23 พฤศจิกายน 2546 19:36 น.

ความฝันจินตนาการ II

กระดิ่ง

แค่เพิ่งเปิดประตู.... และก้มลงผูกเชือกรองเท้า
		พายกระเป๋าใบใหญ่ๆ เบาๆสีดำ
		ไม่อะไรข้างในนั้น เลย ......
		ก็ ฉันจะเดินต่อไป ไปเอาอะไรๆมาใส่ ข้างในนี้ในกระเป๋า
		หันหลังกลับไป .... ไม่มีอะไรที่ฉันคุ้นตา
		ห่างจาก ที่ๆเคยอยู่มา จนกลับไม่ไหว
		แบกเป้เดินต่อไป 
		แล้วหยุดก้าว แล้วความคิดก็พุ่งตรงมา
		ฉันเดินจากมาทำไม

		ตอนนี้ เห็นที่สุดปลายฟ้า
		มีคนบอกมาว่า มันแค่ความฝัน
		ถ้ามันเป็นแค่ แค่นั้น
		ทำไม ... ฉันเดินออกมา ให้เหนื่อยทำไม		
		มีอที่เปียกชุ่ม .. กำความว่างเปล่าไว้แน่น
		นำหยดลงมา จากสองที่ 
		ฉันยอมแพ้ ยอมแพ้ได้เสียที
		ตั้งแต่ตอนนี้ ..จะไม่ยอมเหนี่อย ไม่ยอมเจ็บอีกต่อไป

คราวนี้ฉันจะล้มเลิกความฝันจินตนาการแล้วเหรอ มีต่ออีกนะ				
23 พฤศจิกายน 2546 14:23 น.

ความฝันจินตนาการ

กระดิ่ง

เดินต่อไป ........... เสียงจากฉัน ผู้อ่อนแอ 
		สุดปลายฟ้า ฉันยอมแพ้ หยุดจินตนาการ
		เพราะไม่ใช่เรื่องราว การเดินทาง ฆ่าเวลาของวันวาน 
		ไม่เหมือนก้อนหิน .... ที่ไหลไปตามนำ.... 
		ไม่เหมือน ....ในความ่ต้องการ ... ที่บังคับให้หายใจ 
		เดินต่อไป.............. เสียงจากใครข้างหลัง
		ก้มลงดูไป ยัง เท้าเปลือยเปล่า .... และรู้สึกเปลี่ยนไป
		เจ็บ .... ทั้งๆที่ไม่มีเลือดไหลออกมาซักหยด ทำไม
		ความฝัน กดมือที่ไขว่คว้า เจ็บ ลงถึงข้างใน 
		แต่เสียงที่ว่า เดินต่อไปยัง คง บังคับให้ ทำ


ยังไม่จบนะ				
31 ตุลาคม 2546 22:21 น.

ทำไมไม่มองหน้า......ผม

กระดิ่ง


	ค่ำคืน ที่สงบ และเดียวดาย รู้สึกเหมือนจะอยู่คนเดียวตลอดไป
ผมม้า ที่ปรกลงมาปิดดวงตาไว้ แม้รู้สึกไม่ค่อยจะสบายเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยมันก็เก็บอะไรบางอย่างไว้ให้อยู่ในที่ที่มันควรจะอยู่ 
เพราะแม้คนข้างหน้าจะพยามที่จะมองตาเราแค่ไหน เค้าก็ยังสบายหัวใจได้โดยที่เค้าไม่รู้สึกผิดและนั้นคือเหตุผลที่ฉันไม่ตอบเค้าว่า ทำไมไม่มองหน้าผม
	กลางคืน ที่ทำให้ฉันนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านไปตอนนั้น เคยคิดว่า ฉันจะผ่านมันไปได้ยังไงกันแม้ตอนนี้ ทั้งๆที่ความเข้มแข็งยังคงเปื้อนหยดน้ำตา 
	คืนนั้น เราอยู่ด้วยกัน และต่างคนต่างกุมมือของอีกคนไว้ เราเดินไปตามถนน และเดินไปเรื่อยๆ ใบหน้าของเค้ามีรอยยิ้มที่ฉันชอบ 
มีหัวใจของเค้าที่ฉันรัก ทุกอย่างทีเป็นเค้ายังไม่เปลี่ยนไปสายตาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย ทั้งๆที่เค้ารู้อยู่เต็มหัวใจ 
แต่ฉันกลับไม่รู้อะไรเลย  แม้สายตาครั้งสุดท้ายที่ฉันจะสัมผัสกับมัน 
	ฉันมองหน้าเค้าบ่อยขึ้น เพราะฉันรักเค้า มากขึ้น มากขึ้น และสายตาของฉันก็ไม่เคยที่จะอ้างว้าง เพราะทุกครั้งเค้าจะหันมาและยิ้ม 
มันทำให้ฉันรู้สึกว่า เค้ายังอยู่กับฉัน ยังคงเป็นคนที่พูดได้เต็มปากว่า เค้าเป็นคนที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน
	เค้าเคยบอกฉันว่า ฉันเป็นคนที่หัวเราะมากทีสุดในโลก หัวใจเล็กๆของฉันคงเป็นสีรุ้ง เพราะข้างในนั้นมีหัวใจโตๆสีรุ้งของเค้าอยู่ 
เรามีหัวใจสีรุ้ง ที่ไม่เหมือนชาวบ้านเค้า แค่เราสองคนเท่านั้น และทุกครั้งที่ฉันหัวเราะ เค้าบอกเสมอว่า รุ้งกินน้ำอีกแล้ว เพราะผม เพราะผม
	คืนนี้ ถนนสายนี้ยาวเสียเหลือเกิน เค้าจับมือฉันแน่น และบอกว่า วันนี้ผมขอดูดวงตาใต้ผมม้านั่นหน่อยนะ แล้วเค้าก็พาฉันวิ่งไปเพื่อซื้ออะไร
ที่พอจะติดผมม้านี่ได้ มือของเค้ายังคงอุ่นแม้ตอนนี้ ตอนที่ติดกิ๊บให้ฉัน เราไม่ค่อยได้สบตากันซักเท่าไหร่ ฉันเกือบไม่รู้จักสายตาของเค้าด้วยซ้ำ  
และมันเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้จัก อบอุ่นจัง ไม่ใช่แค่สายตาอ้อมกอดของเค้าก็ยัง อุ่นๆ ทำให้ฉันอุ่นๆไปทั้งตัวและใจ 
	เราหัวเราะด้วยกัน แม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ฉันก็หัวเราะได้อย่างมีความสุขแม้เราไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่เราก็ยังไม่หยุดเดิน 
เค้าเดินไปกับฉัน และฉันก็ได้แต่มองไปตามถนน ทั้งๆที่อยากจะมองหน้าเค้าแค่ขอให้มั่นใจว่าเป็นเค้า แต่ฉันก็ยังวางใจที่ยังมีมืออุ่นๆอยู่กับมือของฉัน 
เค้าไม่พูดอะไรเลยซักคำ แม้ยังไม่ถึงสุดปลายถนน เค้าก็หยุดเดินทุกอย่างเงียบ เค้าเงียบ และฉันก็หัวเราะ แต่เค้าก็ยังเงียบ ฉันเริ่มที่จะเงียบ แล้วมันก็เกิดขึ้น 
	"ผมว่า เราสองคนหยุดกันตรงนี้ดีกว่านะ ในวันข้างหน้า ผมไม่อยากเห็นคุณต้องร้องไห้ ผมรักเสียงหัวเราะของคุณ 
แต่คุณคงไม่รักคนที่ไม่ได้มีคุณแค่คนเดียว.ใช่มั๊ย ผมผิดเอง ผมไม่อยากให้คุณต้องเสียใจมากไปกว่านี้ ผมผิดเอง...." 
คำพูดที่ยืดยาวแม้จะจำไม่ได้ทุกคำ แต่ฉันก็รู้ว่า สิ่งที่เค้าหมายถึง แค่เพียงต้องการให้ฉันเข้าใจว่า ทำไม แต่จู่ๆน้ำตาก็ไหลเอ่อออกมา
ทั้งๆที่ฉันไม่ได้ต้องการมัน ถ้อยคำที่หลั่งไหลออกมาจากเค้า คนที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน ฉันไม่ต้องการให้เค้ารู้สึก ผิด และฉันก็ไม่ต้องการน้ำตา 
ทำได้แค่เก็บมันไว้ ใต้ผมม้าที่พอจะให้เค้าสบายหัวใจได้บ้าง ฉันไม่ได้ทำ ไม่ได้พูดอะไร แค่ร้องไห้และก้มหน้า ทั้งที่น่าจะตั้งใจฟังคำสุดท้าย
ที่คนที่ดีที่สุดในชีวิตฉันจะบอกกับฉัน ฉันน่าจะตั้งใจฟังตอนนั้น แต่แล้ว คำสุดท้ายที่ฉันรับรู้คือ ทำไมไม่มองหน้าผม.. 
	มันจบไปแล้วและผ่านมานานจนไม่รู้ว่า เท่าไหร่ แต่ทุกคำที่เค้าพูด และตั้งใจจะบอกกับฉัน แม้ใครฟังก็เข้าใจ แต่ฉันกลับยังไม่ยอมเข้าใจ 
ฉันไม่เคยโกรธเค้าซักนิด กลับทำให้ฉันรักเค้ามากขึ้น มากขึ้น ทุกวัน เค้าเป็นคนที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน และยังคงเป็นอย่างนั้นทั้งวันนี้ หรือพรุ่งนี้ และตลอดไป 
ทุกอย่างยังอยู่กับฉัน และเค้า ฉันก็ยังเชื่อว่า เค้ายังคิดถึงเหมือนที่ฉันคิดถึงเค้า ทุกๆคำพูดที่ถึงแม้จะเป็นการบอก เลิก แต่เค้าก็ยังเป็นคนที่วิเศษ
ที่ทำให้รู้ว่า เค้ายังรักฉัน แม้คำพูดเหล่านั้นจะฟังดูสวยงามแค่ไหน หรือเจ็บปวดเท่าไหร่ เค้าก็ยังไม่ยอมที่จะปล่อยมือออกจากมือของฉัน 
ไม่ว่าเค้าจะให้มันดูสวยหรู หรือจะเป็นแค่ไม่ให้ตัวเองรู้สึกผิด ฉันก็ยังรักเค้า ยังรู้สึกเหมือนวันที่เรามีกัน ฉันบอกแล้วรักของฉันไม่เคยลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น 
เพราะเค้ายังเป็นคนที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน ถ้าวันนี้ของเรามีจริง ฉันอาจจะเจ็บปวดจริงเหมือนอย่างที่เค้าบอกกับฉัน ก็รักฉันมันมากขึ้นหนิ 
	และสุดท้ายเค้าคงจะไม่รู้ว่า คนที่หัวเราะมากที่สุดในโลกกลายเป็นคนที่หัวเราะน้อยที่สุดในโลก แม้จะไม่เคยร้องไห้ตั้งแต่คืนนั้นมา 
เพราะฉันจะร้องไห้ให้คนที่ดีที่สุดในชีวิตฉันทำไม ฉันมีหัวใจสีรุ้ง และเค้าก็ยังมีเหมือนกับฉัน ฉันจะไม่ร้องไห้ ฉันหัวเราะได้เพราะเค้า 
แต่ถ้าฉันร้องไห้ฉันไม่อยากให้มันเพราะเค้า ฉันไม่โกรธเค้าซักนิดเลย แต่อย่างน้อยก็ทำให้ฉันบอกกับฉันเองว่า เสียงหัวเราะของฉันมีค่าที่สุด 
ฉันไม่ควรเงียบ ฉันน่ารักษาเสียงหัวเราะไว้ แม้แต่ตอนนั้น  แต่มันผ่านมาแล้ว วันนี้ยัง.. คิดถึงเค้าจัง .

				
22 ตุลาคม 2546 13:48 น.

แค่สายลมกระทบที่เปลือกตา

กระดิ่ง

สายลมพัดมาผ่านเปลือกตาและกระทบที่ดวงตา น้ำตาก็ไหลเอ่อออกมา
 เพราะสายลม แต่ใครๆกลับเข้ามาถามว่า ร้องไห้ทำไม
ไม่ใช่เหตุผลของสายลมหรอกที่จะทำให้ฉันร้องไห้หรือไม่ เพราะบางครั้งอาจไม่ต้องมีแม้สายลมหรือเหตุผลอะไรเลยซักอย่างฉันก็
ร้องไห้ได้เพราะฉันเคยถูกมองว่าเป็นคน "อ่อนแอ"
ฉันเพียงแค่คิดจะแอบชอบ แต่วันนึงเรื่องนี้มันก็ยิ่งปานปลายขึ้น เค้าสบตาฉันบ่อยขึ้น และเค้าหันมามองหลายครั้ง จนทำให้ฉันรู้สึกว่า 
ไปทำผิดอะไรมาอีกแล้ว แต่เพียงแค่ความเคยชินก่อตัวขึ้นเพียงแค่จากสายตาที่ไม่สามารถเดาได้เลยว่า มันแปลว่าอะไรกันแน่ 
ฉันกลับเอาไปนอนฝัน  ทั้งที่ความจริงยังคงแข็งแรงอยู่ตรงนี้ตรงหน้าฉัน 
เธอหญิงสาวที่มีแต่ความน่ารัก คงไม่ใช่เรื่องยากที่คนอย่างเค้าจะหลงเสน่ห์เธอและเค้าก็อยู่ในคำที่ว่าเป็นแฟนกัน ความรักของ
เค้าและเธอยาวนานจนฉัน เกือบจะลืมไปแล้ว แต่ก็ยังติดอยู่ที่ใจเวลาที่เจอเค้าทุกครั้งเวลาที่สบตากัน สายตาอย่างนั้นก็ยังไม่เคย
เปลี่ยนไปเลยมันนานมากๆ นานจริงๆกับคนไม่รู้จักกันมาก่อน 2 คนที่จะเจอกันและสบตากันทุกครั้ง แค่นั้นฉันก็ยังจำได้และ
ไม่เคยหวังจะเอาไปไว้ให้ใครที่ไหน หรือแม้ไว้ที่ใจของฉันเอง เพราะเค้ายังอยู่ในคำว่า แฟนของเธอ
ฉันเพียงแค่อยากจะใช้ชีวิตเหมือนเมื่อวานแค่นั้นเอง หาต้นไม้ที่พอจะนั่งพักได้ ฉันนั่งลงเงียบๆตรงนั้น แล้วสายลมก็พัดเข้า
มากระทบที่เปลือกตาฉันหลับตาลงแล้วรู้สึกแสบที่ตา แล้วน้ำตาก็ไหลลงมา หยดแล้วหยดเล่า เพราะอะไรไม่มีใครรู้ 
แล้วเค้าก็เดินผ่านมาอีกครั้งเหมือนเมื่อวาน กับสายตาอย่างนั้น จนฉันไม่กล้าพอที่จะละสายตาออกไปจากสายตาของเค้าได้ 
เค้าคงจะสงสัยเหมือนคนอื่นๆและอยากจะเข้ามาถามว่าร้องไห้ทำไม ไม่มีใครรู้ ฉันได้แต่พูดอย่างนี้ ทั้งที่ความจริง
ใครคนนั้นอาจจะเป็นฉันเสียด้วยซ้ำ ฉันรู้ว่า ฉันร้องไห้ทำไม แต่คำพูดแม้ซักคำก็ไม่ได้เอ่ยออกมา ให้ใครรับรู้ 
ฉันจะเก็บความรู้สึกที่ฉันพูดไม่ได้อยู่ต่อไป และต่อไป จนกว่ามันหรือไม่ก็ฉันจะหายไป แต่วันนี้ฉันก็ยังนั่งอยู่อย่างนั้น 
สายลมพัดมากี่ครั้งฉันไม่รู้ แต่ทุกครั้ง น้ำตาก็ไหล จะถามฉันใช่มั๊ยว่า ร้องไห้ทำไม อาจเป็นเพราะสายลมพัดมาผ่าน
เปลือกตาและกระทบที่ดวงตา น้ำตาก็ไหลเอ่อออกมา เพราะสายลม แค่นั้นเอง เพราะสายลมจริงๆ 
เพียงเพราะเค้าเป็นสายลม
10/9/03				
21 ตุลาคม 2546 19:39 น.

เสียงโทรศัพท์

กระดิ่ง

วันนี้
เสียงโทรศํพท์ดังขึ้น แต่ไม่มีทีท่าว่า จะยอมให้ใครบางคนได้รับรู้ ถึงข้อความภายใน ที่ถูกส่งมา "ไม่ใช่เหตุผลของ สายลม ที่จะมีใครซักคนเข้าใจว่า วันนี้จะมีซักกี่คนที่จะสัมผัสกับอากาศที่เคลื่อนไหว ไม่ใข่เหตุผลของใบหญ้าที่จะรอคอยให้ใครซักคนรู้ว่า หญ้าเกิดมาเพื่ออะไร ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะมีใครรับรู้หรือไม่ก็ตาม แต่มันก็ยังคง ขับขานบทเพลง เพียงลำพังต่อไป อาจจะเป็นพรุ่งนี้ หรือไม่ หรืออาจจะไม่มีซักวัน" บทความที่ถูกอ่านจากความทรงจำอย่างเงียบๆ ค่อยเงียบลง และหายไป ไม่เข้าใจว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะดีหรือไม่ ถ้าไม่บอกให้อีกคนรับรู้ก้อไม่มีวันที่จะให้อีกคนเข้าใจได้ ความรู้สึกที่สวยงามที่สุดของมนุษย์ สร้างความศรัทธา ที่ว่า มันยังคงสวยงามเสมอ ไม่ว่าจะทำให้ร้องไห้ หรือหัวเราะและสร้างความงมงาย ที่ถูกมองว่า ใรัสาระไม่จำเป็นที่จะต้องมี สำหรับสิ่งมีชีวิต
ความรัก ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ด้วยสมอง และการแสดง ถ้าไม่ทำก็ไม่รู้ด้วยใจ 
การรักใคร ไม่จำเป็นที่จะต้องบอกว่า รัก ถ้าคุณ ไม่ต้องการให้เค้า เข้าใจ 
การรักใคร ไม่จำเป็นที่จะต้องกระทำ ถ้าคุณ ไม่เคยต้องการให้เค้า รัก
สุดท้ายบทความจากความทรงจำก็ยังคงอยู่แต่อาจจะมีคำถามในวันนี้ ถามอย่างมีเหตุผลว่า ทำไมสายลมจึงไม่ต้องการรู้ว่า มีกี่คนที่รับรู้ถึงการขยับกายอย่างแผ่วเบาของมัน  ต้นหญ้าก็ไม่ต้องการบอกคุณค่าของมันให้ใครรับรู้ ทำไม  อาจจะเพราะว่า มันไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดๆคงจะใช่ แต่ความรัก ไม่เหมือนกับสายลมหรือใบหญ้า ลองถามตัวเองอีกซักครั้งว่า รักของคุณเป็นเเบบไหน ถ้าไม่ต้องการสิ่งใดๆ ก็ลองทำ เหมือน สายลม ใบหญ้าดู แต่ ถ้าคุณคิดว่าไม่ เพราะความรักที่คุณต้องการคือ รอยยิ้มของคุณและเต้าละก็ ลองพูด และแสดงให้เค้ารู้ว่า คุณรักเค้ามากแค่ไหน 
บทความจากความทรงจำ ไม่มีคำว่าถูกหรือผิด แต่บทความที่คุณรับรู้ตอนนี้ อยากให้มันเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำคราวหน้า ถ้าจะรักใครซํกคน ลองอ่านบทความนี้ดังๆ ให้หัวใจได้ยิน
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ เสียงที่ตอบกลับมา คือ ใครซักคนที่คุณยิ้มได้				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระดิ่ง
Lovings  กระดิ่ง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระดิ่ง
Lovings  กระดิ่ง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระดิ่ง
Lovings  กระดิ่ง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกระดิ่ง