23 มกราคม 2547 18:15 น.

สักวัน...ฉันจะรักเธอ (ตอนที่ 4...ตอนจบ)

JoyLek

.....เปิดเทอมใหม่......
   จ้าในฐานะสต๊าฟเชียร์ของมหาวิทยาลัยรู้สึกว่าตัวเองแก่ขึ้นเยอะ เมื่อถูกเรียกว่า พี่ ทั้งจากน้องใหม่ในกลุ่มสัมพันธ์และสต๊าฟด้วยกัน
   ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้จะมีการจัดน้องใหม่เข้ากลุ่มสัมพันธ์โดยเฉลี่ยมาจากทุกคณะเพื่อเข้า เชียร์กลาง และทำกิจกรรมร่วมกัน...แบ่งกลุ่มตั้งแต่ A-Z กลุ่มละประมาณ 120 คน และมีสต๊าฟเชียร์ 5 คนเป็นผู้ดูแลน้องใหม่
   2 วันแรกผ่านไปด้วยดี เหลือวันนี้เป็นวันสุดท้ายคือ การลอดซุ้มของคณะและชมรมต่างๆ  ทุกกลุ่มต้องพาน้องใหม่ลอดซุ้มให้ได้ 6 ซุ้มเป็นอย่างน้อย...จ้ากวาดตาดูรายชื่อซุ้มที่ต้องผ่านตามลำดับ
   ...เจอกันอีกจนได้...ชมรมฮอกกี้เป็นลำดับที่ 7 ...
   จ้าภาวนาให้หมดเวลาก่อนเถอะจะได้ไม่ต้องเข้าซุ้มนี้
     กี่โมงแล้ว 
     เพิ่งบ่าย 2 เองพี่ คงต้องเข้าอีกซุ้ม ชมรมอาสาฯ ปล่อยเราเร็วไป
   จ้าถอนใจ
     เรียกน้องๆ ตั้งแถวเลย 
   มีการร้องรำทำเพลงต้อนรับเมื่อไปถึง...หน้าซุ้มขึ้นป้ายตัวอักษรใหญ่ชัดเจนว่า... 
     ชมรมฮอกกี้...นี้เพื่อเธอ
   จ้าเบ้หน้า...แค่ป้ายชื่อยังส่อแวว...
   พิธีกร 2 คนทำหน้าที่กล่าวต้อนรับและแนะนำชมรม หลังจากนั้นก็เหมือนกับซุ้มอื่นๆ คือ ให้เล่นเกมเพื่อหาคนมาทำโทษ
     เราจะทำโทษคนแพ้ยังไงดี พิธีกรทำท่านึก
     เต้นเมียงู...เต้นเมียงู มีเสียงตะโกนบอก 
   น้องๆ ในกลุ่มกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่
     เป็นความคิดที่ดี...น้องๆ เข้าแถวเรียงหน้ากระดาน ครั้งแรกจะเป็นการสาธิตให้ดูก่อน พิธีกรอธิบายคร่าวๆ 
     ถ้าพร้อมแล้ว ขอเสียงดนตรีหน่อย
   น้องใหม่หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง เมื่อหนุ่มผมยาว 2 คนแต่งตัวเป็นสาวฮาวาย ออกมาสาธิตท่าเต้นบิดตัวส่ายสะโพกอยู่เบื้องหน้า
     นี่เป็นแค่ตัวอย่าง คราวนี้น้องๆ ที่อยู่ด้านหน้าต้องเต้นให้สวยกว่านี้นะ ใครเต้นไม่สวยเราจะให้เต้นไปเรื่อยๆ  
     ขอเสียงดนตรี 
   ทั้งกลองและฉิ่งเริ่มบรรเลงเพลงจังหวะเร่าร้อน...มีเสียงซี๊ดซ้าดประกอบเป็นระยะๆ ...
   แม้ว่าน้องๆ จะเขินยักย้ายส่ายสะโพกไม่ค่อยออก แต่ก็เรียกเสียงหัวเราะและสร้างความเฮฮาได้ไม่เบา
     เป็นไงครับท่านประธาน พิธีกรถามความเห็น
   คามินส่ายหน้า
     ประธานชมรมไม่ให้ผ่านครับน้องๆ  
     อย่างนี้ต้องทำโทษพี่สต๊าฟ มีเสียงตะโกนมาอีก
     ทำโทษสต๊าฟ...ทำโทษสต๊าฟ... 
   ความคิดนี้ได้รับการตบมือและเป่าปากเห็นด้วยอย่างท่วมท้นทั้งจากน้องใหม่และคนในซุ้ม
     อ้าว...ไหงเป็นงั้น พี่ๆ ประจำกลุ่มครวญ
     เชิญเลยครับ เชิญพี่สต๊าฟด้านหนัา ขอเสียงปรบมือด้วยครับ 
   พี่สต๊าฟทั้ง 5 คนออกไปยืนด้านหน้า 
   จ้าหันไปมอง ท่านประธาน เห็นเขายักไหล่และส่งยิ้มกวนๆ มาให้
   ...อย่าให้เป็นทีฉันบ้างแล้วกัน!...
   แม้ว่าจะเต้นได้ดีกว่าน้องๆ เพราะผ่านการฝึกให้กล้าแสดงออกมาพอสมควร แต่ก็ยังถูกแกล้งจนได้
     ไม่เร้าใจ ประธานว่าอย่างนั้น
     ...มาเต้นเองสิพ่อคุณ...
     ให้ผ่านเถอะนะคะ เดี๋ยวเราต้องรวมน้องแล้ว สต๊าฟสาวส่งเสียงอ้อนขอความเห็นใจ
     ก็ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ชายหนุ่มยอมง่ายๆ และเรียกประชุมสมาชิกฯ เพื่อสุมหัวยื่นข้อเสนอ
   จ้าเริ่มหวั่นใจ คราวนี้จะโดนอะไรอีกเนี่ย...
     มติของชมรมเป็นเอกฉันท์ ถ้าอยากผ่านต้องแลกด้วยจูบคนละหนึ่งที 
สิ้นเสียงประกาศก็มีเสียงโห่ร้องกันเกรียวกราว...
   ...เฮ้ย! เล่นแรงไปหรือเปล่า...
     เอาไงดีพี่จ้า ไม่สนุกแล้วนะ สต๊าฟรุ่นน้องหน้าเสีย
     ไม่กล้าทำจริงๆ หรอก รอดูอีกสักพักว่าจะมีลูกเล่นอะไร จ้าปลอบ เพราะคิดว่านายกสโมสรนักศึกษาน่าจะบอกข้อกำหนดในการทำกิจกรรมแล้ว...แต่ถ้าหากเกินเลยกว่านี้คงต้องคุยกันบ้าง
     เราได้คัดเลือกหนุ่มหล่อมาเพื่อการนี้เรียบร้อยแล้ว...ขอเชิญพี่ปัทม์ พี่ก้อง พี่คามิน พี่บอย และพี่ดล ครับ 
   ชายหนุ่มที่ถูกเอ่ยชื่อออกมายืนประกบคู่สต๊าฟ และมีการทาลิปสติกให้ทุกคนเพื่อเพิ่มสีสัน
     ี่พี่ครับ ผม 2 คน ขอเปลี่ยนคู่เป็นผู้หญิงไม่ได้เหรอครับ สต๊าฟหนุ่มยกมือประท้วง
     เสียใจครับ สาวๆ ชมรมนี้ขี้อาย พิธีกรปฏิเสธ...บอกให้นั่งคุกเข่าหันหน้าเข้าหากันและหันข้างให้น้องใหม่เพื่อจะได้เห็นชัดๆ 
   และแล้วทุกคนรู้สึกโล่งใจเมื่อมีสาวๆ ในชมรมยืนถือกระจกใสขนาดเท่ากระดาษ A4 มาช่วยคั่นกลางระหว่างแต่ละคู่
     ...อ้อ..จูบผ่านกระจก...
     นับถึง 3 แล้วขอให้จูบพร้อมกันเลยนะครับ กติกาคือ ต้องมีรอยลิปสติกติดกระจกทั้งสองฝั่ง ถ้าคู่ไหนรอยจูบไม่ตรงกันหรือจูบไม่พร้อมกัน เราจะให้จูบซ่อมโดยเอากระจกกั้นออก 
     ถ้าพร้อมแล้ว เตรียมตัว 1...2...3 
   จ้าหลับหูหลับตาจูบลงไปบนกระจกท่ามกลางเสียงกรี๊ดเสียงลุ้นจนแสบแก้วหู
     ขอบคุณพี่สต๊าฟทุกคนที่ให้ความร่วมมือครับ
สต๊าฟสาวทั้ง 3 คนหน้าแดงก่ำ 
     ขอให้พี่สต๊าฟผู้หญิงรอก่อนนะครับ พิธีกรเรียก
   ปิดท้ายด้วยการเรียกเสียงกรี๊ดอีกรอบ โดยให้ชายหนุ่มทั้ง 3 คนของชมรมฯ คุกเข่ามอบกุหลาบให้คู่จูบของตัวเอง
   มีเสียงแซวจากพิธีกรว่า
     น้องใหม่กลุ่ม Y ผ่านไปได้ ส่วนพี่สต๊าฟเราขอยึดไว้เป็นตัวประกัน 

