22 กุมภาพันธ์ 2548 18:32 น.
				
												
				
								namsai
		
					
				
 
ค่ำ แ ล้ ว น ะ..
   
ส วั ส ดี .. จ๊ ะ.. ด ว ง จั น ท ร า..
ท้ อ ง ฟ้ า คื น นี้ .. แ ส ง น ว ล ใ ย..
พ รุ่ ง นี้ เ ธ อ ค ง ส ว ย ส ด ใส 
เ ป ล่ ง แ ส ง ป ร ะ ก า ย ใ น ร า ต รี.. 
ขอ...
พั ก ผ่ อ น ก่ อ นน ะ    
จ ะ นั่ ง ห ลั บ ต าใ น คื น นี้
ก ลั่ น ใ จ ใ ห้ ใ ส ไ ร้ ร า คี
ต้ อ น รั บ พ รุ่ ง นี้ ที่ จ ะ มา เ ยื อ น..
 ทั้ ง วั น..   
 
ด ว งใ จ ข อ ง ฉั น ล่ อ ง ล อ ย ไ ป.. 
ฉุ ด รั้ง ไ ว้ .. แ ล้ วเ ชิ ญ ใ จ ..ใ ห้ คื น เ รื อ น
ต รึ ก เ บ า เ บ า ต ะ ล่ อ ม ใ จ ใ ห้ ค่ อ ย เ ค ลื่ อ น
ทำ ใ ห้ เ ห มื อ น ปุ ย สำ ลี ที่  ล อ ย ไ ป 
นิ่ ง ใ น นิ่ ง . . 
 
ดิ่ ง ใ จ . . ใ ห้ เ ข้ า ก ล า ง
มั ช ฌิ ม า เ ป็ น ห น ท า ง ส ว่ า ง ใ ส
เ ป็ น ห น ท า ง เ ริ่ ม ต้ น ค้ น เ ข้ า ไ ป
ค ว า ม สุ ข ฉั น แ ส ว ง ไ ด้ใ น ตั ว เ อ ง
 
 * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *  * *
      
..ใจใสแล้ว..แบ่งปันความสุขให้ทุกท่าน..บุญใดที่ได้ทำ..ให้ทุกท่านได้เท่ากัน.. 				
			 
			
				21 กุมภาพันธ์ 2548 20:24 น.
				
												
				
								namsai
		
					
				
           
  ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ 
เป็นงานกลอนที่ไร้ค่า
         เขียนขึ้นมาเพื่อเก็บไว้
                 ถึงคำสอนพระจอมตรัย
                           เตือนตัวเองเอาไว้ไม่ให้ลืม.. 
                                       (ก็เท่านั้น)
         ..เป็นงานกลอนที่ไม่น่าสนใจ..ชาวเวบไทยฯ โปรดอย่าถือสา..
 ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼
 
 ขึ้นสิบห้าค่ำในเดือนสาม 
 จันทรางาม..สว่างไสว..ด้วยรัศมี
โดดเด่น..เป็นสง่า..ในราตรี
ท้องฟ้า..ค่ำคืนนี้..มีเพียงจันทร์ 
  
พระภิกษุเดินทางมา..จากทั่วทิศ 
 ทุกดวงจิตมุ่งมั่นมา..พนาสัณฑ์
ต่างก็มี..เป้าหมาย..ที่เดียวกัน
ไม่ได้..นัดหมายนั้น..อัศจรรย์ใจ 
  
ล้วนเป็นเอหิภิกขุ..อุปสัมปทา 
 องค์พระสัมมา..ทรงบวชให้
หนึ่งพันสองร้อยห้าสิบรูป..มารวมใจ
มีองค์พระทรงชัยเป็นประธาน 
 
