24 พฤศจิกายน 2547 18:46 น.

บันทึก...ของใจ

mini_pk

บันทึกของของใจ [mini_pk]
	วันแรกของการเปิดเทอม  ง่า  ม.4แล้วหรอเรา  รู้สึกแก่ไงไม่รู้  - - เหอๆ  ตะกุกตะกัก  ทำไรไม่ถูกเลย  ตื่นเต้นนิดหน่อย  ถึงปานกลาง  ถึงมากที่สุด  อานะ  ก็มันคือวันแรกของโรงเรียนแห่งนี้นี่นา  แบบว่าโดนเค้าไล่ออกอ่า  อ่าวไม่ใช่  ม.4ย้ายโรงเรียนตะหาก  อิอิ  อืม  ประตูโรงเรียนอยู่ไหนหว่า  แง่ว! - - ผมค่อยๆก้าวเท้าซ้ายที่สั่นระรัวผ่านเข้าประตูโรงเรียน  .มองซ้าย  มองขวา .  มองหน้า  แล้วก็มองหลัง  ต้องมีคัยซักคนน่าที่รู้จักเรา  ผมคิดในใจเพื่อเป็นการให้กำลังใจตัวเอง  เหอะๆ  และแล้วสายตาของผมมันก็ไปหยุดอยู่ที่ผู้ชายคนนึง  ได้ไงวะ  บังอาจหล่อกว่ากู   เหอๆ  มันคือไอ้เต้  แฝดบันลือโลกของผมเอง  เฮ่ย  ไอ้เต้  ดีเว้ย  ผมแหกปาก  เอ้ยไม่ใช่  ผมตะโกนเรียกมันจนสุดเสียง  แล้วรีบวิ่งไปหามัน มันค่อยๆหันมาช้าๆเหมือนพระเองหนังน้ำเน่าในฉากที่ได้เจอกับนางเอก อานะ - -  ผมหละหมั่นไส้มันจริงๆเลย  มันมองหน้าผมเหมือนกำลังด่าผมทางสายตา  ฮะๆลูกพี่  อ่า  หวาดดีฮ้าบบบบ _/_  ผมกล่าวทักทายมันใหม่พร้อมกับยกมือไหว้มันโดยสัญชาติญาณ  ผมชักไม่แน่ใจแล้วสิ  ว่าไอ้เต้มันเป็นเพื่อนหรือเป็นพ่อผมกันแน่  เหอะๆ  มันก็อย่างนี้แหละฮะ  ตั้งแต่ม.1แล้ว  มันคอยเสือก  เอ้ยไม่ใช่  มันคอยดูแลผมตลอด  เหมือนเป็นบอร์ดี้การ์ดเลยล่ะฮะ  ดูความเรียบร้อยทุกอย่างของผม  ต้องพูดเพราะนะ  แต่งตัวต้องเรียบร้อยนะ  งานต้องส่งนะ  มันดูแลผมทุกอย่างเลย  ทุกอย่างที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ควรทำ  แต่ก็เท่านั้นแหละฮะ  ผมเคยฟังมันที่ไหน  555  เพราะมันก็ใช่ว่าตัวมันเองจะดี  เหอๆ - -.  แต่ผมก็ไม่เคยเบื่อหรือรำคาญมันเลยนะฮะ  ถึงแม้เวลาที่ผมมีมันอยู่ใกล้ๆแล้วผมจะไม่มีความมั่นใจเลยก็ตาม  ก็มันหล่อกว่าผมอะ    โห่  ได้ไง  แต่ ผมน่ารักกว่ามันนะ  555  ผมกะมันเรียนมาด้วยกันตั้งแต่ป.4อะ  จนตอนนี้ก็ม.4แล้วนะ  เท่านั้นยังไม่พอ  รั้วบ้านมันยังติดกะรั้วบ้านผมอีก  โห  มันรู้เรื่องของผมทุกเรื่อง  จะเรียกว่าทุกซอกทุกมุมเลยก็ว่าได้อะ  เจอหน้ากันแทบทุกวัน  เหอๆ  ผมยังไม่คิดเลยนะว่า  ที่ผมย้ายโรงเรียนมันยังจะตามมารังควานผมอีก  อะไรมันจาบังเอิญปานนั้น  อานะ  ยังไงมันก็เป็นเพื่อนรักผม  เชื่อมั้ยฮะ  มันคอยช่วยเหลือผมทุกอย่างเลยนะ  ไม่เว้นแม้เรื่องผู้หญิง ^^  ไม่ว่าผมจะชอบคัยคนไหน  มันก็ช่วยให้ผมสมหวังทุกครั้งไป  แต่ก็ใช่ว่ามันจะเต็มใจอะคับ  มันต้องรอให้ผมไม่คุยกะมันก่อน  เพราะมันคงรู้ว่าผมไม่ได้จริงจังอะไร  แต่มันก็ยังช่วยผม  อานะ  ผมยังงงอยู่เลยฮะ  มันทั้งหล่อ  ทั้งรวย  ทั้งเรียนเก่ง  นิสัยก็แสนจะดี  ทำไม๊ทำไมมันถึงไม่มีแฟน  งะ  หรือว่ามันเป็นเกย์  -*-   ไม่หรอกน่า  เหอๆ  แต่มันก็น่าคิดนะคับ  ตั้งแต่คบกันมา  ผมยังไม่เคยเห็นมันมีผู้หญิงคนไหนเลย  มีก็แต่เพื่อนผู้ชาย  แต่ถ้าหนิดสุดๆ  แบบว่ามีคนนั้นที่ไหนต้องมีมันที่นั่น  