                                              *********************

    หลังจากผ่านซุ้มสุดท้ายมาแล้วก็เป็นการพาน้องใหม่มารวมตัวกันเพื่อไหว้เจ้าพ่อมอดินแดง... ที่นี่จะมีรุ่นพี่จากทุกคณะมารอรับน้องเพื่อพาไปเข้าคณะอย่างเป็นทางการ
   จ้าเดินหลบหลีกนักศึกษาไม่ต่ำกว่า 3,000 คนออกมาสูดอากาศข้างนอก...หน้าที่หมดแล้วสำหรับวันนี้เมื่อน้องใหม่ในกลุ่มสัมพันธ์ทยอยแยกย้ายกันไปหารุ่นพี่ตามคณะของตนเอง
   เสียงกลองและร้องเพลงเชียร์ดังกึกก้องทั่วบริเวณศาลเล็กๆ แห่งนี้...
     มีเรื่องจะคุยด้วย คามินจอดรถขวางหน้า
   จ้ายืนนิ่ง ไม่ยอมขยับ...จนมือแข็งแรงนั้นทำท่าจะเอื้อมมาคว้าแขน
   หล่อนขยับออกและตวัดสายตาขุ่น เพราะไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัว
     ขึ้นรถ ชายหนุ่มเสียงขุ่นไม่แพ้กัน 
   คามินขับรถมาจอดในบริเวณสวนสุขภาพ ซึ่งวันนี้ผู้คนที่มาออกกำลังกายค่อนข้างบางตา เนื่องจากนักศึกษาส่วนใหญ่ไปรวมตัวอยู่ที่ศาลเจ้าพ่อมอ
   จ้านั่งบนเนินหญ้าข้างลู่วิ่ง ขณะที่ชายหนุ่มนั่งบนเบาะรถมอเตอร์ไซค์...
ผ่านไปเกือบ 10 นาที  ทั้งคู่ยังนั่งเงียบ
      มีอะไรก็พูดมาสิ ในที่สุดจ้าก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหว
     จ้าจะเอายังไง 
     จ้าสิที่ต้องเป็นฝ่ายถาม จ้าขึ้นเสียง
     พี่...เอ่อ..ทำแบบนั้นทำไม หล่อนลดเสียงลง และพอนึกได้ว่ายังถือกุหลาบที่ได้รับเมื่อบ่ายอยู่ในมือก็ยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีก
     พี่ชอบจ้า เขาตอบช้าๆ ชัดเจน
     พี่เอาคนอื่นไว้ที่ไหน จ้าสบตาเขาอย่างเอาเรื่อง
     พี่ไม่มีใคร 
   หญิงสาวยิ้มหมิ่นๆ 
     ไม่มีตอนนี้ใช่ไหม 
     ทำยังไงถึงจะเชื่อ ต้องให้สาบานหรือให้เพื่อนพี่มายืนยันไหม คามินถามประชด
     แน่ใจ หล่อนถามย้ำ
     แน่ใจ
     เฟื่องหล่ะ 
   คนอื่นไม่มีความหมาย แต่เฟื่องคือคนที่จ้าแคร์ที่สุด...อย่างน้อยก็เป็นเพื่อน ไม่อยากจะมองหน้ากันไม่ติดเพราะผู้ชายคนเดียวเป็นเหตุ
     ไม่มีอะไร เคยรับไปกินข้าวดูหนังครั้งสองครั้ง แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันเป็นปีแล้ว 
     ไม่ได้เป็นแฟนนะ 
     จ้านี่แหละคนแรก 
   หล่อนอึ้ง...เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
     แล้วรู้ไหมว่าต้องทำตัวยังไง 
     ลองพูดมาสิ จ้าอยากให้พี่ทำยังไง 
   ...ขออะไรดี...จ้านิ่งไปพักใหญ่
   ...อีตานี่มีข้อเสียซะจนลำดับไม่ถูก 
     ห้ามเจ้าชู้...ต้องไม่มีคนอื่น 
   คามินพยักหน้ารับข้อเสนอ
     และห้ามให้สาวๆ ซ้อนรถด้วย 
     ขออะไรไม่เห็นได้เรื่อง เขาทำเสียงตำหนิ
     ทำได้ไหมหล่ะ 
     ถ้าเจอเพื่อนเดินข้างทาง หรือขอให้ไปส่งจะทำไง 
     เพื่อนกับสาวๆ พี่แยกไม่ออกหรอกเหรอ.... จ้าถามหมิ่นๆ 
     ว่าไงทำได้ไหม 
     แล้วจ้าทำได้หรือเปล่า ถ้าพี่ขอสัญญาแบบเดียวกัน 
     พี่ขอจ้าเป็นแฟนนะ จ้าไม่ได้ขอซะหน่อยทำไมต้องสัญญา 
     ตัวเองยังไม่กล้าสัญญาแล้วจะขอพี่ฝ่ายเดียวได้ยังไง...คนเราจะพูดจะสัญญาอะไรก็ได้ในวันนี้ แต่ต่อไปอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้า จ้าจะรู้ได้ยังไงว่าพี่จะรักษาสัญญา...พี่ไม่ให้สัญญาอะไรทั้งนั้น แต่จะให้จ้าดูการกระทำของพี่เอาเองในวันข้างหน้า
   แม้จะไม่เห็นด้วยทั้งหมด แต่จ้าก็นึกหาประโยคมาค้านเขาไม่ได้
     เป็นแฟนกันต้องทำยังไงบ้างหล่ะ ไม่เคยมีนี่ หล่อนหลับตาค้อน
   คามินส่ายหน้านึกขัน...
   ...ยัยนี่รู้อะไรนอกจากสิ่งที่อยู่ในหนังสือบ้างไหมนะ...
     อย่างแรกเลยต้องหัดเชื่อใจกัน มีปัญหาต้องคุยต้องปรับความเข้าใจ เขาอธิบายตาพราว
     ไม่หูเบา และอย่าเชื่อคนง่ายด้วยใช่ไหม 
     ถูกต้อง ผู้หญิงมักทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่...เพื่อนแหละตัวดีบางทีก็หวังดีมากจนทำให้ทะเลาะกัน พี่ไม่อยากให้จ้าเชื่อคนอื่นมากกว่าฟังจากปากของพี่ 
   จ้าพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะทบทวนทำความเข้าใจ
     ต้องทำหูหนวกตาบอด ถ้าเพื่อนบอกว่าเห็นแฟนเราควงสาวอยู่โทนโท่ แต่แฟนยืนยันว่าเป็นเพื่อนก็ต้องเชื่อว่าเป็นเพื่อน...โอเค..เข้าใจ...มีอะไรอีกไหม 
          ป๊อก!
     ทะเล้นนัก คามินตีหัวด้วยดอกกุหลาบที่อยู่ในมือหล่อนนั่นแหละ
     แค่นี้ใช่ไหม กลับได้หรือยัง จ้าเริ่มตาปรือ
     ไม่หิวเหรอ 
     ง่วง...เหนื่อย 
     ตามใจ พี่ก็จะแวะไปดูน้องที่คณะด้วย จะไปรับกินข้าว 2 ทุ่มนะ 
     ฮื่อ จ้าขึ้นรถง่ายๆ ...รู้สึกง่วงเต็มที  

     จ้าชอบพี่บ้างไหม 
     .................. 
   หล่อนไม่มีคำตอบให้สำหรับคำถามนี้...ไม่อยากโกหกตัวเองและโกหกเขาด้วย
     มิกซ์เลิกกับแฟนแล้วนะ คามินไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องบอกหล่อน
     เกี่ยวอะไรกับจ้าหล่ะ ใจกระหวัดถึงชายหนุ่มคนนั้น
     มันชอบจ้า 
   หญิงสาวรู้สึกเหมือนเลือดร้อนๆ สูบฉีดไปทั่วตัวกับสิ่งที่ได้รับรู้...
   ...เขาน่ะหรือชอบหล่อน?
   ...ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
   ...ทำไมไม่เห็นเขาพูดอะไรเลย?
   จ้าครางในอก...แต่จะมีประโยชน์อะไรเล่าในเมื่อทุกอย่างมันสายไปแล้ว! 
     พี่ก็เลยจะยกจ้าให้พี่มิกซ์งั้นสิ 
     ถ้าจ้าจะเปลี่ยนใจยังทัน คามินข่มอารมณ์น้อยใจเปิดโอกาสให้หล่อนเลือก
     งั้นก็ไปบอกพี่เค้ามากอดจ้าสิ จ้าจะได้เป็นแฟนด้วย หล่อนประชด
     จ้าตัดสินใจแน่แล้วใช่ไหม เขาถามเหมือนไม่แน่ใจ
     โอ๊ย! จะถามอีกนานไหมคนง่วงนอนจะตายอยู่แล้ว จ้าโวย
     ครับๆ ... กลับเดี๋ยวนี้เลยครับผม คามินยิ้มจนแก้มบุ๋มลึกลงไป
     ...มีลักยิ้มด้วยแฮะ......จ้าเพิ่งสังเกตว่าเขายิ้มสวยก็วันนี้เอง...

   แม้วันนี้ยังมีหลายสิ่งที่ยังตอบหัวใจตัวเองไม่ได้ แต่จ้าก็มั่นใจว่าในอนาคตอันใกล้นี้คงจะมีคำตอบที่ชัดเจน
   พี่มิกซ์...หนุ่มขาวตี๋...แม้หน้าตาหรือความคมคายจะสู้คามินไม่ได้ในสายตาของคนทั่วไป แต่เขาก็คือ สเปก ที่จ้าฝังใจมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ และคงจะไม่มีวันลบเลือน
   ชีวิตจริง กับ ความฝัน บางครั้งก็ไม่มีวันที่จะเวียนมาบรรจบพบกันได้
และวันนี้จ้าก็เลือกแล้วที่จะเดินออกมาจากความฝัน...
   หล่อนรู้ว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้ชีวิตของหล่อนจะเปลี่ยนไป...หนทางข้างหน้ายังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...แต่จ้าก็พร้อมที่จะรับมือหากคามินยังจดจำคำพูดของเขาในวันนี้ได้...
   