  
พุทธองค์ทรงแสดงพระเทศนา 
 ด้วยโอวาทปาฏิโมกข์พิสดาร
วางหลักการ..เผยแผ่.. ดำรง....ให้ตรงกัน
ในอนาคตกาลต่อไปไม่บิดเบือน..
              ☼ ☼ ☼ ☼  ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ 
 ในวันมาฆบูชา เกิดเหตุ อัศจรรย์ 4 อย่างพร้อมกัน คือ
 @ พระภิกษุ มาประชุม ๑,๒๕๐ รูป โดยไม่ได้นัดหมาย
 @  ต่างอุปสมบทด้วย เอหิภิกขุอุปสัมปทา ทั้งสิ้น
 @  ทุกพระองค์ล้วนเป็นขีณาสพอรหันต์ เป็นผู้หมดกิเลสแล้วโดยสิ้นเชิง
 @  และวันนั้นเป็นวัน พระจันทร์เสวย มาฆฤกษ์ 
☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼
 
          จุ ด ป ร ะ ที ป เ ที ย น ชั ย ใ ห้ ส ว่ า ง
          ใจเข้ากลาง..นิ่ง..หยุด..พุทธองค์
          ยก..ย่าง..ก้าว..สติตั้ง..ใจมั่นคง
          ใจนิ่งตรง องค์พระสัมมาฯ ไม่ละไป 
          ทั ก  ษิ ณ า เ วี ย น ไ ป ใ จ ส ง บ
          น้อมเคารพบูชากว่าสิ่งไหน
          ผู้รู้จริงรู้แจ้งก่อนผู้ใด
          ผู้ยกธงธรรมชัย..ปราบไพรี 
          มื อ ทั้ ง ส อ ง ป ร ะ ค ร อ ง น บจ บ เ ห นื อ เ ก ศ
          บูชาแด่องค์สมเด็จพระชินสีห์
          บูชาธรรมตามติดสร้างความดี
          ข้ามห้วงวัฏฏะนี้สู่นิพพาน... 
          ข อ อ นิ ส ง ส์ ผ ล บุ ญ ที่ ป ร ะ เ ส ริ ฐ
          จงบังเกิดจะตั้งจิตอธิษฐาน
          เกิดมาชาติใดให้พบพาน
          พุทธศาสน์ตราบเท่านาน..จนถึงชัย..
				
			 
			
				18 กุมภาพันธ์ 2548 17:24 น.
				
												
				
								namsai
		
					
				
  
 
 ขึ้นสิบห้าค่ำในเดือนสาม 
 จันทรางาม..สว่างไสว..ด้วยรัศมี
โดดเด่น..เป็นสง่า..ในราตรี
ท้องฟ้า..ค่ำคืนนี้..มีเพียงจันทร์ 
  
พระภิกษุเดินทางมา..จากทั่วทิศ 
 ทุกดวงจิตมุ่งมั่นมา..พนาสัณฑ์
ต่างก็มี..เป้าหมาย..ที่เดียวกัน
ไม่ได้..นัดหมายนั้น..อัศจรรย์ใจ 
  
ล้วนเป็นเอหิภิกขุ..อุปสัมปทา 
 องค์พระสัมมา..ทรงบวชให้
หนึ่งพันสองร้อยห้าสิบรูป..มารวมใจ
มีองค์พระทรงชัยเป็นประธาน 
 
  
พุทธองค์ทรงแสดงพระเทศนา 
 ด้วยโอวาทปาฏิโมกข์พิสดาร
วางหลักการ..ดำรง..เผยแผ่..ให้อยู่นาน
ในอนาคตกาลต่อไปไม่บิดเบือน..
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ในวันมาฆบูชา เกิดเหตุ อัศจรรย์ 4 อย่างพร้อมกัน คือ
@ พระภิกษุ มาประชุม ๑,๒๕๐ รูป โดยไม่ได้นัดหมาย
@  ต่างอุปสมบทด้วย เอหิภิกขุอุปสัมปทาให้ทั้งสิ้น
@  ทุกพระองค์ล้วนเป็นขีณาสพอรหันต์ 
@  และวันนั้นเป็นวัน พระจันทร์เสวย มาฆฤกษ์ 
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@				
			 
			
				17 กุมภาพันธ์ 2548 12:22 น.
				
