับยัยก้อยนายนี่ก็ถอดลายเสือหนุ่มทิ้งอย่างว่าง่าย  แถมยังเป็นคนขี้หึง  ก็จะอะไรได้ สาวก้อยของเรานะซี่ มีหนุ่มตามเป็นคันรถ  แถมสาวเจ้ายังยิ้มหวานให้กับทุกคน  นี่ละน้านายเค  เค้าเรียกว่าเวรกรรมมันมีจริง
	มาถึงหนุ่มคนสุดท้ายที่เป็นทายาทตระกูลดัง  แต่กลับทำตัวติดดิน  แถมยังทำตัวจิ๊กโก๋ ขับมอเตอร์ไซน์คันใหญ่ยักย์  นุ่งกางเกงหนังสีดำสนิท  พร้องเสื้อหนังตัวเก่ง  โอ้พระเจ้าจอร์ท  คนอะไรมันจะเท่ปานนั้น  นาย บิ๊ก ของเรา
แม้จะโดนสาวที่ไหนกรี๊ดเขาก็ไม่เคยหวั่น เพราะใจทั้งใจของเขามีเพียงสาวเจน ผู้เรียบร้อย  ผู้ที่สองตาคมของเขาจ้องมองตั้งแต่แรกเจอ..เธอ..ผู้ที่เขาบอกกับตัวเองว่า  คือคนที่เขาจะมอบชีวิตทั้งชีวิตให้เธอ  แต่ช่างน่าสงสารหนุ่มหล่อหน้าเข้มคนนี้เสียจริงๆ  เพราะสาวเจนเรียบร้อยเกินไปที่จะบอกว่า..รัก..เขา  แม้เข้าจะพร่ำบอกเธออยู่ทุกวัน  แต่การกระทำของสาวเจน  ก็พอจะทำให้นายบิ๊กของเราชื้นใจอยู่บ้าง  เพราะลูกคุณหนูเรียบร้อยอย่างสาวเจน  ยอมนั่งซ้อนท้ายเค้าทุกวัน  คุยโทรศัพท์กับเขาก่อนนอนทุกคืน  และที่สำคัญเข้าเจอสมุดบันทึกของเธอที่เขียนว่า    เข้าจังๆ (อาจจะเป็นเพราะสาวเจนจงใจให้เห็นเองมากกว่า) ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าสาวเจนรักเขาเหมือนกัน อิอิ  แล้วเขาก็ได้แต่นึกทะเล้นในใจว่า เวลาเจนนั่งซ้อนท้ายเหมือนขึ้นสวรรค์เลยวุ้ย  ก็มันออกจะนิ่มนี่หว่า 
แต่ละคนในกลุ่มก็มีคู่กันหมดแล้ว  เหลือเพียงแต่สาวเจี๊ยบของเรา ที่ไม่ยอมตกลงปรงใจกับใครสักทีก็ไม่มีใครโดนใจเธอเลยนี่นา
เอ๊ะ ทำไมคืนนี้ยัยเจี๊ยบมาช้าจัง เสียงสูงๆของสาวบุ๋มดังขึ้น  แต่เพียงไม่กี่อึดใจเสียงมือถือของเจนก็ดังขึ้น  พร้องกับเสียงของสาวเจี๊ยบที่ดังมาตามสาย
ฮัลโหล   เจนคืนนี้เจี๊ยบไปไม่ได้นะ  โอ้ยเสียดาย ก็คืนนี้วันเกิดของหนูหญิงเด็กนักเรียนในห้องอะ คุณแม่เขาโทรมาชวนเราจะขัดก็ไม่ได้  โอ้ยน่าเบื่อจริง ต้องทำหน้าครูเฮี๊ยบอีกแล้ว แค่นี้ก่อนนะเราหาเอ่อ..เอ่อ..ไอ้นั่นอะไม่เจอ วันนนี้วันมามากเสียด้วย แหะแหะ  บายจ้า