แล้วก็ผมสิฮะ  เง้อ  ไม่ๆ  เหอะๆ  ดีฮะม่อน  อ่าอืมๆ  ผมตอบด้วยเสียงตะกุกตะกัก  เพราะเริ่มไม่แน่ใจในตัวมันเข้าแล้ว  แต่ผมก็ยังพยายามคิดในใจว่า ไม่มีไรหรอกน่า  มันไม่ใช่  ไม่น่าเชื่อเลยนะคับ  ว่ามันกะผมจะมาเป็นเพื่อนรักกันได้  ก็มันกะผมช่างแตกต่างกันเหลือเกินน่ะสิคับ  ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม  ผมเทียบมันไม่ติดเลยอะซักเรื่อง มันทั้งรวย  ส่วนผมหรอ  กินข้าวคลุกน้ำปลาไปวันๆอะคับ  มันเรียนเก่ง  ส่วนผม  ท่องกอไก่-ฮอนกฮูกได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว  มันหล่อ  แต่ผม  ไม่เคยแม้แต่ได้สัมผัสคำว่าหล่อเลยซักครั้ง  แต่  ผมน่ารัก  555  แต่พอถึงเวลาที่ผมกะมันต้องแข่งกัน  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไรก็ตาม  ทุกครั้งผมก็ชนะมันทุกครั้งไป  ผมก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันอะคับ  แต่ผมก็ภูมิใจนะ  555  ภูมิใจที่ชนะมันได้ ^^  เอิ้กๆ  แล้วพอถึงเวลาที่ผมไปมีเรื่องกะคัยเค้า  ไอ้เต้มันก็จะโผล่มาได้จังหวะพอดีเลยอะ  ไม่ได้มาช่วย  แต่มันมาห้าม  เหอๆ  แต่ก็อย่างที่บอกอะคับ  ผมเคยฟังมันที่ไหน  เพื่อศักดิ์ศรีอะ  ยอมได้ไง  และแล้วด้วยความมีศักดิ์ศรี  ไอ้เต้มันก็เจ็บแทนผมทุกครั้งไป  เหอๆ  ทั้งที่มันไม่ได้เกี่ยวไรด้วยเลย  - -  มันคงคิดว่าผมสู้คนอื่นไม่ได้สินะ  ก็จริงอะคับ  ผมสู้คนอื่นเค้าไม่ได้หรอก  แต่ผมก็ยังไม่วายไปหาเรื่องคนอื่นเค้าอยู่ดี  เหอะๆ  แต่ผมก็ภูมิใจนะคับที่ผมได้คบกะมัน  น่ารักขึ้นนะม่อน  เง้อ  มันพูดไรออกมาเนี่ย  o_0  แต่ก็จริงอะ  555 ^0^  เออ  เอ็งก็หล่อขึ้นเหมือนกันอะ  ผมตอบมันแก้เขิน  ไปห้องเหอะม่อน  เฮ่ย เอ็งรู้หรอว่าข้าได้อยู่ห้องไหน  รู้สิ  เก่งอะ  มันตอบผมแกมกวนส่วนที่เดินได้พร้อมรอยยิ้มอันหวานหยาดเยิ้มของมัน  อานะ  เอ็งนี่ทุกเรื่องเลยจริงๆ  ไปๆ  ฮะ  มันตอบรับพร้อมกับยื่นมือมาคว้ากระเป๋าจากมือผมไปเหมือนอย่างเคย   ไรวะไอ้เต้  ข้าขอซักวันเหอะ  ขอถือเองได้มั้ยวะ  ข้าไม่ได้เป็นง่อยนะเว้ย  ผมพูดด้วยความเหลืออด  มันทำอย่างงี้ตั้งแต่ม.2อะคับ  แล้วนี่ก็ 2ปีแล้ว  โหย - - ไม่อะ  เดินๆไปเลย  อย่าพูดมาก  กระเป๋าใบตั้งเบ้อเร่อ  อย่างแกหรอจะถือไหว อ่าว  ไอ้นี่  ดูถูกกันเกินไปและ  ผมคิดในใจ  แล้วมันก็พาผมเดินมาถึงห้องเรียน  ผมค่อยๆก้าวเท้าซ้ายเข้าห้องตามเดิม  ขอย้ำว่าต้องเท้าซ้ายเท่านั้นนะคับ  เพื่อความเป็นสิริมงคล  แล้วผมก็ไม่ลืมที่จะบังคับให้ไอ้เต้ทำตามผมด้วย  เหอะๆ  และเมื่อตัวของผมผ่านพ้นประตูเข้าไปในห้อง  ด้วยสัญชาตญาณ  ผมใช้สายตาอันหวานซึ้งของผมกวาดสายตาไปทั่วห้องเพื่อเป็นการสำรวจ  และแล้วก็  โอ้จอร์ช  ผมตะโกนในใจ  อิอิ  ผมเจอะคนน่ารักเข้าแล้ว  ความน่ารักของเธอเตะตาผมเข้าอย่างจัง  ผมรีบใช้ศอกสะกิดไอ้เต้  มันเป็นสัญญาณที่เราสองคนรู้กัน  หุหุ  แล้วไอ้เต้มันก็ใช้ตาคมๆของมันกวาดสายตามองหาเป้าหมาย  โห่  ไปหาที่นั่งได้และ  ไปเลยไป  นี่คือคำพูดที่มันพูดกับผมอะ  เท่านั้นแหละคับ  ผมเลิกคบมันเลย  เอ้ย  ไม่ใช่ๆ  ผมไม่พูดกะมันเลย   - -  ทั้งที่มันชวนผมคุยเรื่องต่างๆนาๆ  จนหมดชั่วโมง  มันคงจะรู้สึกตัวแล้วสินะ  มันเริ่มหันซ้ายหันขวา  แล้วมันก็ลุก  555  จนได้เลย  ผมนั่งอมยิ้มที่แสนกว้างไว้ในปาก  ^____________^  อิอิ  มันไปคุยกะผู้หญิงคนนั้น  ไม่นานมันก็กลับมานั่งที่  อะๆ  ก็ได้  แกก็เป็นอย่างงี้ซะทุกทีเลยนะม่อน  เออๆ  ใช่  ข้ายอมรับเว้ย  แกก็เป็นงี้ทุกทีเหมือนกันแหละว่ะ  555  แล้วผมก็กลับมาคุยกะมันเหมือนอย่างเคยทุกๆครั้ง  ทุกๆวันมันจะมารอผมที่หน้าโรงเรียนในตอนเช้า  พร้อมกับการรายงานเรื่องของมิ้นให้ผมฟัง  นี่มันก็ผ่านมาจนปีกว่าแล้ว  ผมกะมิ้นเราเริ่มหนิดหนมกันมากขึ้น  จนเรียกว่าหนิดกันมากเลยก็ว่าได้  แต่ถึงอย่างงั้นก็เหอะ  ผมก็ยังต้องฟังการรายงานเรื่องมิ้นจากไอ้เต้อยู่ตลอด  ต้องขอบคุณไอ้เต้มันจริงๆ  ไหว้งามๆซักครั้งนะค้าบ _/_  เหอะๆ  และในทุกเช้าไอ้เต้มันก็ยังคงยืนรอผมหน้าโรงเรียนทุกวัน  ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์  และวันหยุดนักขัตฤกษ์  เพื่อรายงานเรื่องมิ้นให้ผมรู้  เอหรือว่าเพราะเหตุผลอื่น  มันอาจกลัวว่าผมจะโดนกระทืบหน้าโรงเรียน  หรือไม่งั้นก็กลัวว่าสาวๆแฟนคลับของมันจะมารุมโทรมตัวมันเองกันแน่  555  ช่างมันเถอะคับ  ผมไม่สนใจหรอก  เพราะมันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วเวลาก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ  และดูเหมือนว่ามันจะเดินเร็วเสียจริงๆ  ตอนนี้ผมก็อยู่ม.6แล้ว  เรื่องราวของผมกะมิ้นก็ยังคงดำเนินต่อไป  และผมกะไอ้เต้ก็ยังคงเป็นเพื่อนกันไม่เปลี่ยนแปลง  หรือบางทีมันอาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ไม่รู้สิ เพราะช่วงนี้ไอ้เต้มันดูเปลี่ยนไป  ผมไม่ค่อยได้คุยกะมันเหมือนอย่างเคย  หรืออาจเป็นเพราะว่าผมใช้เวลากับมิ้นมากเกินไป  จนทำให้ทั้งผมและมันเริ่มห่างกัน  แต่ในทางกลับกัน  ผมกลับเห็นมันคั่วอยู่กับสาวๆไปเรื่อย  โดยที่ไม่สนใจผมเลย  แล้วที่สำคัญ  มันกับมิ้นก็ยังทำตัวแปลกๆอีกด้วย  ผมอยากรู้  มันยังจำได้อยู่หรือเปล่าว่ามันมีเพื่อนชื่อม่อนคนนี้  หรืออาจเป็นเพราะผมเอง  ที่ไม่สนใจมัน  ทุกอย่างมันเริ่มเปลี่ยนไป  ทุกเช้าที่ผมมาโรงเรียน ผมไม่เห็นมันยืนรอผมอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนอย่างที่เคย เพื่อคอยรายงานเรื่องมิ้น ไม่มีมันคอยถือกระเป๋าใบโตให้  ทั้งๆที่ผมอยากถือเอง  ไม่มีคนคอยติวหนังสือให้หลังเลิกเรียน   ทั้งที่ผมก็ไม่เคยสนใจเรื่องที่มันพูด  ไม่มีมันคอยดุคอยว่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ผมเถียง  ไม่มีมันคอยไปม่อสาวๆให้ผม  ทั้งที่รู้ว่าผมไม่ได้จริงจัง  และที่สำคัญ  ไม่มีคนเลี้ยงข้าวผมในทุกๆมื้อ  ถึงแม้ผมจะกินจุขนาดไหนก็เหอะ บอกตรงๆผมไม่คุ้นกับสถานการณ์แบบนี้เลย  มันทำให้ผมรู้สึกเศร้านะ  มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน  ขนาดบ้านมันกะบ้านผมติดกัน  เดี๋ยวนี้มันก็ไม่มาคุยกะผมเหมือนอย่างเคย  หรือมันจะเบื่อผมที่ผมทำตัวแบบนี้  ทำตัวไร้สาระไปวันๆ  เหมือนเด็กที่ไม่ยอมโตซักที  หลายครั้งที่ผมพยายามคุยกะมัน  ชวนคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้  จนโดนอาจารย์ทำโทษตั้งหลายหน  เพราะคุยกันในเวลาเรียน    แต่ก็ดูเหมือนว่ามันไม่ค่อยจะเต็มใจที่จะคุยกะผมซักเท่าไหร่  มันคงอยากจะคุยกะสาวๆของมันซะมากกว่า  ก็ใช่สิ  ผมไม่ใช่สาวๆพวกนั้นนี่นา  แต่ยังไง  ผมก็เป็นเพื่อนมันนะ  นี่ก็ผ่านมา 2 เดือนกว่าๆแล้ว  ผมยังคงพยายามตามตื้อมัน  ทั้งที่ผมก็ไม่รู้ว่าผมทำผิดอะไร   ผมพยายามเปลี่ยนตัวเอง  เปลี่ยนทุกอย่าง  ทุกอย่างที่จะทำให้ไอ้เต้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม  ทุกเช้าผมจะยืนรอมันที่หน้าประตูโรงเรียน  แทนที่จะรอให้มันมารอผมอย่างเคย  ทั้งที่ไม่มีเรื่องอะไรจะรายงานให้มันรู้  ยอมให้มันถือกระเป๋าให้โดยที่ไม่บน  ทั้งที่อยากถือเอง   ตั้งใจเรียนทั้งที่ง่วงใจแทบขาด  เพื่อไม่ให้มันลำบากมาติวให้  ทำตัวดีๆ ทั้งที่มันขัดกับสันดาน  เพื่อมันจะได้ไม่ต้องทนดุทนว่า  ไม่สนใจสาวๆคนไหน  เพื่อมันจะได้ไม่ต้องไปม่อให้  และที่สำคัญ  ผมทำงานพิเศษเพื่อจะได้ซื้อข้าวกินเอง  เพื่อที่มันจะได้ไม่ต้องเลี้ยงข้าวผมอีกต่อไป   ผมทำอย่างนี้มาตลอดหลายเดือน  ทั้งที่ผมฝืน  แต่ผมก็เต็มใจ  แต่ดูเหมือนว่ามันยิ่งจะห่างเหินผมออกไปทุกที  ไม่ว่าผมจะทำตัวดีแค่ไหนก็ตาม  มันพยายามหลบหน้าผม  และดูเหมือนว่าความพยายามของมันจะได้ผลมากเลยทีเดียว    เพราะตอนนี้ผมไม่เคยเจอหน้ามันเลย  อย่างมากสุด  ผมก็เห็นมันแค่ด้านข้างเท่านั้น   แต่ความพยายามของผมที่มี  ไม่ว่าจะพยายามยามเท่าไหร่  มันก็ดูเหมือนว่ามันจะหมดไปโดยที่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย  ผมจึงเลิกพยายาม  ผมจะไม่สนใจมันอีกต่อไปแล้ว  เพราะตอนนี้มันมีเรื่องที่ผมควรจะให้ความสนใจมากกว่า  อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะถึงการเอ็นท์แล้ว  ผมอ่านหนังสือทุกคืน  ทุกวัน  และทุกครั้งที่มีเวลาว่าง  แต่ผมกลับไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจอะไรเลย  ในสมองของผมตอนนี้มันมีแต่เรื่องไอ้เต้เพียงคนเดียว  และแล้วก็เหลือเวลาเพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น  ตอนนี้ชีวิตของผมมันวุ่นวายไปหมด  ยายผมกำลังป่วยหนัก  ผมกังวล  ผมคิดมาก  ผมกลัว  กลัวในทุกๆเรื่อง  ผมต้องเอ็นท์ให้ติด  ผมจะไม่ทำให้ยายผิดหวัง  ยายจะต้องหาย  เพราะยายคือคนเดียวผมเหลืออยู่  และยายต้องอยู่กับผมตลอดไป  แต่ผมก็ไม่มีปัญญาที่จะหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่มันมากเหลือเกิน  แต่ผมก็จะพยายาม   หลายอาทิตย์ที่ผ่านมานี้  ผมไปโรงเรียนเหมือนคนที่ไม่มีชีวิต  ไม่มีจิตใจ   ผมตัดขาดจากทุกคน  หรือแม้แต่มิ้น  ผมเอาแต่อ่านหนังสือ  อ่านๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย  สมองผมมันว้าวุ่นไปหมด  จนในที่สุดน้ำใสๆก็หลั่งรินออกมาจากตาผมจนได้  ผมไม่เคยร้องไห้ให้คัยเห็น  แต่นี่คงเป็นครั้งแรกที่มีคนเห็นผมร้องไห้  ไอ้เต้  ไม่รู้มันโผล่มาจากไหน  ผมรีบเช็ดน้ำตาแล้วอดไม่ได้ที่จะโผเข้ากอดมัน  แต่ก็สุดที่จะห้ามน้ำตาไว้ได้อยู่  ไอ้เต้  เพื่อนรักของผม  มันกลับมาแล้ว  มาเพื่อช่วยผมอย่างที่เคย  มันติวให้ผมตลอดทั้งอาทิยต์  ติวจนผมรู้เรื่อง  แล้วมันก็ยังช่วยดูแลค่าพยาบาลของยายผมอีก  มันช่างเป็นคนดีจริงๆเลย  ถึงแม้มันจะทำให้ผมแทบบ้าก็เหอะ  และแล้วช่วงเวลาที่แสนโหดร้ายมันก็ผ่านพ้นไปจนได้   ผมรู้สึกโล่งใจเป็นที่สุด  เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกไปเลยหละคับ  ตอนนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่ผมจะต้องเก็บมาคิดให้ปวดหัวอีกแล้ว  ยายผมก็หายเป็นปกติ  แถมแข็งแรงกว่าเก่าอีกด้วย  เรื่องเอ็นท์มันก็ผ่านไปแล้ว  และไอ้เต้มันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม  ตอนนี้ผมมีเวลาว่าง  มีมากพอที่จะมาคิดทบทวนเรื่องต่างๆที่มันบ้าบอ  ทำไมเทำไมราต้องหลอกตัวเอง  และหลอกทุกๆคนด้วย  นี่มันไม่ใช่เรา  เราไม่ได้เป็นแบบนี้  หยุดซักทีเถอะม่อนแก้ว เพียงแค่ผู้ชายคนเดียว  ผู้ชายที่เราเรียกว่าพ่อ  เค้าทำให้แม่เราเสียใจจนต้องจากเราไป  ถึงเค้าจะไม่ใช่คนทำ  แต่ยังไงแม่ก็ต้องจากเราไปอยู่ดี  ทำไมเราต้องมีอคติกะผู้ชายทุกคนด้วย  ถ้าเรายิ่งทำแบบนี้  แม่รู้  แม่คงจะยิ่งเสียใจไปมากกว่าเก่าแน่ๆ  เธอเป็นผู้หญิง  จำเอาไว้  การที่เธอทำตัวแบบนี้  การที่เธอหลอกตัวเองอยู่อย่างนี้  มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลยนะ  แล้วที่สำคัญ  มันไม่ได้ทำให้เธอสมหวังด้วย   พอซักที   ม่อน! ม่อน!  เสียงที่ฉันคุ้นเคยดังก้องอยู่หน้าบ้าน  เต้มาหาฉัน  หลังจากที่ไม่ได้มานานมากในรอบหลายเดือน  อิอิ  ฉันรีบวิ่งออกไปหาเต้พร้อมรอยยิ้มอันแสนกว้าง  ฉันตื่นเต้นที่เต้จะได้เห็นเพื่อนคนนี้เปลี่ยนเป็นคนใหม่  อืม  ว่าไงจ๊ะเต้  ฉันพูดพร้อมกับอมรอยยิ้มเล็กๆไว้ในปาก  เต้ทำหน้าแบบงงๆ  ฉันดูออกว่าเค้ากำลังคิดไรอยู่  เค้าคงคิดว่าฉันบ้าสินะ  เหอะๆ   เอ่อคือว่าเรามาลาม่อนอะ  เขาก้มหน้าก้มตาพูดเหมือนกำลังเหรียญบาทที่ตกอยู่  อิอิ  แต่มันน่าแปลกนะที่เขาเป็นแบบนี้  เขาพูดกับฉันโดยที่ไม่สบตาฉันแม้แต่น้อย ว่าไรนะเต้  เต้ใจไปไหน  ฉันรู้ว่าเค้าพูดเล่น  เค้าจะไปไหนได้  ไม่มีทาง  555  แต่แล้วฉันก็เหลือบไปเห็นรถเบนซ์คันงามจอดรออยู่ที่ด้านหลังของเขา คือคือว่าเรากำลังจะย้ายบ้านอะ  ฉันไม่อยากจะเชื่อกับคำพูดที่ฉันได้ยิน  เต้  เต้จะย้ายไปไหน  บอกเราสิ  ฉันรอฟังคำตอบด้วยความตั้งใจ  แต่แล้วฉันก็ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของเขาเท่านั้น  เต้  เต้บอกเราสิ  บอกมา  ฉันพยายามคะยั้นคะยอให้เค้าพูด  แต่เค้าก็ได้แต่เงียบเท่านั้น  ฉันเริ่มโมโห  แต่ฉันก็ไม่สามารถทำได้ไปมากกว่านี้  และเมื่อต่างคนต่างเงียบ  น้ำตาของฉันก็ไหลรินลงมา  ไม่ได้  ฉันจะร้องไม่ได้  เต้จะมาบอกเราแค่นี้ใช่มั้ย  ฉันแข็งใจพูดประโยคนี้ออกมา  อืม  เขาตอบ  พร้อมกับยื่นสมุดเล่มหนึ่งมาให้ฉัน  มันเป็นคำตอบที่เย็นชามากเลยนะ  แต่มันก็ยังดีที่เขาไม่เงียบ  เต้รอเราแป็บนึงนะ  แป็บเดียว ฉันรีบวิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อหยิบสิ่งๆหนึ่งที่เตรียมไว้ให้เขาซักวันเมื่อฉันกล้า  และเมื่อฉันกลับออกมา  เขาไปไหน   เขาไม่อยู่แล้ว  ไม่มีแม้วี่แวว  ฉันเห็นเพียงท้ายรถที่กำลังจะลับตาฉันไป  ต่อไปฉันจะไม่ได้พบเพื่อนรักคนนี้อีกแล้วงั้นหรือ  ไม่หรอกน่า  เดี๋ยวเค้าก็กลับมา  ฉันกลับเข้าไปในบ้าน พร้อมกับสมด2เล่มที่อยู่ในมือ  ฉันรีบเปิดดูในสมุดที่เต้ให้มาด้วยความอยากรู้ว่าในนั้นมีอะไรซ่อนอยู่  โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงทีวีที่ดังเจี๊ยวจ๊าวรบกวรประสาท  ผมยังจำได้  ตั้งแต่วันแรกที่ผมได้ย้ายเข้ามาอยู่ในโรงเรียนเดียวกันกับเธอ  ตั้งแต่ป.4  เธอคือเพื่อนคนแรกของผม  เธอชื่อม่อนแก้ว   เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักมาก  ในสายตาของผม  เด็กหญิงตัวเล็กๆที่มีแก้มป่องเป็นจุดเด่น  เธอคุยเก่งแถมยิ้มเก่งอีกด้วย  เธอไม่เหมือนเด็กผู้หญิงทั่วๆไป   เธอมีลักษณะนิสัยเหมือนผู้ชายเปี๊ยบ  แต่ก็ยังมีความอ่อนโยนแบบผู้หญิงซ่อนอยู่อยู่  ผมไม่เคยรู้เลยว่าบ้านเราอยู่ติดกัน  จนกระทั่งผมเห็นเธอเดินอยู่ข้างทางขณะกลับบ้าน  แต่ผมอยู่บนรถ  มันคงจะดูไม่ดีเลยใช่มั้ย   ถ้าผมจะปล่อยให้เพื่อนคนนี้เดินต่อไป  และตั่งแต่นั้นมาเธอก็ไปโรงเรียนและกลับบ้านพร้อมกับผมประจำ  จนเธอขอร้องว่าอยากไปเองมาเอง  และแน่นอน  ผมยอมตามใจเธอ  เราอยู่โรงเรียนเดียวกันห้องเดียวกันจนม.2  มันจึงไม่แปลกเลยที่เราจะสนิทกันมาก  และยิ่งสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ  จนเรากลายเป็นเพื่อนรักกัน  โดยที่ผมไม่เคยรู้ตัวเลยว่า  ในความเป็นเพื่อนของเรานั้น  มันมีอะไรแอบซ่อนอยู่  จนกระทั่งเธอได้ไปชอบผู้หญิงคนหนึ่ง  เธอบอกกับผม  เธอต้องการให้ผมช่วย  ผมก็ช่วยเธอคับ  ช่วยด้วยความเต็มใจ  แต่ผมกลับรู้สึกแปลกๆข้างในใจยังไงบอกไม่ถูก   นับวันความรู้สึกแปลกๆนี้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  จนผมรู้ใจตัวเองว่า  ผมรักเธอ  นี่เป็นรักครั้งแรกของผม  รักโดยไม่รู้ตัว  ผมไม่กล้าบอกเธอ  เพราะด้วยความเป็นเพื่อนที่กั้นเราไว้  ผมทำได้เพียงเก็บความรู้สึก  แล้วแสดงออกมาในฐานะเพื่อน  เพื่อนที่แสนดี  ผมไม่รู้ว่าเธอรู้รึเปล่าว่าผมคิดอะไรอยู่ในใจ  หรือเธอจะสงสัยบ้างมั้ย  การที่ไอ้เพื่อนคนนี้ได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน  ห้องเดียวกันกะเธอมาตลอด  เธอจะรู้มั้ยว่ามันคือฝีมือผมเอง  การที่ไอ้เพื่อนคนนี้ไปรับไปส่งเธอที่โรงเรียนทุกวัน  ทั้งๆที่โรงเรียนกับบ้านอยู่ห่างกันไม่ถึง500เมตร  การที่ไอ้เพื่อนคนนี้คอยแย่งถือกระเป๋าให้เธอทุกวันเพราะกลัวเธอหนัก  ทั้งที่เธอไม่ชอบ  แต่ผมก็ยอมฟังเธอบ่น  การที่ไอ้เพื่อนคนนี้ยอมแพ้เธอตลอด  เพราะกลัวเธอเสียใจ  การที่ไอ้เพื่อนคนนี้ยอมตามใจเธอทุกอย่าง  เพราะกลัวเธอไม่คุยด้วย  การที่ไอ้เพื่อนคนนี้ยอมเป็นตามง้อเธอทุกครั้ง  ทั้งที่เธอเป็นฝ่ายผิด  การที่ไอ้เพื่อนคนนี้ยืนรอเธอที่หน้าโรงเรียนทุกเช้าเพื่อคอยรายงานเรื่องของมิ้นให้เธอฟัง  ทั้งที่ผมไม่ได้ต้องการให้เธอรู้  แต่เพียงเพราะเหตุผลโง่ๆ  ที่ว่าอยากเดินเข้าโรงเรียนพร้อมกับเธอ  การที่ไอ้เพื่อนคนนี้ชอบโผล่มาเจ็บตัวแทนเธอตลอด  ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวไรด้วยเลย  การที่ไอ้เพื่อนคนนี้คอยไปคุยกะผู้หญิงที่เธอชอบมาให้  ทั้งๆที่ฝืน  เพียงเพราะอยากให้เธอสมหวัง  แต่ผมต้องผิดหวัง   และการที่ไอ้เพื่อนคนนี้คอยดูแลเธอทุกอย่าง ทั้งที่เธอไม่ต้องการ   เธอจะรู้บ้างมั้ยว่าผมรู้สึกยังไงกับเธอ  แต่ผมก็ไม่อยากให้เธอรู้  เพราะผมกลัวว่าถ้าเธอรู้เธอจะเปลี่ยนไป  ผมยังคงทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดีของเธอ  จนกระทั่งผมรู้ว่าผมต้องย้ายบ้านอีกครั้ง  แต่คราวนี้มันไกลเหลือเกิน  ไกลเกินกว่าที่ผมจะได้เจอและพูดคุยกับเธอเช่นเคย  และผมไม่รู้ว่าผมจะมีโอกาสได้พบกับเธออีกหรือไม่  ผมไม่รู้จะทำเช่นไร  ผมจึงทำได้แต่เพียงพยายามออกห่างจากเธอ  เพราะบางทีวิธีนี้มันอาจจะช่วยให้ผมตัดใจจากเธอ  และจากเธอไปโดยที่ไม่เสียใจได้  ผมหลบหน้าเธอ  และเปลี่ยนไปตีสนิทกับผู้หญิงคนอื่นแทน  ผมรู้ว่ามันไร้สาระ  และมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บ  และผมยิ่งรู้สึกเจ็บมากขึ้นไปอีก  เมื่อเธอยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ผมกลับไปเป็นอย่างเช่นเดิม  แต่ผมก็ต้องฝืนต่อไป  เธอไม่รู้หรอก  ถึงแม้ว่าผมจะหลบหน้าเธอ  ที่ดูเหมือนว่าผมไม่อยากยุ่งกับเธออีก  ที่จริงแล้วผมยังแอบมองเธออยู่ตลอด  เพราะผมยังเป็นห่วงเธอ  จนกระทั่งผมทนไม่ได้เมื่อรู้ว่าเธอมีปัญหา  และเมื่อได้เห็นน้ำตาของเธอ    ผมกลับมาเป็นเพื่อนที่แสนดีของเธออีกครั้ง  ทั้งที่ผมพยายามห้ามใจตัวเองแล้ว  แต่ผมดีใจและมีความสุขมากเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเธอ  แต่ถึงขนาดนี้ผมก็ยังไม่กล้าบอกเธอว่าผมรักเธอ  และผมคิดว่าผมคงไม่มีโอกาสได้บอกเธอหรอก  ต่อเมื่อเรายังเป็นเพื่อนกันอยู่อย่างนี้  แต่ผมก็ไม่ได้เสียใจนะที่ผมได้เป็นเพื่อนเธอ  เพราะอย่างน้อยผมก็ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักของเธอเลยนะคับ  แต่ที่ผมเสียใจ  คือ  ผมไม่กล้าบอกกับเธอว่าผม รักเธอ  นี่คือข้อความที่เขียนด้วยลายมืออันแสนขี้เหร่ของเต้  น้ำใสๆที่ไหลออกมาเป็นทางจากตาของฉัน  มันหยดลงสู่กระดาษแผ่นบางในสมุดนับไม่ถ้วน  ฉันไม่รู้ตัวว่าฉันกำลังร้องไห้  ฉันคิดว่าฉันกลั้นมันไว้ได้อยู่นี่นา  แต่ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้  ฉันกลับมานั่งอ่านข้อความในสมุดของฉันที่ได้เตรียมไว้ให้เขาอีกครั้ง  นายฑานิยะ  วิวัฒนศิลป์  นายเต้  เพื่อนรัก  ของฉัน  นายเป็นคนที่เข้ามาลบอคติของฉันที่มีต่อผู้ชายทุกคน  ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฉันจะมารักผู้ชายได้  จนฉันได้มารู้จักกับนาย  แต่เราเป็นเพื่อนรักกัน  ฉันไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนความสัมพันธ์ที่เป็นเส้นขนานนี้ได้อย่างไร  ฉันไม่กล้าบอกนาย  เพราะกลัว  กลัวว่านายจะไม่ชอบ  แล้วนายจะเปลี่ยนไป   ก็ฉันมันไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไปนี่นา  ไม่สวย  ไม่น่ารัก  ไม่รวย  เรียนก็ไม่เก่ง  แถมยังขี้งอนเป็นที่หนึ่งอีกตะหาก  ฉันทำได้เพียงเก็บความรู้สึกนี้ไว้ข้างใน  ฝืนทำตัวบ้าๆที่มันไม่ใช่ตัวฉันเอง  เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆกับนายแล้วก็ทำตัวเป็นเพื่อนนายตลอดมา  แต่นายจะรู้มั้ย  ว่าที่ฉันยอมให้นายไปรับไปส่งทุกวันเพราะฉันอยากอยู่ใกล้ๆนาย  ทั้งๆที่เดินไปเองก็ได้  นายจะรู้มั้ย ว่าที่ฉันได้อยู่ห้องเดียวกับนายมะตลอด  ทั้งๆที่ย้ายโรงเรียน  ฉันดีใจแค่ไหน  ถึงแม้ฉันจะบ่น  นายจะรู้มั้ย ว่าทุกครั้งฉันมาถึงโรงเรียนก่อนนาย  แต่ฉันก็กลับเดินไปเดินมาเพื่อรอให้นายมายืนรอฉัน  แล้วแกล้งทำเป็นเพิ่งมาถึง  เพื่อจะเดินเข้าโรงเรียนพร้อมกับนาย  นายจะรู้มั้ย  ว่าทุกครั้งที่ฉันมีเรื่อง  ฉันภาวนาให้นายอย่าโผล่มานะ  เพราะไม่อยากให้นายมาเจ็บแทนฉัน  นายจะรู้มั้ย  ที่ฉันทำเป็นชอบผู้หญิงคนโน้นคนนี้  แล้วต้องให้นายช่วย  ที่จริงแล้วเพราะฉันกลัวว่านายจะไปชอบพวกเค้าต่างหาก  นายจะรู้มั้ย  ที่นายถือกระเป๋าให้ฉันทุกวัน  ฉันเอาหนังสือออกไปไว้ในล็อกเกอร์หมดแล้ว  เพราะกลัวนายจะหนัก  นายจะรู้มั้ย  ว่าที่ฉันคบกับมิ้น  เราคบกันในฐานะอะไร  ฉันกับมิ้นเป็นเพื่อนกัน เพื่อนที่ต่างช่วยกัน มิ้นรู้ว่าฉันรักนาย มิ้นจึงเป็นคนเดียวที่ฉันสามารถคุยเรื่องนายได้  นายจะรู้มั้ยว่าทุกครั้งที่ฉันเห็นนายคุยกับผู้หญิงคนอื่น  ฉันรู้สึกเจ็บแค่ไหน  และนายจะรู้มั้ย  ที่ฉันเป็นแบบนี้มันเพราะอะไร  เพราะว่าฉันรักนาย  นายเข้าใจมั้ย  ฉั น รั ก น า ย  ฉันจะรอนายนะ  รอนายกลับมา  ฉันสัญญา  ขอคั่นรายการด้วยข่าวด่วนค่ะ  ได้เกิดอุบัตืเหตุเครื่องบินตกโดยไม่รู้สาเหตุเมื่อ3ชั่วโมงที่แล้ว  ณ ทุ่งแห่งหนึ่งในอินเดีย  ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย  และ1ในนั้นคือครอบครัวของนายอภิชัย  วิวัฒนศิลป์  เจ้าของบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องชื่อดังของประเทศไทย  และมีผู้บาทเจ็บอีกประมาณ20ราย   เชิญติดตามการรายงานข่าวครั้งต่อไปในช่วงหน้าค่ะ

จะยังอยู่ตรงนี้เพื่อรอเธอ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟmini_pk
Lovings  mini_pk เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟmini_pk
Lovings  mini_pk เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟmini_pk
Lovings  mini_pk เลิฟ 0 คน
  mini_pk
ไม่มีข้อความส่งถึงmini_pk