												
				
								namsai
		
					
				
โด ด เ ด่ น ส ะ อ า ด ข า ว 
 เพชรพราวกลางนที
งามล้ำค่าราชินี
หมู่บุปผาพนาไพร 
ย้ อ น ไ  ป เ มื่ อ ต้ น กั ป 
นับไม่ได้อสงไขย
ดอกบัวคือหัวใจ
เกิดก่อนใครในโลกนี้
พ ร้ อ ม ห น้ า ที่ ที่ ยิ่ ง ใ ห ญ่ 
เพื่อทำนายพระชินสีห์
เสด็จตรัสรู้ในกัปมี
ห้าดอกพอดีในกัปเรา
 ด อ ก บั ว ยั ง เ ป รี ย บ ไ ด้ 
ดวงปัญญาหรือโง่เขลา
เปรียบไว้บัวสี่เหล่า
จงเลือกเอาเป็นเหล่าใด
น้ อ ม น บ เ ป็ น พุ ท ธ บู ช า
ด้ ว ย บุ ญ ฑ ริ ก า ข า วส ด ใ ส
น บ บู ช า แ ด่ พ ร ะ รั ต น ไ ต ร
อ ภิ ว า ท ไ ว้ เ ห นื อ เ ศี ย ร เ ก ล้ า
 
 ************************************************************************ 
เรื่องย่อเพิ่มเติม
 
บัว..เป็นดอกไม้ชนิดแรก   ที่..เกิดขึ้นในโลก ..เพื่อ..ทำนาย การบังเกิดขึ้น 
ของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า..
..ในกัปของ เรา มีดอกบัว เกิดขึ้น 5 ดอก...  เรียกกัปนี้ว่า ..ภัทรกัป.. 
....จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น 5 พระองค์ 
.........ซึ่งเป็นกัปที่มีการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เยอะที่สุด..
.................... บางกัปจะมีไม่กี่พระองค์ หรือ ไม่มีเลย .......
..เราถึอว่าโชคดีนะ..
..ที่เกิดมาในช่วงที่มีพระรัตนไตร ครบ 
.......คำสอนของพระองค์ยังมีให้เราได้ศึกษาและปฏิบัติตาม 
..............ถ้าเกิดช่วง ..สูญญากัป..คงแย่เลย....
  (สูญญากัป..คือช่วงที่ว่างเปล่า พระโพธิสัตว์, พระปัจเจกพุทธเจ้า, และพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) 
 ***********************************************************************
...ถวายดอกบัว...แทนความรัก..ความเมตตา..ต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเรา..
 
                                               ++พี่ดอกแก้ว++
ดอกบัวสี่เหล่านั้น..............เปรียบชน 
แตกต่างสันดานคน...........แบ่งขั้น 
เหล่าแรกมากหลากล้น......ปัญญ์เปี่ยม 
ลดหลั่นเหล่ารองชั้น..........ยิ่งน้อยปัญญา 
โปรดธรรมนำหลักน้อม......อบรม 
ผู้ยิ่งปัญญาคม....................มอบให้ 
ประโยชน์เลิศเลอสม..........เปี่ยมสุข 
ทรงมอบธัมมจักรไว้...........ตัดสิ้นกงกรรม 
                                                  +++ ลักษณ์ +++
ดอกบัวแม้เกิดด้วย......โคลนตม
ยังเชิดดอกเชยชม.......อวดฟ้า
เราท่านกลับยังจม........เบื้องล่าง
มิรับแสงธรรมจ้า..........หลุดพ้นโคลนตม
บุณฑริกดอกนี้..................สีขาว
สะอาดบริสุทธิ์พราว...........ผ่องแท้
งดงามหมดจดราว.............บุปผ-..สวรรค์แล
พระวิสุทธิคุณแล้...............เปรียบด้วยบัวขาว
				
			 
			
				15 กุมภาพันธ์ 2548 16:33 น.
				