ครูเจี๊ยบสวัสดีค่ะ เสียงกล้าๆกลัวๆของหนุหญิงดังขึ้น  พร้อมๆกับสายตาของสายตาของนักเรียนในห้อเกือบทุกคนที่มาในงานนี้  แต่เธอจะต้องกลัวอะไรก็ในเมื่อแขกในงานทุกคนนะลุกศิษย์เธอทั้งนั้น แต่เอ๊ะ! ไม่ซิ มีสายตาคมคมคู่หนึ่งที่ทำให้ครูสาวจอมเฮี๊ยบของเราต้องยืนตัวแข็ง
นายนายโย   เธอพูดด้วยเสียงที่สั่นๆเกมตกใจเล็กน้อย  แต่ยังเป็นนางสิงห์อยู่ 
ทันใดนั้นก็มีเสียงทุ้มๆตอบมาด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนจะยียวนกวนประบาทว่า
สวัสดีคร๊าบบบบบบบบ  ครูเจี๊ยบ  โอ๊ะโอ ผมไม่ยักกะรู้นะครับนี่  ว่าคุณครูเจี๊ยบจอมเฮี๊ยบที่ยัยหนู้หญิงหลานสาวผมเล่าให้ฟังนะ  จะเป็นคุณเจี๊ยบหน้าหวานคนนี้ 
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ทะเล้นจนทำให้เด็กๆในงานพากันมองหน้าครูสาวของพวกเขาที่บัดนี้อายจนหน้าแดงแล้วขำออกมา  เธออายจนต้องเข้าไปลากเจ้าของเสียงนั้นไปคุยหน้าบ้านเพื่อหลบสายตาน้อยๆเหล่านั้น
นี่นาย อยู่ที่ผับฉันจะเป็นยังไงก็ได้  มันก็เรื่องของฉัน  แต่อยู่ต่อหน้าเด็กๆนะ ฉันต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นกุลสัตรีนะเข้าใจมะ เธอพูดพร้อมกับสะบัดผมที่ก่อนหน้านี่เคยทำทรงแบบบาดใจแม่แต่ตอนนี้กลับปล่อยยาวสลวย
โห คุณเจี๊ยบคราบ  ทำอย่างนี้เท่ากับหลอกลวงเด็กนะคราบ  แล้วอีกอย่างคราวนี้ก็ถึงคิวผมบ้าง ก็ที่ผับวันนั้น คุณพูดสะผมอายคนทั้งผับ เรื่องอะไรมาหาว่าเราเป็นเก  คุณยังไม่พิสูตรเลยนะ  จะลองดูก่อนไหมคร๊าบบบ
เขาพุดแกมหัวเราะพร้อมทั้งทำหน้าทะเล้นใส่เธอ
อ้อ  จะให้นายโชว์ว่าระบำแบบ คาบาเล่ เป็นนะเหรอ ไม่ต้องหรอกนะ  ฉันเชื่อจริงๆๆว่านายเป็นเก  อืมเชื่อๆๆ  เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ยียวนกวนประสาทออกไป  แม้ว่าใจจริงของเธอนั้นสุดแสนจะอาย
***หน้าขาวๆเริ่มมีสีแดงเรื่อๆเข้มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่น่าแปลกที่หนุ่มตรงหน้าวึ้งได้แต่จับจ้องมองเธออยู่จะรับรู้ได้  ส่วนเธอเองนั้นก็มีเพียงคำถามเกิดขึ้นในใจว่า..ทำไมเราต้องเขินจนหน้าแดงด้วยนะ  ใจมันเต้นโครงครามแปลกๆ อะไรกันนี่ฉันไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนี่นา..
 
อะไรกันนี่คุณ พูดแค่นี้ถึงกับหน้าแดงเลยเหรอ
	ไม่เพียงเท่านั้นพ่อหนุ่มโยของเรา  ยังพูดพลางขยับเข้ามาใกล้เธอ  เอ๊ะนั่นมือเข้าจับเอวเธอ(ปกตินายนี่ไม่เคยทำรุ่มร่ามกับใครมาก่อนเลยนี่นาแล้วทำไมคราวนี้มันนึงหน้าหม้อจังละนี่)มืออีกข้างหนึ่งของเขาก็ไม่ได้อยู่เฉยๆเลยมือหนึ่งของเขาเชยหน้าเธอขึ้นมา(เรื่องราวต่อไปนี้เด็กไม่ถึง15ปีไม่ควรอ่าน 555) ว่าแล้วเค้าก็ก้มลงเอาจมูกไปชนแก้มขาวๆของเธอ
	ผมผมขอโทษเขารู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่พบว่าหญิงสาวตรงหน้ายืนตัวแข็งสั่นงกๆ หมดสภาพของครูสาวผู้สุดแสนเฮี๊ยบ 

**/**เรื่องราวต่อไปจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ตัวคุณสำหรับผู้หญิงเราให้คุณเป็นครูเจี๊ยบว่าจะรักหนุ่มโยหรือไม่
	สำหรับผู้ชายคุณจะมัดใจสาวคนนี้หรือไม่เราให้คุณเป็นคน เลือก**/*				
30 มีนาคม 2547 11:28 น.

ขอโทษที่ล้ำเส้น

jata

เจ เด็กสาวคนหนึ่งที่หน้าตาเป็นแบบลูกเป็ดขี้เหร่  เธอไม่ได้มีอะไรดีเลยรูปร่างนั้นก็ค่อยไปทางเจ้าเนื้อนี่คือพูดให้มันน่ารักนะ  จริงๆแล้วยัยจาตานะอ้วนเลยทีเดียวละ  แถมผิวพรรณก็ไม่ได้ทีเลย  ดำเข้าไปอีกเรียกว่าครบสูตรแห่งการขี้เหร่เลยทีเดียว  คนอะไรเกิดมาไม่มีอะไรดีสักอย่าง
บ้านของเธอฐานะก็ไม่ดี  แต่น่าแปลกใจว่าทำไมมีคอมพิวเตอร์ใช้สงสัยคนที่บ้านเธอจะเห็นว่าเธอนะพอมีดีอยู่บ้างก็ตรงที่เรียนใช้ได้เกรดดี  จึงซื้อให้กระมั้งก็เธอนะป่นอยากได้ตลอดเวลาเลยนี่นา
เธอเป็นคนที่นิสัยเอาแต่ใจ  จึงทะเลาะกับคนในครอบครัว คือ พ่อกับแม่ พี่ชาย และพี่สาว  เธอเกลียดคนในบ้านทุกคนเพราะนิสัยที่ดื้อรั้นหัวชนฝาของตัวเองและเอาแต่ใจ  ที่ไม่ยอมฟังคำตักเตือนของทุกคนในบ้าน  แต่ในแว๊บหนึ่งๆ เธอเองก็รู้ดีว่าที่ทุกคนเตือนดุด่าก็เพราะว่ารักเธอ  หวังดีกับเธอกันทั้งนั้น  แต่จะทำไงได้คนมันจะดื้อจะเอาอะไรมาฉุดมันก็ไม่อยู่จริงไหม
การเล่นอินเตอร์เน็ทโดยใช้โปรแกรมสนทนา  ที่วัยรุ่นทั่วโลกรู้จักกันดีในนามของเพิร์ท(Pirch)  และmsnทำให้เธอได้รุ้จักกับ  บีม  คนที่สามารถคุยกับเธอได้ทุกอย่าง  คนที่เธอบอกกับตัวเองว่า เค้า คือคนที่คุมเธออยู่  ลดนิสัยของความเอาแต่ใจในตัวเธอลงได้  เป็นคนที่ทำให้เธอติดใจในการคุยผ่านอินเตอร์เน็ท(แช็ท)  เธอเอารูปเขาเข้าไปเก็บไว้ในกระเป๋าอย่างไม่รู้สาเหตุ  หงุดหงิดเมื่อไม่เจอกันในอินเตอร์เน็ท มันเป็นเพราะอะไรนะ เธอเองก็ยังงงกับอาการของตัวเองอยู่เหมือนกัน
เค้าคือคนคนแรกที่ทำให้เด็กขี้เหร่คนนึง  ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาในชีวิต  มีแต่แอบรักคนอื่นเค้าอยู่ตลอด  ไม่กล้าที่จะบอกใครออกไปเพราะความขี้เหร่ในตัวเอง  กลับกล้าที่จะบอกรักเค้าออกไป  อาจจะเป็นเพระว่าค้าไม่เคยเห็นหน้าตาของเธอ  แต่เธอก็บอกเค้าไปแล้วนิว่าเธอขี้เหร่ขนาดไหน 
***เค้าจะรักเราไหนหนอ  เท่าที่คุยกันมานะ ถ้าเราไม่คิดเข้าข้างตัวเองเราคงรู้ว่าพี่เค้าคิดกับเราแค่น้องสาวคนนึงเท่านั้นเองแต่ทำยังไงได้ละ  คนมันรักไปแล้วนี่นาจะให้ทำยังไงได้ละ ถ้าจะทนคุยอย่างนี้ต่อไปทุกคืนคงไม่ไหวเราเองโกหกหัวใจตัวเองไม่ได้หรอกนะบอกไปเลยดีกว่าว่ารักพี่แกแล้วค่อยมาบล็อกเมลล์ไว้  ทำอย่างนี้นั้นแหละดีแล้วไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว
และแล้วเธอก็ตัดสินใจส่งอีเมลล์ไปบอกเค้าว่าเธอรักเค้าพร้อมกับบอกเค้าว่าเธอและเค้าจะไม่ต้องเจอไม่ต้องคุยกันเล้วเพราว่าเธอจะบล็อกเมลล์เข้าไว้
คืนนั้นที่เธอตัดสินใจส่งเมลล์ไปให้เค้า  มันเป็นการตัดสินใจที่ทรมานมาก  เธอนั่งเขียนอีเมลล์นั้นทั้งน้ำตาคงไม่มีใครคิดว่าคนที่แต่ใจ  ดื้อหัวรั้นขาดใจอย่างยัยเจจะมานั่งร้องไห้ฟูมฟายเพราะคนที่เธอเองไม่เคยเห็นหน้า  ไม่เคยแม้แต่จะได้ยินเสียง  รวมทั้งไม่เคยรู้ด้วยซ้ำไปว่า  ทุกสิ่งทุกอย่างที่นายบีมแสดงออกมา  ผ่านปลายนิ้วลงบนแป้นพิมแล้วมาหยุดตรงหน้าจอของเธอนั้น  มันเป็นตัวตนที่แท้จริงเขาของเค้าหรือไม่  แต่ช่างเถอะในเมื่อตกหลุมเขาเข้าแล้วนี่นา แต่การนั่งเขียนอีเมลลืทั้งน้ำตาวันนั้นทำให้เธอต้องตาบวมเอามากๆ  เรียกว่าเป็นการร้องไห้ให้กับเรื่องราวของความรัก  ที่หนักที่สุดในชีวิตของยัยเจเลยทีเดียว
ปกติแล้วยัยเจจะชอบคนที่หน้าตาตลอดเลย แต่ละคนที่ชอบนับว่าสาวๆทั้งหลายกรี๊ดกันอยุ่เลยทีเดียว  ไม่น่าเลยสาวเจเรา เกิดมาขี้เหร่แล้วยังมาแอบชอบคนหน้าตาดีอีก(แอบกัดเล็กๆ)  แต่มันก็คือเรื่องปกติที่คนเราต้องชอบสิ่งที่สวยๆงามๆ  มีชายใดบ้างเล่าในโลกนี้ไม่ชอบสาวสวย  มีสาวใดบ้างในโลกนี้เล่าไม่ชอบหนุ่มหล่อ  เธอก็เป็นหญิงคนนึง ไม่น่าแปลกที่จะชอบหนุ่มหล่อ(แม้ตัวเองจะไม่สวยก็เหอะทำไงได้คนมันชอบ)
แต่สำหรับเรื่องนายบีม  เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดพอพอกับหน้าตาของยัยเจเลยทีเดียว  เพราะนายนี่หน้าตาออกจะเถื่อนๆ ดูดุดุ  น่ากลัวๆ  เขาเป็นคนตัวโตมากสุงประมาน178เห็นจะได้คนอะไรสูงเป็นบ้า แต่นายนี่มีบุคลิกดีนะตัวสูงไหล่กว้าดี  แต่มันก็ยังสู้คนหล่อๆๆที่ยัยเจกรี๊ดมาไม่ได้สักคน
คงจะเป็นเพราะความสุภาพ ความน่ารักความห่วงใย(แบบน้องสาว)ที่เค้ามีให้เธอกระมั้ง  ที่ทำให้เธอตกหลุมรักเขาอย่างง่ายดายขนาดนี้  ก็ไอ้ความห่วงใยแบบน้องสาวนี่แหละที่ทำให้เธอปวดใจเอามากๆ  ก็เธอไม่ได้คิดแบบที่เค้าคิดเลยนี่นา 
***เห้อเราทำไมต้องไปรักเค้าด้วยนะ  ทำไมต้องไปบอกรักเค้าด้วยนะ อยู่แบบเดิมนะมันก็ดีอยู่แล้วนี่นาทำไมต้องหาเรื่องใส่ตัว ไปบอกเค้าทำไม  ไม่น่าเลยฉัน  เราอยากกลับไปคุยแบบเดิมได้ไหม พี่บีมได้ไหมขอร้องกลับมาแบบเดิมได้ไหม
อาการพร้ำเพ้อคนเดียวเรื่องเกิดข้นกับคนที่ดื้อหัวรั้น หึหึ  ช่างเป็นเรื่องน่าขันเสียจริงๆคนเก่งไม่ยอมใคร  กลับมานั่งพร้ำเพ้อคิดถึงคนที่ไม่เคยเห็นหน้า  ยัยเจเอ้ย
นับจากที่เธอส่งเมลล์ไปสองวัน
***โอ้ยทำไมวันนี้แม่มาปลุกเร็วจังอะจะบ้าตาย  แต่ช่างเถอะตื่นมาแล้วหึหึเล่นเน็ทแช็ทกับเพื่อนๆเราดีกว่า  อ้อนึกออกแล้วเมื่อคืนยัยแพรเพื่อนฉันมาปรึกษาเรื่องแฟนมันนี่นา  แล้วเราดันโดนแม่ว่าอยู่เมื่อคืนเลยคุยไม่ได้ส่งเมล์ไปให้ดีกว่า  เพื่อจะหายโกรธเรา  อิอิ
นับจากที่ร้องไห้อยู่สองสันเต็มๆเธอก็ดีขี้นกว่าเดิมเพราะอย่างน้อยก็ไม่คิดถึงเขาตลอดเวลาอย่างเคย  แต่ในใจก็ถียงไม่ออกว่าเขาเข้าไปนั่งเป็นเจ้าของอยู่เต็มๆแล้ว
เมื่อต่อเน็ทได้เพียวอึดใจเดียวเธอได้ยินเสียงจากเครื่องมันเป็นสัญญาณบอกว่าขณะนี้มีเมลล์มาใหม่
***โอ๊ะโอ  วันนี้ใครส่งเมลล์มาหว่า วินาทีแรกที่เห็นชื่อเธอแทบลมจับ  พี่บีมส่งเมลล์มา 

 ไม่ค่อยได้ออนเลยไม่ค่อยได้คุยกัน    ไว้วันไหนเจอกันแล้วค่อยเม้ากันนะ    หวังว่าคงสบายดี
 
                                                                                          พี่บีม

***อะไรกันอะเราส่งเมลล์ไปบอกรักเค้านะ  เค้ากลับส่งมาแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ใช่ซิความรักที่เรามีให้มันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับ  ผู้หญิงคนนึงที่อยู่ในใจของพี่บีมมาตลอด  ทุกครั้งที่คุยกันถึงเรื่องนี้  เราเคยถามว่าแล้วที่พี่บีม เคยบอกเจว่าเคยหักอกผุ้หญิงนะมันเป็นไงเหรอหักอกเค้า  หรือเค้าหักออกกันแน่  อิอิ  แต่เค้าคงรักของเค้ามาก  เพราะเค้าบอกกับเราว่าขอโทษนะเจ พี่ไม่อยากพูดถึงมันอีกแล้ว  เหมือนอะไรมาแท้งใจอย่างจัง  เค้ายังรักเธอคนนั้นอยู่มากมายจริงๆ  ต่อให้เรารักแค่ไหนก็คงไม่มีความหมายอะไรเลยกับเค้าสินะ 
ว่าแล้วน้ำตาก็เริ่มเอ่อขึ้นเรื่อยๆ  พี่บีมทำไมทำกับเจขนาดนี้อะ ไม่รักก็บอกสิ ไม่ใช่ทำไม่รู้ไม่ชี้  สุดที่จะกลั้น ในที่สุดเธอก็ปล่อยโฮออกมาร้องฟูมฟายอย่างหมดสภาพเด็กหัวดื้อ
***เราจะลืม  เราจะลืม  เราจะลืม  ลืมคนใจร้ายที่ทำไม่รู้ไม่ชี้  กับการทรมานของบางคนที่มันสุดต้องเสียน้ำตา  จนไม่รู้ว่าจะเหลือน้ำตาไว้ร้องไห้ให้กับเรื่องอื่นอีกไหม  คนใจร้าย  แล้วค่อยเม้ากันเหรอ  ใครจะไปทำได้เราอยากรู้  บอกรักเค้าไปอย่างน่าตาเฉย  แล้วสองวันมานั่งเม้ากันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ  ขอโทษทีนะพี่บีม  เจทำไม่ได้
ผ่านมาอีกอาทิตย์  เธอดีขี้นกว่าเดิมมากแล้ว  อย่างน้อยภาพที่นั่งอยู่ดีดีแล้วน้ำตาไหลก็ไม่มีอีกแล้ว
แต่แล้วเรื่องที่เธอไม่ปรารถนาให้เกิดขึ้นเลยก็เกิดขึ้น  ตอนนี้มีอีเมลล์เข้ามาใหม่สามฉบับและหนึ่งในนั้น  คืออีเมลล์ของพี่บีม  เธอเริ่ม เลื่อนเมาส์ ไปช้าๆที่เครื่องหมายกากบาทเพื่อจะลบเมลล์นั้นทิ้ง  แต่สุดท้ายข้อความของอีเมลล์ฉบับนั้นก็อยู่ตรงหน้าเธอก็ใครมันจะลบอีเมลล์ของคนที่รักได้ลงคอจริงไหม  

หวัดดีเจ  พี่บีมเองแหละ   พี่ได้อ่านเมล์ฉบับนั้นของเจแล้วนะ  พี่ได้อ่านก้อดีใจและพอเข้าใจความรู้สึกของเจ  ยังไงถ้าวันไหนเจอยากคุยกะพี่ก็ได้เสมอ   ถ้าเจสบายใจอ่ะนะยังงัยพี่ก็เป็นเพื่อนคุยได้เสมอแหละ   แต่วันจันทร์ที่  22  มี.ค.   พี่จะไปเริ่มทำงานนะ  ไม่รู้ว่าจะว่างออนรึเปล่า  ยังงัยก็หวังว่าคงได้เจอกันอีก  พี่รอรูปเจอยู่นะ  ยังงัยก็ส่งมาให้ด้วยล่ะ   แค่นี้ล่ะกัน
 
                                                                                               พี่บีม

 	***อะไรกันอีกละนี่วันนั้นที่เค้าส่งมายังไม่ได้อ่านหรอกเหรอ  ก็ยังดีนะนี่พี่บีมไม่ได้ไม่รู้ไม่ชี้กับความรู้สึกของเราสักหน่อย  แต่ยังไงพี่บีมก็รักแฟน เก่าของเค้าอยู่ดี  จะดูรูปเราเหรอเราคงไม่ส่งความอับลักษณะ ของเราไปให้หรอกนะ  แต่ยังไงพี่บีมก็ไม่เคยทำอะไรไม่ดีเลยนา  คนที่ผิดเองคือเรา ตนที่ล้ำเส้นเองคือเรา
	นับจากที่เธอบอกรักเค้าไปเธอก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับเค้าอีก  เพราะนี่คือการตัดสินลงโทษตัวเอง  โทษฐานที่ผิด  คิดล้ำเส้นความเป็นพี่น้อง  ทำลายความรู้สึกดีดีที่เคยมีมาตลอด  จากนี้ไปจะไม่มีอีกแล้ว  พี่บีม คนที่เธอจะคุยได้ทุกเรื่อง  หวังว่าเวลาจะเป็นตัวช่วยคนเก่งหัวดื้อ  ให้กลับมาเป็นคนที่ดื้อด้าน ไม่คิดอะไรมากได้เหมือนเดิม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟjata
Lovings  jata เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟjata
Lovings  jata เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟjata
Lovings  jata เลิฟ 0 คน
  jata
ไม่มีข้อความส่งถึงjata