        คามิน ชายหนุ่มตรงหน้านี้ต่างหากเล่า คือ ชีวิตจริงของหล่อน! 
 
                                   ********************* จ บ ********************


*หมายเหตุ...

        จากวันนั้นคามินใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอยู่ปีเศษ จึงได้ยินคำว่า รัก จากปากของจ้า 
        ปัจจุบันทั้งคู่ใช้เวลาดูใจกันมาครบ 9 ปีแล้ว และกำลังวางแผนจะแต่งงานในปี 2548

ส่วนคนอื่นๆ ...
         พี่ดล...ยังหล่อเหมือนเดิม ปัจจุบันทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยลอยไปเรื่อยๆ  (หลังจากถูกสาวพยาบาลหักอก)
         ชายหนุ่มผมยาว...ปัจจุบันไม่หล่อแล้ว อ้วนขึ้นเยอะ (ถูกสาวคณะเกษตรฯ หักอกอีกคน) และยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน
         พี่ปัทม์...เพิ่งมีแฟนคนแรกเป็นของตัวเองเมื่อต้นปี 46 (แฟนหน้าตาน่ารักด้วย)... เป็นคู่รักที่หวานแหวว (ถึงขั้นเลี่ยน) ซะจนเพื่อนๆ หมั่นไส้
         แอ๋ม...มีแฟนคนแรกเป็นนักศึกษาเทคโนโลยีราชมงคล แต่ถูกหลอกจนเสียผู้เสียคนไปพักใหญ่  ปัจจุบันมีแฟนเป็นลูกจ้างชั่วคราวของมหาลัย และอายุน้อยกว่า 3 ปี  เธอพยายามจะบอกว่าแฟนเธอหล่อมาก..ก..(แต่ทุกคนปฏิเสธหัวชนฝา) 
         และสุดท้าย พี่มิกซ์ ความหล่อลดลงจนน่าใจหาย ตอนนี้ค่อนข้างปล่อยเนื้อปล่อยตัวมาก หาเค้าเดิมแทบไม่เจอ ...จนถึงปัจจุบันยังไม่มีแฟน...				
22 มกราคม 2547 17:42 น.

สักวัน...ฉันจะรักเธอ (ตอนที่ 3)

JoyLek

งานเลี้ยงปีใหม่ของชมรมฮอกกี้ จ้าถูกแอ๋มลากมาด้วยเช่นเคย
     ฉันไม่ใช่สมาชิกซะหน่อย จ้าบ่นอยู่ท้ายรถมอเตอร์ไซค์โดยมีแอ๋มเป็นคนขับ
     ใครๆ ก็พาเพื่อนไปทั้งนั้นแหละ พาคนนอกไปได้ คนเยอะๆ สิสนุก วันนี้จะเลือกประธานชมรมคนใหม่ด้วย
     ใครมีสิทธิ์ลุ้นบ้างหล่ะ 
     ก็ถูกเสนอชื่อหลายคน ไม่รู้สิ ใครเป็นก็ได้ทั้งนั้นแหละ ขอไว้คนเดียวอย่าให้เป็นพี่มานุ
     ทำไม พี่แกก็ดูแอกทีฟดีออก 
     ขี้โม้จะตายตัวเองเก่งอยู่คนเดียว เขาหมั่นไส้ทั้งชมรม แอ๋มทำปากยื่น
     แอ๋ม... จ้าตบไหล่เพื่อนเบาๆ
     อะไร
     ใครน่ะแอ๋มมายืนทำอะไรมืดๆ ตรงนั้น จ้ากระซิบกระซาบหวาดๆ
     ไหนๆ 
     ตรงแปลงกุหลาบน่ะ คนหรือเปล่า 
     ไม่รู้โว้ย อย่าพูด 
   แอ๋มกลั้นใจบิดรถมาจนถึงห้องชมรม
     หนีอะไรมา 
     ไม่รู้พี่ ไม่รู้ผีหรือคนเห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่ตรงแปลงกุหลาบ จ้าหน้าตื่น
     อ๋อ...ไอ้คามินกับสาว สมาชิกชมรมหัวเราะเป็นที่สนุกสนาน
   บางคนแอบเปิดม่านดู เพื่อรายงานความคืบหน้า 
     มาแล้วๆ ผู้สื่อข่าวร้องบอก 
   คามินเปิดประตูเข้ามาด้วยหน้าตาเรียบเฉย...นั่งลงข้างๆ ปัทม์
     น้องหล่ะ ดลกล้าถามเป็นคนแรก ขณะที่คนอื่นๆ ทำท่าไม่สนใจ แต่เห็นได้ชัดว่าเงี่ยหูฟังกันทั้งห้อง
     กลับแล้ว 
     ไม่ไปส่งเหรอ 
     มีเพื่อนมาด้วย 
     น้องเขาลากแกออกไปทำไม ดลรุกเข้าไปอีกขั้น 
   คามินกวาดตามองสมาชิกคนอื่นๆ...ต่างหลบตาทำท่าสนใจกับอาหารและเครื่องดื่มตรงหน้า
     เขามาถามว่าจะเอายังไง 
     ห๊า! กล้าหาญจริงสาวๆ สมัยนี้ ปัทม์แซว
     แล้วแกว่าไง ถามอย่างอยากรู้เต็มที่
     ก็ไม่ว่าไง กันไม่ได้คิดกับน้องเขาแบบนั้นนี่ และอีกอย่างกันก็ยังไม่อยากมีแฟน 
   จ้าอยากย้อนนัก
     ...แล้วพี่ท่านไปจีบหาสวรรค์วิมานอะไร...
      แล้วไงต่อๆ 
     ไม่มีอะไร เขาก็กลับ 
     ง่ายๆ อย่างนี้นะ เพื่อนๆ ทำเสียงผิดหวัง
     เสียดายอ่ะน่ารักขนาดนั้นทำไมไม่บอกว่ายังมีหล่อๆ อีกเพียบในชมรมว๊า หลายคนบ่นกระปอดกระแปด
     น้ำแข็งหมดใครไปซื้อที ประธานชมรมร้องบอกไปทางกลุ่มชายหนุ่ม
     มึงไปเลยไอ้ปัทม์ มึงไป 
     กูง่วง ขับรถไม่ไหว 
     ไอ้ดล 
     ไม่เอาโว้ย กูหนาว ถ้าจะให้ไปต้องมีสาวซ้อนท้าย 
   ผลคือ แอ๋มสะกิดยิกๆ อยากไปซื้อน้ำแข็ง  แต่ประธานชมรมฯ ไม่รับมุข
     แอ๋ม โน่นมุมโน้น ปรุงยำรสแซ่บจะเกิดประโยชน์กว่าน้องรัก แอ๋มเดิน  หน้าง้ำไปรวมกลุ่มกับสมาชิกสาวๆ ที่กำลังช่วยกันลำเลียงอาหารและทยอยส่งมาเรื่อยๆ	
จ้ายิ้มแหยๆ เมื่อเหลือคนเดียว จึงค่อยๆ เลื่อนตัวตามแอ๋ม
   คามินมองหน้ากับมิกซ์ แล้วต่างก็เมินหน้าไปคนละทาง
     คามิน 
      ครับ 
     รีบกลับมานะ 
   เขาคว้ากระเป๋าสตางค์ที่ถูกโยนมาให้ง่ายๆ 
     น้องจ้าหิ้วน้ำแข็ง 
     จ้าจะช่วยแอ๋ม แต่เมื่อเห็นสายตาของท่านประธานแล้วก็จำต้องรับคำอย่างเสียไม่ได้ 
                                              *********************

   คามินขับรถออกมาตามถนนอย่างไม่เร่งรีบ
     หนาวไหม เขาหันมาถาม
      เฉยๆ 
     ทำไมต้องหลบหน้า 
     ไม่ได้หลบ 
     แต่ไม่ยอมคุยด้วย เขาต่อให้
     เก็บกุหลาบได้กี่ดอกแล้ว 
     ไม่ได้นับ 
   หากไม่คิดว่าเป็นการเสียมารยาทเกินไป จ้าก็อยากจะบอกว่า...ไม่ได้มองดูด้วยซ้ำ
   ยัยแอ๋มเป็นคนจัดการทั้งสิ้น...ตั้งแต่รับกุหลาบมาจนกระทั่งหาตะกร้าใบเล็กๆ  ใส่ และวางไว้ที่โต๊ะอ่านหนังสือให้
...อยากส่งมาก็ตามใจ...ดูสิว่าจะส่งได้นานสักแค่ไหนถ้าหล่อนไม่เล่นด้วยซะอย่าง 

   ขับรถไปได้สักครู่ คามินก็ดับเครื่อง
     รถเสียเหรอ 
     เปล่า 
     ไปต่อสิ จ้าชักระแวง 
     อยากขับไหม
     หือ จ้าทำเสียงไม่แน่ใจ
     หัดขับรถไง 
   จ้าพยักหน้ารับงงๆ ....
     ...ใจดีอะไรนี่...
     ขับไม่เก่งนะ จะดีเหรอ กลัวชนคน 
     ถนนโล่งไม่เป็นไรหรอก ขับช้าๆ เดี๋ยวก็คล่อง
     ...แค่จะสอนขับรถทำเอาตกอกตกใจหมด...
     สตาร์ทไม่ติด มือใหม่หัดขับพูดอ่อยๆ
     เพิ่มแรงขึ้น 
   หล่อนพยายามอีกหลายครั้ง จน ครูฝึก ทนไม่ไหวต้องเข้ามาช่วย
   แรกๆ ก็ยังขัดๆ เขินๆ แต่พอเริ่มคุ้นเคยก็ชักติดใจ
     จ้าลดความเร็วลงหน่อย 
    คนขับทำตามแม้จะรู้สึกขัดใจ...อยากบิดเร่งให้เร็วๆ มากกว่า
     จ้า
     อะไร ถามโดยไม่ยอมละสายตาจากถนน
     ดูนี่สิ คามินพูดแผ่วๆ อยู่ข้างหู...น้ำเสียงแปลกๆ
     อะไรเหรอ รถกระตุกเพราะคนขับเริ่มกลัว
     ...อย่าบอกนะว่า...มี อะไร อยู่ข้างทาง 
     ผีเหรอ ไม่ใช่ผีใช่ไหม 
     เปล่า 
   จ้าตัวแข็งทื่อ เมื่อรู้สึกถึงอ้อมแขนที่โอบกอดมาจากคนข้างหลัง...และที่ร้ายไปกว่านั้นคือ ใบหน้าคมคายนั้นซบนิ่งลงกับซอกคอของหล่อน
     จ้า! จ้า! 
     ......... 
     กลับมาก่อน 
   คามินวิ่งตามขณะที่จ้าลงจากรถและเดินลิ่วๆ ไปตามถนนในความมืด...ทั้งโกรธและเจ็บใจมากซะจนน้ำตาไหล... 
   ปกติหล่อนจะเป็นคนที่กลัวความมืดและกลัวผีมาก แต่ตอนนี้ไม่แล้ว
     ...แน่จริงโผล่มา จะกระทืบให้จมดิน!
     คุยกันก่อน 
   เพี๊ยะ!
     คนเฮงซวย!
   จ้าจ้องหน้าเขาทั้งน้ำตา...เจ็บปร่า...ร้าวในอก เสียแรงที่ไว้ใจ! 
   ผู้ชายมักง่าย เขาจะรู้ไหมว่าทำอะไรลงไป...
     จ้า! จ้า!
   คามินลังเล สุดท้ายก็วิ่งกลับไปที่รถและขับตาม
     ขึ้นรถก่อน 
   หญิงสาวสะบัดหน้าหนีเกลียดจนไม่อยากจะมอง
     จะให้พี่ทำยังไง เขาเสียงอ่อน
     ขึ้นรถนะ 
     จะกลับหอ หล่อนพูดเสียงขึ้นจมูก น้ำตายังซึมเป็นออกมาเรื่อยๆ
     ได้ แล้วหายโกรธนะ 
     ฮือ...ฮือ แทนที่จะดีขึ้น หล่อนกลับร้องไห้หนักกว่าเดิม
     ว๊า! ชายหนุ่มทำตัวไม่ถูก
     จะให้ทำยังไงก็บอก อย่าเอาแต่ร้องไห้สิ 
   หล่อนเงียบไป ได้ยินเสียงฮึดฮัดเช็ดน้ำหูน้ำตาอยู่พักใหญ่
   คามินยกมือลูบหน้าข้างที่ถูกตบหงอยๆ ไม่กล้าหันไปมองเพราะกลัวหล่อนเห็น  หน้าเขาแล้วจะร้องไห้ขึ้นมาอีก
     โอ๊ย...ย...ย!
   คราวนี้คนที่ร้องลั่นคือ คามิน 
   จ้ากดงับฟันลงไปบนไหล่เขาอีก เรียกว่า สุดแรงรักเลยทีเดียว
   แม้จะไม่ใช่การชำระหนี้แค้นทั้งหมด แต่มันก็ช่วยละลายความโกรธไปไม่น้อย 
                                                  *******************

     จ้า...จ้า แอ๋มเคาะประตูเรียกตอนเที่ยงคืน
   เจ้าของห้องแง้มประตูพอเห็นหน้า ไม่ยอมให้เพื่อนเข้ามา
     ว่าไง 
     ทำไมกลับก่อนหล่ะ ไม่ยอมรอ 
     ปวดหัวนิดหน่อย 
     แกร้องไห้ด้วยเหรอ เป็นอะไรมากหรือเปล่า
   จ้าเบะหน้าจะร้องไห้อีกรอบ
     พี่สินีกับพี่นกอยู่รึเปล่า 
   จ้าส่ายหน้า
     ไปออกค่าย
     ฉันมานอนเป็นเพื่อนไหม...พี่คามินให้ฉันมาดูแกตอนนี้ยังรออยู่เลย รอนะเดี๋ยวมา แอ๋มผละไป...คงไปรายงานคามิน เพราะเห็นเดินไปทางระเบียง
     ...หนอย! ยังกล้าโผล่หน้ามาอีก...
   อยากจะระบายความอัดอั้นตันใจที่เกิดขึ้นให้ใครสักคนฟัง
   ...ไม่ใช่แอ๋ม เพราะแอ๋มคงไม่เข้าใจ และเข้าข้างคามินอยู่ดี
   ...โม...จ้าคิดถึงเพื่อนรักสมัยประถม...โมคงให้คำแนะนำที่ดีได้
                                                  *****************

   คามินเงยหน้ามองคนที่วางจานข้าวลงตรงหน้า
     ขอนั่งด้วยนะคะ 
   เขาพยักหน้า...ใจเต้นนิดๆ รู้ว่า โม เป็นเพื่อนรักของคนที่เขายังเข้าหน้าไม่ติดกระทั่งบัดนี้
   เพื่อนๆ เลี่ยงไปอีกโต๊ะ
     ไหล่หายเจ็บหรือยัง รุ่นน้องถามเยาะๆ 
   เขาเกลียดนัก ไอ้แววตาและน้ำเสียงแกมประชดประชันแบบนี้...เหมือนกันไม่มีผิด
     ยัยเด็กบ้า! เล่าให้เพื่อนฟังเฉยเลย
     ...คอยดูเถอะ เจอเมื่อไหร่จะทำยิ่งกว่ากอดอีก...คราวนี้ยังจะกล้าเล่าให้ใครฟังอีกไหม...
     พี่ทำทำไม
     ให้พี่ตอบเขาเองจะดีกว่านะ คามินบอกปัด 
     พี่อาจจะเคยเจอผู้หญิงมาหลายแบบ แต่เพื่อนโมไม่ใช่แบบนั้น ปกติเขาจะไม่คุยกับผู้ชายด้วยซ้ำ ยกเว้นมีใครแนะนำให้รู้จัก ชีวิตเขาสะอาดมากๆ พี่เข้าใจไหม...เราอยู่โรงเรียนสตรีมาตลอดและเพื่อนผู้ชายยังไม่เคยมี โมพูดเสียงดัง
     ที่พี่ทำลงไปนั่นเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุดที่เขาเคยเจอ ตอนนี้เขาคิดอยู่อย่างเดียวว่าตัวเขาสกปรก  พี่อย่าไปแกล้งเขาอีกเลย  ปล่อยผู้หญิงดีๆ ไว้สักคนเถอะ
เพื่อนของจ้าลุกไปนานแล้ว แต่คามินยังอึ้งไม่หาย
     ...นี่แค่กอดนะ หล่อนคิดอะไรไปไกลขนาดนั้นเชียวหรือ...
   ถ้าเขาทำมากกว่านั้น มิต้องยกขันหมากไปสู่ขอเลยรึนี่!?

   ชายหนุ่มไปดักรอที่หอพักหลายครั้ง แต่หล่อนก็เหมือนนกรู้ เก็บตัวเงียบไม่ยอมออกจากห้อง...เขาไปดักรอที่คณะฯ หล่อนก็ใช้วิธีหลบอยู่ในกลุ่มเพื่อนไม่เปิดโอกาสให้เขาเข้าใกล้เลย
   นานวันเข้าคามินก็เริ่มเบื่อ... เขาพยายามง้อแล้วนะ ในเมื่อหล่อนเลือกที่จะหนีหน้าเขาก็คงต้องปล่อยเลยตามเลย...กระทั่งสอบปลายภาคและปิดเทอม...
                                                ****************

         โปรดติดตามตอนที่ 4				
19 มกราคม 2547 12:49 น.

สักวัน...ฉันจะรักเธอ (ตอนที่ 2)

JoyLek

ได้ข่าวมีลูกค้ามาป่วนวันลอยกระทง
     ไอ้บ้าขี้เมาที่ไหนก็ไม่รู้
     ...อย่าให้เจออีกเชียว...
     พี่คามินเขาขี้เล่นอย่างนี้แหละ แอ๋มหัวเราะ
     อ๊ะ...มีหนุ่มฝากมาให้ 
     ใคร จ้ารับกุหลาบจากเพื่อนงงๆ 
     ทายสิ
     ขี้เกียจเดา เฉลยเถอะ
     คนที่มัดจำค่ากระทงแกไว้นั่นแหละ
     ยี้!  จ้าทิ้งกุหลาบอย่างขยะแขยง
     เฮ้ย! เสียดาย 
     บังอาจมาก หญิงสาวกัดฟัน
     พี่คามินหล่อดีออก ฉันว่าเขาปิ๊งแกแหงๆ 
     เห็นผู้หญิงไม่ได้จีบดะ เจอเมื่อไหร่ฝากด่าด้วย
   แอ๋มไม่ตอบรับ เพราะยังอยากลุ้น
     นั่นจะไปไหน แอ๋มร้องถาม เมื่อเจ้าของห้องเปิดประตูเตรียมจะออกไปข้างนอก
     กินข้าว 
     ไปด้วยกันสิ พี่ๆ ให้ฉันขึ้นมาชวนแกนี่แหละตอนนี้รออยู่ข้างล่าง
     ไม่ว่างมีนัด จ้าปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดให้เสียเวลา 
     ใครเหรอ 
     เพื่อนพี่สินี จ้าอ้างถึงพี่รูมเมทคณะวิศวะ
     จ้าแกมีแฟน! แอ๋มเสียงหลง
     ไม่ใช่ แค่มารับไปงานวันเกิด พี่สินีก็ไป 
     คนที่เห็นวันก่อนใช่ไหม 
     นั่นแหละ 
     หล่อน้อยกว่าพี่คามินแทบไม่เห็นฝุ่น เพื่อนทำหน้าเบ้
     แต่นิสัยดีกว่าตานั่นแบบไม่เห็นฝุ่นเหมือนกัน 
                                                   *****************

   ...หน้าหอพัก...
   ดล ปัทม์ และเพื่อนอีก 2 คนที่กระทั่งบัดนี้จ้ายังไม่รู้ชื่ออยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ขาดเพียง คนที่ฝากกุหลาบ ขึ้นไปเท่านั้น
   จ้ายิ้มทักพอไม่ให้น่าเกลียด แล้วเดินผ่านไปยังคนที่รอรับ
     อ้าว!? ดลยิ้มค้าง
     เขามีนัดแล้ว แอ๋มอธิบาย
     พี่คามินหล่ะ 
    หนุ่มผมยาวบุ้ยปากไปทางหอพักหญิงที่อยู่อีกฟากใกล้ๆ กัน
     ส่งกุหลาบให้ยัยเฟื่องอีกหล่ะสิ"
   ...คิดผิดหรือเปล่าเนี่ย... แอ๋มกระอักกระอ่วนใจพิกล เพราะคามินยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม 
     ไอ้หมอนั่นแฟนน้องจ้าเหรอ
     ยัง  แต่ไม่แน่ 
     หน้ายังกับปลาจวด... ดลวิจารณ์ และเอื้อมมือไปโอบไหล่ปัทม์ ซึ่งสูงแค่ปลายคางมากอดรัดแรงๆ 
     ภูมิใจซะเถอะปัทม์ ในมหาลัยนี้ยังมีคนขี้เหร่กว่ามึงอีกว่ะ 
     โธ่! น้องจ้านะน้องจ้า ตาต่ำจริงๆ เพื่อนพี่หล่อขนาดนี้ยังไม่สนใจ กลับไปคว้าไอ้หนุ่มหน้าทุเรศนั่นฉิบ 
     หยามกันมากไปแล้ว หนุ่มผมยาวเข้ามาช่วยเพื่อนล็อกคอปัทม์อีกคน รั้งร่างเตี้ยๆ นั่นขึ้นกระทั่งเท้าเขาลอยพ้นพื้น
     ฆ่ามัน! แล้วทั้งหมดก็ช่วยกันรุมแกล้งปัทม์แทนหนุ่มวิศวะคนนั้น
                                              **********************
     อ๊ะ...อ๊ะ...อา ทำเป็นไม่ทักๆ 
   จ้าหยุดมองและยิ้มขัน...เริ่มเป็นเหตุการณ์ปกติไปแล้วที่จะเห็นหนุ่มก๊วนนี้นั่งอยู่หน้าหอตอน 5 ทุ่มเศษ ด้วยเหตุผลที่แอ๋มแอบเก็บมาปลื้มนักหนา...
     ...พี่เค้ามาส่งฉัน...

   ใกล้แข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย ทำให้แต่ละชมรมต้องเร่งฝึกซ้อม และแอ๋มก็เป็นหนึ่งในจำนวนนักกีฬาที่ได้รับคัดเลือกในครั้งนี้
     ควงหนุ่มไม่ซ้ำหน้า คามินว่าลอยๆ
     หนักหัวใคร
     เฮ้ย! อะไรกันคู่นี้ เรื่องในครอบครัวเอาไว้คุยกันที่บ้านสิ 
     พี่ดล! 
     ไอ้น้องจะรีบไปไหน หนุ่มผมยาวร้องเรียก เพื่อนใหม่ ที่มาส่งจ้า
     คุยกันก่อน เจอพี่เจอเชื้อรีบหลบได้ไงวะ 
     สวัสดีครับพี่
     ชื่ออะไร คามินถามและเหลือบมาทางจ้าอย่างท้าทาย 
     คิมครับ 
     ผมชื่อลาน 
   ทั้งคู่เป็นเพื่อนของโมอีกที และได้รับการไหว้วานให้แวะมาส่งจ้าเข้าหอ หลังจากไปเที่ยวงานฤดูหนาวมาด้วยกัน 
คามินมองหน้ารุ่นน้อง ก่อนจะพยักหน้าให้เพื่อน
     พี่สต๊าฟไม่สอนรึไงว่าเจอรุ่นพี่ต้องทำยังไง...ไม่เคารพกันเลยนี่หว่า รุ่นพี่ว่า
   คิมและลานยืนนิ่ง
     วิดพื้น 2 เท่ารุ่น ปฏิบัติ!
   จ้าอ้าปากค้างไม่คิดว่าจะทำกันขนาดนี้ 
   คิมและลานทวนคำสั่งและก้มลงวิดพื้นตรงนั้น สร้างความแตกตื่นให้นักศึกษาอื่นๆ พอสมควร แต่เมื่อรู้ว่าเป็นการทำโทษน้องปี 1 ก็เลิกสนใจ
   จ้าเม้มปาก
    ...แกล้งกันชัดๆ!...
                                              *****************

     จ้า 217 มีแขกค่ะ...จ้า 217 มีแขก 
      ขอบคุณค่ะ หญิงสาวตะโกนผ่านอินเตอร์คอมพ์ที่ติดตั้งตามชั้น
      ใครหว่า? 
   หญิงสาววิ่งลงบันไดหอพัก สอดส่ายสายตามองหา แขก ที่ไม่ได้นัดล่วงหน้า 
   เวลาทุ่มตรงของที่นี่นับเป็นชั่วโมงเริ่มต้นชีวิตกลางคืนของนักศึกษา ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเห็นหนุ่มๆ หลากหลายคณะมานั่งรอหน้าพอพัก 
     หาใครจ๊ะ 
     ...หนีไม่พ้นจริงๆ...
     เพื่อนค่ะ จ้าตอบเมินๆ ยังไม่ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคิมและลานเมื่อสัปดาห์ก่อน 
     ใครเอ่ย  ดลถามต่อ
     ไม่รู้สิ ไม่รู้ใคร call เรียก หล่อนตอบตามประสาซื่อ นึกถึง คิม อาจเป็นเขาก็ได้ เพราะเมื่อวานเขาบอกว่าจะเอารูปมาให้
      ...อย่าให้เขามาตอนนี้เลย...
     พี่เรียกเองแหละ ดลยิ้มแฉ่ง 
     อ้อ... จ้ากลืนน้ำลาย
     มีธุระอะไรคะ 
     ไปเที่ยวงานฤดูหนาวกัน หนุ่มผมยาวตอบ
   ตายแล้วฉัน...จะทำยังไงดี...!
   อยากจะกลั้นใจตายให้รู้แล้วรู้รอด
   เห็นรถวิ่งผ่านบนถนนหน้าหอพักคล้ายๆ คิมและลานผ่านแวบๆ...จะเรียกให้ทั้งคู่หันมามองก็กลัวเขาจะเดือดร้อนอีก เพราะดูท่าว่าจะขับวนอยู่หลายรอบแล้วแต่ไม่กล้าเข้ามา
     ไปสิคะ จ้าตอบรับหวั่นๆ 
     ขอขึ้นไปเอากระเป๋าแป๊บนึง 
   จ้าวิ่งแจ้นไปเคาะห้องแอ๋มที่อยู่ชั้นเดียวกัน
     แอ๋มไม่อยู่ไปกินเลี้ยงสายรหัส  คำตอบที่ได้รับทำเอาจ้าอ่อนแรง
     ...ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยนะ...
     ...ฉันจะมีชีวิตรอดกลับมาไหมนี่...!?

   ชายหนุ่มทั้งห้า นั่งรออยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ 3 คัน และที่เดาไม่ผิดคือ พวกเขาตั้งใจเหลือที่ว่างท้ายรถของคามินไว้ให้หล่อน
     เก่งนี่ กล้ามา คามินพูดขึ้นเป็นประโยคแรกเมื่อจอดรถหน้างาน
     ก็พอตัว 
     ไม่เสียแรงที่เป็นคุณนายห้อยเกียร์ เขาแขวะถึงหนุ่มวิศวะที่เทียวรับส่งจ้าอยู่บ่อยๆ 
     ...เพื่อนพี่สินี...
     ได้รับกุหลาบหรือเปล่า น้ำเสียงถามอ่อนลง
     ...ปรับอารมณ์ตามอีตานี่ไม่ทันเลยจริงๆ...
     ลงขยะหมดแล้ว ไม่ต้องส่งมาอีกนะ ถ้าเฟื่องรู้เขาคงไม่พอใจ 
   คามินนิ่งไปนาน ก่อนจะเอ่ยออกมาช้าๆ
     แล้วถ้าพี่ส่งให้จ้าคนเดียวหล่ะ จะเก็บไว้หรือเปล่า 
     ......... 
   คราวนี้จ้ามองเขาบ้าง...หล่อนไม่รู้จะตอบยังไงจึงเลือกที่จะหันหน้าหนี 
     ...รู้สึกยังไงกับผู้ชายคนนี้...
     ...หมั่นไส้...ในความเจ้าชู้
     ...สะใจ...เวลาฉีกหน้าเขาได้
     ...เกลียด...นิสัยที่ชอบแกล้งคน
     และสุดท้ายคือ  ว่างเปล่า 
    ...ผิดกับ ใครอีกคน ที่จ้ารู้สึกใจสั่นทุกครั้งที่พบหน้า แม้จะไม่เคยได้พูดคุยกันเลยก็ตาม
    พี่มิกซ์...หนุ่มหล่อหน้าตี๋ที่จ้าแอบปิ๊งตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ
     ต๋อมครับ น้ำเสียงเขาขันนิดๆ ตอนแนะนำตัว
    และต่อมาไม่นานจ้าก็แอบอกหักเล็กๆ กับประโยคของแอ๋มที่ว่า...ฉันเพิ่งเจอพี่มิกซ์ไปกินข้าวกับแฟน...มิน่าช่วงนี้ไม่เข้าชมรม 
     ขาเป็นอะไรพี่มิกซ์ วันนี้จ้ากล้าหาญชาญชัยทักเขาเป็นครั้งแรก
     รถล้ม 
     นานรึยัง 
     สามวันได้ เขายิ้ม...
   โอย...หัวใจจะละลาย...
     ไม่เห็นพี่ในห้องเรียน Socio เลย
      ไม่ได้ลงเรียน... มิกซ์หัวเราะ
     ไอ้พวกนี้ก็เหมือนกัน ไม่มีใครลงเรียนสักคน 
   จ้าถึงบางอ้อ...นึกแล้วเชียวว่ามีอะไรแปลกๆ 
   รอยยิ้มใสๆ ของมิกซ์คลายลงเมื่อมองไปด้านหลังของจ้า
   จ้าไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคามิน
     ...ช่างสิ...หล่อนขอเก็บความหวานเล็กๆ น้อยๆ ไว้ในหัวใจบ้างไม่ได้หรือ...
     จะกลับกันหรือยัง 
     มารขัดขวางความสุข ถามให้ได้ยินกันทั่ว
   มหาวิทยาลัยตั้งอยู่นอกตัวเมือง 3-4 กิโลเมตร ความจริงขับรถไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว แต่เนื่องจากช่วงนี้อากาศค่อนข้างหนาวทำให้ต้องขับรถด้วยความเร็วต่ำกว่าปกติ 
   กระทั่งเข้าเขตมหาวิทยาลัย 
     ทำไมไม่ตรงไป  จ้าถามเมื่อคามินเลี้ยวขวาในขณะที่คนอื่นตรงไปมุ่งหน้าไปทางหอพัก
      แวะไหว้เจ้าพ่อมอก่อน...เสร็จแล้วจะไปส่งแน่นอน ไม่พาไปปล้ำหรอก 
   เขาค้อน และหยุดรถหน้าศาลเจ้าพ่อมอดินแดง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวมหาวิทยาลัย...
   คามินเดินไปจุดธูปเทียนโดยไม่รอว่าหล่อนจะตามไปรึเปล่า...
     ...กินอะไรผิดสำแดงอีกหล่ะ...เกิดอยากจะมาไหว้ศาลเจ้าพ่อมอเอาตอน 5 ทุ่ม...
   เฮ้อ...จ้าถอนใจและโล่งอกเป็นที่สุดที่กลับมาถึง บ้าน โดยสวัสดิภาพ
   ...ขอบคุณเจ้าพ่อที่ช่วยคุ้มครองให้ลูกปลอดภัยจากสิ่งทั้งหลายทั้งปวง...
                                        *****************

   จากวัน เป็นเดือน และเข้าสู่ปี... ก๊วนหนุ่ม ถาปัด เริ่มเข้ามาในวงจรชีวิตของจ้า แทบทุกเย็นจ้าจะต้องมานั่งรออยู่ข้างสนามฮอกกี้...แรกๆ ก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง แต่ช่วงหลังต้องไปแทบทุกวัน เพราะขัดแอ๋มไม่ได้
     ไปเป็นเพื่อนฉันนะ ไม่งั้นพี่ๆ ไม่มาส่งฉัน 
     กลับเองได้ไม่ใช่เหรอแอ๋ม รถเธอก็มี ฉันเหนื่อยนะ เลิกเรียนก็อยากนอนพัก จ้ายั้งปากประโยคต่อไปที่ว่า..   
   ...เธอจะตามตื้อพี่ดลทำไม ในเมื่อรู้ว่าเขาไม่สนใจ...เอาไว้ได้ทัน 
   จ้าอายแทน เพราะแอ๋มเริ่มตามติดดลจนน่าเกลียด 
     ทางมืดนี่ฉันกลัว 
     งั้นก็กลับเร็วขึ้น ไม่ต้องอยู่จนดึก 
   แอ๋มเริ่มทำสีหน้าไม่พอใจ 
     แกยังอยากคบกับนายคิมอยู่ละสิ ฉันชวนไปแค่นี้ถึงมีปัญหา 
     ไม่เกี่ยวกับคิมเลยนะแอ๋ม เราเป็นเพื่อนกัน 
     แกเป็นเพื่อนฝ่ายเดียวสิ นายคิมคิดด้วยเมื่อไหร่
   จ้าอึ้ง...เหตุการณ์วันนั้นแอ๋มรู้เห็นพอๆ กับหล่อน
   เมื่อปีที่แล้ว หลังจากคามินขับรถมาส่งเข้าหอตามสัญญา...
   คิมนั่งรอจ้าอยู่พร้อมกับลาน เขาเอาภาพที่วาดเองมาให้หล่อนและจากไปเงียบๆ...คืนถัดมา เขาและเพื่อนอีก 3 คน กลับมาอีกครั้งหลังเที่ยงคืน ซึ่งเป็นช่วงที่หอปิดแล้ว...
   เขาหิ้วกีต้าร์มาตะโกนร้องเพลงรักอยู่หน้าหอ...
   คิมเมามาก ร้องเพลงไป ร้องไห้ไป...เดือดร้อนถึงประธานหอพักต้องตามหาสาวต้นเหตุ เพื่อมาคลี่คลายสถานการณ์
   ชื่อ จ้า 217 ถูกลือกระฉ่อนไปทั่วหอในเวลาอันรวดเร็ว...ใครๆ ก็อยากเห็นหน้า
   หลังจากนั้นคิมก็หายไปจากชีวิตของจ้า...ถ้าบังเอิญเจอกันเขาก็จะก้มหน้าก้มตาเดินหนี ไม่ยอมทักทาย
   ...และผู้ที่เป็นจำเลยร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้นก็คือ  คามิน
     ได้ข่าวแย่งแฟนน้องหรือไงวะ รุ่นพี่ประธานชมรมฮอกกี้เป็นผู้ถามด้วยตัวเอง 
     เปล่าครับ จ้าไม่ได้เป็นแฟนผม 
     อ้าว เห็นพวกสต๊าฟเขาพูดกัน ไอ้เด็กนั่นเมาอยู่หลายวันเพ้อว่าถูกแย่งแฟน 
   คามินเงียบขรึมลงไม่ค่อยยั่วโมโหเหมือนก่อน แต่เขาและเพื่อนๆ ยังมาส่งจ้าและแอ๋มที่หอทุกวันที่มีการซ้อมดึกๆ 


                                                              *********************

       ......มีต่อตอนที่ 3 ........				
16 มกราคม 2547 14:24 น.

สักวัน...ฉันจะรักเธอ (ตอนที่ 1)

JoyLek

จ้า เอื้อมมือดึงโน้ตเล็กๆ ที่แปะอยู่หน้าประตูห้อง
        เย็นนี้ไม่ว่าง ซ้อมฮอกกี้ ... แอ๋ม 
     เฮ้อ! อีกแล้ว...แอ๋มเป็นอย่างนี้ทุกที...มักจะมีข้ออ้างเรื่องซ้อมกีฬาจนเพื่อนๆ ชักไม่ค่อยจะชอบหน้า...
     ที่จริง...แอ๋มไม่ได้สนใจกีฬามากมายนักหรอก...ที่กระตือรือร้นก็เพราะรุ่นพี่ในชมรมฮอกกี้นั่นต่างหาก
        พวกพี่เค้าหล่อๆ ทั้งนั้นเลยแก  แอ๋มมักจะกลับมาเล่าให้ฟังเสมอ
        พี่ๆ เค้าลง Sociology ด้วยหล่ะ วันพุธจะชี้ให้ดู 
       จ้ามีโอกาสเห็น บรรดาพี่ๆ ของแอ๋มในสัปดาห์ถัดมา
          เรียน ถาปัด ใช่ป่ะ จ้าถามถึงหนุ่มหล่อที่แอ๋มชี้ให้ดู ซึ่งขณะนี้นั่งเรียนข้าง อุ๋มเหรัญญิกของภาควิชาฯ ทั้งคู่กำลังคุยกันอย่างออกรส 
         รู้ได้ไง 
         เหมือนเคยเจอ
         พี่ดล ถาปัด ปี 3 แอ๋มกระซิบ 
         ฉันชอบคนนี้แหละ...อีกคนก็หล่อนะ ผมยาวๆ ที่นั่งด้านซ้ายน่ะ 
        จ้ามองตาม...หนุ่มผมยาวเคลียไหล่ ผิวคล้ำ หน้าตาคมคาย
         ฮื่อ ดูดี
        จ้าเห็นด้วย แต่อดแปลกใจไม่ได้...
       คณะสถาปัตย์ฯ ต้องลงทะเบียนเรียนวิชาทางสังคมด้วยหรือ...ไม่น่าจะเป็นไปได้ ถ้าเป็นวิชาพื้นฐานบังคับก็น่าจะต้องเรียนตั้งแต่อยู่ปี 1 แล้ว 
       จ้าก้มหน้าก้มตาจดตามแผ่นใสของอาจารย์ สัญชาตญาณบอกว่าอาจารย์เริ่มเหล่แล้ว เพราะเสียงคุยดังขึ้นเรื่อยๆ
        นี่! ด้านหลังน่ะ ถ้าคุณไม่เรียนก็กรุณาอย่ารบกวนคนอื่น 
       นักศึกษาเกือบ 200 คนในห้องเรียนรวม หันไปมองต้นเหตุที่ทำให้การสอนหยุดชะงัก
      ...พี่ดลและยัยอุ๋มโดนเต็มๆ...
        สมน้ำหน้า! อยาก present ว่าสนิทกับพี่ดลดีนัก เสียงแอ๋มลอยมา แต่จ้าไม่สนใจแล้วตอนนี้เพราะกลัวอาจารย์เล็งเหมือนกัน
       บรรยากาศในห้องเรียนเริ่มอึดอัด เมื่ออาจารย์อารมณ์เสีย 
        ช้าๆ ก็ได้แก จ้าเก็บกระเป๋าและเดินออกนอกห้องทันทีเมื่อเสียงกริ่งดังหมดเวลา
        หิว 
        เดี๋ยวสิ 
        เร็วๆ เที่ยงแล้วคนเยอะ 
        แกว่าพี่คนนั้นเป็นไง แอ๋มยังสนใจไม่เลิก ชี้ให้ดูรุ่นพี่กลุ่มเดิมที่ทยอยเดินตามมา
       ก็โอเค จ้ามองผ่านๆ ไปได้ยัง 
        เอ๋... คราวนี้จ้าเป็นฝ่ายสะดุดตากับชายหนุ่มที่เดินมากับ เฟื่อง เพื่อนของหล่อนเอง 
       คนนั้นหน้าคุ้นจัง ใช่คนตะกี้ที่เธอชี้ให้ดูหรือเปล่า 
       คนที่ฉันชี้ให้ดูยืนอยู่ข้างพี่ดล ส่วนคนที่เดินมากับยัยเฟื่องนะเป็นอีกคน แต่หน้าคล้ายๆ กัน เหมือนคู่แฝดเลยใช่ไหม 
       ฉันว่าคนนี้หน้าตาคมกว่านะ 
       สนใจป่ะ แอ๋มถามเสียงเจ้าเล่ห์
       อย่าหาเรื่องให้ฉันเลย ไปเถอะหิว
                                                ***********************

       ยัยแอ๋มไม่มาอีกแล้วเหรอ อุ๋มถามห้วนๆ ตามเคย
       ซ้อมกีฬา
       มันขายบัตรกระทงได้กี่ใบ ฝากแกมารึเปล่า
       คงหมดมั้ง ไม่เห็นว่าอะไร จ้าพยายามแก้ตัวให้เพื่อน เพราะขี้เกียจฟังอุ๋มบ่นไม่เลิก  แต่ไม่นานก็มีเรื่องให้ต้องฟังเสียงบ่นอีกจนได้
      นี่แกรู้เรื่องยัยเฟื่องยัง
      ทำไมอีกหล่ะ หล่อนถามไปอย่างนั้นเอง ใจจดจ่ออยู่กับการหัดพับกลีบกระทงมากกว่า
      มันคืนบัตรทุกใบ ฉันเลยด่าเข้าให้ 
      อ้าว 
      จะไม่ให้โมโหได้ไง คุยนักคุยหนาว่ามีคนมาจีบเยอะ แต่ไม่เห็นขายบัตรได้...พวกผู้ชายขายไม่ได้มันยังซื้อไว้บ้าง ไม่เอามาคืนหมดแบบนี้   
      อายมั้ง คงไม่กล้าขาย 
      หน้ามันคงไม่บางขนาดนั้นหรอก ฉันว่ามันโม้มากกว่าว่ามีคนมาจีบ 
      ดังไปอุ๋ม
    อุ๋มถอนใจ...หันไปทางเพื่อนคนอื่นๆ
      เก็บของเถอะเพื่อนๆ จะห้าทุ่มแล้ว เดี๋ยวเข้าหอไม่ทัน 
    หอพักนักศึกษาหญิงจะปิดตอน 4 ทุ่มครึ่ง และจะเปิดให้เข้าได้อีกประมาณ 5-10 นาทีตอนเที่ยงคืน 
     จ้า แอ๋มเรียกจากโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าหอ มีชายหนุ่มนั่งอยู่ด้วยกลุ่มใหญ่
     รู้จักพี่ๆ ชมรมฮอกกี้หน่อยสิ ทั้งน้ำเสียงและหน้าตาแอ๋มดูระรื่นจนปิดไม่มิด
    จ้ายกมือไว้รวมๆ 
     นี่จ้าค่ะ เพื่อนส่วนใหญ่พักหอ 14 แต่เรา 2 คนโดนจับมาอยู่หอนี้ 
     สวัสดีครับน้องจ้า จำพี่ได้ไหม เราเคยเจอกันตอนงานวันเกิดน้องโมไง  ดลยิ้มชิงทักทายก่อนใคร
     ค่ะ 
     โมไหน 
     เพื่อนสมัยประถมน่ะ เรียน ถาปัด จ้าอธิบายสั้นๆ พลางมองไปรอบโต๊ะ
     ไม่แนะนำตัวกันหน่อยเหรอ แอ๋มทวงชายหนุ่มที่เหลือ
     พี่ชื่อตุ๊ หนุ่มผมยาว ผิวคล้ำ ที่จ้าเห็นเมื่อวันพุธพูดขึ้น
     ต๊ะครับ คนนี้จ้าจำได้ว่าเดินตามยัยเฟื่อง...ท่าทางกะล่อนไม่เบา 
     ต๋อมครับผม น้ำเสียงเจือแววขันๆ จ้าไม่ทันนึกอะไร เพราะมัวจ้องหน้าคนพูด
     ...ใบหน้าขาวๆ ตี๋ๆ สร้างความหวั่นไหวในหัวใจได้อย่างประหลาด 
      แต๋มครับ จ้าถอนสายตามายังคนสุดท้าย...เผลอยิ้มกว้างตอบ...
     เขาไปคนที่พกพาความหล่อมาน้อยที่สุดหากเปรียบเทียบกับเพื่อนทุกคน...แต่รอยยิ้มนั่นกลับดูจริงใจที่สุด
     ในเมื่อไม่ยอมบอกชื่อจริงก็ตามใจ คงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกกระมัง 
       กระทงไปถึงไหนแล้ว คุยไปได้สักพัก แอ๋มก็เปลี่ยนเรื่อง
       ก็พอสมควร
       อุ๋มบ่นถึงฉันรึเปล่า 
       เหมือนเดิมแหละ บ่นให้เฟื่องอีกคน จ้าเล่าค่อยๆ เหลือบมองทางชายหนุ่ม...เขายังส่งยิ้มหวานมาให้
       เอาบัตรกระทงมาคืนทุกใบ 
       เฮ้ย! ทำงั้นได้ไง 
       ก็ทำไปแล้ว ทะเลาะกันใหญ่ ฉันงงเหมือนกันเฟื่องน่ะเค้าออกจะสวย เห็นว่ามีหนุ่มมาหลีเยอะ ทำไมขายบัตรไม่ได้ก็ไม่รู้ 
     แอ๋มแอบสะกิดใต้โต๊ะ แต่อารมณ์อยากแกล้งคนมีมากกว่า จ้าจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
       อยากรู้จริงๆ ผู้ชายสั่วๆ ที่ไหนวะ จีบสาวทั้งทีไม่ลงทุนเลย งกฉิบหายบัตรกระทงแค่ 30 บาทยังไม่ช่วยอุดหนุน 
     สะอึก! กันไปตามๆ กัน 
     คามินยิ้มแห้งๆ 
       ผู้ชายสั่วๆ คนนั้นพี่เองครับน้องจ้า 
      ...จำไว้ ทีหลังอย่ามาทำหน้าทะเล้นแถวนี้... 
      อุ๊ย! ขอโทษ จ้าไม่รู้จริงๆ ทำท่าตกอกตกใจ แต่แววตาสมเพชหน่อยๆ
      พี่เค้าซื้อบัตรจากฉันแล้ว แอ๋มช่วยแก้หน้าให้
     จ้าหันไปแอบยิ้มอีกทาง พลันเห็นแม่บ้านเดินมาเปิดประตู จึงถือโอกาสชิ่งเอาตัวรอด
      ลานะคะ ไว้เจอกันใหม่ หันไปยิ้มหวานให้ ผู้ชายสั่วๆ นิดนึงก่อนลุกขึ้น  ส่วนแอ๋มยังทำท่าว่าจะลาพี่ๆ ไม่จบสักที
      วางระเบิดไว้แล้วก็สะบัดก้นหนีเลยนะ 
    จ้าหันมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม...เขาเดินตามมาจนเกือบจะถึงประตูหอพัก
     สะใจมากไหมที่ฉีกหน้าคนอื่นได้ คามินถามเสียงเรียบ ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก แต่ดูคล้ายแยกเขี้ยวจะขย้ำคอคนตรงหน้าเสียมากกว่า
     รู้ทันแบบนี้ไม่สนุกเลย จ้าอมยิ้ม
     ขอโทษแล้วไง 
     มีวิธีเรียกร้องความสนใจแปลกดีนี่ คามินพูดเบาๆ หลีกทางให้นักศึกษาหญิงคนอื่นๆ ที่กำลังทยอยเข้าหอพัก
     มาเป็นแฟนพี่ไหม 
    รอยยิ้มเป็นต่อจางลงไปทันที
     ...ดูถูก!...
    ผู้ชายปากพล่อย!
      อย่ามาทำปากหวานแถวนี้เลยพี่ เก็บปากไว้จีบสาวปัญญาอ่อนที่อื่นเถอะ หญิงสาวเดินผ่านเข้าประตูไม่ใส่ใจเขาอีก
     ให้เวลาถึงวันลอยกระทงนะ ไม่งั้นหมดสิทธิ์ แล้วจะเสียใจ คามินตะโกนแซว
     ...รอไปเถอะ... หน้าอย่างนายฉันคุยด้วยก็บุญแล้ว...
     ...คิดว่าตัวเองหล่อนักรึไง...จะหันไปโต้ตอบอยู่แล้วเชียว...แต่พอเห็นหน้าตี๋ๆ ขาวๆ ที่มองมาของอีกคนก็พลอยทำให้เปลี่ยนใจ
                                       *******************

      วันลอยกระทง...มีการออกร้านโดยนักศึกษาแต่ละภาควิชาตลอดเส้นทางไปสู่บึงใหญ่ภายในมหาวิทยาลัย
     จ้าและเพื่อนๆ สาละวนอยู่หลังซุ้ม เร่งมือทำกระทงใบตอง เพื่อให้ทันกับลูกค้าที่นำบัตรมาแลกและซื้อด้วยเงินสดหน้างาน 
      ใครจะไปลอยกระทงก็ไปเลยนะ ผลัดกันไป อุ๋มตะโกนบอกเพื่อนในซุ้ม
      อุ๋มเห็นแอ๋มไหม 
      ฉันให้ไปซื้อลวดกับธูป...ทำไม 
      เปล่า คิดว่ายังไม่มา 
    จ้าก้มหน้าก้มตากับการเจียนใบตองต่อ อยากให้แอ๋มอยู่จะได้ชวนไปเดินเที่ยวงานบ้าง 
     จ้าๆ มาหน้าร้านด่วน เพื่อนชายร้องเรียกจากหน้าซุ้ม
     ซื้อกระทงแถวหนุ่มๆ ไปกกกอดคร้าบ...บ ซื้อกระทงซุ้มนี้แถมคู่ลอย 
    หนุ่มในภาคฯ ตะโกนขายกระทงอย่างไม่ย่อท้อ พยายามงัดกลยุทธ์เด็ดเพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด 
     สวัสดีน้องจ้า พี่ดลทักก่อนเช่นเคย 
     สวัสดีค่ะ 
     มารับกระทง เลือกให้ทีสวยๆ นะ 
    4 หนุ่มสมาชิกชมรมฮอกกี้ยืนเรียงหน้าสลอน ขาดเพียงหนุ่มหน้าตี๋ที่จ้าแอบปิ๊งไปหนึ่งคน แต่วันนี้มีสาวหน้าตาจิ้มลิ้มมาแทน
     ...หูหนวก ตาบอดจังเธอ ผู้ชายในมหาลัย มีเยอะแยะ แต่เลือกจะมาลอยกระทงกับอีตานี่...
     บัตรกี่ใบ 
     4 ใบครับผม 
   แม่ค้าบรรจงเลือกกระทงให้และรับบัตรมาเก็บลงกระป๋อง...จนถึงคนสุดท้าย 
     ...คู่ปรับ!...
      ไหนบอกซื้อกระทงแถมคู่ลอย คามินทวง
      เฟื่องไม่อยู่ จะรอไหมล่ะ 
    เพื่อนๆ ฮาครืน
      โห...เล่นแรง เขาเสียงอ่อย...รับกระทงแล้วส่งต่อให้สาวน้อยข้างๆ 
      พี่ๆ ตั้งใจมาชวนน้องจ้าตะหาก ดลช่วยกู้สถานการณ์
      ไปไหนไม่ได้เลย หลังร้านกำลังยุ่ง หรือจะรอให้เฟื่องกลับมาก็ได้นะ จ้าเน้นให้คนสะดุ้งเล่น
     ไปๆ คามินต้อนเพื่อนๆ หนี เพราะรู้สึกเสียวหลัง แต่ไม่วายหันมาสั่งลา
     ไม่รู้หล่ะ บอกว่าแถมคู่ลอยก็ต้องแถมสิ เดี๋ยวมาใหม่...พี่จองจ้าแล้ว ห้ามเบี้ยว 
    หญิงสาวยิ้ม เริ่มหมดความอดทนกับคนตรงหน้า 
     งั้นซื้อกระทงอีกใบสิคะ รับรองใบนี้แถมคู่ลอย 
     ปัทม์ขอกระเป๋า หนุ่มที่หน้าหล่อน้อยกว่าใครควักกระเป๋าสตางค์ให้เพื่อน 
     มัดจำไว้ก่อนนะ แล้วจะมารับ คามินยื่นเงินให้ด้วยท่าทางยั่วๆ 
    เพื่อนในซุ้มหัวเราะกันคิกคัก เมื่อเจอลูกเล่นของลูกค้าหนุ่ม...จ้าหัวเราะไม่ออก รับเงิน 10 บาทมาแค้นๆ 
      พี่คามินน่ารักดีนะ อุ๋มพูดเมื่อเขาเดินลับไปแล้ว 
       ...อ้อ! ชื่อ คามิน...
      ท่าทางจะยังไงๆ ซะแล้ว 
      รับประทานไม่ลงหรอกกะล่อนแบบนี้ จีบยัยเฟื่องอยู่แท้ๆ กล้าควงสาวอื่นมาซุ้มเราเฉย 
      อะไรกัน เพื่องเดินมาถึงซุ้มทันได้ยินพอดี
      ..........  จ้ากับอุ๋มเงียบทั้งคู่
      พี่คามินมาตะกี้ 
     เฟื่องตาโต
       เหรอ...ว๊า! น่าเสียดาย พี่เค้าฝากอะไรถึงฉันหรือเปล่า 
       ไม่นี่ อุ๋มชิงตอบ
       เดี๋ยวคงแวะมาอีกรอบ  จ้าบอกอย่างอดใจไว้ไม่อยู่...ภาวนาให้เขามาเถอะอยากให้เพื่อนตาสว่างเสียที
       ฉันมีธุระต้องกลับก่อนด้วยสิ เฟื่องละล้าละลัง
       ถ้าเขามาอีกฝากขอโทษด้วยนะ 
     จ้าและอุ๋มพยักหน้าด้วยความรู้สึกแตกต่างกันไป
     ผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง จ้าลืม เจ้าของเงินมัดจำ ไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่ได้ยินเสียงอุ๋มดังขึ้น
      จ้า ลูกค้าแก 
      หญิงสาวลุกขึ้นด้วยอาการเซ็งๆ 
      ...เจ้ากรรมนายเวรกันซะจริงๆ...
      เบื้องหน้า...ปัทม์...คามินและคู่ควงคนใหม่
      จ้ามองด้วยสายตาเหยียดๆ 
      ...เชอะ! ยืนแทบจะไม่อยู่ ยังเจ้าชู้ไม่เลิก...
      คามินยื่นเงินส่วนที่เหลือให้ พร้อมทวงสัญญา
        ไปลอยกระทงกับพี่ได้หรือยัง 
      โห...ความเจ้าชู้ฝังลึกอยู่ในสายเลือดจริงๆ 
      ...ตีหัวคนเมาจะผิดไหมนี่...
        พี่มีคู่ลอยแล้วไง จ้าคงไม่ต้องไปแล้วมั้ง 
        ผิดสัญญา เขาว่างั้น
      หญิงสาวถอนใจ อยากจะไล่ไปให้พ้นหน้าร้านเร็วๆ
        เฟื่องฝากขอโทษพี่ด้วย เขาติดธุระ แต่ถ้าพี่อยากได้คู่ลอยจริงๆ ก็จะไปตามให้ 
      ได้ผล...คนเมา ทำปากขมุบขมิบให้ได้ยิน...ฝากไว้ก่อน...
        ปีหน้าจะมาชวนน้องจ้าใหม่ คามินไม่ยอมแพ้
        ชาติหน้าเถอะพี่ ปีหน้าเร็วไป 
      ชายหนุ่มอึ้ง...เจ็บใจ แต่คิดคำพูดไม่ทัน ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้สมองเขาแล่นช้าไปเยอะ
        ปีนขึ้นไปทำไมนะ คานน่ะ มันสูงนะน้อง! 
        กรี๊ด! ไอ้ขี้เมามันแช่ง...

       ............โปรดติดตามตอนที่ 2.........				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟJoyLek
Lovings  JoyLek เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟJoyLek
Lovings  JoyLek เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟJoyLek
Lovings  JoyLek เลิฟ 0 คน
  JoyLek
ไม่มีข้อความส่งถึงJoyLek