												
				
								namsai
		
					
				
         
++
เป็นพราหมณ์หนุ่ม..ที่ฉลาด
เก่งกาจลักษณะมนต์..และไตรเพท
ชีวิตได้พลิกผัน..เมื่อมีเหตุ
เข้าในเขตเวียงวัง..เพื่อทำนาย
พระมหาบุรุษ..ผู้ประเสริฐ
ก่อกำเนิดเกิดขึ้น..ด้วยจุดหมาย
ตรัสรู้ช่วยสรรพสัตว์..ให้พ้นภัย
จึงตั้งใจติดตาม..เพื่อศึกษา
ยามที่พระมหาบุรุษ..ทรงบำเพ็ญ
เที่ยวหลีกเร้นทำความเพียร..เพื่อเสาะหา
ตรัสรู้เข้าถึงธรรมเป็น..องค์พระสัมมา
โกณฑัญญะเฝ้าดูแล..มิห่างไกล
จนถึงวันที่พระองค์..ทรงบรรลุ
โกณฑัญญะไม่อยู่..ได้หนีหาย
น้อยใจมหาบุรุษไม่บำเพ็ญ..ทุกข์ทางกาย
ได้คิดไกลว่าพระองค์..คงถอยละ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า..ได้บังเกิด
ผู้ประเสริฐหลุดพ้น..ห้วงวัฏฏะ
ผู้นำแสงสว่าง..กลับคืนมา
โกณฑัญญะฟังธรรม..ก่อนผู้ใด
ล้อแห่งธรรมได้..ถูกหมุนแล้ว
โกณฑัญญะเพริศแพร้ว..ด้วยธรรมใส
ธัมมจักกัปวัตนสูตร.. ได้หยุดใจ
อนัตตลักขณสูตรได้..เป็นอรหันต์
ได้ยกย่องเป็นผู้..รัตตัญญู
ได้เอหิภิกขุ เป็น..องค์แรกนั้น
ได้เป็นหนึ่งในปัญจวัคคีย์..พระทรงธรรม์
ได้เผยแผ่พุทธธรรม..ปราบหมู่มาร..
  
++เรื่องย่อเพิ่มเติมจ่ะ++
       ท่านอัญญาโกณฑัญญะ  เมื่ออายุ 29 ได้เข้าไปทำนายลักษณะ และตั้งชื่อพระมหาบุรุษ ผลการทำนาย แยกได้ 2 อย่าง 1..ถ้าอยู่ทางโลก จะได้เป็นพระมหาจักรพรรดิ์  2..ถ้าได้บวชจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ท่านอัญญาโกณฑัญญะ เชื่อมั่นว่าจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น จึงได้ตั้งใจไว้ว่า เมื่อใดพระองค์ออกบวชจะตามไปเป็นศิษย์ พร้อมกับได้ไปชวน ลูกและหลาน ของพราหมณ์อื่นตามไปด้วย 4 ท่านคือ ท่านวัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และ ท่านอัสสชิ ซึ่ง 6 ปีที่พระองค์ออกบำเพ็ญทุกขกิริยา ทั้ง 5 ท่านได้ตามอุปฐาก ตลอดมา จนถึงวันที่พระองค์จะตรัสรู้ พระองค์ได้เปลี่ยนวิธีบำเพ็ญแบบทุกขเวทนาทรมานตน มาเป็นแบบสบายๆ เสวยให้อิ่ม สรงน้ำทำความสะอาดพระวรกาย ท่านโกณฑัญญะ และพราหมณ์ ทั้ง 4 เห็นเช่นนั้นนึกว่าพระองค์เลิกที่จะหาโมกขธรรมแล้ว จึงได้หนีไปอยู่ที่ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว จึงได้เสด็จไปโปรด ปัจวัคคีย์ ทั้ง 5 พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้เข้าถึงธรรมเป็นคนแรก ด้วย ธัมมจักกัปวัตนสูตร (ได้เป็นพระโสดาบัน) ต่อมาได้ฟังธรรม อนัตตลักขณสูตร จึงได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ..